คนอย่างแกน่ะ ทำไม่ได้หรอก
จากคำสบประมาทของคุณครู
สู่ผู้พัฒนาจรวดและดาวเทียมขึ้นไปบนอวกาศ
บนเวที TEDxSapporo มีคุณลุงท่าทางแข็งๆ คนนึงยืนเกาหัวอยู่
ท่าทางดูตื่นเต้นที่จะพูดต่อหน้าคนเป็นจำนวนมากที่กำลังรอฟังเค้าอยู่
เขาชื่อว่าคุณลุง Tsutomu Uematsu
(ผมขอเรียกต่อไปว่า คุณลุง นะครับ)
.
คุณลุงเป็นเจ้าของกิจการหนึ่งอยู่ที่ฮอกไกโด
บริษัทนี้มีสินค้าหลักคือแม่เหล็กที่ใช้สำหรับกระบวนการรีไซเคิล
นอกเหนือไปกว่านั้นที่นี่ยังสามารถวิจัยคุ้นคว้า
พัฒนาจรวดที่ขึ้นไปในอวกาศ สร้างดาวเทียม
และสามารถผลิตเครื่องจำลองสภาพสูญญากาศ
ซึ่งเป็นเครื่องเดียวในญี่ปุ่น และหนึ่งในสามเครื่องของโลก
.
คุณลุงเล่าไปอีกว่า อดีตความฝันของเค้า
ไม่ใช่การไปอวกาศหรอก แต่จำได้แม่นว่า
เคยดูทีวีกับคุณตาตอนที่ยานอะพอลโล่
กำลังจะลงจอดที่ดวงจันทร์ คุณตาหน้าตาดีใจสุดๆ
อย่างที่เด็กน้อย ณ ตอนนั้นไม่เคยเห็นมาก่อน
ดูสิ ดูสิ คนจะไปเหยียบดวงจันทร์ได้แล้ว หลานก็ไปได้เหมือนกัน
คำนี้จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้
เด็กชาย Tsutomu หันมาสนใจวงการอวกาศและจรวด
เด็กชายคนนั้นมุ่งมั่น อ่านหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่า
เกี่ยวกับอวกาศอย่างหลงใหล
จนวันนึง
คุณครูมาบอกว่า
อย่ามัวแต่คิดเพ้อฝันไปเลย กลับไปตั้งใจเรียนดีกว่า
การจะไปถึงอวกาศ ถ้าไม่ฉลาดไปไม่ได้หรอก
แล้วต้องมีเงินเยอะๆ ด้วยที่แกคิดน่ะ มันคนละโลกกับที่อยู่เลย
อย่างแกน่ะ ทำไม่ได้หรอก
.
คุณลุงรู้สึกเสียใจและได้ครุ่นคิดว่า
เราควรฝันเฉพาะ ฝันที่มันน่าจะเป็นจริงได้ จริงๆ หรอ?
ใครล่ะที่เป็นคนมากำหนดว่า
ฝันนี้อาจเป็นจริงได้ ฝันนั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอก
.
แล้วลุงก็คิดได้อีกว่า..ถ้าไม่ลองทำก็คงไม่รู้หรอก
และเราก็ไม่ควรให้คนที่ไม่เคยแม้แต่จะลงมือทำสิ่งนั้น
เลยมาตัดสินเรื่องนี้ให้เรานะ!
จริงๆแล้ว การที่ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
คือความฝันที่แท้จริงไม่ใช่หรอ!?
.
ระหว่างที่คุณลุงกำลังจะเดินตามความฝัน
เรื่องวิจัยพัฒนาทางด้านอวกาศ
มักจะมีคนรอบข้างเข้ามาบอกกับคุณลุงว่า
โดเซ มุหริหรือที่แปลว่า ยังไงก็เป็นไปไม่ได้หรอก
คำนี้เป็นคำที่คุณลุงรู้สึกว่า เป็นคำที่ร้ายแรงที่สุด
เพราะมันขโมยความเชื่อมั่นและความเป็นไปได้ของคนที่ถูกพูดถึง
.
คำพูดเหล่านี้มักจะออกมาจากปากคนที่ไร้ซึ่งความมั่นใจ
และพยายามจะบั่นทอนความตั้งใจ
และความหวังคนรอบข้างด้วย
ครั้นคนรอบข้างหลายๆคน
พยายามจะทำลายความฝันของคุณลุงอีก
คุณลุงจึงตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่าว่าจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า
.
ความฝันว่าจะไปอวกาศได้ต้องสำเร็จด้วยมือผมเอง
.
แล้วแรงดึงดูดก็ทำงานครับ..
คุณลุงโชคดีไปเจอกับศาสตราจารย์นากาตะ
แห่งมหาวิทยาลัยฮอกไกโดที่วิจัยเพื่อสร้างจรวดที่ไม่เป็นอันตราย
แต่ยังขาดทุนทรัพย์
คุณลุง Tsutomu ก็ไม่มีเงินหรอกครับ
แต่มีทักษะในการรวบรวมวัตถุดิบและผลิตของขึ้นมา
ทั้งสองจึงร่วมกันทำโปรเจค ทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วน จนสุดท้ายก็มีผลงานจรวด
และดาวเทียมที่สามารถบินขึ้นไปบนอวกาศได้จริง!
.
บริษัทคุณลุง Tsutomuตอนนี้ยังมีพนักงานเพียงแค่ 17 คน
แต่คุณเชื่อมั้ยครับว่ามีเด็กๆ มาทัศนศึกษา
เพื่อเยี่ยมชมการสร้างจรวจของบริษัทนี้
ปีละมากกว่า 10,000คน
คุณลุงกลายเป็นแรงบันดาลใจของเด็กรุ่นใหม่ให้กล้าที่จะฝัน
คุณลุงจะคอยให้คำแนะนำและเน้นย้ำให้เด็กๆ ไม่ไหวหวั่น
ต่อคำสบประมาทของคนรอบข้าง
ขอเพียงแค่ ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
แม้ทำได้ครึ่งๆ กลางๆ ก็ยังดีกว่า ไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย
ย้อนกลับไป
หลายสิบปีก่อน
คุณครูคนที่เคยสบประมาทคุณลุงว่า
โดเซ มุหริอย่างแกอ่ะ ทำอะไรไม่ได้หรอก
ถ้าวันนั้นคุณลุงเชื่อคำพูดคุณครู ก็คงไม่มีวันนี้
แทนที่จะคิดว่าทำไม่ได้หรอก เปลี่ยนมาเป็น
ถ้าไม่ทำแล้วจะเสียใจไปตลอดชีวิต น่าจะดีกว่านะครับ
ดูคุณลุงเป็นตัวอย่างกันนะครับ
สามารถดู TEDxSapporo คลิปนี้เต็มๆ ได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=gBumdOWWMhY#t=876