ใดๆในโลกล้วนเป็นสิ่งสมมติ
 
อุลตร้าแมนกับหนทางที่ตีบตันของบท

ซีรี่ย์อุลตร้าแมนปรากฎตัวครั้งแรกในจอโทรทัศน์ตั้งแต่ปี 1966 ถือเป็นตำนานฮีโร่ยุคบุกเบิกที่สร้างต่อเนื่อง จนเป็นตำนานดังเช่นเซนไต(ขบวนการห้าสี) และไอ้มดแดง

เมื่อมีขึ้นย่อมมีลงเป็นสัจธรรมฉันใด ความนิยมในตัวฮีโร่เหล่านี้ก็ผันแปรไปตามเวลาและสภาพสังคมในตอนนั้น จนทำให้ในยุคหลังมีการพัฒนาบทบาทของฮีโร่ให้หลากหลาย ทั้งแนวดราม่า สืบสวนสอบสวน ตำรวจอวกาศ การย้อนเวลา โลกคู่ขนาน ฯลฯ ถือเป็นความท้าทายที่ไม่ยึดติดกับโครงเรื่องบังคับในสมัยก่อนเสียด้วยซ้ำไป ก็มีประสบความสำเร็จบ้าง กร่อยบ้าง แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ลองทำอะไรเลย

ขณะที่โครงสร้างเรื่องของอุลตร้าแมนนั้น ค่อนข้างจะตีบตันเพราะ "กรอบ" ของความเป็นยอดมนุษย์ยักษ์ ที่ต้อง 1. สู้บนโลกได้แค่ 3 นาที
2. ต้องทำงานอยู่หน่วยพิทักษ์อวกาศ อาจจะมีอาชีพเสริมได้ แต่หน้าที่หลักก็ต้องอยู่หน่วยนี้อยู่ดี
3. เพื่อนร่วมทีมต้องไม่รู้ว่าพระเอกเป็นอุลตร้าแมน จนกว่าจะใกล้จบเรื่อง
4. ท่าไม้ตายก็ปล่อยแสงให้สัตว์ประหลาดตาย

แต่เมื่อโตขึ้นมา ผมกลับไม่ค่อยมั่นใจในเหตุผลการบุกโลกของสัตว์ประหลาดที่ผลัดกันโผล่หัวมาจึงตั้งคำถามหลายข้อหน่อยดังนี้

1. ทำไมสัตว์ประหลาดต้องมายึดโลก แค่ตัวเดียวจะไปยึดโลกอะไรได้ ทำให้มนุษย์โลกตายหมดโลกงั้นหรือ? วัตถุประสงค์ของสัตว์ประหลาดช่างไม่ชัดเจนเลย กว่าจะทำลายตึกทีละตึกไปจนหมดโลก สัตว์ประหลาดคงจะเหนื่อยตายก่อนแน่นอน
2.เมื่อตัวศัตรูไม่ค่อยมีเหตุผลแล้ว จึงไม่ค่อยมีความสนุกมากนัก นอกจากรออุลตร้าแมนอัดให้ตายอย่างเดียว เนื้อเรื่องความดราม่าที่ใส่เข้าไปได้ จึงต้องเกี่ยวกับเพื่อนร่วมทีมของพระเอก สรุปโดยง่ายว่าสัตว์ประหลาดพูดไม่ได้ (เกือบทุกตัว)ทำให้แตกต่างจากหนังฮีโร่เรื่องอื่น ที่ดูผู้ร้ายจะมีหลายมิติมากกว่านี้
3. ฉากที่สัตว์ประหลาดปรากฎตัวก็บังคับว่าต้องเป็นในเมือง เพื่อที่จะ(ทำให้)เหมือนสร้างความวุ่นวาย โกลาหลได้ แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่มีประชาชนตายสักคน ยกเว้นตายแค่ตัวละครหลักบางตัวเท่าั้นเอง

เมื่อหนทางตีบตัน โครงเรื่องมีการตีกรอบที่หนาแน่น ฉากต่อสู้ที่บีบจำกัดพื้นที่และรูปแบบ สัตว์ประหลาดที่ถึงเก่ง แต่ส่วนใหญ่ก็ลุยเดี่ยว สุดท้ายก็โดนสามัคคีพาวเวอร์จนตายไปในที่สุด

ความตื่นเต้นของอุลตร้าแมนมีแค่ในช่วงแรกเท่านั้น พออุลตร้าแมนตัวใหม่เข้ามาก็ยังมีพลอตเรื่องเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ล่าสุดเริ่มจะหาทางออกได้สำหรับการสร้างThemeใหม่ในUltraman Galaxyซึ่งไม่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับดาวโลกเลย ถือว่าทำออกมาได้น่าดูน่าชมพอสมควร

ถึงบทสรุปแล้วผมคิดว่าอุลตร้าแมน อาจจะเหมาะกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เราได้เจาะเจอสักปีละครั้งมากกว่าที่จะมาเจอหน้าแบบซีรี่ย์ทุกสัปดาห์ครับ


Create Date : 27 ตุลาคม 2553
Last Update : 27 ตุลาคม 2553 19:43:18 น. 10 comments
Counter : 3121 Pageviews.  
 
 
 
 
ไม่จริง ทุกอาทิตย์น่ะดีแล้ว
 
 

โดย: golf IP: 125.26.138.85 วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:20:53:50 น.  

 
 
 
 
 

โดย: เชิญจุติ วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:20:58:53 น.  

 
 
 
แต่เราชอบอุลตร้าแมนนะ แบบเก่านะคลาสสิกดี
 
 

โดย: magic-women วันที่: 27 ตุลาคม 2553 เวลา:22:02:00 น.  

 
 
 
ชอบอันโดรเมรอส อ่ะ เคยเห็นมาขายในเซเว่น ตอนนี้หายจ้อยไปเลย แต่ชอบแบบในหนังสือการ์ตูนมากกว่า แต่หาอ่านไม่ได้แล้ว..
 
 

โดย: petchpaper วันที่: 28 ตุลาคม 2553 เวลา:13:30:28 น.  

 
 
 
ไม่ใช่ละมังครับ สัตว์ประหลาดไม่ได้อยากยึดครองโลกซะหน่อย มันแค่โผล่มาจากไหนไม่รู้แล้วดันมาปรากฏตัวที่เมืองคนเห็นก็ตกใจร้องโวยวายสัตว์ประหลาดก็ตกใจเลยอาละวาด ส่วนไอ้พวกเอเลี่ยน เช่นมนุษย์ดาวบาลตั้นหรือเมทรอนพวกนี้ มันจะคิดแผนการก่อนเพื่อใช้ยึดครองโลกครับ
 
 

โดย: ultramanfan IP: 183.89.86.81 วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:9:39:07 น.  

 
 
 
แล้วดูอย่าง ยามาโตะ ทาเคชิ จากเรื่อง อุลตร้าแมน 80 สิครับ เขาก็ทำอาชีพเป็นอาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์แห่งโรงเรียนมัธยมต้นซากุระงาโอคะ เป็นอาจาย์ที่จิตใจดี เขาไม่เพียงแต่สอนวิชาวิทยาศาสตร์อย่างเดียวแต่เขายังสอนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตให้แก่เด็กๆอีกด้วยและไม่นานเค้าก็สนิทกับพวกนักเรียน นับได้ว่าเขาเป็นอาจารย์ในอุดมคติของใครหลายๆคนเลยก็ว่่าได้ครับ (ขอบคุณ วิกิพีเดียนะครับ ลอกเขามาเลย)

 
 

โดย: ultramanfan IP: 183.89.86.81 วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:9:44:19 น.  

 
 
 
สุดท้ายยังไงตอนBossใหญ่มา ก็ค่อยๆส่งลูกสมุนมาทีละคนอยู่ดี แล้วBossค่อยปรากฎตัวตอนท้ายครับ ถ้ารุมยำพร้อมกัน ultraman ไหนๆก็รอดยากครับ

ส่วนเรื่องอุลตร้าแมน80 ไม่เถียงครับ แต่ผมพูดในภาพรวมครับ ว่าเนื้อเรื่องอุลตร้าแมนเกือบทุกตัว เป็นแบบที่ผมว่าไว้หรือเปล่า
 
 

โดย: assuming (assuming ) วันที่: 6 เมษายน 2554 เวลา:19:09:32 น.  

 
 
 
อุลตร้าแมน เป็นฮีโร่ของเด็กๆ เมื่อ 40 ปีก่อน เพราะขณะนั้นหนังประเภทสัตว์ประหลาดเนื้อหาอ่อนมากๆ (ยุคก่อนมีโทรทัศน์ดูก็บุญแล้ว)
อุลตร้าแมนสมัยนั้น มีคติสอนใจเด็กๆ เทคนิคก็ดูดีกว่าทุกเรื่อง จึงเป็นที่ประทับใจมากๆของเด็กในสมัยนั้น
วันนี้เด็กๆที่ดูอุลตร้าแมนเติบโตเป็น นายกรัฐมนตรี เป็นอ.มหาวิทยาลัย เป็นพ่อค้า เป็นตำรวจยศนายพล อีกมากมาย
เรายังประทับใจฮีโร่ในวัยเด็ก จึงอยากจะดูอุลตร้าแมนในเวอร์ชั่นเดิมๆ ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมาก เพราะเป็นความสุขทางใจในวัยชรา..5555
 
 

โดย: สมาร์ท IP: 125.27.131.253 วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:23:02:02 น.  

 
 
 
หนังในสมัยนั้นไม่ต้องการเหตุผลนี่ครับ

เพราะกลุ่มเป้าหมายคือเด็ก

ตอนนั้นเราถึงชอบมันมากๆำไงครับ

พอเราโตและย้อนกลับไปดู มันกลับเป็นการมองเหตุผลในนั้นมากเกินไป จน ลืมความสนุกไป
 
 

โดย: Boatmasterzzz IP: 223.204.86.63 วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:14:00:17 น.  

 
 
 
ดูหนังเด็กๆ อย่าคิดมากคับ เอา นุกๆๆ ต่อสู้กันมันๆเพลินๆ ตามสมัยนิยม เนื้อเรื่องซับซ้อน เด็กดูจะงง นะ ดูง่ายๆ อย่างกาตูนสมัยนี้ เทเลทับปี้ เซซามิ ก้อ ง่ายๆ
 
 

โดย: editorman IP: 61.90.121.18 วันที่: 27 มิถุนายน 2554 เวลา:2:11:38 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

assuming
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




[Add assuming's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com