|
Inception ความอัศจรรย์ของจิต
A single idea from the human mind can build cities. An idea can transform the world and rewrite all the rules.
ความคิดอันดียวของมนุษย์สามารถสร้างเมืองได้ ความคิดอันเดียวเปลี่ยนโลกทั้งใบและเขียนทุกกฏขึ้นได้ใหม่
ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา ศาสตร์หรือความคิดต่างๆที่ว่าด้วยตัวตน เป็นเรื่องที่ฝรั่งเขาตื่นตัวและสนใจมากนะครับ
บางท่านอาจมีคำถามว่า เรื่องตัวตนของมนุษย์มันเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกี่ยว ไม่ค่อยจำเป็นอะไรกับเราหรือเปล่า?
มีใครบางคนเพิ่งพูดกับผมว่า คนเรา มีแฟนไประยะหนึ่งแล้วพบว่าแฟนเปลี่ยนไป อาจไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยน แต่อาจเพราะเขาไม่ได้เป็นแบบที่ตัวตนของตัวเองเป็นตั้งแต่แรกต่างหาก
ตกลงเรื่องตัวตน ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวมนุษย์เราหรอกนะครับ
ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ Inception ผลงานการกำกับของคริสโตเฟอร์ โนแลน เรื่องนี้ กลายเป็นหนังชั้นดีที่หลายคนบ่นว่าดูแล้วเข้าใจยากพอๆกับ The Matrix
แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า คนที่เรียนเรื่องจิตตามคำสอนเรื่องจิตสิกขาของพระพุทธเจ้ามาแตกฉานระยะหนึ่ง จะสามารถดูหนังสองเรื่องที่ว่าได้อย่างเข้าใจไม่ยากเท่าไหร่
ในทางพุทธ มีคำพูดว่า จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ แปลว่าในชีวิตของคนเรา ไม่มีอะไรที่สำคัญยิ่งไปกว่าจิต
หรืออาจพูดให้ถูกกว่านั้นว่า จิต คือทุกสิ่งทุกอย่าง ของชีวิต เพราะไม่มีใครเป็นอะไรมากไปกว่าที่เราคิด และเพราะความคิดคือตัวกำหนดความเป็น เรา
Inception เป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่ง ที่รับงาน ฝังความคิดความเชื่อ ลงในจิตใจของคน เพราะด้วยความเชื่อว่า ความคิด สามารถเปลี่ยนการกระทำ และตัวตนของคนๆหนึ่งได้
อันนี้เป็นหลักเดียวกับที่หนังสือ The Secret เอามาเขียนและขายดิบขายดี
พระพุทธเจ้าท่านเน้นนักเน้นหนา ให้ชาวพุทธเรียนรู้ศึกษาเรื่องราวว่าด้วย จิต ไม่ใช่เพราะท่านสนใจเรื่องการสร้างตัวตนที่ดีที่สุดแบบที่ฝรั่งสนใจหรอกนะครับ
แต่เพราะท่านต้องการให้เห็นแจ้งว่า ตัวตน ที่แท้นั้นไม่มี มีเพียงแค่ ความคิด ผิดๆเท่านั้นว่ามีตัวมีตน
ที่น่าอัศจรรย์และน่าขำก็คือ จิต มันปรุงความคิดว่าด้วยตัวตนขึ้นมา แล้วมันเองก็ยึดเอาตัวตนนั้นมาเป็นภาระ เป็นนาย เป็นทุกข์ของมันเองอีกที
สำหรับ Inception อีกอย่างที่ผมชอบมากอย่างหนึ่ง คือการเล่นกับเรื่องความต่าง ระหว่างความฝันกับความจริง แบบเดียวกับที่ The Matrix เคยตั้งคำถามมาแล้วว่า ถ้าเราอยู่ในฝันที่ไม่มีวันตื่น เราจะรู้ได้ยังไงว่า เรากำลังฝันหรือกำลังตื่น
แต่คริสโตเฟอร์ โนแลน เฉลยคำถามนั้น โดยบอกว่า Dreams feel real while we're in them. It's only when we wake up that we realize something was actually strange. ความฝันมักดูเป็นจริงในยามที่เราฝันอยู่ จนเมื่อตื่นขึ้นมานั่นแหละถึงรู้ว่า มันมีอะไรแปลกๆ
ครูบาอาจารย์ผม ท่านเคยบอกว่า ความฝันคือความคิดยามหลับ ส่วนความคิด คือความฝันยามตื่น แปลว่าโดยปกติ จิตคนเราอยู่ในภาวะ "ฝัน" กันทุกคน ทั้งที่ร่างกายตื่น
คำถามจึงอยู่ที่ว่า.. แล้วทำอย่างไร มนุษย์ถึงจะตื่นขึ้นจากฝันได้?
คำตอบนั้นพระพุทธเจ้าท่านให้ไว้ว่า เจริญสติ หรือ วิปัสสนา นั่นแหละครับ
สุขสันต์วันที่คนส่วนมากยังไม่รู้ว่าตื่นหรือฝันก็แล้วกันนะครับ
Create Date : 24 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 15:40:09 น. |
|
14 comments
|
Counter : 1553 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แจ่ม IP: 117.47.139.117 วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:26:48 น. |
|
|
|
โดย: aea IP: 202.176.131.238 วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:15:22 น. |
|
|
|
โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.36.201 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:36:35 น. |
|
|
|
โดย: meang IP: 118.172.28.141 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:40:36 น. |
|
|
|
โดย: L J IP: 114.108.227.10 วันที่: 27 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:44:46 น. |
|
|
|
โดย: myouzhny วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:17:05 น. |
|
|
|
โดย: Atamandra IP: 125.24.179.184 วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:22:55 น. |
|
|
|
โดย: Pooky IP: 203.150.206.90 วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:58:23 น. |
|
|
|
โดย: O'KaO'Ka IP: 124.120.183.217 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:15:53:51 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:18:54:47 น. |
|
|
|
โดย: kwang IP: 58.9.75.44 วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:5:47:12 น. |
|
|
|
โดย: ยุ้ย IP: 24.4.129.233 วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:14:29:14 น. |
|
|
|
โดย: aston27 วันที่: 30 ธันวาคม 2553 เวลา:13:16:41 น. |
|
|
|
โดย: นก IP: 10.123.101.115, 119.46.151.53 วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:18:32:46 น. |
|
|
|
| |
|
|