แล้วก็เจอจนได้ซิน่า...
เมื่อวานตอนเช้ารู้สึกกระชุ่มกระชวย เลยเล่นโยคะไปพร้อมกับวิดีโอที่โหลดมาจากยูทบ ใช้เวลาฝึกครึ่งชั่วโมง เหงื่อแตกเหงื่อแตน สามีงงว่ามันได้เหงื่อขนาดนี้เลยรึ สามีฉันมักคิดว่าเป็นอะไรเบาๆ ช้าๆ ไม่ต้องออกแรงอะไรมาก พอมาเห็นฉันฝึกเลยเริ่มรู้ว่ามันถือเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งจริงๆ นั่นแหล่ะ พอฝึกเสร็จอาบน้ำ กินข้าว แล้วพวกฉันก็มานั่งดูข้อมูลสำหรับการล่องเรือย้ายสำมะโนครัวไปสเปน แผนการล่องเรือในแม่น้ำและคลองในฝรั่งเศสเป็นรูปเป็นร่างแล้ว กำหนดการก็เรียบร้อย ถ้าอากาศเป็นใจเราจะเริ่มช่วงก่อนกลางเดือนเมษา ดูน้ำขึ้นน้ำลงแล้วเหมาะสม ไม่ต้องหักโหมมาก เราค่อยๆ ไป เพื่อทดสอบเรือในฐานะเรือใบกลางทะเล หลังจากที่ผ่านมาแปรสภาพเป็นเรือยนต์ กำหนดไว้สามวันก่อนแล่นเข้าแม่น้ำ Gironde ระหว่างนี้พวกฉันก็เลยเริ่มดูลาดราวสถานที่ๆ เราอยากไปอยู่หลังจากสิ้นสุดโปรแกรมล่องคลอง ซึ่งไม่ปลายปีนี้ก็ต้นปีหน้า เกาะที่พวกฉันเล็งไว้คือ เกาะ Formentera ซึ่งอยู่ใกล้กับไอบีซ่าชื่อดัง แต่พวกฉันยังไม่แน่ใจนัก เพราะท่าเรือสเปนขึ้นชื่อเรื่องราคาแพงหูฉี่ เนื่องจากเป็นท่าเรือเอกชน แถมอยู่ในทะเลเมดิเตอเรเนียน (ทะเลไฮโซ) ซึ่งส่วนใหญ่ไปเกยตื้นตรงไหนก็ต้องจ่าย ถ้าไม่เข้าทางพวกฉันก็อาจจะไปจนถึงโมร็อกโค แต่ก็จะติดปัญหาเรื่องวีซ่าของฉัน เรื่องนี้อยู่ระหว่างการศึกษา

พอกินข้าวกลางวันที่บ้านยายสามีเสร็จ สามีฉันอยากไปแงะปลั๊กไฟในแคมป์ปิ้งร้างที่โดนพายุถล่มเมื่อปีที่แล้วมาใช้ในเรือ ฉันไม่ชอบการไปงัดแงะแบบนี้เท่าไหร่ แม้จะไม่ผิดอะไร ไม่ใช่การขโมย แถมคนที่นี่ก็ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ดูจากสภาพแล้ว สามีฉันไม่ใช่รายแรกที่เข้าไปสำรวจ ฉันเลยขอรออยู่บนรถ ฉันขับไปจอดรอที่ลานจอดรถริมทะเล ไปถึงมีรถจอดอยู่แล้วสองสามคัน ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร งัดกรรไกรมานั่งเล็มผมแตกปลาย เงยหน้ามองรอบข้างเป็นพักๆ ตอนนั้นเห็นผู้ชายคนนึงจอดรถเข้าข้างทางห่างรถฉันไปประมาณ สิบห้าเมตร ฉันหันไปเห็นคนเสื้อแดงลงจากแว็บๆ แล้วหันกลับมาดูผมฉันต่อ สักพักฉันเริ่มรู้ตัวว่าจอดอยู่คันเดียว ก็ยังเฉยๆ แล้วฉันก็เห็นตาลุงเสื้อแดงก็เริ่มวนเวียนไม่ห่างจากรถฉัน ตอนนั้นฉันก็ยังก้มหน้าก้มตาของฉันไป หางตาก็แอบมอง และคิดในใจว่ามันต้องมาโรคจิตกะฉันแน่แล้ว พยายามไม่เงยหน้ามอง ตาลุงเสื้อแดงเริ่มค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้รถฉันอีก ฉันเลยเงยหน้าขึ้น แล้วฉันก็ได้เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น แต่ดันคิดไว้ก่อนแล้วว่าต้องเห็นแน่ๆ ฉันเลยรีบสตาร์ทรถแล้วขับออกไป ฉันชะลอรถดูป้ายทะเบียนรถตาลุงโรคจิต จำได้ขึ้นใจ ดูไว้อย่างนั้นก่อน ยังไม่รู้จะทำอะไร พอขับเลยมันออกมาไม่กี่เมตร ฉันดันคิดได้ว่า ทำไมไม่บีบแตรดังๆ หลายครั้งให้มันตกใจ และให้คนแถวนั้นได้ยินนะ แต่คิดได้ก็ช้าไปแล้ว ฉันไม่ได้ตกใจอะไร มันงงๆ มากกว่า ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกก็เหอะ ใครเห็นอย่างนี้ก็อึ้งเหมือนกันแหล่ะนะ สามีฉันขึ้นรถ พอขับไปได้สักพักฉันเลยเล่าให้สามีฟัง สามีฉันว่าทำไมไม่ขับเหยียบตีนมันซะเลย (ก็ว่า...ตอนนั้นไม่ทันคิด ถ้าย้อนเวลาได้ จะขับไปเหยียบตีนมัน) คุยกันไปก็เห็นตรงกันว่า ทำอะไรไปก็เท่านั้น คนโรคจิตก็คือโรคจิต อย่าไปอะไรมากมายเลย ฉันไม่ได้อะไรมากมาย แต่ภาพมันติดตาฉัน ฉันมันเป็นพวกเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นแล้วจะติดตาอยู่อีกหลายวัน ระหว่างอัพบล็อกอยู่นี่ก็ยังหลอนไม่หยุด ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง ฉันบอกได้คำเดียวว่า รู้สึกว่าจะซวย เอาวะ...คิดซะว่า อย่างน้อยชีวิตนี้ก็เคยโดนฝรั่งจิตใส่ (เป็นเรื่องน่าภูมิใจมั้ยเนี่ย)



Create Date : 03 มีนาคม 2554
Last Update : 3 มีนาคม 2554 5:07:37 น.
Counter : 479 Pageviews.

2 comments
  
โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 3 มีนาคม 2554 เวลา:7:09:43 น.
  
"คิดซะว่า อย่างน้อยชีวิตนี้ก็เคยโดนฝรั่งจิตใส่ (เป็นเรื่องน่าภูมิใจมั้ยเนี่ย)"


หายไปนานเลย
ปลอดภัยก็ดีแล้วครับ
โดย: bayesian วันที่: 4 มีนาคม 2554 เวลา:16:02:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Tibou
Location :
Phisanulok  France

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เด็กอ้วนถือกำเนิดกลางตลาดเมืองสองแคว เมื่อ 31 ปีที่แล้ว จากนั้นก็ชีพจรลงเท้าไปเรียนประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้วยแรงบันดาลใจอะไรสักอย่างชีพจรก็พาสองเท้าเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังเมืองน้ำหอมพร้อมกับความตั้งใจที่จะพูดภาษาฝรั่ีงเศสที่ใฝ่ฝันอยากเรียนสมัยมัธยมให้ได้ แล้วอุบัติรักกับหนุ่มเมืองน้ำหอม(สามีสุดเลิฟ)ก็เกิดขึ้น ปัจจุบันย้ายกลับมาอยู่ฝรั่งเศสอีกครั้งพร้อมทำหน้าที่แม่บ้าน กรรมกร(บนเรือ)กับสามีอันเป็นที่รัก พร้อมกับพยายามสานฝันอาชีพนักแปลให้สำเร็จ เพื่อให้นักอ่านบ้านเราได้มีโอกาสสัมผัสวรรณกรรมฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น สองคนผัวเมียตั้งฝันเดินทางรอบโลกด้วยเรือลำน้อยของเราในอีกสามปีข้างหน้า จุดหมายไปทางยังไม่ระบุ ที่แน่ๆขั้วโลกอยู่นอกเส้นทาง