Europe Trip 2010 # 4 (Köln, Germany & นึกกว่าจะได้กลับบ้าน)

(15 เม.ย. 53) วันนี้ไปเที่ยวใกล้ๆกัน เรานั่งรถไฟไป Köln ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ไปถึงเราเดินไปเที่ยว Church of St. Ursula กันก่อนค่ะ ที่นี้มี Bone Chamber ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า ช่วง ค.ศ. 300 Saint Ursula พาสาวเวอร์จิน 11,000 คน ขึ้นเรือเพื่อแสวงบุญปรากฏว่าโดนพายุพัดพามายัง Köln แล้วประมาณว่าทั้งหมดก็โดนฆ่าแล้วฝังไว้ที่นี่ (เรื่องจริงๆมันยาว เราก็จำไม่ค่อยจะได้ หาอ่านกันใน Google กันเองนะคะ)


เราไม่เสียค่าเข้าชมโบสถ์ แต่ต้องเสียค่าเข้าชม Bone Chamber เราจำราคาที่แน่นอนไม่ได้ รู้สึกว่าจะประมาณคนละ 2 ยูโร ห้องนี้จะล๊อกกุญแจไว้ ถ้าจะเข้าชมต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ เค้าจะมาเปิดให้พร้อมกับยืนเฝ้าจนกว่าเราจะกลับออกมา (ไม่รู้ทำไมต้องยืนเฝ้าด้วย สงสัยกลัวเราขโมยโครงกระดูก)


ด้านใน Church of St. Ursula





Bone Chamber










เสร็จแล้วเราเดินย้อนกลับไปที่ Kölner Dom หรือ Cologne Cathedral ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟ ในปี 1996 โบสถ์ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ the UNESCO World Heritage เราสามารถเดินขึ้นไปชมบนยอดของโบสถ์ได้ ความสูงประมาณ 150 เมตร เดินทางตรง 150 เมตรเนี่ยสบายมาก แต่ทางดิ่งเนี่ยสิทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน บันไดเป็นบันไดวนและแคบ


Cologne Cathedral






ด้านใน Cologne Cathedral







กระจกบานนี้เคยเป็น stained glass ที่เสียหายจากสงคราม แต่ได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่โดยใช้คอมพิวเตอร์





Klais Pipe Organs





หลังจากเที่ยวชมโบสถ์เรียบร้อยแล้ว เราออกมาด้านนอก ข้ามถนนไปหาของว่างกินกันที่ Cafe Richard


Hot Chocolate แก้วใหญ่ๆ





เค้ก







ที่ Cafe Richard เนี่ย ห้องน้ำของเค้าไฮโซมากเลย เสียค่าเข้า 0.50 ยูโร ห้องน้ำที่เยอรมันส่วนมากจะต้องเสีย 0.50 ยูโร ปกติถ้าเลี่ยงได้เราก็ไม่ค่อยอยากจะเข้า เพราะรู้สึกว่าแพงเหลือเกิน แต่ห้องน้ำของที่นี่ คุณสามีบอกไม่ได้เธอจะต้องไปลอง เพราะเสีย 0.50 ยูโร เหมือนห้องน้ำทั่วไป แต่ feature ของห้องน้ำที่นี่ไม่ธรรมดา ส่วนของห้องสุขาประตูจะดูเหมือนกระจกใส แต่พอกดบิดล๊อกประตู กระจกที่ใสๆกลายเป็นขุ่นเลย ไม่ต้องกลัวเลยว่านั่งทำธุระอยู่แล้วใครจะแอบมอง ส่วนตรงอ่างล้างมือก็มีดิสเพลย์เป็นกระเป๋าถือสตรี สามีบอกห้องน้ำของผู้ชายดิสเพลย์เป็นรองเท้าผู้ชายแทน



ประตูที่พูดถึง





อ่างล้างมือ สังเกตว่าด้านข้างเป็นดิสเพลย์กระเป๋า





ต่อไปเราแวะดื่มเบียร์ที่ Früh Cölner Hofbräu เป็นโรงเบียร์ที่ใหญ่มาก มีหลายชั้น แต่ละชั้นเค้าก็จะตกแต่งธีมของห้องแตกต่างกันไป น่าสนใจดี เราก็ไม่ใช่คอเบียร์ก็เลยไม่รู้ว่ามันอร่อยยังไง แต่ชอบที่แก้วที่เค้าเสิร์ฟมันเล็กกว่าที่เราเห็นปกติ ทำให้ดื่มหมดเร็ว (ประมาณว่าเราดื่มไม่ค่อยเก่งนะ) ดื่มที่ Früh เสร็จยังไม่หนำใจ เดินเข้าร้าน liquor ซื้อเบียร์ที่ร้านแล้วเปิดขวดกันเลย พวกเราเดินไปดื่มไป (สามีบอกอยากจะทำตามแบบคนเยอรมัน) ชมวิวแม่น้ำไรน์ คนเยอรมันเค้านั่งดื่ม ยืนดื่ม เดินดื่มกันเป็นปรกติค่ะ ขนาดบนรถไฟเข้าจะดื่มกันเลยค่ะ เราเห็นขวดเปล่าวางไว้เต็มไปหมด ทีแรกก็คิดว่าทำไมกินแล้วไม่ทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง แต่ไม่ใช่ค่ะ เค้าวางไว้ให้คนมาเก็บ ขวดนี้สามารถนำไปคืนที่ร้าน liquor ได้ ที่เห็นมาเก็บก็เป็นลุงแก่ๆ ไม่รู้ว่าเป็น homelesss หรือเปล่า แกเห็นพวกเราดื่มอยู่ (จริงๆก็ใกล้จะหมดแล้วละ) ก็ถามว่าจะหมดหรือยัง พวกเราก็เลยรีบดื่มให้หมด แล้วให้ขวดเปล่าแกไป ได้ขวดไปหลายใบท่าทางดีใจน่าดู



Früh Kölsch





จริงๆเราไม่ค่อยถูกกับแอลกอฮอล์ เป็นพวกคออ่อน ที่เยอรมันมีเบียร์ alcohol-free ค่ะ อร่อยด้วย เราชอบยี่ห้อนี่เป็นพิเศษ "Vita-malz" กลิ่นเหมือนเบียร์ แต่หวานกว่า ดื่มยังไงก็ไม่เมา แต่เรื่องอ้วนไม่รับประกันนะคะ แปลกที่ว่าเวลาไปดูเมนูเครื่องดื่มในร้านอาหาร alcohol-free beer น่าจะอยู่หน้า Non-Alcoholic Drink (ความคิดเห็นส่วนตัวค่า) แต่ดันไปอยู่หน้า Beer ซะเนี่ย



Vita-malz





Köln ยามค่ำคืน







Cologne Cathedral (again)





(16 เม.ย. 53) วันนี้ไปช้อปปิ้งกันที่ Market Platz ในเมือง Bonn ค่ะ กะว่าจะช้อปให้เสร็จ แล้วกลับไปแพ๊คกระเป๋าเตรียมตัวขึ้นเครื่องกับบ้าน วันนี้ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปเลย ช้อปได้รองเท้า Birkenstok คู่นึง ได้ช๊อคโกแลตมาตรึม เราว่าช๊อคโกแลตของแถบยุโรปอร่อยกว่าของออสซี่ มีร้านนึงตกแต่งเก๋มาก ชื่อร้าน "Flaschengeist" เค้าจะมีเหล้า ไวน์หลายชนิด ใส่โหลสวยๆใหญ่ๆ แบบมีหัวก๊อก ลูกค้าก็ไปเลือกขวดเปล่าก่อน แล้วก็เลือกเติมเหล้าได้ (เสียดายไม่มีรูป)  แวะดื่ม hot chocolate ที่ร้าน Schokoladen แถมซื้อช๊อคโกแลตจากร้านนี้เพิ่มอีก เค้ามีเหล้าช๊อคโกแลตด้วยนะคะ เราก็เลยสอยมาขวดนึง ถูกมาก 10 ยูโรเอง


กลับถึงที่พัก สามีขอออกไป jogging เราก็แพ๊คกระเป๋า ปรีญาช่วยเช็ค status ของไฟลท์ ปรากฏว่า "FLIGHT CANCELLED!!!" อ้าว จ๋อยสิเรา ไม่รู้จะทำยังไงดี ต้องรอสามีกลับมาอย่างเดียว สามีกลับมาได้ยินข่าวทำหน้าไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่ คงตะหงิดๆอยู่เหมือนกันเพราะก่อนหน้านี้สนามบินที่อื่นในยุโรปปิดหมดแล้ว เหลือแต่ที่เยอรมันยังไม่ปิด สามีโทรหาเจ้านาย เจ้านายเข้าใจบอกว่าไม่เป็นไร มันเป็นเหตุการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเจ้านายก็เคยติดปัญหาตอนที่สุวรรณภูมิฯ ปิดเหมือนกัน


เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเราจะโทรไปคุยกับสายการบินกันค่ะ







Create Date : 04 พฤษภาคม 2553
Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 16:14:48 น. 1 comments
Counter : 1635 Pageviews.

 
มาดูโคโลญจ์ด้วยค่า ถ่ายรูปออกมาแต่ละรูปสวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ทำให้สถานที่ดูน่าสนใจขึ้นเยอะเลย


โดย: Bananarumba วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:32:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Holly
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




counter for blogger

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Holly's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.