|
ลิงกับลา
ลิงกับลา
หญิงชาวบ้านคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในกระท่อม ด้วยความเหงานางจึงหาสัตว์มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนสองตัว คือ ลิงและลา วันหนึ่งหญิงชาวบ้านคนนี้ต้องออกไปตลาดเพื่อซื้ออาหาร ก่อนออกจากบ้านเธอได้เอาเชือกมาผูกคอลิง แล้วมัดขาของลาเอาไว้ทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวเดินย่ำไปมาในกระท่อมจนทำให้ข้าวของต่างๆ ได้รับความเสียหาย ทันทีที่หญิงชาวบ้านออกจากบ้านไป ลิงซึ่งมีความฉลาดและแสนซนเป็นคุณลักษณะประจำตัวก็ค่อย ๆ คลายปมเชือกออกจากคอของมัน อีกทั้งยังซุกซนไปแก้เชือกมัดขาให้แก่ลาอีกด้วย
หลังจากนั้นเจ้าลิงก็กระโดดโลดเต้น ห้อยโหนโจนทะยานไปทั่วกระท่อมจนทำให้ข้าว ของต่างๆ ล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปทั่ว อีกทั้งยังซุกซนรื้อค้นเสื้อผ้าของหญิงชาวบ้านมาฉีกกัดจนไม่เหลือชิ้นดี ในขณะที่ลาได้แต่มองดูการกระทำของเจ้าลิงอยู่เฉย ๆ สักครู่หนึ่ง หญิงชาวบ้านคนนี้ก็กลับมาจากตลาด เจ้าลิงมองเห็นเจ้าของเดินมาแต่ไกลจากทางหน้าต่าง ก็รีบเอาเชือกมาผูกคอตนไว้ อย่างเดิมและอยู่อย่างสงบนิ่ง
ฝ่ายหญิงชาวบ้านเมื่อเปิดประตูกระท่อมเข้ามาเห็นข้าวของของตนถูกรื้อค้น กระจุยกระจายเช่นนั้นก็เกิดโทสะขึ้นทันที หันมองลิงและลา เพื่อดูว่าใครเป็นผู้ก่อเรื่อง และเห็นว่าลาไม่มีเชือกผูกขาดังเดิม เธอก็คิดเอาเองว่าเจ้าลานี่เองคือตัวปัญหา ทำให้กระท่อมของเธอมีสภาพไม่ต่างจากโรงเก็บขยะ
ดังนั้นหญิงชาวบ้านจึงวิ่งไปหยิบท่อนไม้นอกบ้านมาทุบตีลาอย่างรุนแรง ซึ่งเจ้าลาผู้น่าสงสารก็ได้แต่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจนสิ้นใจโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เธอทั้งหลาย... เธอหลายคนคงไม่ค่อยชอบตอนจบของนิทานเรื่องนี้นัก เพราะสงสารเจ้าลาที่ไม่ได้ทำความผิดอะไรแต่กลับถูกเจ้าของทำโทษจนตาย ส่วนเจ้าลิงซึ่งเป็นต้นเหตุแท้ๆ กลับรอดพ้น และไม่ได้รับผลกรรมใดๆ แต่แท้ที่จริงแล้วนิทานเรื่องนี้ต้องการชี้ให้เห็นถึง ความเป็นผู้นำของหญิงชาวบ้าน
ที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ เชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็นแล้วลงโทษไปตามความรู้สึกและประสพการณ์ส่วนตัว เธอมองเห็นข้าวของเสียหาย และมองเห็นลาที่หลุดออกมาจากเชือก แล้วตัดสินว่าลาคงเป็นผู้กระทำ แต่ไม่ได้มองว่าลาไม่มีปัญญาจะแก้เชือก และไม่มีนิสัยชอบรื้อทำลาย เธอมองเห็นลิงยังถูกเชือกล่ามอยู่ก็คิดว่าลิงคงไม่ใช่ผู้กระทำ แต่มองไม่ออกว่าผู้น่าจะแก้ปมเชือกได้และมีนิสัยชอบรื้อทำลายนั้นคือลิง ความจริงถ้าเธอรู้จักสำรวจ
ร่องรอยความเสียหายเสียสักเล็กน้อย เธอก็จะพบรอยเท้าและฟันของลิงกระจายไปทั่วห้อง แต่ไม่พบรอยเท้าของลาเลย เพราะลาไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน
เหตุที่องค์กรต้องเหน็ดเหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความสะเพร่าของผู้นำที่ "ปล่อยให้ลิงสร้างปัญหา แต่ลารับเคราะห์" ลาก็เหมือนกับคนที่ปฏิบัติงานได้ตามหน้าที่ แต่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง พูดจาตรงไปตรงมาแต่ไร้เลห์เหลี่ยม ลิงก็เหมือนกับคนที่ฉลาดแกมโกง พูดมากพรีเซ็นต์เก่ง อ้างอิงตำราได้สารพัด แต่ไม่เคยทำงานจริง นายที่ดีไม่ควรปล่อยให้ลิงหลงระเริงว่าทำผิดเท่าไหร่นายก็ไม่มีทางรู้ ผู้เป็นนายไม่ควรยึดติดความสบาย นั่งขึ้นอืดรอฟังแต่รายงานในห้องประชุม รู้จักยอมเสียสละตน สละเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อค้นหาความจริง เพื่อควบคุมเจ้าลิง เพราะไม่เช่นนั้น องค์กรก็จะทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าลิงสงบได้องค์กรก็จะพลอยสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืนไปด้วย
Create Date : 15 สิงหาคม 2553 | | |
Last Update : 15 สิงหาคม 2553 5:38:13 น. |
Counter : 744 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เพื่อน รัก...... 3 ....... คน
เพื่อน รัก...... 3 ....... คน
....มีเพื่อนรักอยู่ .. 3 ... คน คือ
** ___ ไฟ ___ น้ำ ___ และ ความไว้ใจ **
ทั้ง 3 ได้มาพบและพูดคุยกัน
ไฟ ได้บอกกล่าวกับเพื่อนทั้ง 2 ว่า " ถ้าหากฉันหายไป ให้สังเกตในที่ๆ มีควันฉันจะอยู่ที่นั่น "
ส่วน น้ำ นั้น บอกกับเพื่อนทั้ง 2 ว่า " ถ้าหากฉันหายไป ให้สังเกตที่ๆ ต้นไม้เขียวชอุ่มและเจริญงอกงามเพราะฉันจะอยู่ที่นั่น "
ส่วน ความไว้ใจ บอกกับเพื่อนทั้ง 2 ว่า
"หากฉันหายไป.......พวกเธอจะไม่มีวันได้พบฉันอีกเลย "
*************** ไฟ
ก็ เปรียบเสมือน ความหวัง ความมุ่งมั่นมานะ และพลังในการดำเนินชีวิต แม้มันหมดหรือดับไป........ คุณยังอาจจุดประกายแห่งความมุ่งมั่นนั้นได้ ขอเพียงคุณมีแรงดลใจ (ควัน)
*************** น้ำ
เปรียบเหมือน ความรัก ความอบอุ่น เป็นสิ่งชโลมจิตใจ ให้ชีวิตคงอยู่อย่างสดชื่น และมีชีวิตชีวา แม้คุณอกหักหรือผิดหวัง แต่ความรักก็ยังพร้อมจะเกิดขึ้นใหม่และเจริญงอกงามต่อไปได้เสมอ
แต่ความไว้วางใจนั้น
เป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับบุคคลอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ลูก คนรัก เพื่อน หัวหน้า หรือ ลูกน้อง
ถ้าหากคุณสูญเสียความไว้ใจที่มีต่อบุคคลนั้นไป......
คุณจะไม่พบมันอีกเลย ในความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเขา
มีความสุข กับเพื่อน ที่คุณ รัก ให้มากๆๆนะคะ อย่ายัดเยียด ความสุข ของเรา ให้กับคนอื่นๆ
เพราะว่า " สิ่งที่เรา เห็น ว่าดี เหมาะสม "
มันไม่ได้ แปลว่า หรือเป็นสูตร แน่นอนเสมอไปว่า
" สิ่งนั้น จะดี หรือเหมาะสม สำหรับ คนอื่นๆๆ "
Create Date : 29 กรกฎาคม 2553 | | |
Last Update : 29 กรกฎาคม 2553 21:45:10 น. |
Counter : 713 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย
เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส
เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย
ดังนี้แล้ว ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
Create Date : 24 กรกฎาคม 2553 | | |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 18:22:09 น. |
Counter : 1191 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
4 อุปนิสัย สร้างความโชคดีให้ชีวิต
4 อุปนิสัย สร้างความโชคดีให้ชีวิต
นิสัยที่ 1 มีความสามารถสร้างโอกาสดีๆให้ชีวิตตัวเอง นิสัยย่อยประกอบด้วย 1.คนโชคดีมีเพื่อนเยอะ และเวลามีปัญหาจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนได้เสมอ 2.คนโชคดีมักมองชีวิต แบบสบายๆไม่กังวลมากเกินไป 3.คนโชคดีเป็นคนเปิดกว้าง และสนใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นิสัยที่ 2 เชื่อถือสัญชาตญาณตัวเอง 1.คนโชคดีตัดสินใจอย่างถูกต้องด้วยการเชื่อถือสัญชาตญาณตัวเอง 2.คนโชคดีไม่เห็นสัญชาตญาณเป็นเรื่องไร้สาระ 3.คนโชคดีเรียนรู้เทคนิคเพิ่มสัญชาตญาณ เช่น การฝึกสมาธิ หรือก่รหาที่นั่งคิดเงียบๆคนเดียวเวลาต้องตัดสินใจ นิสัยที่ 3 เชื่ออย่างจริงใจว่าจะเกิดสิ่งดีๆขึ้นในชีวิต นิสัยย่อยประกอบด้วย 1.คนโชคดีเชื่อว่า อนาตคเต็มไปด้วยสิ่งที่จะทำให้ความฝันและความปรารถนาของเขาเป็นจริงขึ้นมาได้ 2.คนโชคดีคาดหวังให้เรื่องดีๆ ดำเนินต่อเนื่องในอนาคต 3.คนโชคดีตั้งมั่นลามือทำให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นแม้เมื่อความหวังดูริบหรี่ หรือแม้ต้องพบกับความล้มเหลวผิดหวัง 4.คนโชคดีคาดหวังว่า การสัมพันธ์กับตนรอบตัวจะมีลักษณะเป็นมิตรโอบเอื้อน่ารัก นิสัยที่ 4 สามารถเปลี่ยนโชคร้ายให้เป็นโชคดี นิสัยย่อยประกอบด้วย 1.คนโชคดีมองเห็นด้านบวกของเรื่องโชคร้ายได้ 2.คนโชคดีเชื่อมั่นว่า เรื่องราวที่ดูเหมือนโชคร้ายในตอนต้น จะต้องนำไปสู่เรื่องดีๆ และตอนจบจะกลายเป็นเรื่องโชคดีไปได้ทุกๆครั้ง 3.คนโชคดีมักไม่หมกหมุ่นอยู่กับเรื่องโชคร้ายที่ผ่านไปแล้ว
Create Date : 24 กรกฎาคม 2553 | | |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 18:20:52 น. |
Counter : 702 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
+ ความแตกต่างระหว่างถ่านกับเพชร...+
+ ความแตกต่างระหว่างถ่านกับเพชร...+
...ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร
สำหรับคนที่กำลังเหนื่อย หรือท้อแท้อ่ะน๊า..
เพชรมีค่ามากกว่าถ่านหลายล้านเท่า ทั้งๆที่เพชรเป็นธาตุคาร์บอนเหมือนกัน
ไม้ผ่านการอบการเผา ไม่นานก็กลายเป็นถ่าน
แต่เพชรผ่านความร้อน ไม่ต่ำกว่า 5,000 องศาฟาเรนไฮต์
ได้รับความกดดันมากกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ด้วยระยะเวลาอันยาวนาน จนกระทั่งกลายเป็นเพชร
เพชรที่เป็นเครื่องประดับอันงดงาม พร้อมๆกับเป็นของที่มีความแข็งมากที่สุดในโลก
ถ้าท่านกำลังได้รับความกดดันอยู่ จงอดทน จงอดทน
ถ้าท่านกำลังถูกเคี่ยวถูกสับอยู่ ให้คิดว่าเพียงแค่นี้ว จะทำให้เป้าหมายเราสั่นคลอนได้หรือ ?
ถ้าสถานการณ์กำลังบีบคั้น แสดงว่าชัยชนะกำลังรออยู่ข้างหน้า
ถ้ายังถูกโหมกระหน่ำอีกให้รู้ตัวว่า ท่านกำลังใกล้จะเป็นเพชรเต็มที่แล้ว....
ในสถานการณ์เช่นนี้น หากหยุดคิดพิจารณาอย่างมีสติ ย่อมจะเกิดปัญญาพบหนทางสว่างได้เสมอ
จงมุ่งมั่นอาจหาญสง่างาม เสมือนดั่งเพชร
แม้เพชรจะตกอยู่ในสภาวะทุกข์ยากลำบาก อ้างว้างและโดดเดี่ยว
แต่เพราะเพชรไม่เคยย่อท้อต่อสู้เรื่อยไป
ให้ถือว่าทุกอย่างเป็นบทเรียนและบทฝึกตัวเองเสมอ จนกาลเวลาผ่านไป
เพชรจึงภูมิใจในตัวของมันเอง และด้วยความอดทนถึงที่สุดนั่นเอง
เพชรจึงเป็นอัญมณีล้ำค่า ควรแก่การประดับมงกุฎของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่
จากอดีต... ปัจจุบัน....ตลอดไปในอนาคต
Create Date : 15 กรกฎาคม 2553 | | |
Last Update : 15 กรกฎาคม 2553 22:07:44 น. |
Counter : 2461 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|