|
ล้มเหลวอีกครั้ง...กลับเข้า comfort zone
กลับมาบ้านซักพักฉันเริ่มช่วยเฮียทำการค้า ตอนนั้นฉันมีแฟน(สามี) พวกเราช่วยเฮียแบ่งหน้าที่กันง่ายมาก เฮียวิ่งหาลูกค้า แฟนฉันซื้อของ ฉันทำเอกสารเฮียมีเงินทุนก้อนหนึ่ง ฉันกับแฟนไม่ได้ลงทุน เราลงแรงรอรับผลตอบแทนเป็นไตรมาส...ทำไปซักพัก พวกเรามีอัตตาของตัวเองและต่างปล่อยให้มันตัดสินใจทำงาน เราเริ่มเห็นต่างกัน เรามองกันคนละมุมสิ่งที่ฉันเรียนรู้มา ไม่มีความหมายอะไรเลย ผ่านไปสองปี เราตัดสินใจยุติการค้านี้ณ วันนั้น ตอนคำนวณว่าพวกเรามีผลตอบแทนกันเท่าไหร่สรุปว่าได้คนละประมาณแปดหมื่นบาท ฉันเห็นแก่อีกสองคนฉันจึงไม่เอาผลตอบแทนส่วนของฉัน จากหารสามจึงเหลือเพียงสอง... แล้วฉันได้อะไรกับเรื่องนี้ ฉันได้ผ่อนคลายชีวิตมั้ง ได้ออกต่างจังหวัดบ้างกินหรูบ้าง ได้บทเรียนเรื่องการทำการค้าด้วย ช่วงนั้น ฉันคบกับแฟนสามปีได้ม้าก็เร่งให้ฉันแต่งงาน เพื่อความสบายใจของม้า เขาตกลง ด้วยความที่เรามีเงินจำกัดและฉันค่อนข้างห่างเหินจากเพื่อน ฉันจึงไม่อยากรบกวนใครเราจัดงานพอเป็นพิธี...หลังจากแยกย้ายเรื่องทำธุรกิจกับเฮียแฟนฉันก็มองหาโอกาสใหม่ เขาบอกฉันว่าไปขาย สตรีทฟู้ด น่าจะดี ฉันไม่คัดค้านเราต้องเดินหน้าทำอะไรบ้าง ลึกๆเราก็อยากให้ม้าเลิกตัดเสื้อซะทีฉันหวังว่าเราจะทำจนเลี้ยงม้าไหว เราขายเมนูเดียว ตอนแรกขายดีมากเลย ขายไปซักพัก จักรวาลเริ่มทดสอบอีกแล้ว มีคำแนะนำจากคนโน้นคนนี้เราไขว้เขว เราออกจากเส้นทางแรกที่เราตั้งใจไว้ ทุกอย่างค่อยๆเบี่ยงออกไปเรื่อยๆจากขายเมนูเดียว ก็เพิ่มอีกเมนู แต่เราสองคนเหนื่อยมากๆ ขายไปสักพัก ฉันสงสัยว่าตัวเองตั้งท้อง จึงไปตรวจผลนั้นเป็นไปตามที่คิด ช่วงนั้นเอง ฉันแพ้กลิ่นอาหารมาก เราจึงหยุดขายอาหารเนื่องจากสามีให้ฉันจัดการเงินก้อนนี้ ฉันสามารถเก็บเงินจากปีนั้นได้หนึ่งแสนบาทอาจไม่มากเท่าที่หวัง แต่ก็ยังภูมิใจ เราเปลี่ยนไปขายของอย่างอื่น ตัวสามีมีขายของเล็กๆน้อยๆส่วนตัวของเขาอยู่แล้วแต่ขายของคราวนี้ไม่ง่าย เงินที่ได้จากการขายอาหาร หมดไปกับการใช้จ่ายช่วงนี้ช่วงนี้เองที่ฉันได้รู้จักสามีจริงๆ สิ่งที่เขาเป็น ตัวตนของเขาด้วยความที่แต่งงานแล้วฉันกับสามีเลือกอยู่บ้านม้า เพราะม้าอายุเยอะแล้วเฮียก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน อย่างน้อยม้ามีพวกเราอยู่ด้วย ก็คงอุ่นใจระดับหนึ่งแต่ฉันกลับอยู่ใน comfortzone ที่แย่กว่าเดิมฉันสับสน แอบร้องไห้หลายครั้ง ช่วงตั้งท้อง ฉันอ่อนไหวมากๆ เมื่อฉันคลอดลูก ฉันไล่สามีไปขายอาหารอีกครั้ง จริงๆเขาอิดออดนะทำคนเดียวมันเหนื่อย ตัวเขาไม่ใช่คนสุขภาพดี ฉันเองก็เข้าใจแต่เมื่อเขาคือหัวหน้าครอบครัว เขาบอกฉันว่า ให้ฉันเลี้ยงลูกแต่ตัวเองไม่ได้แสดงความกระตือรือล้น มีเพียงคำพูดที่แสดงความหวังเท่านั้นม้าจึงบอกฉันให้ไปช่วยเขาอีกแรง... ขายอาหารรอบนี้เงียบกว่าเดิม สภาพเศรษฐกิจด้วย ขายไปได้หลายเดือนเขาให้ฉันจัดการเงินเหมือนเดิม ฉันทำได้แค่ประคองให้พ้นเดือนต่อเดือนยังดีกว่าขาดทุนนะ แต่หากมองอนาคตยาวๆ ก็ไม่ไหว สามีฉันไม่ทนแล้ว เขาบอกฉันว่า เขามีทางของเขาขอเวลาหน่อย ฉันก็ไม่อยากฝืนใจ เราจึงหยุดขายตั้งแต่นั้นมา... สามีฉันก็ดิ้นรนไปเรื่อย เขาขยันหาโอกาส เป็นคนมีไหวพริบ แต่ขาดวิสัยทัศน์ฉันต้องคอยกระตุ้นหรือเตือน ส่วนตัวฉันเองอยู่ที่เดิม comfort zone ที่มีตัวแสบคอยป่วนข้างๆ...
ฉันเบื่อและหงุดหงิดกับสถานการณ์นี้นะ เลี้ยงลูกไม่มีเงินใช้ ต้องใช้เงินเก็บ พูดตรงๆฉันมองไม่เห็นอนาคตส่วนเฮียฉันหลังจากเขาไปทบทวนชีวิตตัวเอง เขาคิดว่าจะไปทำเกษตร เศรษฐกิจพอเพียงเขาไปซื้อที่ไว้เรียบร้อย แต่เขายังไม่ไปทำนะ เขาบอกรอเวลาอีกนิด มีปัญหาที่ยังสางไม่เสร็จเขายังชวนฉันไปเป็นเกษตรกรกับเขาอีกน่ะ สงสัยยังไม่เข็ด ตอนแรกฉันคิดคล้อยตามเขานะแต่เมื่อไม่นานนี้ใจฉันเริ่มค้าน เพราะเฮียคุยเรื่องนี้นานเกินไปแล้วฉันพอจะรู้คร่าวๆถึงจังหวะเวลาของเขาฉันไม่เห็นถึงความจำเป็นในการพูดบ่อยๆถึงอะไรที่ยังไม่ทำหรือยังมาไม่ถึงน่ะฉันรำคาญและชอบตัดบททุกครั้งที่รู้สึกว่าเฮียพูดมากไปละ
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2560 |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2560 8:06:13 น. |
|
1 comments
|
Counter : 560 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|