ฉันยังนำเสนอร้านอาหารในอีสานไม่เสร็จ จากอุดรเรามาพักที่โคราชหนึ่งคืนก่อนจะเดินทางกลับ ใจอยากจะกินขนมจีนประโดกเจ้าดังอุตส่าห์ขับรถย้อนดั้นด้นไปถึงร้านปรากฏว่าร้านปิด คนกรุงเทพฯ อย่างฉันไม่เคยมีสำนึกเรื่องงานบุญเหมือนคนต่างจังหวัด ฤดูนี้เป็นฤดูกฐินร้านต่างๆ จะขึ้นป้ายปิดร้านกันทีละ 2-3 วันเพื่อไปทำบุญ คนบาปอย่างฉันจึงอดกิน

อย่างไรเสียก็ต้องหาของกินให้ได้มาลงเอยที่ไก่ย่างสืบศิริ ร้านนี้เขาดังที่ไก่ย่าง ร้านตั้งอยู่บนถนนสืบศิริ ในตัวเมืองโคราช เปิดร้าน 11 โมง เราไปถึงก่อนเวลาร้านเปิด มื้อเช้าก็เลยกลายมาเป็นมื้อกึ่งเช้ากึ่งเที่ยงรวบยอด ร้านกว้างขวาง เห็นสับมะละกอเป็นกะละมัง พร้อมกับมะละกอที่แช่อยู่เต็มตู้เย็นเดาไม่ออกว่าวันหนึ่งจะตำส้มกี่ร้อยจาน

ไก่ย่างวางเรียงรายบนเตา มีลูกค้ารายหนึ่งมาซื้อใส่ถุงไม่ต่ำกว่า 20 ตัวตั้งแต่ร้านเปิด

ไส้กรอกอีสาน คอหมูย่าง ปลาช่อนเผาเกลือ ล้วนน่ากินแต่ไม่ได้สั่งเพราะสั่งมามากพอแล้ว

เมนูร้านนี้มีเยอะมากจนตาลาย

บวกกับความหิวเลยสั่งกันไม่ยั้ง แน่นอนว่าต้องมีไก่ย่าง เขาใช้ไก่บ้านตัวย่อมๆ ไม่มีมันหอมด้วยเครื่องหมัก เสียแต่ว่าจานที่ยกมาเสิร์ฟไก่ไม่ร้อนเลยสักนิดทำให้ความอร่อยลดไปมาก มาพร้อมน้ำจิ้มแจ่วรสจัด ซื้อกลับบ้านมาด้วยเอามาอุ่นร้อนๆ อร่อยขึ้นเยอะค่ะ

ตำลาวและตำป่า รสอีสานแท้ เผ็ดจนไฟลุก 

จึงต้องมีผัดหมี่โคราชมาเป็นสหาย ผัดหมี่มันมากไปส่วนรสชาติไม่หวานจัดเช่นบางแห่ง ส้มตำและผัดหมี่เป็นของคู่กันที่เหมาะเจาะ

ดีงามที่สุดในมื้อนี้คือต้มแซบเนื้อ อุดมด้วยสมุนไพรเครื่องหอมทั้งข่าเหลืองโคราช ตะไคร้ ใบมะกรูด และใบกะเพรา หอมข้าวคั่วเป็นที่สุด เนื้อและเอ็นต้มมาเปื่อยกำลังดียังมีความเด้งสู้ฟันอยู่บ้าง รสชาติจัดจ้านด้วยพริกคั่วและมะนาวสด ติดใจจนต้องซื้อกลับบ้าน

ลาบปลาดุก คลุกเคล้าด้วยสมุนไพรหอมๆ

เสือร้องไห้ เนื้อติดมันนิดๆ หมักปรุงรสเข้มไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม

ปลารากกล้วยทอดกรอบๆ ไว้กินแนม

อย่างที่บอกค่ะ ครัวนันทนาให้คะแนนไก่ย่างและต้มแซบเนื้อค่ะ 

ใครผ่านไปแถวนั้นลองแวะไปชิมดูนะคะ ราคาอาหารไม่แพงค่ะ ไก่ย่างตัวละ 170 บาท ต้มเนื้อชามละ 100 บาท