เป็นประเด็นขึ้นมาและสร้างความกังวลให้กับคนไม่น้อย เมื่อมีกระแสประชาชนปฏิเสธ ระบบพร้อมเพย์ ที่ทางการหมายมั่นปั่นมือ จะเปิดลงทะเบียนอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ก.คง 59 นี้ สิ่งที่ประชนกังวลเนื่องจากกระแสข่าวลือว่า เมื่อมีการนำหมายเลขโทรศัพท์ และ เลขบัตรประชาชนมาผูกกับบัญชีธนาคารแล้วจะทำให้ถูกแฮกข้อมูลได้ง่าย จะไม่มีความปลอดภัย
มิหน่ำซ้ำยังเป็นประเด็นหนักขึ้นไปอีก เมื่อนักวิชาการด้านกฎหมายมหาชน ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ออกมาปฏิเสธระบบดังกล่าว โดยชี้ประเด็นในเรื่องการนำเลขบัตรประชาชนไป ซึ่งมีข้อมูลส่วนตัวไปผูกกับเลขบัญชีตามระบบพร้อมเพย์ เป็นความเสี่ยง เป็นการไม่ปลอดภัยในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคล
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 59 ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง โดยสาระสำคัญก็คือ
1 ระบบพร้อมเพย์ เป็นระบบที่เปิดให้ประชาชนผู้ใช้บริการสมัครใจเข้ามาลงทะเบียน ไม่ได้มีกฎหมายบังคับ
2 .ในประเด็นความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว ธปท.ได้ชี้แจงว่า มีพรบ.ธุรกิจธนาคาร มาตรา 154 กำกับดูแลไม่ให้ ธนาคารนำข้อมูลความลับของลูกค้าไปเปิดเผยอยู่แล้ว ..ผู้ที่ฝ่าฝืนมีทั้งโทษจำคุกและปรับ
3หากจะให้ปลอดภัยขึ้นและให้ธนาคารรับผิดชอบความเสียหายที่อาจจะเกิดกับระบบ ประชาชนผู้ใช้บริการทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือไม่ควรไปทำเจลเบรค (jailbreak) หรือ การดัดแปลงระบบไอโอเอส(IOS) ของแอปเปิลเพื่อให้ลงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้ฟรีโดยไม่ผ่าน แอพสโตร์ เพราะธนาคารอาจจะไม่รับผิดชอบความเสียหายจากการไม่มีระบบป้องกันไวรัสก็ได้ อย่างไรก็ดีขณะนี้ธนาคารหลายแห่งก็มีการช่วยลูกค้าด้วยการให้บริการอัพเดทไวรัสให้ด้วย
4 มีการรายงานของผู้ที่สมัครเข้าลงทะเบียนพร้อมเพย์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 59 ผ่านธนาคารพาณิชย์ และ ธนาคารรัฐแล้ว รวม 9.7 ล้านราย แบ่งเป็น การลงทะเบียนผูกบัญชีกับเบอร์โทรศัพท์ 1.6 ล้านราย และ ลงทะเบียนผูกบัญชีกับเลขบัตรประชาชน 8.1 ล้านราย
ความกังวลของประชาชน ในเรื่องของการถูกเจาะข้อมูลหรือ ถูกแฮกข้อมูล นั้น ก่อนหน้านี้ นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เปิดเผยว่า แบงก์ชาติได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบระบบการลงทะเบียนของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งแล้ว ก็พบว่ามีการดูแลระบบเป็นอย่างดี เป็นระบบแบบปิดไม่มีการรั่วไหล โดยข้อมูลจะนำไปสู่ระบบถังกลางจากประเทศอังกฤษ ซึ่งรัฐบาลอังกฤษและสิงคโปร์ก็ใช้ระบบดังกล่าวมานานแล้ว มีความปลอดภัยเป็นมาตรฐานสากล
ส่วนภาคของ การโอน ประชาชนก็ยังคงใช้ระบบเดิม ไม่ว่าจะโอนผ่านตู้เอทีเอ็ม, โมบายแบงก์กิ้ง, อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง หรือ สาขาธนาคาร เพียงแค่กดเลือกช่องทางการโอนผ่านพร้อมเพย์ ก็จะได้ค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่า โดย 5 พันบาทแรกจะไม่เสียค่าธรรมเนียม
ข้อควรระวังก็มีเพียงแค่ การปกปิดรหัสเอทีเอ็ม และรหัสสำหรับการเข้าโมบาย หรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง เท่านั้น ซึ่งเป็นหลักการใช้พื้นฐานอยู่แล้ว
เพื่อให้เห็นภาพของระบบพร้อมเพย์มากยิ่งขึ้น .. ของการใช้งานจริงของระบบพร้อมเพย์ คือ มาทำความเข้าใจกันอีกครั้งว่า ระบบพร้อมเพย์ สะดวกอย่างไร ปลอดภัยหรือไม่อย่างไร
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ในการทำธุรกรรมผ่านบัญชีธนาคารมี 2 ขา คือ
ขาเข้า หมายถึง มีคนโอนเงิน ส่งเงิน มาเข้าบัญชีเรา
ขาออก เราเป็นผู้โอนเงินออกจากบัญชีไปให้คนอื่นๆ
ดังนั้น ลงทะเบียนพร้อมเพย์จะทำให้เกิดความสะดวกดังนี้ คือ