Update! • Kenny Keng Web• Activity • Article • Imagine • My ARTWORK • BackPack/Journey • Sketch • All Art • alphafo

alphafoBasic Sketch • • 333 STUDIO KENNY KENG Blog


ALPHA FO
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]








**อันนี้ก็สำคัญครับ กับเรื่องของสิทธิ
คือว่าถ้าหากเพื่อนๆท่านใด
ต้องการนำภาพหรือบทความไปเผยแพร่
กรุณาแจ้งผมด้วยนะครับ

**ขอบคุณครับ**

alphafo

New Article : JAN 2015

Art trip : My Journey
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม"ฮานอย1 เวียดนาม:13/02/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ซาปา3 เวียดนาม:31/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ซาปา2 เวียดนาม:16/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ซาปา1 เวียดนาม:14/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" เดียนเบียนฟู เวียดนาม:09/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" หลวงพระบาง ลาว:07/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ไชยบุรี2 ลาว:26/12/14
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียนาม" ไชยบุรี1 ลาว:25/12/14
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ปาด แปด 8:23/12/14
• "เริ่มใหม่...ได้ทุกเมื่อ":25/02/14
• "ปั่นคิดที่กองโค":19/12/12
• "12 12 12":12/12/12

• "ลับแล ซะที" :06/08/12

• BEST OF THE BEST:05/03/12

alphafo

• กาแฟสดบ้านหมึกจีน coffee and china's art gallery:16/02/12

Update! • อุปกรณ์การวาด carbon powder
•เทคนิคการทำเฟรมเขียนสีน้ำมัน
•เทคนิคการทำเฟรมสีน้ำมัน
•ปลอกต่อดินสอ EE กรณีดินสอของท่านหดสั้นจุ๊ดจู๋
•การทำสมุดเสก็ตซ์อย่างง่ายและประหยัด
•ภาพตัวอย่างสีชอล์ก 1
•ภาพตัวอย่างสีชอล์ก 2
•ภาพตัวอย่างสีชอล์ก 3



Update!เทคนิค ขั้นตอน การวาดภาพการ์ตูน
• : เทคนิคการวาดภาพผงคาร์บอนพระเจ้าตากสินมหาราช และพระยาพิชัยดาบหัก
• การวาดการ์ตูนล้อเลียน
• พื้นฐานการวาดการ์ตูน
•เทคนิคการวาดภาพคนสีชอล์ก(หลวงปู่แดง)
•เทคนิคการวาดภาพคนเหมือนเต็มตัวสีน้ำมัน
•การวาดเส้นสีคนเหมือน แบบหญิง
•การวาดเส้นสีคนเหมือน แบบชาย
•เทคนิคการวาด carbon powder
•การวาดสีชอล์กแท่ง พระยาพิชัยดาบหัก
•การแก้ไขภาพสีน้ำมัน landscape
•เทคนิควาดภาพสีน้ำมัน Landscape
•พื้นฐานการวาดภาพสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่(Basic)
•เทคนิคการวาดเส้นหุ่นนิ่ง(Drawing)
•เทคนิคการวาดเส้นภาพเหมือน(portrait) "ตา"
•เทคนิคการวาดเส้นภาพเหมือน(portrait) "จมูก"
•เทคนิคการวาดเส้นภาพเหมือน(portrait) "ปาก"
•เทคนิคการวาดเส้นรูปคนเหมือนด้วยดินสอ EE(drawing portrait-woman)
•เทคนิคการวาดเส้นคนเหมือน (Drawing sketch)
•เทคนิคการวาดเส้นรูปคนเหมือนภาพสีด้วยสีชอล์กแท่ง(pastel portrait)
•เทคนิคการใช้สีชล์อกแบบ drawing
•เทคนิคการแกะสติ๊กเกอร์แบบปลอกล้วย(จริงๆ)

alphafo ART ARTICLE :
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 6(สุดท้าย): โบนัสพิเศษกับงานศิลปะ
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 5 : วิธีการวาดภาพให้ได้ (เอาจริงซะที 2)
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 4 : วิธีการวาดภาพให้ได้ (เอาจริงซะที 1)
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 3 : ตามหามุมบันทึก(วาดเส้น)
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 2 : ทำไมต้องเป็นถ่าน?
• "เที่ยวไปกับถ่าน" ตอนที่ 1: เด็กน้อยกับฝาบ้าน
**ภาพสเก็ตซ์สีชอล์กน้ำมัน
**เทคนิคประสม...ใคร ??
ศิลป์(ป่ะ) “ต้องเป็นตัวของตัวเองดิ๊” ...

ภาพวาดที่ฉีก: ผมยืนมองภาพพร้อมกับฟังเสียงหล่น..
ANATTA: วันที่ความหดหู่ หดเหี่ยว หรือเหี่ยวจนหด...
alphafo
alphafo

alphafo
alphafo


Sketch crawl ร่วม Sketch กับเพื่อนๆทั่วโลก

alphafo ALPHA FOCUS หนังสือพิชัย เมืองเล็กฯ เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองหน้าด่านของสยามประเทศในอดีต.....
alphafo
โอกาสที่ท่านมุ้ยมอบให้ สิ่งที่ผมเฝ้าศึกษาและสังเกตุ จะมีเรื่องราวและข้อมูลไปพ้องกับใครบางท่านเข้าอย่างจัง...

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ALPHA FO's blog to your web]
Links
 

 

มองมุมต่าง : กลิ่น





 




ทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน : ครั้งที่ 4 / มองมุมต่าง : กลิ่น


สายลมบางๆ กลิ่นอายเย็นๆ
ทำให้เรารู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่เราได้สูดดม

สมองจะรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย
เพราะได้รับอ๊อกซิเจนอย่างเต็มที่
ความคิดจะแล่นเร็วปรู๊ดปร๊าด ซะยิ่งกว่าความเร็วแสง
ที่ว่ากันว่าเดินทางกว่าสามแสนกิโลเมตรต่อวินาที แบบไม่ต้องหันหลังกลับมามอง

สารพัดกลิ่นรอบๆตัว
เมื่อรูจมูกรับกลิ่นต่างๆไปยัง Olfactory receptor cell
หรือเซลล์รับกลิ่น
สารพัดกลิ่นที่เราชอบ.....ไม่ชอบก็เกิดขึ้นตามนั้น
การรับรู้ในกลิ่นระหว่างเรากับสัตว์จึงแตกต่างกัน
กลิ่นที่เราเกลียด ไม่ได้หมายความว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดต้องเกลียดตามนั้นไปด้วย

ขึ้นชื่อว่า ตด ใครเป็นผู้ก่อย่อมทำเป็นไก๋
โดยเฉพาะต่อหน้าชุมชน
ส่วนจะสร้างปัญหาหรือมีผลกระทบกับใครนั้น
ก็ขึ้นอยู่กับกลิ่นและเสียง
บางครั้งมีเสียงไม่มีกลิ่น(สร้างความอับอายแต่ไม่สร้างความเจ็บปวดต่อผู้อื่น)
บางทีมีแต่กลิ่นแต่ไม่มีเสียง(อันนี้โหดแบบไร้คุณธรรม)

ตดบอกสุขภาพของคนๆนั้นได้ดี
ความรุนแรงของกลิ่นจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาของกากอาหารในลำไส้
ถ้าบ่มไว้หลายวันก็เหม็นหน่อย (ไม่หน่อยละม้างงงงง)
ลมที่ผ่านของเสียจากลำไส้ใหญ่ออกมาโลดแล่นสู่โลกภายนอก
สุดแสนที่จะทรมานคนนั่งดมรับกลิ่น
โดยเฉพาะ คนที่ไม่สามารถลุกหนีได้

เมื่อเราตดแสดงว่าทางเดินของลมในร่างกายนั้นปรกติ
ลำไส้เริ่มทำงานอย่างขยันขันแข็ง พากันบิดเพื่อทำการย่อยอาหาร
จนถึงการบีบรัดตัวเพื่อขับกากอาหารออกจากร่างกาย
ถ้าลำไส้ไม่ทำงานนั้นแสดงว่าภายในร่างกายนั้นไม่ปรกติ
ลมไม่ออกจากร่างกาย และถูกกักขังอยู่ในนั้นทำให้ท้องอืด

ดังนั้นจึงไม่ควรอั้นตด ถ้าไม่ไหวก็ต้องปล่อยออกมา
ส่วนการจะบอกให้ใครรู้หรือต้องรับกับสถานการณ์นั้น
นั่นก็แล้วแต่วิจารณญาณของบุคคล

ดังนั้น เราจึงต้องขอบคุณทุกระบบภายในร่างกายที่ทำให้เราได้รับรู้ถึงสรรพสิ่ง
โชคดีที่ได้กลิ่น โชคดีที่ได้ตด โชคดี ที่รู้ว่าตดบอกสุขภาพได้
เราจะได้บอกกับคนๆนั้นให้รับรู้ถึงสุขภาพตดของตนเองได้ อย่างผู้มีชัย
กลิ่นจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เราได้รับเป็นของขวัญ
ในฐานะมนุษย์ผู้ชื่นชอบความสวยงามของชีวิต


นี่แหละครับการคิดต่าง จากคนอื่น
เขาหนี(เหม็น) เราห่วง(บอกเพื่อน)
มองให้ต่าง จ้องอีกด้านเพื่อเป็นการเติมเต็ม
ไม่มีอะไรถูกหรือผิด เพราะทุกอย่างขึ้นกับมุมมอง
สิ่งเดียวกันอาจเหมาะกับเรา แต่อาจไม่เหมาะกับอีกคน
เรื่องบางเรื่อง บางพื้นที่ของโลกใบนี้เห็นเป็นสิ่งเลวร้าย
ในขณะที่อีกฝากฝั่งเห็นเป็นสิ่งถูกต้อง ดีงาม

วันนี้สิ่งที่เราเห็นว่าถูก พรุ่งนี้ อีกหนึ่งวัน เดือน หรือเป็นปีๆ อาจมองว่าผิด
หรือกลับกันไปมา จนมึนไปตามๆกัน
แล้วเราจะตัดสินใครจากมุมมองของใครคนใดคนหนึ่งได้อย่างไร

คิดให้ต่างจากที่เคยเป็น
ภาพมุมหนึ่งอาจเห็นอีกความหมายหนึ่งได้
นั่นก็แล้วแต่มุมมองและวิธีคิด

เพราะฉะนั้นถ้าเป็นเพื่อนรักกัน
อย่าหนีเวลาเพื่อน ตด นะครับ

เดี๋ยว ผมมานะครับ........หืออออออออ (ใครว้าาาาาา.......)




ลายปากกา


Create Date : 15 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 15 กรกฎาคม 2553 8:11:06 น.
Counter : 790 Pageviews.  

บานดัน...




 




ทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน : ครั้งที่ 3 / บานดัน

เอาอีกแล้ว.....

นิสัยเดิมไม่เคยเปลี่ยนวกไปวนมา ไม่ยอมทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซักที
วันนี้จิตใจผมพะว้าพะวง กระวนกระวายยังไงๆชอบกล
งานที่คิดไว้ก็เยอะ สิ่งที่คั่งค้างก็แยะจนทั้งแงะ แคะ แกะ แพะออกกันไม่หมด
แถมยังมานั่งทำหน้ามึนโชว์ชาวบ้าน แบบไม่มีทีท่าหรือทำท่าจะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ใช่..ผมกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่ ...ว่าแต่ว่า ผมกำลังตามหาอะไรล่ะ
หาจนปวดเศียรเวียนกะโหลกกันทั้งผมและท่าน
เป็นความวุ่นวายของผมโดยแท้ที่ต้องมาทำให้ทุกท่านมาตามหาบางสิ่งกับผมด้วย

"เจอรึยังอ่ะ"...หาๆๆๆๆ

เมื่อผมเจอ.....ผมจะได้ทำงานซะที
และทุกท่าน(ที่อ่านอยู่) ก็จะได้หมดภาระกับผมไปด้วย(เฮ้อ!)

ผมยังเดินตามหาบางอย่างอยู่อย่างไม่รู้ว่าจะหยุดตรงไหนหรือเริ่มต้นที่ใด
ผมตัดสินใจเดินเข้าไปที่ประตูห้องทำงาน
ประตูบานเล็กๆที่เปิดแง้มออกนิดๆ คล้ายๆจะทำท่ายั่วยวนชวนให้ผมเข้าไปในนั้น
ผมค่อยๆดันบานออกไปข้างหน้า..

แต่ดูเหมือนบานมันจะติดอะไรสักอย่างอยู่
คล้ายๆกับว่าจะมีสักคนผลักบานดันกลับมา
บานถูกดันกลับมาค่อนข้างแรง ถูกตรงบริเวณหน้าอกข้างซ้ายด้านหลังชายโครงพอดี
บานดัน บานดัน บานดันมาแรง

อ่ะ....แรงบันดาลใจ

ผมเดินงุ่นง่านมาตั้งนานเพื่อตามหาแรงบันดาลใจเหรอเนี่ยะ
หาแรงเพื่อบันดาลให้ผมทำสิ่งที่กองอยู่ด้านหน้า ให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมา

บนชั้นหนังสือ .............
มีหนังสือที่มีหน้าปกสวยงาม มีรูปอันหลากหลายของบุคคลสำคัญในอดีต
จอห์น เลนนอน เอลวิส เพลสรีย์ บรูซลี เฉินหลง
และอีกหลายคนสบตาผมพร้อมๆกัน บางคนยิ้ม บางคนหัวเราะ
บางคนก็อ้าปากร้องเพลงค้างอยู่ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะเมื่อย

ผมตัดสินใจเดินทางเข้าสู่โลกของพวกเขาทันที
จอห์นเล่าให้ผมฟังว่า แรงบันดาลใจของเขามาจากป้าและกีตาร์ตัวเก่าที่แม่เขาซื้อไว้ให้
แถมป้ายังเหน็บเล็กๆอีกว่า "เล่นดีๆนะจอห์น แต่หลานจะไม่มีวันเลี้ยงตัวเองจากกีตาร์ตัวนี้หรอก"

"แล้วทำไมคุณถึงอยากเล่นกีตาร์ล่ะจอห์น" ผมถามในใจ
ทั้งๆที่อีกเดี๋ยวจอห์นก็จะเล่าให้ฟังอยู่แล้วว่า เขาอยากเล่นกีตาร์ให้เก่งเหมือนเอลวิส
จากนั้นไม่นานจากนั้นก็เกิดวง The Beatles ขึ้นมา

เอลวิสเองก็เป็นคนติดอ่าง แต่ติดคนละอ่างกับคนบางคน
เหตุเพราะเขาพูดไม่ชัด เพื่อนๆในวงจึงต่างชมเขาว่า
"เสียงไร้ค่าเหมือนขยะ"
และแรงบันดาลใจกับเสียงขยะๆของเขาก็มาจากวิทยุท้องถิ่น
ด้วยความมั่นใจ+เชื่อมั่นในตัวเองเขา จึงได้รับโอกาสเพราะไปอัดเสียงร้องเพลงวันเกิดให้แม่

หลายๆคนได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่เขาเห็นและสัมผัสได้เวลานั้น
เรียกว่า "ไฟฝันวัยเยาว์"
เรนนักร้องดังเกาหลีที่ไม่เคยกินเกาเหลาแบบไทยๆ ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนักเต้นในทีวีวัยเด็ก
จากนั้นก็ฝึกฝนทุ่มเท มุมานะบากบั่นไม่ยอมจำนนกับอุปสรรคด้วยข้อหาตาชั้นเดียว
เฉินหลงผู้โด่งดังนั้นได้รับมาจากการฝึกกังฟูกับพ่อตอนเด็ก โจวเหวินฟะก็ได้รับมาจากคณะงิ้ว
บิลเกตเองก็ใช่ย่อย ทนไม่ได้ที่เห็นคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่เทอะทะอยู่กับคนแค่บางกลุ่ม
เขาแค่อยากให้ทุกคนรู้จักกับคอมพิวเตอร์ ในขนาดที่กระทัดรัดและราคาถูก
เราจึงได้ใช้คอมพิวเตอร์ในราคาที่สัมผัสได้กันจนถึงทุกวันนี้

แต่ในทุกๆความสำเร็จนั้น ล้วนแล้วมาจากความพยายาม
สิ่งที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ไร้ตัวตน ได้พลักดันอยู่เบื้องหลัง นั่นคือแรงบันดาลใจหลัก
แรงบันดาลใจของแต่ละคนแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ เวลา สถานการณ์
ไม่ว่าจะบันดาลใจครั้งใหญ่ทีเดียว หรือค่อยๆบันดาลไปเรื่อยๆ หรือเรียกว่าแรงจูงใจ
แต่สิ่งที่เหมือนกันคือแรงบันดาลใจที่มาจากแรงฮึดแบบฝังใจ
บวกกับแรงรักในสิ่งที่ตนทำ

เพราะถ้าความรักคือการอดทนนาน
ยอมให้อภัยและเข้าใจในสิ่งบกพร่องของอีกฝ่าย
แรงรักในสิ่งที่เขาเหล่านั้นได้ทำอยู่นี้ ก็คงจะการันตีถึงความอดทนบากบั่น
เพื่อทำสิ่งที่ตนรักอย่างสม่ำเสมอ ดูแล ประคับประคองฝัน อย่างไม่ให้เจ็บช้ำ

พลันก็คิดถึงแรงบันดาลใจครั้งแรกของผม ที่ตัดสินใจหักมุมเข้าสู่การฝึกฝนงานศิลปะ
กันดั้ม คือหุ่นยนต์ตัวนั้นที่เท่ห์ เสน่ห์แรง เก่งกาจและท้าทายกับผมมาก
ผมต้องวาดกันดั้มให้ได้ จึงต้องฝึกๆๆๆๆ
จนถีงวันนี้ วันที่ผมวาดกันดั้มได้ จนเลยมาไกลมากแล้ว
จากนั้นก็อยากวาดภาพขาวดำ สีน้ำ สีน้ำมัน เขียนหนังสือสักเล่ม ....

วันนี้บางครั้งผมต้องกระชากคนตัวเองขึ้นมาเขียนรูป เขียนอะไรสักตอน สักเรื่อง
ไม่เหมือนกับวันนั้นที่ตั้งใจฝึกฝนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
นั่งนึกไปเรื่อยๆก็สบตากับเลนอน และเอลวิสอีกครั้ง
อยากถามเขาทั้งคู่จริงๆว่า เขาอยากรวย อยากดัง หรือ รักที่จะทำสิ่งที่เขารักให้ดีที่สุด
ก่อนที่จะขอตัวทุกๆคนกลับมายังโลกของผม

ขณะที่ดึงจิตของตัวเองออกจากโลกของพวกเขา
ในใจก็ยังวนเวียนไปกับคำถามและยังถามหาแรงบันดาลใจชิ้นใหญ่
สายตาอันซุกซนก็เหลือบไปเห็นกระจกบานใหญ่กำลังพอดีหน้า
มาคู่กับใบหน้าที่ใหญ่ไม่แพ้กระจก

สายตาผมประสานเข้ากับชายในกระจกอย่างจัง
...........!!!!.......................
นี่มัน แป๊ะที่ไหนวะเนี่ยะ..!!
.........................
อ่ะ..นั่นมันหน้าผมนี่น่า
ฮืม....น้ำหน้าอย่างนี้เหรอ จะทำสิ่งที่รักให้ดีที่สุดได้
..................................!!
ทุกอย่างนิ่งสนิท เหมือนลำโพงขนาดใหญ่ที่กำลังส่งเสียงดังสนั่นถูกกระชากสายไฟออก

ผมเจอแรงบันดาลใจชิ้นใหญ่เข้าให้แล้ว......!..
น้ำหน้าแบบนี้แหละ จะทำให้ดู.......
..............................

เวลาผ่านมา .....วันนี้กำลังจะผ่านไป
เราเคยลองถามคนในกระจกดูหรือยัง?
....ว่าเราหาแรงบันดาลใจที่ต้องทำให้ดีที่สุดจนถึงฝั่งฝัน
หรือ แรงจูงใจแว๊บๆเพื่อแค่ให้ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ...
ถ้าเราหาเราบันดาลใจที่แท้เจอ เราจะเจอแรงจูงใจเล็กๆอย่างง่ายดาย
เหมือนกับวันไหนที่เราใส่เสื้อสีขาว เราจะเห็นแต่คนที่ใส่เสื้อสีขาวเดินกันให้เพล่นพล่านเต็มเมือง

คราวนี้ผม ดันบาน ประตูเข้าออกห้องทำงานอย่างง่ายดาย
บานดันกลับมาเพื่อบันดาลกลับในสิ่งที่มีอยู่
โดยไม่ต้องคอยเดินตามหาสิ่งใดอีกแล้ว

....แค่ทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีที่สุดในทุกๆวันก็พอ
เพราะผมกำลังสนุกและมีความสุขกับสิ่งที่ผมทำในทุกวัน
ด้วยแรงบันดาลใจที่มั่นคง



ลายปากกา


Create Date : 30 มิถุนายน 2553    
Last Update : 30 มิถุนายน 2553 9:47:59 น.
Counter : 855 Pageviews.  

พี่หมี ตัวเบ้ง ณ ป่าใหญ่




 




ทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน : ครั้งที่ 2


ถึง พี่หมี  ตัวเบ้ง ณ ป่าใหญ่

สวัสดีครับ พี่หมี





    ตอนนี้ ผมกำลังวาดภาพสีน้ำมันรูปบ้านในป่าอยู่ ยังไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่เพราะขนาดใหญ่พอสมควรครับกว่าจะทำเฟรม  ขึงผ้าใบ ร่างภาพ แถมลงสีอีก ก็กะว่าจะทำไปเรื่อยๆน่ะครับ เอาไว้เสร็จเมื่อไหร่จะเอาลงบล๊อกให้พี่หมีดูครับ
    ในขณะที่ผมเขียนรูปนี้อยู่ ผมก็นึกถึงพี่หมีขึ้นมาทันทีเลย

     ไม่ต้องงงครับ  พี่ไม่เคยเจอหรือเคยรู้จักผมหรอก

      แต่ในใจผมคิดไปว่า ถ้าบ้านผมอยู่ในป่าอย่างภาพที่ผมกำลังวาดอยู่นี้ผมจะทำอย่างไรถ้าเจอพี่ขึ้นมา
    ตามที่ผมรู้เขาบอกมาว่าถ้าเจอพี่แล้วให้แกล้งตาย แล้วพี่จะหนีไปเอง  หากผมเปรียบพี่หมีเป็นเหมือนปัญหาใหญ่ในชีวิต ถ้าผมรู้ว่าสู้ไม่ได้แน่ๆพี่ว่าผมจะแกล้งตายก่อนดีหรือเปล่าครับ
     ตามหลักการคิดบวกที่ผมรับรู้มานั้น อาจหมายถึงว่าให้คิดว่าพี่เป็นเพื่อนหรือมิตร

    แต่   ถ้าผมไม่แกล้งตายแล้วเข้าไปทักทายตีซี้กับพี่ พี่จะตบหัวผมขมำจนสลบไหมครับ ช่วยบอกผมที ?
    ใครบางคนบอกให้ผมสู้กับทุกปัญหา ผมมาคิดๆดูอีกทีถ้าผมเจอพี่ผมคงต้องแกล้งตายให้พี่ดมเล่นไปก่อนครับ

    สารภาพครับว่า บางวันผมก็แกล้งตายกับหลายๆเรื่อง ที่นอกเหนือจากการควบคุมของผมได้  ต้องใช้สติปัญญาแก้ไข ผมแกล้งตายรอพี่เดินผ่านไปก่อนแล้วผมก็ค่อยๆเดินต่อ เขาเรียกว่า "สติมาปัญญาเกิด" ถ้างั้นก็แสดงว่า ปัญญาเป็นลูกของสติใช่หรือเปล่าครับ แล้วมยุรากับหม่ำล่ะ.....
    เอาล่ะ...

ผมไม่อยากนอกเรื่องไปมากกว่านี้ นอกจากว่าเวลาที่ผมเจอกับพี่จริงๆขึ้นมา ถ้าผมแกล้งตายจะยังใช้ได้ผลอีกมั้ยครับในเมื่อผมเขียนบอกพี่ถึงขนาดนี้แล้ว
     แต่ ผมเดาเอาแบบไม่ต้องคิดว่าพี่หมีอ่านภาษาผมคงไม่ออกแน่ๆ

และตอนนี้พี่อาจจะทำหน้างงงง

อ่ะ...งง หนักเข้าไปอีกเมื่อผมเอาง.งู มาเรียงกันถึงสี่ตัว

     ที่แน่ๆ ผมรู้แล้วล่ะครับว่า คราวหน้าถ้าผมเจอปัญหาใหญ่ ผมจะแกล้งตายก่อนดีกว่า อันนี้ผมไม่ได้หมายถึงเจอเจ้าหนี้นะครับ
     ผมจะรอให้พี่หมีเดินจากไปแล้วผมค่อยลุกมาแล้ว เราเดินกันคนละเส้นทางดีกว่าครับ

.........ผมเองก็มีปัญหาใหญ่ๆหลายเรื่องเหมือนกับเจอพี่แหละครับ เจอทีก็แกล้งตายที อย่างปัญหาราคาข้าวของชาวนาปัญหาจีดีพี (หรือ ดีดีทีหว่า....ไม่แน่ใจเรียกไม่ถูก)ของประเทศเนี่ยะ  ผมจนปัญญาจริงๆครับผมแก้ไขให้ไม่ได้ เพราะรายได้ของพวกผมเป็นส่วนน้อยของประเทศครับ แค่ยี่สิบเปอร์เซนต์เอง ถึงแม้ว่าพวกผมจะมีจำนวนมากกว่าถึงเจ็ดสิบเปอร์เซนต์ในประเทศก็ตาม

นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องอื่นๆอีกนะ ที่ถึงแม้มันจะเดือดร้อนมาถึงผมแบบงงๆก็ตาม(คราวนี้ผมกันพี่งง ผมใช้ไม้ยมก"ๆ"แล้วครับ)ทั้งการตั้งแกงค์ แข่งขัน กีฬาสี การขอคืนพี้นที่คืน หรือพื้นที่เช่าบนหัวภูเขาหัวเหม่ง ไม่เอาดีก่า...เปลี่ยนเรื่องๆ

พูดถึงพี่มามากผมยังสงสัยอีกต่อไปว่าถ้าผมเจอพี่เสือเพื่อนพี่แล้ว ผมจะทำยังไงดี ?

ถ้าผมลองแกล้งตายเหมือนกับเจอพี่  ผมว่าผมคงได้ไปเริงร่ากับนางฟ้าบนสรวงสวรรค์เป็นแน่แท้

แล้วถ้าเจอทั้งคู่พร้อมๆกันล่ะ ผมจะแกล้งตายหรือจะวิ่งหนีดี ?

ถ้าจะเขียนวัว ให้เสือกลัวจะได้หรือเปล่าครับ มันจะรู้เรื่องมั้ย ?

ยิ่งคิดยิ่งสับสน พู่กันยังคามืออยู่เลย เขียนรูปทีจิตเตลิดไปไกลเลย

 แต่คนอย่างผมดื้อเป็นสันดานอยู่แล้วครับ พี่จะห้ามผมไม่ให้คิดคงไม่ได้ ผมจึงต้องคิดต่อไปว่าถ้าผมนอนๆอยู่ในป่าแล้วมีพี่งูมานอนอยู่ข้างๆผม ชูคอขู่ฟ่อๆ เป็นจงอางหวงไข่(จึ๋ย!) หรือเด็กหวงขนมผมจะแกล้งทำยังไง ?
    ผมคงต้องสรุปว่าปัญหาแต่ละปัญหาทั้งเจอพี่หมีเอง พี่เสือ หรือพี่งู ผมต้องรู้ว่าแต่ละปัญหานั้นเป็นใคร

ครับพี่...ผมเอาปัญหาของผมไปเปรียบกับสัตว์อย่างพวกพี่ พี่จะว่าผมมั้ยครับว่ามายุ่งอะไรกะสัตว์อย่างตู.....

บางปัญหาผมก็แกล้งนอนตาย บางปัญหาต้องหนี บางปัญหาต้องจ้องตาสู้แบบไม่กระพริบ อยู่ที่ว่าใครมา
อย่างบางปัญหาเหมือนช้างตกมัน แน่นอนว่า ผมคงไม่นอนแกล้งตายอยู่ให้มันกระทืบเล่นจนตับปลิ้นเป็นแน่แท้

บางปัญหาเหมือนลิงกระโดดไปมา แล้วก็ขโมยของที่เราไม่ใช้ไปให้เราลำคาญเล่น
    ผมเล่าให้พี่หมีฟังตั้งนาน แสดงว่าผมพอจะรู้จักของปัญหาในป่าใหญ่แห่งนี้แล้วใช่มั้ยครับ ?

เพราะเมื่อตัดสินใจที่จะเดินทางเข้ามาในป่าแห่งนี้แล้ว ก็ต้องเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดให้ได้กับสารพัดปัญหา ทั้งๆที่จะสร้างบ้านหรือเขียนรูปนี้ให้บ้านอยู่ติดๆกับทะเลก็ได้ แต่ผมว่าไม่ว่าเราจะอยู่หรือหนีไปที่ไหน ก็ต้องเผชิญกับสารพัดปัญหาอยู่แล้ว ผมจึงเลือกที่จะเผชิญกับสิ่งที่ผมรักดีกว่า จริงหรือเปล่าครับพี่ ใครบางคนบอกว่าล้มเหลวในสิ่งที่รัก ดีกว่าสำเร็จในสิ่งที่เกลียดจริงหรือเปล่าครับ ? ผมก็ว่าจริงนะ ผมว่าถ้าเราทำสิ่งที่เรารักและศรัทธาแล้วประตูความล้มเหลวปิดไปตั้งนานแล้วล่ะครับ

เพื่อนๆผมบางคนมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานบ้าง เรื่องงานก็มี ทั้งของที่ขายไม่ได้เหลือบานตะเกียง บางทีเขียนหนังสือแล้วไม่มีคนอ่าน  ภาพเขียนไม่มีคนซื้อ หรือแม้กระทั่งมีปัญหากับเจ้านาย ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าพวกเขาจะใช้วิธีไหนแก้ไข
บางคนเจอเพื่อนร่วมงานแล้วจ้องตา เจอเจ้านายแล้วแกล้งตายก็มี อันนี้ก็ทางใครทางมัน ผมเล่าให้พี่ฟังเฉยๆไม่มีเหตุผล

เพราะผม ไม่มีเหตุผลครับ

บางคนไปนอนกับงู แมงป่อง ตะขาบ พอเป็นข่าวสักพักก็เงียบหายไป ก็แล้วแต่เหตุผลของแต่ละคน บางตนทำเพื่อความกล้าหรือจะทดสอบกำลังใจตัวเองก็เป็นไปได้ทั้งนั้น บางคนไม่บอกทางบ้านชัดๆแต่กลับไปนอนกับน้องๆที่สักรูปแมงป่องบริเวณท้องน้อยแล้วบอกว่าไปนอนกับแมงป่องเพื่อหาสัจจะธรรมก็มี  แต่คนทางบ้านบอกว่า สัดจะทำ(พวกพี่ก็ซวยอีก โดนด่าฟรี) โดนขอคืนพื้นที่กันยกใหญ่ก็ว่ากันไปครับ

 ไม่ใช่ผมครับพี่ไม่ต้องทำหน้า สะใจขนาดนั้น
     แหมมมม...สะใจเชียว

ผมจะบอกพี่ว่าบางประเทศมีฤดูกาลล่าพี่ด้วยนะครับ อย่าทำเป็นซี้ซั้ว เดินไปเรื่อยเปื่อย (บางทีพี่ก็ไม่เจ๋งเสมอไปหรอกว่ามะ)

  สุดท้ายนี้หวังว่าพี่คงสบายดีและรอดพ้นจากฤดูกาลล่าหมีที่ใกล้จะถึงนี้นะครับ (ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีเมื่อไหร่) อย่างน้อยพี่ก็มีเพื่อนๆผมอยู่เป็นเพื่อนล่ะครับ เพราะถ้าพี่กำลังอ่านจดหมายที่ผมฝากมาฉบับนี้อยู่แสดงว่าพวกเขาที่กำลังแกล้งตายอยู่ข้างๆพี่ครับ ส่วนผม  เราคงไม่ได้เจอกันหรอกนอกจากว่าพี่จะมาอยู่ในสวนสัตว์  ผมคงได้มีโอกาสไปเยี่ยมพี่บ้างครับ




ด้วยรักและนึกถึงพี่เฉยๆ
   "ผมเอง"



ปล.1   พี่รู้มั้ยครับว่าเพื่อนผมที่แกล้งนอนตายอยู่นี้  มีคนหนึ่งที่จับเพื่อนพี่มาสต๊าปไว้ที่บ้านครับ เขาจะทำเป็นแกล้งตายในขณะที่พี่กำลังทำจมูกฟุตฟิตดมแบบงงๆอยู่เหมือนตอนนี้  เขาจะให้นายพรานเล็งที่หัวเพื่อนพี่ด้วยปืนที่มีลูกกระสุนความเร็วสูงครับ(ไม่รู้จะทำเหมือนกันหรือเปล่านะ เตือนไว้)  ขอให้พี่รอดปลอดภัยรีบวิ่งหนีไปให้เร็วเลยครับ เดี๋ยวนี้เลยครับที่เหลือไม่ต้องอ่านแล้ว

ปล.2 สำคัญมาก   ถ้าพี่อ่านภาษาผมออกพี่จะรอดครับ แต่ถ้าพี่อ่านมาถึงตรงนี้พี่อาจจะไม่รอด(รีบๆเลย)

ปล.3 สุดท้ายแล้ว   ถ้าผู้ที่อ่านอยู่เห็นจม.นี้ในมือหมี กรุณานำรูปนี้ไปฝึกวาดเป็นที่ระลึกให้พี่หมีด้วยครับ ผมเอาแบบน่ารักๆ กับวิธีการง่ายๆมาฝากครับ





คำทู้ๆ : "หมีที่น่ากลัวจะดูน่ารักลงไปทันที ถ้าเราเข้้าใจเรียนรู้วิธีมองมัน"

ลายปากกา


Create Date : 15 มิถุนายน 2553    
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 19:13:29 น.
Counter : 3704 Pageviews.  

จรตนากิน จินตนากร




 





ก่อนหน้าที่จะนึกชื่อคอลัมน์นี้ออก ผมก็ลุกลี้ลุกลน เวียนวน วอกแวก อยู่หลายเพลา
ไม่มองหน้าใคร ก้มมองแต่นิ้วเท้าตัวเองกับบนเพดานห้อง สลับกันไปมา
พลางคิดไปว่ากระดูกต้นคอตัวเองคงต้องเสียศูนย์เป็นแน่แท้
ก้มๆเงยๆ เพื่อเค้นเอาความคิดมาจากจินตนาการ ที่ยังวนเวียนอยู่กับความคุ้นเคยเดิมๆ

อะไรกันนี่ หรือว่าจะเป็นอย่างที่ บัณฑิต อึ้งรังษี บอกไว้ในทวิตเตอร์ว่า
"ความรู้ท่วมหัว สู้จินตนาการไม่ได้"
พอๆกับ ไอน์สไตน์ที่กระซิบอยู่ข้างหูผมตลอดเวลาว่า
"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ๆๆๆๆๆ...."
จนคนรอบข้างสงสัย "แกเป็นอะไรของแก (วะ)?"

แต่แล้ว.......................
.................ก็คิดอะไรไม่ออก

สมองก้อนน้อยๆจึงทำหน้าที่เหมือนฮิตเลอร์ที่มีหนวดอันน่ารักจุ๋มจิ๋ม แต่ร้ายกาจน่าดู
ได้สั่งการอันเด็ดขาดลงที่มืออันอวบอิ่มของผมให้คว้าบางอย่างทันที
มือข้างที่ถนัดจึงค่อยๆหยิบกระดาษกับดินสอขึ้นมาขีดเขียนอะไรต่อมิอะไร ตามแต่ที่นึกได้
ว่าชื่ออะไรกันหนอที่มันจะเกี่ยวกับศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองหรือการใช้ชีวิตแบบอาร์ตๆ

ทั้งความคิด คำพูด เขียนไปแบบไม่รู้จักจบ เปิดโน้น ดูนั่น ต่อนั่นเติมนี่ กระทั่งได้ชื่อคอลัมน์นี้มาสมใจนึก
โดยที่ไม่มีชื่อนี้ปรากฏ....จากที่เขียนในกระดาษเลย
สาเหตุเพราะสายตาอันซุกซนของผมเหลือบไปเห็น....
ผมเห็น......อามายืนกวักมืออยู่ด้านหลังสระ

.....อามาช่วยผมไว้
จิน

นา
กร
เกิดขึ้นมาเพราะคำบางคำที่ลืมเติมสระ"า"

จึงถือกำเนิดคอลัมน์เล็กๆที่ชื่อว่า "จินตนากร" ขึ้นเพราะสระอาเพียงตัวเดียว
นั่นแหละ "จินตนากร" มันเป็นบ่อเกิดของ "จินตนาการ"
เหมือนๆกับ "จิตรกร" เป็นผู้สร้างงาน "จิตรกรรม"

ผมจึงต้องตัด "า"(อาลัย) ออกจากจินตนาการ กลายเป็น จินตนากร
จากนั้นเมื่อเสร็จก็เติม "า" (อาวรณ์) เข้าไปในจินตนากร เพื่อก่อให้เกิด "จินตนาการ"
ใช่ครับ.....
เราคงต้องตัดความเสียดาย "อาลัย" ออกจากความคุ้นเคยเดิมๆเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่
จากนั้นก็เติม "อาวรณ์" ที่ไม่ไกลตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ของมันไป

"กร" นั้นทำให้เกิด "การ" การลงมือคิด สังเกตุ แล้วก็ลงมือทดลอง (ทำ พูด อ่าน เขียน)
เพื่อให้จินตนาการมันเกิดการพัฒนาต่อยอดไปจากพื้นฐานของกรที่ทำให้เกิดการ
แสดงว่าทั้ง กร และ การ ต้องทำงานร่วมกัน

บางทีเราก็ทำก่อนคิด บางครั้งเราก็คิดก่อนทำ
บางความทรงจำเราก็ได้แต่นั่งขบคิด แต่ไม่เคยได้ลงมือทำ
ถ้าจะให้ง่ายและดีด้วยก็คือ "ต้องคิดแล้วก็ทำ"
จากนั้นการกระทำจึงจะทำให้เกิดการต่อยอดความคิด เกิดการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง

อาราย(วะ) พูดเรื่องอารายยยยยยยยย....

นั่นดิ๊.......คงเป็นเรื่อง "ความคิดก่อให้เกิดการลงมือทำ"
จากนั้น "การลงมือทำจะก่อให้เกิดความคิด(ที่ดีกว่าเดิม)" แค่นี้แหละครับ
แค่นี้ที่จะพอที่จะทำให้เห็นว่า เราควรให้คุณค่าความคิดกับการลงมือทำ
มากกว่านั่งแค่มานั่งคิดฝันหวานล่องลอยไปมา เหมือนผีน้อยแคสเปอร์

ทิฤษฎีดังหลายทิฤษฎี คงไม่ได้เกิด
หากนักคิดเหล่านั้นมัวแต่นั่งคิด โดยไม่มีการทดลองหรือลงมือทำใดๆ
ทำเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาการของจินตนาการที่ไม่สิ้นสุด
จนกระทั่งมีการสร้างสรรค์ที่ต่อเนื่องจากนักคิด นักฝันรุ่นหลังๆตามมา

สำหรับเราเองก็แค่เอาความคิดที่อยู่ในกรุของเรามาลงมือทำให้เกิดคุณค่า
และพัฒนาต่อยอด แปลงร่างกลายเป็นอย่างที่ฝัน
บางทีมันอาจจะกลายพันธุ์เป็นอะไรก็ได้ที่เกินกว่าที่เราคิด
เหมือนกับที่ใครสักคนเคยกล่าวไว้ว่า(ใคร?..นึกไม่ออกจริงๆ)
"เมื่อเราเอื้อมมือคว้าดวงดาว ถึงแม้จะไม่ได้ดาวติดมือมา
แต่แน่นอนว่ามือเราจะไม่เปื้อนดินโคลน"

เราเป็น "จินตนากร" ผู้สร้าง "จิตนาการ" ทุกคน
อยู่ที่ว่าใครจะใช้หรือปล่อยให้สิ่งที่เรามีอยู่นี้หลุดลอยไป
จนหลงลืมโดยไม่มีการเรียกใช้บริการ จิตนาการแห่งรักของตนทั้งชีวิต

นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง จินตนากร ที่ใช้ชีวิตได้ดีทีเดียว
สำหรับผมแล้ว อาร์ต มากเลยครับ
แล้วเราจะ "ใช้จินตนากรจนตัวเป็นเกลียว" เพื่อให้เกิดสิ่งดีๆไปด้วยกันนะครับ


ลายปากกา



Create Date : 31 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 9 มิถุนายน 2553 9:20:34 น.
Counter : 1277 Pageviews.  

แนะนำคอลัมน์ใหม่ "จินตนากร"




**แนะนำคอลัมน์ใหม่ "จินตนากร"


เรื่องราวที่หลากหลาย กับจินตนาการที่เป็นบ่อเกิดแห่งความคิดสร้างสรรค์ คิดบวก(ไม่บวกแบบประสานงานะ)


สลับๆกันไป แต่ทุกเรื่องจะมีมุมด้านศิลปะแฝงอยู่เสมอ


ติดตามทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน เริ่ม มิ.ย.นี้ครับ


ลายปากกา




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 5 มิถุนายน 2553 6:47:41 น.
Counter : 1082 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.