ใดๆในโลกล้วนเป็นสิ่งสมมติ
 
 

การเมืองไทย ตกลงใครผิด

การเมืองไทยใครผิดกันแน่

 


หากหยุดเวลาไว้ที่เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2553 ที่เมืองไทยได้สะสมความขัดแย้งทางความคิดกันอย่างรุนแรง ต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษกัน แต่เราคนไทยคงลืมกันไปว่าสิ่งที่เหมือนกันสำหรับเสื้อทุกสี นักการเมืองทุกคน ผู้มีอำนาจทุกคน “ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองทำผิดกับประชาชนเลยสักครั้ง”

 



 


ผมอยากจะลำดับเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ จากผลไปหาเหตุนะครับ



 


คนไทยกลุ่มหนึ่ง: เสื้อแดงมันผิด อ้างอหิงสาแต่มาปิดถนน อยากเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง  แต่มาอ้างประชาธิปไตย



 


เสื้อแดง: ไม่ผิดโว้ย เพราะชุมนุมตามรัฐธรรมนูญปี50 (ไหนมึงบอกว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการ แล้วทีงี้อ้างรัฐธรรมนูญเฉยเลย) เรามาเรียกร้องประชาธิปไตย ให้ยุบสภาเท่านั้นเอง ผิดก็ผิดเพราะพรรคประชาธิปัตย์มันตั้งรัฐบาลมาจากค่ายทหาร คนไม่ได้เลือกมัน อำมาตย์ก็ผิดเพราะอยู่เบื้องหลัง



 


ประชาธิปัตย์: เราจะไปผิดได้ไง   เราทำตามกฎหมายทุกอย่าง ก็พรรคการพลังประชาชนถูกยุบ เขาก็เลือกรัฐบาลใหม่ แล้วคุณรวบรวมเสียงข้างมากไม่ได้เอง  ก็ลงเลือกตั้งรอบเดียวกับพลังประชาชนนี่แหละ ต้องไปโทษเนวินสิที่ดันแปรพักตร์มาอยู่กับเราเอง แล้วพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆด้วย เขาสมัครใจใช่ไหม

 



 


เนวิน: ผมไม่ผิด เพราะผมตระบัดสัตย์เพื่อชาติ มาว่าผมคนเดียวได้ไง ถ้าจะผิดก็ต้องผิดเหมือนกันหมดสิ ทุกคนต้องFree Voteเลือกนายกฯสิ



พรรคร่วมรัฐบาล: เราไม่ผิดเพราะเราฟังเสียงประชาชน ประชาชนเขาเลือกเราให้มาเป็นรัฐบาล เพราะถ้าเป็นฝ่ายค้านเราก็อดแดก เอ๊ย…ต้องใช้คำหรูๆว่า ผลักดันนโยบาย แหมมีโครงการอีกเพียบเลยนะ ทั้งรถเมล์4000คัน ถนนปลอดฝุ่น หรือจะให้ขุดโครงการวัวล้านตัวมาใช้ก็ดีนะ



 


คนเสื้อแดง: แล้วเรื่องสองมาตรฐาน เขายายเที่ยงอีก เป็นอำมาตย์เขาก็เลยไม่สั่งฟ้อง ความยุติธรรมมีไหมในโลกนี้



 


อำมาตย์: แหมผมก็บอกแล้วว่าถ้าศาลตัดสินว่าผิดจริง ผมก็ยอมรับ แต่นี่เขาบอกแล้วนี่ว่าไม่ผิด เพราะว่าไม่มีเจตนาบุกรุก ที่ดินก็มีคนยกให้ ผมไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ เมืองไทยก็มีมาตรฐานเดียวนั่นแหละ



 


คนเสื้อแดง: อ้าว แล้วใครผิดล่ะ อย่างนี้ก็ต้องโทษทหารที่เข้ามาแทรกแซงการเมือง ไอ้GT200ก็คอรัปชั่นเห็นๆ ผิดเต็มประตู



 


อนุพงษ์: เฮ้ย ผมก็แค่อำนวยความสะดวกให้เขาจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้นเอง ไม่ได้เอาปืนไปขู่ซะหน่อย แค่บอกพวกเขาว่า ถ้าตกลงกันไม่ได้ พวกมึงก็อย่าหวังว่าจะได้ออกจากค่ายทหารเลย

 


ส่วนเรื่องGT200อ่ะนะ ผมก็ไม่ผิด ก็เพราะผมใช้แล้วได้ผลดี มีประสิทธิภาพนี่ การทดสอบอะไรนั้นมันอาจจะไม่ได้มาตรฐานก็ได้ ต้องถามคนใช้จริงในพื้นที่สิ พวกที่มาทดสอบจะไปเข้าใจอะไรดีเท่าผม

 


เสื้อแดง: แล้วทีไอ้เสื้อเหลืองมายึดทำเนียบตั้ง 193 วัน ปิดสนามบินอีก 7 วัน พวกเราพึ่งมาได้ไม่ถึงเดือนเอง ผิดเต็มๆ ข้อหากบฎเลยนะนั้น (ข้อหานี้ก็คุ้นๆ)



 


เสื้อเหลือง:  เราไปประท้วงเพราะรัฐบาลนั้นมันขาดความชอบธรรมเว้ย สมัครมันเป็นหุ่นเชิดให้ทักษิณ เราไม่ผิด เราไม่ได้เข้าไปในทำเนียบเว้ย พวกมึงไม่กล้ามาทำงานเอง สนามบินกูก็ไม่ได้สั่งให้เขาปิด การท่าอากาศยานเขาสั่งปิดเอง กูไปหลบกระสุนM79เว้ย เพราะดูฮวงจุ้ยแล้วมันปลอดภัยดี



 


สมัคร: แล้วนอมินีมันผิดตรงไหน ถ้าน้ำท่วมแล้วผมไปยืนเฉยๆ แล้วน้ำมันจะลดไหม เอ๊ย… ผมทำกับข้าวก็ไม่ได้ผิดนะ ศาลเขาบอกว่า “ขาดคุณสมบัติ” เป็นนายกฯเฉยๆ



 


เสื้อเหลือง:  แล้วถ้าทักษิณไม่โกงชาติ ขายหุ้นไม่เสียภาษี วางคนของตัวเองในทุกตำแหน่ง แทรกแซงองค์กรอิสระ จ้องขายสมบัติชาติ เราจะออกมาทำไม


สมชาย วงศ์สวัสดิ์  เดี๋ยวขอแทรกนิดนึง ก่อนที่ผมจะซวยไปด้วย วันที่  7 ตุลา ผมก็ไม่ผิดนะ แค่สั่งให้เปิดทาง ก็เหมือนอภิสิทธิ์เขาขอพื้นที่คืนนั่นแหละ



ทักษิณ: เอาตายล่ะ ขี้มาถึงกูแล้ว กูจะไปผิดได้ไงตั้งแต่เข้ามาก็ไม่ผิดแล้วเว้ย เขาเรียกว่า “บกพร่องโดยสุจริต”น่ะรู้จักไหม ซุกหุ้นไว้ที่นู้นที่นี่ นักการเมือง นักธุรกิจใครๆเขาก็ทำกัน เรื่องแทรกแซงก็ไม่ได้เรียกว่าแทรกแซง เขาเรียกว่าวางคนของตัวเองไว้จะได้ “สนองนโยบาย”ได้มีประสิทธิภาพ (คุ้นๆไหม) ที่ผิดน่ะการปฎิวัติ ผมมาจากการเลือกตั้งถูกต้องนะ ไอ้พรรคอื่นๆ มันรวมหัวกับประชาธิปัตย์ บอยคอตผม ทำให้การเลือกตั้งมันเป็นโมฆะเอง

 



สนธิ บัง: ถ้าไม่มีเหตุผล 4 ข้อ (ไปค้นดูเอาเอง) ผมคงไม่ทำการปฎิวัติหรอก ผมไม่ผิด เพราะผมไม่อยากเห็นคนในชาติมาตีกันเอง ผมทำไปเพื่อความสงบเรียบร้อย ไม่คิดจะสืบทอดอำนาจเลยจริงๆ แค่เขาชวนๆเป็นหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ผมเกรงใจก็เลยรับไว้ ท่องไว้ เพื่อชาติ เพื่อชาติ



 


ทักษิณ: กูไม่ได้เป็นคนอยากตั้งมึงเป็นผบ.ทบ. ต้องไปด่าอำมาตย์สินะ ที่วางแผนซับซ้อนนี่ไว้ให้ไอ้บังมาปฎิวัติกู



 


อำมาตย์: ป๋าไม่ผิดนะ เพราะป๋าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย ป๋าไม่มีศัตรูด้วย แค่ใส่ทหารไปตระเวนพูดเรื่องม้ากับจ๊อกกี้เท่านั้นเอง



 


ป๋าเหนาะ: อย่างนี้มันต้องไปโทษรัฐธรรมนูญปี2540 ทำให้การนักธุรกิ จการเมือง ทำให้ระบบพรรคใหญ่เข้มแข็ง ใครมีเงินเยอะๆ ก็เล่นการเมืองลงParty Listได้ แถมยังทำให้สส.ติดล็อกย้ายพรรคก่อนเลือกตั้งไม่ได้เลย เลยสร้างคนอย่างทักษิณขึ้นมา



 


ทักษิณ: อ้าวช่วงหลังนี่โยนขี้ให้กูบ่อยจังเลยนะ กูร่างคนเดียวซะที่ไหนล่ะ ก็ช่วยๆกันคิดแล้วผ่านสภา ป๋าเหนาะ มึงบอกไม่เห็นด้วย แต่เวลาโหวตมึงเสือกบอกว่ารับรัฐธรรมนูญทำเหี้ยอะไรวะ คนเริ่มคิดปฎิรูปการเมืองมันคือหลงจู๊บรรหารไม่ใช่เหรอ ถ้าบรรหารไม่ได้เป็นนายกฯตอนนั้น ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้เห็นการปฎิรูปการเมือง

 



 


บรรหาร: ผมร่างรัฐธรรมนูญนี่ผิดตรงไหน ก็มีเจตนาทำให้การเมืองดีขึ้น เป็นนโยบายที่ผมบอกว่าจะทำอยู่แล้ว แหมไม่รู้จักคอนเซปป์พรรคผมซะแล้ว “สัจจะนิยม” น่ะจำบ่ได้หรือ ร่วมได้ทุกรัฐบาลอยู่แล้ว เอ๊ย คำไหนก็ต้องเป็นคำนั้นสิ แล้วขอด่าหน่อยเหอะ ตอนกำลังจะลงมติรับไม่รับฉบับปี2540 พรรคความหวังใหม่ที่หัวหน้าพรรคชื่อว่าชวลิตนี่มันออกโรงคัดค้านไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้มาบอกให้รัฐธรรมนูญปี2540มาใช้ล่ะ



 


ชวลิต: ผมเห็นอย่างนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่ ตอนก่อนประกาศใช้มันไม่เห็นด้วย แต่พอได้ใช้แล้ว โอ้ ติดอกติดใจ ของมันดีจริงๆ ทำให้ผมเซ้งพรรคไปรวมกับไทยรักไทยได้ง่ายๆ แถมยังได้เป็นรองนายกฯ ยาวเต็มวาระอีกแน่ะ เพราะตอนผมเป็นนายกฯ เก้าอี้มันร้อนๆ นั่งได้ไม่ค่อยเต็มตูดเท่าไหร่แค่ปีเดียวก็ต้องไปซะแล้ว คนผิดมันก็ต้องโทษพรรคประชาธิปัตย์ สมัยชวน 1 สิ ต้องโทษไอ้เทพเทือกที่โกงกิน สปก.4-01 ทำให้คนเขาเบื่อหน่ายเรื่องทุจริตคอรัปชั่น หลงจู๊บรรหารเขาเลยต้องมาปฎิรูปการเมือง



 


เทพเทือก: อะไรวะ ทำไมมาโทษกูได้นี่ เรื่องมันตั้งสิบกว่าปีแล้ว ผมไม่ได้ทำผิดอะไร สปก4-01 เขาให้แจกที่ดินทำกินให้คนยากจน ผมก็แจกๆไปตามนโยบาย คนรวยบางคนก็แกล้งจนได้นี่ ผมก็เลยให้ที่เขาไปโดยไม่รู้จริงๆ แหมเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่มีเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 พวกผมก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลหรอกนะ

 


รสช. อะไรวะ พวกกูแก่ตายจะเข้าโลงกันหมดแล้ว มาโทษกูอีก ก็เขาเรียกกันว่าบุฟเฟ่ต์คาบิเนตไงล่ะ สมัยชาติชาย เลยต้องออกมารัฐประหารเพื่อขจัดการคอรัปชั่น เพื่อที่จะได้สืบทอดอำนาจ เอ๊ย…ให้บ้านเมืองอยู่ในความสงบเรียบร้อย  ต้องไปโทษเปรมดิ เป็นนายกฯอยู่ตั้งนาน  พอคนอื่นเขามาเป็นบ้างเขาก็อาจจะทำตัวไม่ค่อยถูกได้

 


อำมาตย์: เอ่อ....สรุปแล้วป๋าผิดใช่ไหม แล้วถ้ารสช. ไม่ออกมา ทักษิณมันจะได้ดาวเทียมไทยคมแล้วมีเงินไปเล่นการเมืองจนตัวเองได้เป็นนายกฯไหมล่ะ

 


ทักษิณ: แหม...แต่ถ้าไม่มีป๋าก็ไม่มีการปฎิวัตินะ  ถ้าป๋าไม่วางมือตอนนั้น ชาติชายก็ไม่ได้เป็นนายกฯ และก็คงไม่มีพฤษภาทมิฬ และผมก็ยังคงต้องวิ่งแลกเช็คเหมือนเดิม

 


คนกลุ่มหนึ่ง:  สรุปแล้วคนที่ผิดคือพวกูเองที่เลือกพวกมึงทั้งหลายเข้ามาทำงานการเมือง.....



เลิกเป็นเครื่องมือทางการเมืองเถอะครับ ไม่ว่าจะมีรัฐธรรมนูญกี่ฉบับก็ยังมีการซื้อเสียงดำรงอยู่ หยั่งรากลึกไปจนถึงเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน


ทำไมไม่หันหน้าเข้าหากันมาแก้ปัญหาเหล่านี้ล่ะครับ "ประชาธิปไตย" เหมือนกันนี่ ทำไมคุยกันไม่รู้เรื่อง


ตราบใดที่เรายังลงคะแนนเสียงโดยเลือกเฉพาะกลุ่มที่มีลุ้นจากพรรคการเมืองที่มีฐานเสียงใหญ่ๆ เท่านั้น คนสมัครจากพรรคโนเนมที่ไม่ได้ซื้อสิทธิ์ขายเสียง และมีเจตนาบริสุทธิ์ ก็จะไม่มีวันได้เกิดครับ และการเมืองไทยก็จะต้องเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแสนนาน 



เวลาเลือกตั้ง จะมีสักกี่คนที่กล้าลงคะแนนให้กับคนที่รู้ว่า เลือกไปก็อาจจะไม่ถึงพันคะแนน หรือสื่อจะให้โอกาสผู้สมัครจากทุกพรรคอย่างเท่าเทียมกัน  มันคงเป็นได้แค่ฝันครับ ขอให้โชคดีกับการเมืองไทย 






Free TextEditor




 

Create Date : 18 เมษายน 2553   
Last Update : 19 เมษายน 2553 1:22:49 น.   
Counter : 3263 Pageviews.  


ความยุติธรรม และมาตรฐานเดียวกันของทักษิณ

1.      หลายคนคิดว่าทักษิณก็คือตัวแทนของความไม่ยุติธรรมในสังคมไทย ถูกรังแก ถูกเอาเปรียบทางชนชั้น


ประเด็นนี้ผมคิดว่าหลายคนกำลังถูกหลอกให้เข้าใจผิด ผมขอยกประเด็นสมัยทักษิณเป็นนายกฯ ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่คิดว่ายุติธรรม


ผมไม่คิดว่าการที่เสื้อแดงชนะจะทำให้มันยุติธรรมขึ้น เพราะตอนที่คุณชนะมาตั้ง 5 ปี อำนาจล้นฟ้า เป็นนายกฯทื่มีเสียงมากที่สุด เป็นเศรษฐีที่รวยที่สุด คะแนนนิยมดีที่สุด แต่ก็ไม่เห็นทำเรื่องความไม่เท่าเทียมกันในสังคมให้มันดีขึ้นเลย


1.      การรีดไถของตำรวจไทยก็เหมือนเดิม แม้ว่าทักษิณจะกลับมาผมก็คิดว่ายังมีอยู่เหมือนเดิม


2.      การประมูลงานของรัฐก็ต้องมีการวิ่งเต้นเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าอาจจะเปลี่ยนคนที่กุมอำนาจแล้วอะไรๆมันจะง่ายขึ้น


3.      มันก็ยังมีความไม่เท่าเทียมกันเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนคนที่กุมอำนาจไปเป็นพรรคพวกที่ตัวเองสนับสนุน


4.      เศรษฐกิจไทยก็ยังต้องพึ่งพิงตลาดโลกเหมือนเดิม อเมริกาเจ๊งเราก็ส่งออกลำบาก สินค้าเกษตรก็อิงราคาโลก


5.      ทักษิณกลับมาเศรษฐกิจก็ดีขึ้น เพราะโลกมันดีขึ้น ใครเป็นนายกฯ ตัวเลขทางเศรษฐกิจมันก็ต้องดีขึ้นอยู่ดี เพราะแนวโน้มทั้งโลกมันฟื้นตัว เหมือนที่ผมอธิบายเรื่องตลาดหุ้นไปแล้ว  


ถ้าเก่งจริงเขาต้องไปมีอิทธิพลจนกำหนดราคาตลาดโลกได้ แบบจีนหรือญี่ปุ่น น่าอายไหม เราผลิตยางพารามากที่สุดในโลก แต่ให้ประเทศอื่นอย่างญี่ปุ่นที่แทบจะปลูกยางไม่ได้เลย เป็นคนกำหนดราคา


6.      ทักษิณยุติธรรมมากๆ แต่งตั้งชัยสิทธิ์   ชินวัตรเป็นผบทบ จากทหารฝ่ายช่างที่ภาคใต้กระโดดพรวดมาได้เลย ยุติธรรมจริงๆ ไม่มี 2 มาตรฐานเลย แค่นามสกุลเดียวกันเท่านั้นเอง


7.      โอ๊ค พานทองแท้ บริษัทฮาวคัม มาประมูลงานโฆษณารถไฟฟ้าใต้ดินไปทั้งหมด ประมูลด้วยความยุติธรรมจริงๆ มาตรฐานเดียวกัน ใครเขาจะกล้ามาแข่งกับลูกนายกฯล่ะครับ ถ้าเขาอยากได้งานนั้นก็ต้องได้


8.      คดีฆ่าทนายสมชายก็มาตรฐานเดียว ยังหาศพไม่เจอ คนที่เกี่ยวข้องกับคดีกลับได้ปูนบำเหน็จยศใหญ่ขึ้นกับถ้วนหน้า อย่ามาคนตายอย่างจ่าสมเพียรมาอ้างเลยครับ อายเขา


9.      พวกเสื้อแดงก็ช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนที่ตายที่ตากใบด้วยนะครับ เขาก็มาชุมนุมโดยสันติ อหิงสาเหมือนกัน ไม่ได้ไปปิดถนนให้ใครเดือดร้อนด้วย ยังตายเป็นเบือขนาดนั้น เรื่องเงียบกริบ ไม่มีเจ้าหน้าที่ถูกดำเนินการใดๆ มาตรฐานเดียวจริงๆครับ


10.  รถไฟฟ้าสมัยทักษิณก็ไม่เคยสร้างเพิ่มสักสายเลย เป็นนายกฯมาตั้งเกือบ 6 ปี BTS กับรถไฟใต้ดิน เป็นการอนุมัติของรัฐบาลก่อนๆที่เขาสร้างมา6-7ปีแล้ว แต่เผอิญว่ามันมาเสร็จในสมัยทักษิณพอดี เลยกลายเป็นผลงานของทักษิณที่เร่งรัดจนเสร็จ อะไรดีๆก็เพราะทักษิณจ้า


11.   ผลงานยิ่งใหญ่เร่งรัดสนามบินสุวรรณภูมิจนเสร็จได้ หลังจากรอมา 40 ปีแน่ะ ยังไงอย่าลืมทำห้องส้วมทุกสนามบินภูมิภาคให้ห่วยได้มาตรฐานเดียวกับสุวรรณภูมิด้วยนะครับ


12.  เอารัฐวิสาหกิจไปขาย แบบปตท แต่คนทีได้หุ้นไปมีแต่พรรคพวกตัวเอง อย่าลืมทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันอีกนะครับ


13.   อย่าไปเสียภาษีให้รัฐบาล ไม่ว่าจะไซฟ่อนเงินเป็นNomineeยังก็ตาม ขายหุ้นในตลาดก็ไม่ต้องเสียภาษีเลยสักกะบาทเดียว ศาลท่านตัดสินแล้ว ไม่ต้องลงรายละเอียด มันก็มีอยู่มาตรฐานเดียวนั่นแหละ


14.  เอา CEO ชินคอร์ปไปเป็นบอร์ดส่งเสริมการลงทุน BOI ส่งเสริมให้แก้กฎหมายให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้ 99 ปี แม้ 2 มาตรฐาน ไม่ให้ถือครองเหมือนคนไทยไปเลย จะได้ให้เขามายึดประเทศง่ายกว่านี้หน่อย แค่นี้เขาก็มาเช่าที่นาไทย จ้างชาวนาปลูกข้าวกันหมดแล้ว


15.  ใครลงข่าวไม่เห็นด้วย ต้องฟ้องหมิ่นประมาทคนละ 1000 ล้านให้ยุติธรรมเหมือนกันหมด เอาไว้ข่มขู่เล่นๆ อย่างที่สนธิเจอ Bangkok Postโดน ฟ้องต่ำกว่านี้ไม่ได้นะ เดี๋ยว 2 มาตรฐาน


16.  เอาหวยใต้ดินมาบนดิน จะได้เรียกว่าเป็นมาตรฐานเดียวกัน มอมเมาคนได้โดยถูกกฎหมาย เพราะคิดตรรกะง่ายๆว่า ยังไงหวยก็อยู่คู่กับสังคมไทยแก้ไม่ได้อยู่แล้ว ทำให้มันถูกกฎหมายแล้วเอาเงินเข้ารัฐดีกว่า  ความเป็นจริงแล้ว ไม่มีรัฐบาลไหนเขาทำกันกับการส่งเสริมเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวแบบนี้ เขารู้ๆกันอยู่ว่ามอมเมาเกินไป ถ้าคิดด้วยตรรกะแบบนี้ธุรกิจอื่นๆก็ทำให้มันถูกกฎหมายเลยละกัน เช่นพวกค้าประเวณี พนันฟุตบอล ขายยาบ้า เปิดบ่อน ฯลฯ เพราะยังไงก็ห้ามคนไทยไม่ได้อยู่แล้วนี่


เป็นผู้นำก็ควรจะต้องมีวิสัยทัศน์พยายามให้คนไทยลดละเลิกอบายมุขพวกนี้ เหมือนโครงการบุหรี่ที่เรารณรงค์มา 20 ปีก็ประสบความสำเร็จมากๆ จีน กับ ญี่ปุ่นยังทำไม่ได้อย่างเราเลย ผู้ชายยังสูบบุหรี่แทบทุกคน ทำไมเรื่องนี้คนไทยไม่ภูมิใจแล้วนำมาเป็นข้อคิดบ้างว่า ถ้าตั้งใจจะทำจริงๆ ถึงใช้เวลาหน่อยมันก็ต้องทำได้






Free TextEditor




 

Create Date : 15 เมษายน 2553   
Last Update : 15 เมษายน 2553 14:09:45 น.   
Counter : 2497 Pageviews.  


เครดิตที่ทักษิณไม่ควรได้ ภาค 2/2


1.      ทักษิณเป็นคนทำให้สินค้าเกษตรดีขึ้น


ความเป็นจริง สินค้าเกษตร เช่นข้าวโพด ยางพารา มันสำปะหลัง ถั่วเหลือง ฯลฯ เป็นสินค้าที่เราอิงกลไกตลาดโลกเหมือนน้ำมัน ที่เขาเรียกว่าตลาดสินค้าล่วงหน้า (Futures Market) อย่างถั่วเหลืองศูนย์กลางควบคุมราคาอยู่ที่ชิคาโก้ และยางพาราก็อยู่ที่ญี่ปุ่น เมื่อความต้องการสูงขึ้น และระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนไป จากที่ไว้อ้างอิงราคาก็เปลี่ยนเป็นตลาดที่ใช้เก็งกำไร ทำให้ราคายางพาราสมัยทักษิณพุ่งพรวดถึง 3 เท่า โดยที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทักษิณเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทีมงานประชาสัมพันธ์ทักษิณพยายามโยงทุกเรื่องที่ดีว่าเป็นผลงานของทักษิณ


 


          ถ้าใช้ตรรกะเดียวกัน เราก็ต้องชมเชยรัฐบาลสมัครที่ทำให้น้ำมันแพงเป็นประวัติการณ์ถึง 150 เหรียญ ข้าวก็แพงถึงกิโลกรัมละ 30 บาท ชมอภิสิทธิ์ที่ทำให้ทองคำแพงถึง 19000 บาท  ไม่มีรัฐบาลไหนในโลกเขาเอาราคาสินค้าในตลาดอนุพันธ์แบบนี้มาอ้างเป็นผลงานตัวเองหรอกครับ


          ตอนน้ำมันโลกมันจะแพงก็คือแพง สินค้าเกษตรที่เอาไปเป็นเอธานอลได้อย่างข้าวโพดก็ราคาสูงขึ้นจากราคาตลาดโลก พรรคพลังประชาชนเข้ามาน้ำมันก็แพง เพียงแต่คนยังจดจำว่าสมัยทักษิณข้าวของมันไม่แพงขนาดนี้เท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่ผลงานใดๆของเขาเลย เป็นราคาตลาดโลก เศรษฐกิจโลก และค่าเงิน


2.      ทักษิณปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากแผ่นดินไทย


ความเป็นจริง เป็นเรื่องน่าขายหน้ามากที่มาป่าวประกาศแบบนี้ (เน้นแต่พีอาร์) ประเทศที่เจริญแล้ว แล้วคดียาเสพติดต่ำมากๆ อย่างสวิตเซอร์แลนด์เขายังไม่กล้าพูดเลยว่ายาเสพติดหมดไปจากแผ่นดินแล้ว (มันจะเป็นไปได้ไง เหล้าบุหรี่ก็ยังถือว่าเป็นยาเสพติดอยู่เลย)  วิธีการของทักษิณคือทำให้มันดูว่าหมดไปจากเมืองไทยเท่านั้นเอง ด้วยการปราบปรามอย่างรุนแรง แต่ไม่สามารถจับผู้ค้ารายใหญ่ หรือโค่นล้มขบวนการใดได้เลย  พวกที่ค้ายาตัวใหญ่ๆ ก็อยู่เงียบๆช่วงนั้น และพอเขาเลิกพีอาร์เรื่องนี้ก็กลับมาทำธุรกิจต่อเหมือนเดิม เพราะกระบวนการค้ายาเสพติดระดับชาติมันไม่เคยถูกทำลายในสมัยทักษิณเลย ไม่ใช่ว่าทักษิณไม่อยู่แล้วยาเสพติดกลับมา


3.      ทักษิณ เอา 30 บาทรักษาทุกโรคทำให้คนเข้าถึงการรักษาได้ อันนี้เป็นข้อดีที่เน้นรัฐสวัสดิการ แต่วิธีการมันพีอาร์มากเกินไป การจ่ายแค่ 30 บาท แต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นคือ ต้องใช้สมุดบันทึกบัญชีถึง 4 เล่ม แล้วเงินที่เก็บมา30บาทก็ได้มาทั้งปีแค่ไม่กี่ร้อยล้านบาท


หมอมงคล รัฐมนตรีในสมัยสุรยุทธ์ จุลานนท์ ควรได้เครดิตมากกว่า เพราะเขาเป็นคนยกเลิกการเก็บเงิน 30 บาท เป็นรักษาฟรี แถมยังต่อสู้เรื่องCL เพื่อที่จะผลิตยาที่ต้องนำเข้าได้ด้วยราคาถูก ส่งเสริมงานวิจัย แต่เผอิญว่าเขาไม่มีทีมพีอาร์ ไว้อวดอ้างผลงานแบบที่ทักษิณทำก็เท่านั้นเอง


หลักการคิดเรื่องนี้สำคัญมากในการบริหารจัดการ ทักษิณขอแค่ว่าทำยังไงก็ได้ให้รักษาด้วยเงิน 30 บาทได้ แต่ไม่ได้คิดจะพัฒนาระบบให้มันดีขึ้นเลย ยาก็ห่วยเหมือนเดิม หมอก็ไม่สามารถใส่ใจกับการรักษาได้


ผมยอมรับว่ามันเป็นสิ่งที่ดี แต่ทักษิณเป็นรัฐบาลตั้ง5-6ปี แต่ไม่ได้ทำให้สวัสดิการตัวนี้ดีขึ้นเลยนับจากวันแรกที่เริ่มนโยบายนี้เพราะมัวแต่ไปพีอาร์เรื่องอื่น


4.      สุดท้าย ทักษิณก็ตัวแทนของความไม่ยุติธรรมในสังคมไทย ถูกรังแก ถูกเอาเปรียบทางชนชั้น


ประเด็นนี้ผมคิดว่าหลายคนกำลังถูกหลอกให้เข้าใจผิด ผมขอยกประเด็นสมัยทักษิณเป็นนายกฯ ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่คิดว่ายุติธรรม


ผมไม่คิดว่าการที่เสื้อแดงชนะจะทำให้มันยุติธรรมขึ้น เพราะตอนที่คุณชนะมาตั้ง 5 ปี อำนาจล้นฟ้า เป็นนายกฯทื่มีเสียงมากที่สุด เป็นเศรษฐีที่รวยที่สุด คะแนนนิยมดีที่สุด แต่ก็ไม่เห็นทำเรื่องความไม่เท่าเทียมกันในสังคมให้มันดีขึ้นเลย


เอาแค่แก้ปัญหาจราจรให้ได้ภายใน 6 เดือน


เป็นนายกฯมา 5 ปี ยังไม่เคยคิดสร้างรถไฟฟ้าเพิ่มเลย






Free TextEditor




 

Create Date : 15 เมษายน 2553   
Last Update : 15 เมษายน 2553 13:54:09 น.   
Counter : 1145 Pageviews.  


เครดิตที่ทักษิณไม่ควรได้ ภาค 1/2

อลัน กรีนสแปน ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาที่ทรงอิทธิพลที่สุดตั้งแต่เคยมีมา ได้กล่าวไว้เกี่ยวกับวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี2008ว่า ในสมัยที่เขายังดำรงตำแหน่งอยู่ เขาได้รับเครดิตที่เกินความเป็นจริงจากการที่ทำให้เศรษฐกิจอเมริกามีเสถียรภาพ ขณะเดียวกันเมื่อเกิดวิกฤตขึ้นเขาก็ได้รับคำตำหนิมากมายจากสิ่งที่เขาไม่ได้ก่อเช่นกัน
มีหลายคนยกย่องทักษิณมากมายในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งนายกฯ ว่าได้ทำให้เศรษฐกิจไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น สามารถแข็งขันกับโลกได้อย่างองอาจ ผมขออธิบายตามหลักความเป็นจริง อ้างถึงข้อมูลทีสามารถตรวจสอบได้ และความรู้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ โดยจะเขียนให้เป็นภาษาที่เรียบง่ายทีสุดอ่านแล้วเข้าใจง่ายทีละประเด็นดังนี้



1. ทักษิณทำให้ตลาดหุ้นดีขึ้น ค่าเงินบาทดีขึ้น




ถ้ามองว่าทักษิณเป็นคนทำให้ต่างชาติเชื่อมั่น นำเงินกลับมาลงทุนในเมืองไทยนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิด นักลงทุนต่างชาติสนใจแต่โอกาสในการทำกำไรสองเด้งจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และตลาดหุ้นไทยที่มีมูลค่าถูกมากหากเทียบกับความสามารถในการทำกำไรมากกว่า
มิเช่นนั้น ในยุคของสุรยุทธ์ จุลานนท์ก็ต้องเป็นยุคที่ต่างชาติให้การยอมรับมากที่สุด เพราะดัชนีสูงถึง 900 จุด สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2540 แม้แต่สมัยสมัครดัชนีที่สูงที่สุดคือ 880 ซึ่งมากกว่าสมัยทักษิณถึงเกือบ25%


2. ทักษิณเป็นคนปลดหนี้ IMF ทำให้เงินทุนสำรองไทยมากขึ้นมีความมั่นคง



ข้อนี้หลายคนเข้าใจผิดมหันต์ ทักษิณกู้เงินจากที่อื่นซึ่งดอกเบี้ยแพงกว่า มาจ่ายให้กับIMF เพื่อที่จะสามารถดำเนินนโยบายของคลังได้อย่างอิสระ ปราศจากการตรวจสอบ
ที่ตอนปี 2540 เงินสำรองเราหมดประเทศเพราะเราโดนโจมตีค่าเงิน ค่าเงินบาทนั้นเกิดจากDemand และ Supply เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าเงินบาทจะต้องเท่ากับ25บาท โดยไม่เสียอะไรเลย เมื่อเงินดอลล่าร์เข้ามาเยอะๆ Demandย่อมสูงขึ้น ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น แต่ด้วยระบบการแลกเปลี่ยนแบบตายตัว ทำให้ธนาคารแห่งชาติไทยต้องซื้อเงินดอลล่าร์เช่นกัน เพื่อให้เกิดสมดุล
นั้นเป็นที่มาของการที่เงินคงคลังเกลี้ยง
เมื่อความเชื่อมั่นหมด ต่างชาติถอนเงินกลับประเทศ ด้วยการแห่ซื้อเงินดอลล่าร์คืน ธนาคารแห่งชาติไม่อาจเอาเงินคงคลังที่มีอยู่มารักษาเสถียรภาพได้ เพราะมันคือPanic Sell (หมายความว่าเงินบาทไทย ราคาเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเอา)


หลังปี 2540 เราเปลี่ยนไปใช้ระบบแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบจัดการ(Manage Float) นั้นคือปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด ถ้าเงินต่างชาติไหลเข้าประเทศมาก เงินสำรองระหว่างประเทศย่อมมีสูงตามนั้น แต่นั้นไม่ใช่เงินที่สามารถเอาไปใช้ลงทุนได้ มันมีไว้เพื่อรักษาสมดุลของค่าเงินเท่านั้น


การมีเงินสำรองมากไปกลับจะเป็นอันตรายมากกว่า เหมือนอย่างจีนก็ยังต้องคอยระวังเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จะมาโอ้อวดว่าเป็นผลงาน มีแต่ทักษิณเท่านั้นที่นำมาอวดว่าตัวเลขเงินทุนสำรองมีมากกว่าสมัยก่อนแค่ไหน
นายกฯรัฐมนตรีที่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงสุดคือ สุรยุทธ์ จุลานนท์ ไม่ใช่ทักษิณ
แม้แต่สมัคร และอภิสทธิ์ ก็มีเงินทุนสำรองมากกว่าสมัยทักษิณ เห็นได้จากเงินต่างชาติไหลเข้ามาเก็งกำไรไม่หยุด เงินบาทต่ำกว่าระดับ35บาทมาค่อนข้างต่อเนื่อง


3. สมัยทักษิณข้าวของไม่แพง น้ำมันถูก
สมัยก่อนเครื่องบินชนตึกเวิล์ดเทรด น้ำมันโลกอยู่ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 20 ขึ้นลงเป็นฤดูกาล กว่าเหรียญสหรัฐมานานมาก ทักษิณเคยใช้วิธีเก๊งกำไร ตั้งกองทุนชดเชยน้ำมัน พยุงราคาไว้ โดยเชื่อว่าราคาน้ำมันโลกจะถูกลงในระยะเวลาไม่นาน
ทักษิณ เก็งถูกในครั้งแรก เลยได้ใจ
ก่อนเลือกตั้งปี2548 ราคาน้ำมันโลกพุ่งไม่หยุด กลไกลตลาดไม่เหมือนเดิมแล้ว เกิดการเก็งกำไรในตลาด ทองคำ น้ำมัน แพงขึ้น
แต่ทักษิณเลือกที่จะเอาเงินภาษีประชาชนไปเก็งกำไรอีกโดยหวังจะได้คะแนนเสียง ใครทีจำได้ ตอนนั้นน้ำมันโลกแพงแล้ว แต่ไทยตรึงดีเซลไว้ที่ 17 บาท บิดเบือนกลไกตลาดสบโอกาสให้ต่างชาติสามารถซื้อน้ำมันไทยได้ในราคาถูก แล้วเอาไปขายในประเทศตัวเองได้อีก
ทักษิณตรึงราคามา 7 เดือน จนถึงชนะการเลือกตั้ง กองทุนขาดทุนไปเป็นแสนล้าน ไม่สามารถพยุงได้อีกต่อไป สุดท้ายก็น้ำมันก็ต้องแพงในที่สุด แถมต้องแพงผิดปกติด้วย เพื่อที่จะชดเชยกับเงินที่ขาดทุนไปก่อนเป็นแสนล้าน คนไทยต้องใช้น้ำมันแพงผิดโครงสร้างมาเกือบ 3 ปีกว่าจะใช้หนี้หมด


(ภาคต่อไปจะอธิบายที่มาที่ไปของราคาพืชผลโลก ว่าที่แพงขึ้นไม่เกี่ยวกับการที่ทักษิณเป็นนายกฯเลย)

ความจริง ตลาดหุ้นไทยตกต่ำเกิดจากวิกฤตฟองสบู่แตกซึ่งทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยพังพินาศ ตลาดหุ้นต่ำเหลือเพียงสองร้อยกว่าจุด เมื่อทักษิณเข้ามาเป็นนายกฯนั้น ปัญหาหลายๆเรื่องได้รับการคลี่คลายไปแล้ว เมื่อถึงจุดต่ำสุดไปแล้ว เศรษฐกิจมันต้องผงกหัวขึ้นตามวัฎจักร ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นนายกฯก็ตาม
สมัยทักษิณอยู่นั้นหุ้นไทยถือเป็นขาหุ้นของหุ้นไทย แต่จุดสูงสุดก็ประมาณ700จุดเท่านั้น แม้ว่าจะมีการนำหุ้นอย่างปตท.เข้าไปเทรดในตลาดแล้วก็ตาม





Free TextEditor




 

Create Date : 15 เมษายน 2553   
Last Update : 15 เมษายน 2553 3:37:56 น.   
Counter : 1324 Pageviews.  


เสื้อเหลืองแดงในมุมมองที่เปลี่ยนไปของผม

วันเวลาเปลี่ยน ความคิดของคนก็เปลี่ยน
ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าการเมืองไทยไม่มีทางตัน
เพราะนักการเมืองไทยมันเคยรักษาสัจจะ สามารถดิ้นไปได้เรื่อยๆเท่าที่ผลประโยชน์อำนวย

ผมเกลียดทักษิณด้วยเหตุผลส่วนตัวหลายเรื่อง แต่เหตุผลลึกๆที่ ผมไม่เชื่อว่าคนๆนี้จะมีจริยธรรม
เพียงพอที่จะเป็นผู้นำประเทศ เป็นเหตุผลตั้งแต่เขาเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรมแล้วว่ามันผิดปกติ
แต่คำว่าจริยธรรมมันก็เป็นสิ่งที่จับต้องยากมากในตอนนั้น

วันที่เสื้อเหลืองออกมา ก็มีหลายคนคิดเหมือนผมคือ "ไม่ได้ชอบสนธิ" แต่ไม่พอใจทักษิณยิ่งกว่า
พอมีคนนำเลยรู้สึกว่า ความไม่พอใจที่เก็บอยู่หลายปีมันพลั่งพรูออกมาเป็นแนวร่วมมหาศาลในขณะนั้น

ไม่ได้ชอบสนธิ ไม่ชอบจำลอง ไม่ชอบสุริยะใส ประวัติแต่ละคนก็ไม่ได้ขาวสะอาดกันสักเท่าไหร่

แต่ผมก็ไปร่วมชุมนุมเป็นครั้งคราว อยากไปให้เห็นบรรยากาศเฉยๆ

วันนั้นผมเป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ได้เดือดร้อนกับการต้องปิดถนนปิดร้านค้าปิดสนามบิน

แต่วันเวลาผ่านมาผมถึงได้้เข้าใจว่าสังคมไทยจะอยู่ได้ ไม่ใช่เสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงชนะ

คนเสื้อแดงหลายๆคนก็ไม่ได้สู้เพื่อทักษิณ เหมือนคนเสื้อเหลืองทีเ่ขาไม่ได้สู้เพื่อสนธิ หรือจำลอง

แต่ "ความยุติธรรม" เท่านั้นที่จะทำให้ประเทศเดินต่อไปได้

ความยุ่งเหยิงที่ผ่านมาเพราะทั้งสองฝ่ายใช้ "อำนาจ" ไม่ถูกต้อง

ได้อำนาจมาแล้วก็แทรกแซงกันทั้งคู่ไม่ใช่หรือ ทำไมต้องทำให้ข้าราชการแบ่งพวกด้วย

ประเทศจะผ่านไปได้ฟังดูมันง่ายนิดเดียว ถ้ากฎหมายเป็นกฎหมาย หมายถึง

คนโกงเลือกตั้งต้องติดคุก คนค้ายาเสพติดก็ต้องถูกจับ
คนยึดทำเนียบกับปิดสนามบินก็ต้องถูกจับเข้าคุก คนโกงชาติบ้านเมืองไม่ว่าใครก็ตามก็ต้องเข้าคุก
คนที่บุกรุกป่าสงวนก็ต้องถูกลงโทษเหมือนคนอื่นเขา ทหารก็ควรดูเรืองความมั่นคง
ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองขนาดนี้

ไม่ต้องทำได้แบบอังกฤษหรือเยอรมันหรอก เอาแค่ได้สัก70%ของเกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่นที่นักการเมืองทีสปิริตหน่อย แล้วก็ยืนอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ประเทศไทยคงจะมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากกว่าที่เห็นอยู่ คนไทยพื้นฐานไม่แพ้ชาติไหนอยู่แล้ว แต่ว่านักการเมืองเอาแต่ประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้งก็ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคนต่างชาติหรอก

เมืองไทยนั้นการเมืองไม่เล่นใครให้ตาย ถ้ารู้จักหยุด และรู้จักพอ คุณก็อยู่ในประเทศไทยได้สบายๆ
แม้แต่คนที่สั่งการตอนพฤษภาทมิฬก็ยังสามารถอยู่ในประเทศไทย และตีกอลฟ์ได้ตามปกติ
ถ้าทักษิณรู้จักพอ อยู่เงียบๆ และยอมติดคุกไปสักเดือน ก็ยังสามารถขออภัยโทษได้
สนธิที่มีคดีมากมาย พอเริ่มสงบปากสงบคำก็สามารถอยู่ในประเทศไทยนี้ได้
เสื้อเหลืองก็แผ่วไปตามกาลเวลาของมันจนต้องสลายไปเองในที่สุด
คนไทยลืมง่ายและพร้อมให้อภัยอยู่แล้ว

แต่ทักษิณคิดผิดว่า การกลับมามีอำนาจจะทำให้ตัวเอง "เคลียร์"ทุกอย่างได้
เพราะเสียงสนับสนุนล้นฟ้าจากประชาชน ผมขอบอกว่า
"แม้จะเอาดอกไม้มาประดับถนนเป็นล้านดอก ก็ไม่อาจเปลี่ยนคำโป้ปดมดเท็จให้เป็นความจริงได้"
ถูกคือถูก ผิดก็คือผิด ไม่ใช่การอ้างว่าประชาชน14ล้านเสียงบอกว่าไม่ผิดก็คือไม่ผิด

ทำอย่างนี้โอกาสกลับประเทศไทยก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆจนไม่เหลือเลย
แล้วลูกหลานตระกูลคุณจะมีหน้าโผล่ในประเทศไทยได้อย่างไร
ถ้าเอาพลังเสื้อแดงมาเปลี่ยนแปลงให้ตรวจสอบประชาธิปัตย์แบบเข้มข้น
จะเกิดประโยชน์กับการถ่วงดุลอำนาจมากกว่าการพลิกเกมแบบร้อนรนแบบนี้

นักการเมืองไทยก็คือนักการเมืองไทย อภิสิทธิ์ก็ไม่ต่างกัน เมื่อวานพูดอย่าง
"พอมีอำนาจก็พูดอีกอย่าง" ดังนั้นอย่าไปคิดอะไรว่า
วันหนึ่งเนวินอาจจะกลับไปรักกับทักษิณก็ได้





 

Create Date : 15 มีนาคม 2553   
Last Update : 15 มีนาคม 2553 17:58:06 น.   
Counter : 1502 Pageviews.  


1  2  

assuming
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




[Add assuming's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com