(Day3 - 16 ก.ย. 2554) Borghese Gallery and others

วันนี้แบ่งตารางการเที่ยวเป็น 2 ช่วงค่ะ

The 1st
Blue Hostel
-- เดิน 550 ม., 7 นาที -->
Roma Termini Station
-- เมโทร 3 สถานี -->
-- เดิน 1.1 กม., 14 นาที -->
Borghese Gallery
-- เดิน 1.9 กม., 23 นาที -->
Spanish Steps
-- เดิน 1.2 กม., 15 นาที -->
Basilica di Santa Maria sopra Minerva
-- เดิน 220 ม., 3 นาที -->
Pantheon
-- เดิน 600 ม., 7 นาที -->
Trevi Fountain
-- เมโทร 6 สถานี -->
Roma Termini Station
-- เดิน 550 ม., 7 นาที -->
Blue Hostel

The 2nd
Blue Hostel
-- เดิน 550 ม., 7 นาที -->
Roma Termini Station
-- เมโทร 2 สถานี -->
Colosseum
-- เมโทร 2 สถานี -->
Roma Termini Station
-- เดิน 550 ม., 7 นาที -->
Blue Hostel

v
v
v

เช้านี้ไป Borghese Gallery (GPS 41.914026,12.49205) กันก่อน
ใช้บริการเมโทรเหมือนเคย.. ลงที่สถานี Spagna นะคะ
แล้วเดินตามป้าย Borghese Villa ไปเลยค่ะ ไม่หลงแน่นอน

++ มีช่วงนึงเป็นทางเลื่อน (travelator) เซฟพลังงานไปได้นิดหน่อย ^^ ++

++ งานโมเสกชิ้นนี้โชว์อยู่ในทางเดินใต้ดิน ++

++ Borghese Gallery อยู่ใน Villa Borghese Gardens ค่ะ++
กว่าจะถึงแกลเลอรี่ก็ต้องเดินผ่านสวนนี้
ซึ่งเป็นสวนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในโรม

งานศิลปะใน Borghese Gallery นี้เป็นผลงานการสะสมของ Scipione Borghese
(คาร์ดินัลสคิปิโอเน บอร์เกเซ) หลานของสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 5
มีงานศิลปะมีค่าเก็บไว้มากมาย..
แต่ห้ามถ่ายรูปด้านใน (ซะงั้น)
แถมอนุญาตให้เข้าชมได้แค่ 2 ชม. -_-“
ต้องทำเวลากันสุดๆ

เราจองตั๋วไว้รอบ 09:00 น. มาถึงหน้าแกลเลอรี่ตั้งแต่ 08:30 น. คิวยังยาวซะขนาดนี้

เราโทรจองตั๋วไว้แล้วตั้งแต่ตอนอยู่เมืองไทย
ใช้สิทธิประโยชน์ของบัตร Roma Pass (อ่านได้ในบล๊อกแรกค่ะ)

ต้องไปรับตั๋ว 30 นาที ก่อนเวลาเข้าชมนะคะ
ถ้าไม่ได้จองมาก่อนก็แห้วค่ะ

.
.
.

หลังจากเข้าชม Borghese Gallery .. ออกมานั่งเล่นที่สวนด้านหน้า
เปลี่ยนเลนส์เป็น 55-300 พร้อมกับกลายร่างเป็นปาปารัซซี่ ^^

เด็กน้อยคนนี้.. ชอบอกชอบใจกับน้ำจากสปริงเกอร์รดสนามหญ้าเป็นการใหญ่ ^^ ..
เล่นเอาเปียกกันไปเลย

ภาพต่อจากนี้ก็ดูกันเอาเองนะคะ ไม่มีคำบรรยาย
เริ่มขี้เกียจแหละ แหะ แหะ ^^

ตำรวจม้าก็มี ไม่ค่อยคุ้นกับคำนี้เลยเนอะ
คุ้นกับ “ทหารม้า” ซะมากกว่า

รถขายของแบบนี้เห็นได้ทั่วไปในโรม
มีทั้งน้ำ ขนมขบเคี้ยว แซนวิชขาย

++ รูปปั้นของ Umberto II di Savoia กษัตริย์องค์สุดท้ายของอิตาลี (ค.ศ. 1946) ++
อนุสาวรีย์นี้ใหญ่โต มโหฬารจริงๆ น่าจะสูงสัก 6 เมตรได้

เจ้านกตัวนี้เกาะอยู่บนอนุวาสรีย์
ร้องส่งเสียงเจื้อยแจ้วเรียกพรรคพวก

ไป Spanish Steps กันต่อดีกว่า

.
.
.

Spanish Steps อยู่ตรงหน้าแล้ว

วันนี้แดดร้อนจริงๆ
เดินขึ้นไปชม Piazza Trinità dei Monti ด้านบนกันดีกว่า

บนนี้ก็มีศิลปินมาขายภาพวาดเหมือนกัน

บนลงมาเห็น Piazza di Spagna ที่อยู่ด้านล่าง

++ Trinità dei Monti Church ++

Spanish Steps อีกสักรอบ
ที่นี่เป็นบันไดที่กว้างที่สุดในยุโรป (เค้าว่างั้น)
มีทั้งหมด 138 ขั้น.. มีใครเคยนับบ้างค่ะ เราก็ไม่ได้นับเหมือนกัน ^^

.
.
.

เดินผ่าน Via Condotti.. ถนนช้อปปิ้งสายสำคัญของกรุงโรม
ร้านแบรนด์เนมดังๆ เต็มไปหมด
นักช้อปชาวไทยไม่พลาดอยู่แล้ว
แต่เราเดินผ่านไปได้แบบชิลๆ ไม่บ้าช้อปปิ้งอยู่แล้ว 55+

ปล. ส่วนขาช้อป ยังมีถนนอีกเส้นนึง "Via del Governo Vecchio" ที่ Time แนะนำไว้
Time: 10 Things to do in Rome

.
.
.

ตามลายแทงของ Rick Steve's: Remembering Your Roman Dinner มาทานอาหารกลางวันร้านนี้
Ristorante Enoteca Corsi (GPS 41.897046,12.478692)
ร้านนี้เปิดเฉพาะมื้อกลางวัน.. ลูกค้าแน่นร้านที่เดียว ส่วนมากเป็นพนักงานออฟฟิศ
เสิร์ฟอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิม ราคาสมเหตุสมผล

++ Seafood Spaghetti ++
จานใหญ่มาก ซอสอร่อยดี
รู้สึกว่าจะใส่ปลาหมึกยักษ์ตัวเล็กๆ ด้วย
เอ๊ะ! ยังไงปลาหมึกยักษ์แต่ตัวเล็ก ก็ octopus ไงค่ะ ^^

++ Fresh Mozzarella Salad ++
จานนี้ก็เห็นทั่วไป ในร้านอาหารอิตาเลียนบ้านเรา

ราคาอาหารทั้งหมด 23.5 ยูโร
ขนมปัง (Table Charge: ชาร์จเพิ่มเป็นปกติ
ถ้านั่งรับประทานอาหารในร้าน) คนละ 1 ยูโร
น้ำ 1.5 ลิตร 2.5 ยูโร
คอร์สแรก (สปาเกตตี้) 9 ยูโร
สลัด 10 ยูโร
ปล. สปาเกตตี้ถูกกว่าสลัดอีก ^^

.
.
.

อิ่มแล้ว เดินมาจาก Ristorante Enoteca Corsi ไม่ไกลค่ะ (160 ม.)
เรามาแวะดูที่นี่ค่ะ Basilica di Santa Maria sopra Minerva
(GPS 41.897987,12.478022)
มานั่งดู fresco (จิตรกรรมฝาผนัง) บนเพดาน เพลินๆ

ที่เห็นเป็นโดมบนเพดาน มืดๆ ก็เป็น fresco เหมือนกัน
พยายามวาดให้เหมือนกับมี oculus (rain-hole)
(ปล. คล้ายกับที่เราเห็นช่องบนยอดโดมใน Pantheon)

.
.
.

กลับมา Pantheon อีกรอบ
เพื่อนร่วมทริปบอกว่าวันก่อนที่มา ยังไม่ซึบซาบกับบรรยากาศ
พี่เค้าเปิด Apps Photosynth บน iPhone เก็บภาพซะ 360 องศาเลย
สงสัยจะชอบที่นี่มาก

จริงๆ Pantheon ก็คล้ายกับโบสถ์ (temple)
ที่ต้องการความเงียบสงบ แต่เนื่องจากนักท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย จะให้เงียบก็คงยาก
ก็จะมีเสียงตามสาย “silenzioso” (silent = เงียบ)ทุก 5 นาที
จะประกาศหลายภาษามาก แต่ไม่มีภาษาไทย
เพราะปกตินักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ส่งเสียงดัง 55+

นึกถึงใน Sistine Chapel (Vatican Museum) ที่เป็นเจ้าหน้าที่คอยตะโกน “ชู่ว์”
ขำๆ ดีเหมือนกัน.. นึกถึงเวลาผู้ใหญ่บอกให้เด็กๆ เงียบ

++ ประตูทางเข้า Pantheon ++

แวะมาดูด้านหน้า Pantheon กันบ้างค่ะ
เมื่อวันก่อนก็ไม่ได้ให้ความสนใจสักเท่าไหร่

++ Obelisk: Piazza della Rotonda ++

.
.
.

ตามน้องแพร (+~%Chocolate Republic%~+) มาทานเจลาโต้ร้านนี้ค่ะ
“Cremeria Monteforte” (GPS 41.898809,12.47644)
น้องแพรก็อ่านเจอใน Fodor's อีกทอดนึง

เค้าบอกว่าร้านนี้ได้หลายรางวัล รสที่น่าลองก็ chocolate sorbetto
Ref. Fodor’s: The Best Gelato in Rome

ถ้วยนี้น่าจะเป็น nocciola (hazelnut) กับ
chocolate (cioccolato) อีกตามเคย
ไม่ได้ลองรสที่ Fodor’s แนะนำหรอก ^^
ชิมแล้วรสชาติไม่ถูกปาก หวานเกินไปนิดนึง
แต่อาจจะถูกปากเพื่อนๆ ก็ได้นะคะ

เดินต่อไป Trevi Fountain กันค่ะ
ภาพนี้จะให้ดูขนาดถนนในโรม บางถนนก็แคบซะ
ถ้าให้ขับเองก็บายละคะ ไม่อยากลุ้น ^^

สถานที่ท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก (ปล. เท่าที่เคยไปนะ ^^)
ถ้ามีรถม้า.. พี่ยุ่นไม่เคยพลาด

งานชิ้นนี้ยังไม่เสร็จ แต่ไม่รู้ว่าศิลปินหายไปไหน
เท่าที่เคยเห็นงานประเภทนี้ จะใช้สีชอล์ก
แต่อันนี้ไม่แน่ใจว่าใช้สีประเภทไหน มีถ้วยสีกับพู่กันด้วย

.
.
.

ถึง Trevi Fountain แล้ว
กลางวันกลางคืนคนเยอะไม่แพ้กันเลย

หลังจากที่เดินจนพื้นรองเท้าแทบสึกกันมาหลายวัน (อันนี้ก็โอเว่อร์ไป 55+)
ก็ออกจากโฮสเทลแต่เช้า กลับมามืดทุกวัน
ตัดสินใจกลับมาชิลๆ กันที่โฮสเทลดีกว่า

.
.
.

สำหรับมื้อเย็น ก็ยังเข้าโหมดขี้เกียจอยู่
ทานกันใกล้ๆ นี่แหละ
Antico Caffé Santamaria (GPS 41.897084,12.499673)
เดินจากโฮสเทลไม่ถึง 100 เมตร
จุดเด่นของร้านนี้ก็คือ ได้วิว Basilica di Santa Maria Maggiore เต็มๆ

ส่วนการบริการ ไม่ให้ผ่านเกณฑ์ค่ะ
พนักงานหยิ่งมาก ไม่ค่อยสนใจลูกค้าเท่าไหร่
หรือเพราะว่าเห็นเราหัวดำ+ผิวเหลืองก็ไม่รู้

++ Avocado Salad ++
จานนี้เฉยๆ เหมือนผักมันเหี่ยวๆ ยังไงไม่รู้

++ Four Cheese Gnocchi ++
ย้อกกี้.. พาสต้าของโปรดอีกอย่างนึง
เป็นพาสต้าที่ผสมมันฝรั่ง มันจะหนุบๆ เคี้ยวอร่อยทีเดียว
จริงๆ ย้อกกี้ทำไม่ยาก แต่ทำไมไม่เคยในในเมนูร้านอาหารอิตาเลียนในบ้านเรา
จานนี้ชีสเยิ้มมาเลย เหมือนเคย.. หน้าตาบ้านๆ แต่รสชาติขั้นเทพ ^^

.
.
.

อยากไปถ่ายภาพ Colosseum ตอนกลางคืน
แต่ไม่กล้าไปคนเดียว จะบอกให้เพื่อนร่วมทริปมาเป็นเพื่อน
ขานั้นก็ท่าทางไม่อยากจะออกไปไหนแล้ว
ก็เลยต้องใช้มารยาหญิงกันสักหน่อย
“อยากไปถ่ายภาพ Colosseum เค้าไปคนเดียวก็ได้นะ”
คงไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากจะให้ผู้หญิงออกไปข้างนอกคนเดียวมืดๆ เนอะ
.. ในที่สุดเราก็ได้ภาพนี้มาค่ะ

.
.
.

พรุ่งนี้เราจะย้ายไปฟลอเรนซ์กันแล้วค่ะ
“Stay tuned!” นะคะ ^^