Bancha
Group Blog
 
All blogs
 

ลิงกับลา


ลิงกับลา


หญิงชาวบ้านคนหนึ่งอาศัยอยู่คนเดียวในกระท่อม ด้วยความเหงานางจึงหาสัตว์มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนสองตัว คือ ลิงและลา
วันหนึ่งหญิงชาวบ้านคนนี้ต้องออกไปตลาดเพื่อซื้ออาหาร ก่อนออกจากบ้านเธอได้เอาเชือกมาผูกคอลิง แล้วมัดขาของลาเอาไว้ทั้งสองข้าง
เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวเดินย่ำไปมาในกระท่อมจนทำให้ข้าวของต่างๆ ได้รับความเสียหาย ทันทีที่หญิงชาวบ้านออกจากบ้านไป
ลิงซึ่งมีความฉลาดและแสนซนเป็นคุณลักษณะประจำตัวก็ค่อย ๆ คลายปมเชือกออกจากคอของมัน อีกทั้งยังซุกซนไปแก้เชือกมัดขาให้แก่ลาอีกด้วย

หลังจากนั้นเจ้าลิงก็กระโดดโลดเต้น ห้อยโหนโจนทะยานไปทั่วกระท่อมจนทำให้ข้าว ของต่างๆ ล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปทั่ว
อีกทั้งยังซุกซนรื้อค้นเสื้อผ้าของหญิงชาวบ้านมาฉีกกัดจนไม่เหลือชิ้นดี ในขณะที่ลาได้แต่มองดูการกระทำของเจ้าลิงอยู่เฉย ๆ สักครู่หนึ่ง
หญิงชาวบ้านคนนี้ก็กลับมาจากตลาด เจ้าลิงมองเห็นเจ้าของเดินมาแต่ไกลจากทางหน้าต่าง ก็รีบเอาเชือกมาผูกคอตนไว้ อย่างเดิมและอยู่อย่างสงบนิ่ง




ฝ่ายหญิงชาวบ้านเมื่อเปิดประตูกระท่อมเข้ามาเห็นข้าวของของตนถูกรื้อค้น กระจุยกระจายเช่นนั้นก็เกิดโทสะขึ้นทันที หันมองลิงและลา
เพื่อดูว่าใครเป็นผู้ก่อเรื่อง และเห็นว่าลาไม่มีเชือกผูกขาดังเดิม เธอก็คิดเอาเองว่าเจ้าลานี่เองคือตัวปัญหา ทำให้กระท่อมของเธอมีสภาพไม่ต่างจากโรงเก็บขยะ









ดังนั้นหญิงชาวบ้านจึงวิ่งไปหยิบท่อนไม้นอกบ้านมาทุบตีลาอย่างรุนแรง ซึ่งเจ้าลาผู้น่าสงสารก็ได้แต่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจนสิ้นใจโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย

เธอทั้งหลาย...
เธอหลายคนคงไม่ค่อยชอบตอนจบของนิทานเรื่องนี้นัก เพราะสงสารเจ้าลาที่ไม่ได้ทำความผิดอะไรแต่กลับถูกเจ้าของทำโทษจนตาย
ส่วนเจ้าลิงซึ่งเป็นต้นเหตุแท้ๆ กลับรอดพ้น และไม่ได้รับผลกรรมใดๆ แต่แท้ที่จริงแล้วนิทานเรื่องนี้ต้องการชี้ให้เห็นถึง ความเป็นผู้นำของหญิงชาวบ้าน

ที่ไม่พิจารณาเหตุการณ์ให้ถ่องแท้ เชื่อแค่สิ่งที่ตนเห็นแล้วลงโทษไปตามความรู้สึกและประสพการณ์ส่วนตัว เธอมองเห็นข้าวของเสียหาย
และมองเห็นลาที่หลุดออกมาจากเชือก แล้วตัดสินว่าลาคงเป็นผู้กระทำ แต่ไม่ได้มองว่าลาไม่มีปัญญาจะแก้เชือก และไม่มีนิสัยชอบรื้อทำลาย
เธอมองเห็นลิงยังถูกเชือกล่ามอยู่ก็คิดว่าลิงคงไม่ใช่ผู้กระทำ แต่มองไม่ออกว่าผู้น่าจะแก้ปมเชือกได้และมีนิสัยชอบรื้อทำลายนั้นคือลิง ความจริงถ้าเธอรู้จักสำรวจ

ร่องรอยความเสียหายเสียสักเล็กน้อย เธอก็จะพบรอยเท้าและฟันของลิงกระจายไปทั่วห้อง แต่ไม่พบรอยเท้าของลาเลย เพราะลาไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหน

เหตุที่องค์กรต้องเหน็ดเหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความสะเพร่าของผู้นำที่ "ปล่อยให้ลิงสร้างปัญหา แต่ลารับเคราะห์"
ลาก็เหมือนกับคนที่ปฏิบัติงานได้ตามหน้าที่ แต่ไม่ค่อยมีปากมีเสียง พูดจาตรงไปตรงมาแต่ไร้เลห์เหลี่ยม ลิงก็เหมือนกับคนที่ฉลาดแกมโกง
พูดมากพรีเซ็นต์เก่ง อ้างอิงตำราได้สารพัด แต่ไม่เคยทำงานจริง นายที่ดีไม่ควรปล่อยให้ลิงหลงระเริงว่าทำผิดเท่าไหร่นายก็ไม่มีทางรู้
ผู้เป็นนายไม่ควรยึดติดความสบาย นั่งขึ้นอืดรอฟังแต่รายงานในห้องประชุม รู้จักยอมเสียสละตน สละเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อค้นหาความจริง
เพื่อควบคุมเจ้าลิง เพราะไม่เช่นนั้น องค์กรก็จะทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าลิงสงบได้องค์กรก็จะพลอยสบายและมีความสุขอย่างยั่งยืนไปด้วย




 

Create Date : 15 สิงหาคม 2553    
Last Update : 15 สิงหาคม 2553 5:38:13 น.
Counter : 744 Pageviews.  

เพื่อน รัก...... 3 ....... คน

เพื่อน รัก...... 3 ....... คน

....มีเพื่อนรักอยู่ .. 3 ... คน คือ

** ___ ไฟ ___ น้ำ ___ และ ความไว้ใจ **


ทั้ง 3 ได้มาพบและพูดคุยกัน

ไฟ ได้บอกกล่าวกับเพื่อนทั้ง 2 ว่า
" ถ้าหากฉันหายไป ให้สังเกตในที่ๆ มีควันฉันจะอยู่ที่นั่น "

ส่วน น้ำ นั้น บอกกับเพื่อนทั้ง 2 ว่า
" ถ้าหากฉันหายไป ให้สังเกตที่ๆ
ต้นไม้เขียวชอุ่มและเจริญงอกงามเพราะฉันจะอยู่ที่นั่น "


ส่วน ความไว้ใจ บอกกับเพื่อนทั้ง 2 ว่า

"หากฉันหายไป.......พวกเธอจะไม่มีวันได้พบฉันอีกเลย "

*************** ไฟ

ก็ เปรียบเสมือน ความหวัง ความมุ่งมั่นมานะ
และพลังในการดำเนินชีวิต
แม้มันหมดหรือดับไป........
คุณยังอาจจุดประกายแห่งความมุ่งมั่นนั้นได้
ขอเพียงคุณมีแรงดลใจ (ควัน)

*************** น้ำ

เปรียบเหมือน ความรัก ความอบอุ่น
เป็นสิ่งชโลมจิตใจ
ให้ชีวิตคงอยู่อย่างสดชื่น และมีชีวิตชีวา
แม้คุณอกหักหรือผิดหวัง
แต่ความรักก็ยังพร้อมจะเกิดขึ้นใหม่และเจริญงอกงามต่อไปได้เสมอ

แต่ความไว้วางใจนั้น

เป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับบุคคลอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ลูก คนรัก เพื่อน หัวหน้า
หรือ ลูกน้อง

ถ้าหากคุณสูญเสียความไว้ใจที่มีต่อบุคคลนั้นไป......

คุณจะไม่พบมันอีกเลย
ในความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเขา


มีความสุข กับเพื่อน ที่คุณ รัก ให้มากๆๆนะคะ
อย่ายัดเยียด ความสุข ของเรา ให้กับคนอื่นๆ

เพราะว่า " สิ่งที่เรา เห็น ว่าดี เหมาะสม "

มันไม่ได้ แปลว่า หรือเป็นสูตร แน่นอนเสมอไปว่า

" สิ่งนั้น จะดี หรือเหมาะสม สำหรับ คนอื่นๆๆ "




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2553 21:45:10 น.
Counter : 713 Pageviews.  

ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน

เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 18:22:09 น.
Counter : 1191 Pageviews.  

4 อุปนิสัย สร้างความโชคดีให้ชีวิต


4 อุปนิสัย สร้างความโชคดีให้ชีวิต

นิสัยที่ 1 มีความสามารถสร้างโอกาสดีๆให้ชีวิตตัวเอง
นิสัยย่อยประกอบด้วย
1.คนโชคดีมีเพื่อนเยอะ และเวลามีปัญหาจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนได้เสมอ
2.คนโชคดีมักมองชีวิต แบบสบายๆไม่กังวลมากเกินไป
3.คนโชคดีเป็นคนเปิดกว้าง และสนใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
นิสัยที่ 2 เชื่อถือสัญชาตญาณตัวเอง
1.คนโชคดีตัดสินใจอย่างถูกต้องด้วยการเชื่อถือสัญชาตญาณตัวเอง
2.คนโชคดีไม่เห็นสัญชาตญาณเป็นเรื่องไร้สาระ
3.คนโชคดีเรียนรู้เทคนิคเพิ่มสัญชาตญาณ เช่น การฝึกสมาธิ หรือก่รหาที่นั่งคิดเงียบๆคนเดียวเวลาต้องตัดสินใจ
นิสัยที่ 3 เชื่ออย่างจริงใจว่าจะเกิดสิ่งดีๆขึ้นในชีวิต
นิสัยย่อยประกอบด้วย
1.คนโชคดีเชื่อว่า อนาตคเต็มไปด้วยสิ่งที่จะทำให้ความฝันและความปรารถนาของเขาเป็นจริงขึ้นมาได้
2.คนโชคดีคาดหวังให้เรื่องดีๆ ดำเนินต่อเนื่องในอนาคต
3.คนโชคดีตั้งมั่นลามือทำให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นแม้เมื่อความหวังดูริบหรี่ หรือแม้ต้องพบกับความล้มเหลวผิดหวัง
4.คนโชคดีคาดหวังว่า การสัมพันธ์กับตนรอบตัวจะมีลักษณะเป็นมิตรโอบเอื้อน่ารัก
นิสัยที่ 4 สามารถเปลี่ยนโชคร้ายให้เป็นโชคดี
นิสัยย่อยประกอบด้วย
1.คนโชคดีมองเห็นด้านบวกของเรื่องโชคร้ายได้
2.คนโชคดีเชื่อมั่นว่า เรื่องราวที่ดูเหมือน”โชคร้าย”ในตอนต้น จะต้องนำไปสู่เรื่องดีๆ และตอนจบจะกลายเป็นเรื่องโชคดีไปได้ทุกๆครั้ง
3.คนโชคดีมักไม่หมกหมุ่นอยู่กับเรื่องโชคร้ายที่ผ่านไปแล้ว




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 18:20:52 น.
Counter : 702 Pageviews.  

+ ความแตกต่างระหว่างถ่านกับเพชร...+

+ ความแตกต่างระหว่างถ่านกับเพชร...+

...ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร

สำหรับคนที่กำลังเหนื่อย หรือท้อแท้อ่ะน๊า..

เพชรมีค่ามากกว่าถ่านหลายล้านเท่า ทั้งๆที่เพชรเป็นธาตุคาร์บอนเหมือนกัน

ไม้ผ่านการอบการเผา ไม่นานก็กลายเป็นถ่าน

แต่เพชรผ่านความร้อน ไม่ต่ำกว่า 5,000 องศาฟาเรนไฮต์

ได้รับความกดดันมากกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว

ด้วยระยะเวลาอันยาวนาน จนกระทั่งกลายเป็นเพชร

เพชรที่เป็นเครื่องประดับอันงดงาม
พร้อมๆกับเป็นของที่มีความแข็งมากที่สุดในโลก

ถ้าท่านกำลังได้รับความกดดันอยู่ จงอดทน จงอดทน

ถ้าท่านกำลังถูกเคี่ยวถูกสับอยู่ ให้คิดว่าเพียงแค่นี้ว
จะทำให้เป้าหมายเราสั่นคลอนได้หรือ ?

ถ้าสถานการณ์กำลังบีบคั้น แสดงว่าชัยชนะกำลังรออยู่ข้างหน้า

ถ้ายังถูกโหมกระหน่ำอีกให้รู้ตัวว่า ท่านกำลังใกล้จะเป็นเพชรเต็มที่แล้ว....

ในสถานการณ์เช่นนี้น หากหยุดคิดพิจารณาอย่างมีสติ
ย่อมจะเกิดปัญญาพบหนทางสว่างได้เสมอ

จงมุ่งมั่นอาจหาญสง่างาม เสมือนดั่งเพชร

แม้เพชรจะตกอยู่ในสภาวะทุกข์ยากลำบาก อ้างว้างและโดดเดี่ยว

แต่เพราะเพชรไม่เคยย่อท้อต่อสู้เรื่อยไป

ให้ถือว่าทุกอย่างเป็นบทเรียนและบทฝึกตัวเองเสมอ จนกาลเวลาผ่านไป

เพชรจึงภูมิใจในตัวของมันเอง และด้วยความอดทนถึงที่สุดนั่นเอง

เพชรจึงเป็นอัญมณีล้ำค่า ควรแก่การประดับมงกุฎของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่

จากอดีต... ปัจจุบัน....ตลอดไปในอนาคต




 

Create Date : 15 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 15 กรกฎาคม 2553 22:07:44 น.
Counter : 2461 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  

rajasit
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add rajasit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.