|
+ + + ....ชั่วฟ้าดินสลาย... + + +
| | | |
ไปดูมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19-9-53
ที่บิ๊กซีพัทยา กับพี่หมี ที่ดูเรื่องนี้เพราะชอบพลอยแล้วเห็นแว๊บ ๆ ว่าเรื่องนี้พลอยสวยมากอีกแล้ว ฉากสวย ภาพสวย เสียดายที่เป็นหนังโศกนาฎกรรมแห่งรัก รู้ทั้งรู้ว่าจบไม่แฮปปี้นั่นแหละ แต่ก็ต้องดูเพราะชอบพลอย พี่หมีดูเสร็จบอกพามาดูหนังไรไม่รู้หดหู่
แต่เราว่าก็ดีออก เพราะภาพ ฉากเค้าสวยจริง ๆ ดูแล้วเคลิ้มตามอารมณ์ความรู้สึกของคู่พระ-นาง มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกยุคทุกสมัย มีแอบขำตอนที่พลอยนั่งหน้าห้องน้ำแล้วบอกว่านึกว่าจะพาไปเดินที่ภูเขา
เรื่องย่อ (คัดมาจาก //www.majorcineplex.com)
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของกระแสการเมืองใหม่ซึ่งชาวสยามยังไม่คุ้นชินนัก เพียงหนึ่งปีหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 นั้น ยุพดี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ม่ายสาวพราวเสน่ห์หัวสมัยใหม่จากพระนครได้สมรสกับ พะโป้ (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) คหบดีม่ายชาวพม่าอายุคราวพ่อ เจ้าของกิจการป่าไม้อันมั่งคั่งแห่งกำแพงเพชร ทั้งคู่ได้เดินทางไปใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยาที่ปางไม้เขาท่ากระดาน ซึ่งยุพดี คิดว่าชีวิตของเธอได้ถูกเติมเต็มแล้วในทุกๆ ด้านจากพะโป้สามีที่เธอรัก
แต่ ณ ที่นั้นเอง ท่ามกลางพลังอำนาจแห่งไพรพฤกษ์และขุนเขา เมื่อยุพดีได้มาพบเจอกับ ส่างหม่อง (อนันดา เอเวอริงแฮม) หนุ่มพม่าผู้หล่อเหลาปานเทพบุตรแต่แสนบริสุทธิ์ในกามโลกีย์ผู้เป็นหลานชายของพะโป้ ต่างก็เกิดความสิเน่หาต่อกัน ยิ่งทั้งคู่ได้ชิดใกล้กันมากเท่าไร ก็ยิ่งเกิดอาการหวั่นไหวและอยากอยู่ด้วยกันมากขึ้นเท่านั้นตามสัญชาตญาณหนุ่มสาวที่ถูกกิเลสตัณหาครอบงำ โดยหารู้ไม่ว่า นี่คือ จุดเริ่มต้นแห่งโศกนาฏกรรมรัก
ในที่สุด ทั้งส่างหม่องและยุพดี ก็มิอาจต้านทานความปรารถนาของตนและยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสตัณหาอย่างถึงที่สุด ทั้งคู่ก้าวล้ำเส้นของการเป็นหลานและอาสะใภ้โดยลอบเป็น ชู้ กัน
และแล้วเมื่อพะโป้ ได้ล่วงรู้ความจริงอันน่าอัปยศเช่นนี้ เขาดูเหมือนจะสงบนิ่งอย่างผู้ผ่านประสบการณ์และเข้าใจโลกยิ่งนัก แต่จริงๆ แล้วในใจเขากลับร้อนรุ่มด้วยโทสะจริต ติดกับดักแห่งเสน่หาอาฆาตแบบถอนตัวไม่ขึ้น
อย่างไม่คาดฝัน พะโป้ ตัดสินให้ยุพดีเมียสุดที่รักได้อยู่กินกับส่างหม่องหลานรักอย่างเปิดเผย ภายใต้เงื่อนไขอันแสนเย็นยะเยือกด้วยการล่าม โซ่ตรวน คล้องแขนติดกัน เพื่อพันธนาการว่าทั้งคู่จะได้ครองรักกัน...ชั่วนิจนิรันดร์
ถึงเวลาแล้วที่ พะโป้ จะได้ทำในสิ่งที่เขาวางแผนไว้อย่างแยบคาย เพื่อสอนบทเรียนให้กับทั้งหลานและภรรยาอันเป็นที่รักให้รู้จักความหมายของ ความรักชั่วนิรันดร์ การลงทัณฑ์ชั่วชีวิต
ใครเลยจะหยั่งรู้ว่า วิถีชีวิตของ 3 ชายหญิงที่ต้องโคจรมาทาบทับกันในวังวนแห่งกิเลสตัณหานี้ จะนำพามาซึ่งโศกนาฏกรรมรักอันยิ่งใหญ่ที่ต้องพิสูจน์ด้วยเลือดเนื้อ จิตวิญญาณ และกาลเวลาตราบ ชั่วฟ้าดินสลาย
ตอนจบที่ว่าเศร้าก็คือ เพราะทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ตัวติดกันจนเกิดความเบื่อ เริ่มจะชี้นกไม่เป็นนก ชี้ไม้ไม่เป็นไม้ อย่างที่ยุพดีอยากไปเดินเล่นบนภูเขา แต่ส่างหม่องอยากอ่านหนังสือนั่นแหละ แล้วส่างหม่องเองก็รู้สึกผิดกับอา บางอารมณ์ตอนโกรธ ๆ (มั๊ง) เลยคิดว่าเป็นเพราะยุพดีเรื่องถึงเป็นอย่างงี้ ส่วนยุพดีเองก็อารมณ์ผู้หญิงชอบอยู่กับอารมณ์เพ้อฝัน รักโรแมนติด จนดูเหมือนเซ้าซี้ งี่เง่า ต้องการความรักอยู่ตลอดเวลา (เหมือนเราเลยอารมณ์นี้)
แต่ท้ายสุดเราว่ามันก็อารมณ์แบบเราว่าพอเกิดเรื่องราวที่ต้องตัดสินใจ อารมณ์แบบเด็ดเดี่ยว ปัญหาอะไรก็แล้วแต่ โดยมากเราว่าผู้หญิงเข้มแข็งกว่าผู้ชาย แล้วก็คิดลึกคิดเยอะกว่าผู้ชายเยอะเลย (แอบใช้ความเห็นส่วนตัว) ยุพดีถึงยิงตัวเองตาย นี่ถ้าได้อ่านหนังสือคงจะสนุกไปอีกแบบ เพราะจะได้รู้ถึงความรู้สึกของตัวละครจริง ๆ ว่าในใจคิดอะไรอยู่ อย่างที่ยุพดียิงตัวเองตาย เพราะอะไร มันก็ตีความได้หลายอย่าง แว๊บแรกเลยคิดว่าเพราะคิดว่าคงไม่อยากอยู่ จะอยู่ยังไง ถ้าจะต้องอยู่คนเดียว สู้ตายดีกว่า
ทั้งพลอยทั้งอนันดาเล่นดีมาก อย่างทุ่มเทถวายกาย กันจริง ๆ ใครที่ชอบพลอยอย่างเราคงดูอย่างจ้องตาไม่กระพริบแบบเรา อิอิ
| | | | |
Create Date : 23 กันยายน 2553 |
Last Update : 28 กันยายน 2553 12:06:59 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2815 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|