Group Blog
 
All blogs
 
สงสัยเอย สงสัยจัง



(ขอบคุณภาพประกอบฝีมือคุณ SevenDaffodils ครับ)

"เวลามีใครทำอะไรเราแล้วมีคนบอกว่าให้อภัยและแผ่เมตตาให้คนนั้น
การแผ่เมตตานี่ช่วยได้จริงๆหรือคะ คือเพื่อให้เราสบายใจขึ้น
หรือเพื่อให้เค้าร้ายน้อยลง หรือ ฯลฯ ขอบคุณค่ะ "


แผ่เมตตา เป็นอุบายอย่างหนึ่งที่ช่วยแก้โทสะครับ
ถามว่าช่วยได้ไหม ตอบว่า ถ้าทำถูกวิธีก็ช่วยได้ครับ

เพราะคนที่แนะนำ คือพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ได้ผล ท่านคงไม่บอกนะ

วิธีแผ่เมตตา ที่ถูก คือแผ่ให้ตัวเองก่อนครับ
ส่วนมากเราตกม้าตายกันตรงนี้แหละ
คือโกรธใครขึ้นมา แล้วพยายามจะเป็นคนดี ด้วยการแผ่เมตตาให้เขา
แล้วก็พบว่า ไม่เห็นได้ผลเลย

ก็จะแผ่ไปได้ยังไง ก็โกรธเขาอยู่น่ะ จะเอาเมตตาที่ไหนไปแผ่
ไม่บีบคอมันตายก็บุญโขแล้ว

ฉะนั้น วิธีที่ถูก คือหัดมีสติ รู้สึกตัวว่าโกรธให้เป็นก่อนครับ

โกรธปี๊ด รู้ว่าจิตโกรธ แล้วไม่ต้องห้ามนะ แค่รู้
พอรู้ มีสติแล้ว มันจะอึ้งๆแป๊บนึง เราแผ่เมตตาให้ตัวเองก่อนตอนนั้นแหละ

เห็นใจตัวเองกำลังโดนโทสะแผดเผาเร่าร้อน เหมือนหนอนโดนขี้เถ้า
ให้แผ่เมตตาลงไป ว่าใจเรามันน่าสงสารเนาะ มันเป็นทาสกิเลสมาหลายสิบปี
โกรธทีไร ก็ทุกข์ทุกที แล้วก็ยังมีเหตุต้องโกรธอยู่นั่นแหละ
คนอื่นเวลาเขาโกรธเรา เขาก็คงทุกข์แบบนี้เหมือนกัน

เราห้ามความโกรธ ห้ามกิเลสเราเองไม่ได้ฉันใด
คนอื่นเขาก็เป็นมนุษย์ มีกิเลสเหมือนกับเรา ไม่ใช่พระอรหันต์
จะให้เขามาดีกับเราตลอดเวลา ก็ประหลาดไปหน่อยนา

พอใจเราได้รับแรงเมตตา มันเย็นลง แล้วค่อยไปแผ่ให้คนอื่นนะ
ถามว่า แผ่แล้วใครได้ประโยชน์ หลักๆก็ตัวเรานี่แหละได้ก่อนเพื่อน
เพราะไม่ทุกข์เหมือนเคยแล้ว

ต่อมา คนที่เราแผ่ให้ เขาจะได้ไม่ได้ ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของเขานะครับ
ถ้าจิตเขาปิด เขายังมีโทสะครอบไว้ ก็เรียกว่าเป็นจิตของสัตว์นรก
พวกนี้แผ่ส่วนกุศลให้ ก็รับไม่ได้ อันนั้นก็กรรมของเขานะ

แต่ถ้าเขาไม่ได้ปิด เขาอาจจะรับได้ หรือรู้สึกได้ว่า เราเมตตาเขานะ
ไอ้ที่มีปัญหากัน มันก็ไม่ร้ายแรงเหมือนที่เคย

อันนั้น ก็ต้องถือว่าได้ทั้งสองคนครับ :)

เครียดเรื่องที่บ้านมาก มีคนแนะนำให้หยกอ่านหนังสือของคุณ aston + คุณดังตฤณ + ฟัง cd ไปฟังเทศน์กับหลวงพ่อปราโมทย์ สงบใจลงเยอะ ตอนนี้พยายามเริ่มดูจิต ฝึกรู้ตัวตลอดเวลา เพราะไม่อยากเครียดแล้วค่ะ

อยากถามว่า การที่โกธรพ่อตัวเอง แล้วปล่อยจิตมันโกธรไป จะเป็นลูกอกตัญญูป่าวคะ



ทุกครั้งที่เราโกรธใคร เราก็เป็นทุกข์ทั้งนั้นแหละครับ อย่าว่าแต่พ่อเราแม่เราเลย
กระทั่งจะโกรธ พี่น้อง ป้า เพื่อน แฟน คนแปลกหน้า เราก็ทุกข์ทั้งนั้น
เพียงแต่ระดับของความรู้สึกผิดที่ตามมา อาจจะมากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง

ผมพูดแบบนี้ได้ เพราะผมเคยเป็นคนขี้โมโห ขี้หงุดหงิดมากครับ
ผมสังเกตว่า คนที่ฝึกวิปัสสนา คอยรู้สึกตัว รู้ทันความรู้สึกตัวเองบ่อยๆ
จะเป็นคนโกรธสั้นลงๆ จนถึงไม่โกรธเลยในบางเวลา

ที่พูดแบบนี้ ไม่ใช่เพราะผมเป็นคนดีเหนือมนุษย์อะไร แต่เพราะจิตผมมันฉลาดมากขึ้น
มันเริ่มเห็นบ่อยๆว่า เราไม่เคยได้ประโยชน์อะไรจากการโกรธเลย
นอกจากความรู้สึกผิด และทุกขเวทนาทางกาย

ทุกวันนี้ ผมยังโกรธนะครับ เพราะยังไม่ใช่พระอนาคามี ^^
แต่เห็นได้ชัดว่า ระดับความโกรธมันน้อยลง
และไม่รุนแรง ไม่โกรธนานเหมือนเมื่อก่อน
ข้อดีก็คือ ผมก็มีความสุขมากขึ้น เพราะเหตุนี้เอง

"ถ้าอยากชนะใจตัวเองให้ได้ ต่อสู้ก่ะสิ่งล่อใจ มีวิธีฝึกเบื้องต้นให้ได้ผลอย่างไรบ้างคะ เพราะมันยากเหลือเกิน"

อยากชนะความอยาก เป็นเป้าหมายที่ดีครับ แต่วิธีเดียวที่ได้ผลจริงๆคือ
ฝึกรู้ทันความรู้สึกของตัวเองไปนี่แหละครับ โดยเฉพาะความรู้สึก "อยาก"

ปกติคนเราจะทำอะไร มักจะมีความอยากเป็นแรงผลักดันอยู่เบื้องหลังเสมอ
เช่นอยากพูด อยากกิน อยากนอน อยากฟัง อยากอาบน้ำ อยากดู อยากได้ยิน
อยากเดิน อยากหนี อยากให้คนอื่นเป็นอย่างนั้น อย่างนี้
กระทั่ง คุณอยากได้คำแนะนำ อยากเอาชนะความอยาก
ก็ยังต้องอาศัยความอยากเป็นตัวผลักให้ลงมือเขียนอีเมล์มาหาผม เป็นต้น ^^

คอยรู้สึกเวลาที่อยากนี่แหละครับ อยากทำอะไร ก็รู้สึกๆๆๆ รู้ทันว่าใจมันอยาก
ถ้าเห็นว่าเราก็อยากด้วย ก็รู้ทันว่ามีเราอยู่ แล้วจะค่อยๆมีสติเพิ่มขึ้นเอง ตามชั่วโมงบิน
อย่าใจร้อนนะครับ คนหัดดูจิตแล้วใจร้อน ก็เพราะเป็นทาสของความอยากดีนี่แหละ

อย่างหนึ่งที่ต้องมีไว้ คือศีลครับ ถือศีลห้าไว้ให้มั่นๆ
เวลาอยากทำอะไรแล้วให้รู้สึก แค่รู้สึก ไม่ได้ห้ามอยากนะครับ
แต่อยากแล้วตามรู้ทันจิตใจที่อยาก พอได้สติ รู้สึกตัวว่าอยากแล้ว
ถามตัวเองว่า มันสมควรหรือไม่สมควร ทำแล้วมีประโยชน์ มีคุณค่ากับชีวิต หรือเป็นการทำตามกิเลสล้วนๆแต่หาประโยชน์ไม่ได้เลย

อย่างถ้าอยากไปดื่มเหล้าให้หายกลุ้ม อยากทำอะไรที่ชีวิตจะต่ำลง
เราจะรู้สึกด้อยค่า หรือผิดศีล อันนั้นรู้สึกตัว แล้วก็อย่าทำเด็ดขาด
แต่ถ้าอยากไหว้พระ อยากสวดมนต์ อยากศึกษาธรรมะ
อันนี้รู้ทันแล้วก็ทำ เพราะสมควรทำ

สุขสันต์วันที่เราหิว เราอิ่ม เราง่วงครับ



Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2553 0:05:54 น. 11 comments
Counter : 1347 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ


โดย: ฝ้าย IP: 141.39.214.74 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:08:03 น.  

 
"ก็จะแผ่ไปได้ยังไง ก็โกรธเขาอยู่น่ะ จะเอาเมตตาที่ไหนไปแผ่ ไม่บีบคอมันตายก็บุญโขแล้ว" ขำจังเลยค่ะ เพราะตัวเองก็โกรธง่าย และรู้ว่าไม่ชอบใจเลยเวลาอารมณ์แบบนี้

แต่ก่อนมีทุกข์อยากลืมทุกข์ก็เมา แต่เลิกมา 3 ปี ด้วยความรู้สึกที่ "ไม่อยากอีกเลย" ไม่ได้ทำเพื่ออะไร แค่จิตมันรู้ด้วยตัวมันเองในเรื่องนี้ แล้วส่วนนึงมาจากหลายเรื่องที่อ่านในนี้แหล่ะค่ะ


โดย: ก้อนหินในดินทราย วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:25:37 น.  

 
ชอบ blog นี้่ค่ะ เป็นคำถามที่อยู่ในใจใครหลายคน บางทีรู้คำตอบแล้วนะ (รู้แล้วก็ลืมแล้ว มันไม่เที่ยงจริงๆ ) ยังทำไม่ค่อยได้เลย ทางเดียวที่จะสำเร็จคือ รู้สึกตัว เป็นคำตอบที่จริง แต่ต้องทำบ่อยๆ


โดย: phenprapa IP: 203.144.144.165 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:12:58 น.  

 



ไม่ได้ดังใจ (ไม่ล่ายหล่างใจ) = โกรธ

เห็นอยู่เนือง เนือง

ยากสุดคือโกรธตัวเองนี่แหละ

จะหัดแผ่เมตตาให้ตัวเองบ้างละนะ


โดย: นก IP: 10.123.101.115, 202.129.10.218 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:38:55 น.  

 
อยากบอกว่า "ขอบคุณค่ะ" ^^


โดย: Budd IP: 125.24.91.246 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:41:10 น.  

 
โดนๆๆๆ เรื่องอยากดีค่ะ
ก็ตามรู้ตามดูกันไปนะคะ
บางทีก็นึกเข้าข้างตัวเองว่า "อยากดี ก็ดีกว่า อยากเลวหล่ะน๊า"

อยากดี ก็ทุกข์


โดย: ดาวชล IP: 125.26.159.161 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:24:46 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำตอบเรื่องแผ่เมตตาค่ะ ตอนนี้ทุกครั้งที่จะแผ่เมตตากับใครก็จะแผ่ให้ต้วเองก่อน แล้วก็รู้สึกว่าได้ผลจริงๆ ด้วยค่ะ จิตใจเย็นลง นิ่งขึ้น โกรธน้อยลง ขอบคุณค่ะคุณAston:-)


โดย: Watinee IP: 203.144.144.164 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:18:45 น.  

 
โกรธ.. แล้วทำให้เราทุกข์ จะโกรธไป(นาน)ทำไม ต้องพยายามเคลียร์ให้ไวที่สุด

อยาก.. หูยยย.. อยากได้ไปหมดค่ะ แต่ประสบการณ์ชีวิตสอนให้รู้ว่าการที่เราได้ไปทุกความอยากนั้น บางทีมันก็ไม่คุ้มกับที่เราต้องลงทุนไป เพราะงั้นเลยสงบๆใจลงซะบ้าง


ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ อ่านเพลินจัง..


โดย: ป้าโซ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:38:35 น.  

 
ช่วงนี้โทสะเกิดบ่อยมาก เมตตาตัวเองไม่ค่อยจะได้เลยค่ะพี่เอ็ด

ขอบคุณสำหรับบทความเตือนสตินะคะ


โดย: a r i t s u m e m o o n วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:44:38 น.  

 
ใช่เลย "ไม่บีบคอมันตายก็บุญโขแล้ว"

บางทีรู้ตัวแล้วละว่าโกรธ
แต่ไม่รู้ตัวว่าอยากให้ตัวเองหายโกรธ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:59:05 น.  

 
สาธุค่ะพี่เอ๊ด ^/\\^


โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 203.144.144.164 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:2:05:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.