ผู้คน 73% ล้มเหลวในการตอบโจทย์นี้ <<< จริงเหรอ ???
คำตอบของคุณคือ .................................... > > > > โจทย์จากคุณ 700359 ความเห็น Tony Almeida จริงๆแล้วโจทย์ประเภทนี้ ไม่ว่าจะเอาไปโพสลงที่ไหน เท่าที่ผมสังเกต มันก็จะมีการโต้แย้งกันเกิดขึ้นทุกครั้ง ผมคิดว่าเป็นเพราะว่า พอเราได้ยินว่า 73% "ตอบผิด" ลึกๆแล้วเราก็น่าจะอยากเป็น 27% ที่ "ตอบถูก" พอลองตอบไป แล้วมารู้ทีหลังว่าตอบไม่ตรงกับคนที่ดู "รู้อะไรลึกกว่าเรา" (กรณีแบบนี้คือ order of operations) ก็กลายเป็นความอับอาย จนกระทั่งต้องดึงดันยืนยันว่าคำตอบของตนถูกแล้ว คราวนี้ google ก็จะถูกขุดขึ้นมา เพื่อหาเหตุผลทุกอย่างที่จะมาทำให้คำตอบ(ที่ไม่ตรงกับคนที่ดูเหมือนรู้ลึก)มันถูกให้ได้... ผมคิดว่า กรณีแบบนี้ไม่เกี่ยวกับความฉลาดครับ มันเกี่ยวกับเรื่องแค่ว่า คุณรู้กติกา order of operations หรือเปล่า... สมัยก่อนใน facebook ผมเคยเห็นโจทย์ข้อนึงถามคล้ายๆกัน 6/2(3) มีค่าเท่ากับเท่าไหร่? 1 หรือ 9? คนที่รู้ order of operations ก็จะตอบว่า ทำจากซ้ายไปขวา คือทำ 6/2 ก่อน แล้วค่อยเอาไปคูณ 3 สรุปได้ 9 แต่คนที่ตอบ 1 ก็ดึงเอากฎที่เรียกว่า juxtaposition มาแย้ง ซึ่งกฎนี้บอกว่า การเขียน 6/2*3 จะมีความหมายไม่เหมือนกับ 6/2(3) โดยการเขียน 2(3) จะหมายความว่า (2*3) ดังนั้น 6/2(3) = 6/(2*3) = 1 คราวนี้คนที่โดน juxtaposition แย้งก็ต้องไปดึงเอาข้อมูลว่า juxtaposi มันเป็นกฎที่ไม่มีใครใช้ เพราะมันใช้ลำบากเวลามีวงเล็บซ้อนกันหลายๆชั้น แย้งกันไปแย้งกันมา ไม่ยอมกันซักที สรุปคอมเมนท์กินไปกว่า 2000 comments ผมว่าเรื่องนี้ถ้ายอมถอยกันคนละก้าวก็น่าจะเรียบร้อย คนที่ไม่รู้ order of operations ก็ยอมรับไปว่าไม่รู้ คนที่ไม่รู้ juxtaposition ก็ยอมรับไปว่าไม่รู้ แค่นั้นก็น่าจะตกลงกันได้ว่าคำตอบเป็นแบบไหน... ซึ่งส่วนตัวแล้วผมถือว่าคำตอบ "ถูกภายใต้กฎที่เราใช้" คือถ้าคุณเชื่อ juxtaposition ก็ตอบแบบนั้นได้ เรื่องว่า juxtapo จะเป็นที่นิยมหรือไม่ เป็นประเด็นรองครับ... ประเด็นคือ ทุกคนตอบถูกภายใต้กฎที่ตัวเองใช้ ส่วนกฎที่เป็นสากลจริงๆเราก็ต้องมาโต้แย้งกันอีกที และจะไม่เกี่ยวกับเรื่องคำตอบถูกหรือผิดอีกต่อไปครับ... ความคิดเห็นจากคุณ ปั๊ปโปะจัง ถ้าอ้างเครื่องคิดเลขใน MS Windows ควรจะรู้นะครับว่ามันมี 4แบบ คือ 1. แบบ Standard (คิดแบบเรียง Input) 2. แบบ Scientific (คิดแบบ order of operations) 3. แบบ Programmer (คิดแบบ order of operations) 4. แบบ Statistics (ไม่มีฟังก์ชันแบบคิดปกติ แต่คิดว่าคงใช้ order of operations นั่นแหละครับ เพราะมันมีฟังก์ชันทางด้านสถิติมาด้วยซึ่งมันต้องอิงการคิดแบบ order of operations) ผมคิดว่ามันมีหน้าที่การใช้งานของมัน คนใช้แบบ คิดเรียง Input ก็ควรรู้ข้อจำกัดและจุดประสงค์การใช้งานของมันนะครับ แต่มันไม่ใช่ข้ออ้างว่าการคิดแบบ order of operations เป็นสิ่งผิด การคิดแบบอื่นถ้ามันมีคำอธิบายแหล่งอ้างอิงทางวิชาการที่เป็นที่ยอมรับในสากล ผมพร้อมเปิดใจรับ แต่ต้องไม่ใช่การอ้างคำพูดลอยๆจาก FB ของคนที่อ้างตนเป็นศาสดาแห่งทฤษฎีใหม่โดยไม่มีคำอธิบาย ไม่เช่นนั้นสังคมวิทยาศาสตร์จะกลายเป็นสังคมทางความเชื่อที่ไร้เหตุผลแทน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับสังคมความเชื่อในบางประเทศที่มีเทพเจ้าเกิดใหม่ทุกวัน
Create Date : 13 เมษายน 2557 |
Last Update : 13 เมษายน 2557 16:44:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2215 Pageviews. |
|
|