Welcome to my blog
3 วัน 2 คืน หลีเป๊ะ เกาะสวรรค์แห่งอันดามันใต้ (ตอนที่ 1: เดินทางสู่เกาะหลีเป๊ะ)


สถานที่ท่องเที่ยว : เกาะตะรุเตา, สตูล Thailand
พิกัด GPS : 6° 32' 25.58" N 99° 40' 36.24" E

ถ้าไปถามคนต่างชาติว่า เวลาที่มาเที่ยวเมืองไทยอยากมาดูอะไรมากที่สุด ผมว่าเกินครึ่งคงตอบว่า อยากมาเห็นทะเลเมืองไทย เพราะทะเลไทยสวยที่สุดติดอันดับท็อปๆของโลก แต่เป็นที่น่าเสียดายนะครับ คนไทยหลายคน รวมทั้งตัวผมเองกลับมีโอกาสเที่ยวทะเลไทย โดยเฉพาะทะเลใต้ทางฝั่งอันดามันค่อนข้างน้อย อาจจะด้วยปัจจัยด้านงบประมาณ ซึ่งถ้าเป็นช่วงปกติโดยเฉพาะไฮซีซั่น งบประมาณสำหรับทริปเที่ยวทะเลใต้คงจะสูงพอๆกับไปเที่ยวต่างประเทศ ทำให้ช่วงที่ผ่านมา ผมแทบไม่มีโอกาสไปเยือนจังหวัดทางฝั่งอันดามันเลย
               
จนกระทั่งปีนี้มาเจอกับโควิด ทำให้รีสอร์ทและทัวร์หลายๆแห่งเริ่มลดราคา และหันมาจับตลาดคนไทยมากขึ้น ทำให้ผมได้มีโอกาสมาเยือนทะเลใต้ทางฝั่งนี้ สำหรับเกาะหลีเป๊ะเองก็เป็นอีกหนึ่งเกาะที่ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปซะที เพราะแพง และมีเวลาจำกัด พอมาทริปนี้ ในเมื่อมาหาดใหญ่ถึง 5 วัน ก็เลยขอจัดหลีเป๊ะซะ 3 วันไปเลย จะได้เที่ยวได้เต็มอิ่ม เป็นการชาร์จแบตให้กับตัวเองครับ

รู้จักกับเกาะหลีเป๊ะ

เกาะหลีเป๊ะ
 เป็นเกาะกลางทะเลอยู่ในเขตจังหวัดสตูล โดยอยู่ห่างจากแผ่นดินของจังหวัดสตูล 85 กิโลเมตร และอยู่ในเขตอำนาจการควบคุมของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ ถือเป็นเกาะที่อยู่สุดท้ายทางตอนใต้ของทะเลอันดามันของไทย เนื่องจากพื้นที่ถัดไปคือทะเลสากลที่เชื่อมกับทะเลของประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย


จุดเด่นของทางเกาะหลีเป๊ะ คือ ความเป็นธรรมชาติของปะการังรายล้อมรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มนวลขาวเหมือนแป้ง เกาะหลีเป๊ะ มีชายหาดที่สำคัญ ๆ อยู่ 4 หาด ได้แก่

- หาดบันดาหยา (หาดพัทยา) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะหลีเป๊ะ เป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปมากที่สุด

- หาดซันไรท์ อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะหลีเป๊ะ ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านชาวเล

- หาดซันเซ็ท อยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งหันหน้าเข้ารับแสงของพระอาทิตย์ ตามชื่อของหาด

ช่วงที่เหมาะสมสำหรับการไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะจะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนครับ ช่วงนี้จะเป็นช่วงไฮซีซั่น ทะเลสวย เหมาะแก่การดำน้ำ แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าที่พักก็จะแพงขึ้น ในทางกลับกัน ช่วงมรสุมตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงตุลาคม จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ทะเลจะไม่สวยเท่า บางเกาะอาจปิด แต่ก็มีข้อดีคือ ค่าใช้จ่ายจะถูกลงค่อนข้างมาก ใครจะไปก็ลองชั่งน้ำหนักดูตามสไตล์การเที่ยวของแต่ละคนนะครับ

แผนเที่ยว

 วันที่หนึ่ง
  • ออกเดินทางด้วยรถตู้จากหาดใหญ่ไปยังท่าเรือปากบารา
  • นั่งเรือจากท่าเรือปากบารา ไปยังเกาะหลีเป๊ะ ระหว่างทางแวะเที่ยวเกาะตะรุเตา และเกาะไข่
  • เดินทางถึงเกาะหลีเป๊ะ/ เช็คอินเข้าที่พัก (A plus deluxe hotel)
  • ตอนเย็นเดินเล่นที่หาดบันดาหยา (หาดพัทยา) และ walking street
วันที่สอง
  • ทัวร์ดำน้ำรอบเกาะหลีเป๊ะ ทั้งโซนในและโซนนอก
  • ตอนเย็นเดินเล่นที่หาดบันดาหยา (หาดพัทยา) และ walking street
วันที่สาม
  • เดินทางกลับ
 

ที่พักบนเกาะหลีเป๊ะ

ตลอด 3 วัน 2 คืนของผมเกาะหลีเป๊ะ ผมพักที่ A Plus Deluxe Hotel ในราคาคืนละ 950 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า) ผ่านทาง booking ครับ (ราคานี้ถือว่าถูกแล้วนะ เมื่อเทียบกับที่พักอื่นๆบนเกาะ)

 

 
ข้อดีของที่นี่คือ แม้ว่าที่นี่จะไม่ติดหาด แต่ก็ทำเลดี เพราะติดกับ walking street และสามารถเดินไปหาดบันดาหยาได้ นอกจากนี้ยังสะอาด พนักงานบริการดี และมีร้านมินิมาร์ทที่ของราคาถูกกว่าเซเว่นบนเกาะอยู่ติดๆกับที่พักเลย ซึ่งถือว่า เหมาะกับคนที่อยากมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะแต่มีงบน้อยครับ
 

วันที่หนึ่ง

การเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะ

แม้ว่าเกาะหลีเป๊ะเป็นเกาะที่อยู่ในจังหวัดสตูล แต่การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะที่สะดวกที่สุดคือ ตั้งต้นจากหาดใหญ่ แล้วนั่งรถตู้ไปยัง ท่าเรือปากบารา ของจังหวัดสตูล ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นให้นั่งเรือสปีทโบ๊ทจากท่าเรือปากบาราไปยังเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งระยะเวลาการเดินทางในขั้นตอนนี้ จะใช้เวลามากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนจุดแวะของเรือในแต่ละรอบครับ

 
 

อ่านถึงตรงนี้ หลายคนคงคิดว่า เกาะหลีเป๊ะไปยากจัง ซึ่งมันก็จริงครับ แต่ก็มีบริษัททัวร์หลายแห่งทำแพคเกจรถรับส่ง+เรือ และอาจจะบวกที่พักและทริปดำน้ำเข้าไปด้วย ซึ่งก็จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เรา ไม่ต้องไปหาตั๋ว หรือมีปัญหาเรือการต่อรถต่อเรือให้วุ่นวาย สำหรับทริปนี้ ผมซื้อแพคเกจรถรับส่ง+เรือ จาก Be Nice Lipe travel Thailand ซึ่งเป็นราคาไปกลับระหว่างหาดใหญ่กับเกาะหลีเป๊ะ 1,100 บาทครับ (ราคานี้ลดลงมาแล้วนะครับ ก่อนหน้านี้แพงกว่านี้อีก)

ถ้าใครสนใจจองแพคเกจรถรับส่ง+เรือ สามารถสอบถามกับ Be Nice Lipe Travel Thailand ได้ที่เพจนี้เลยครับ https://www.facebook.com/BeNiceLipeTravelThailand/


เลือกเรือรอบไหนดี

ถ้าเป็นช่วงปกติ เรือจะมีอยู่ด้วยกัน 4 รอบคือ 9.30, 11.30, 13.30 และ 15.30 น. แต่สำหรับทริปนี้ ผมเลือกเรือรอบ 11.30 น.ครับ เพราะถ้าขึ้นเรือรอบนิ้ เราจะได้แวะเที่ยว เกาะตะรุเตา และ เกาะไข่ ด้วย (ถ้าเลือกเรือรอบอื่นจะไม่ได้แวะทั้งสองเกาะนี้ หรืออาจจะแวะแค่เกาะไข่ครับ) 

อย่างไรก็ตาม ถ้าใครอยากขึ้นเรือรอบนี้จริงๆ ผมแนะนำให้คืนก่อนหน้านอนที่หาดใหญ่ หรือไม่ก็ต้องขึ้นเครื่องจากกรุงเทพไม่เกิน 8 โมงเช้าครับ ไม่งั้นไม่ทันแน่


บัตรเข้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา

เนื่องจากเกาะหลีเป๊ะ รวมทั้งเกาะรอบๆตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ดังนั้น เราจึงต้องซื้อบัตรเข้าอุทยาน 40 บาท และต้องเก็บบัตรนี้ไว้กับตัวตลอดเวลาที่เที่ยวที่นี่ เผื่อเจ้าหน้าที่จะตรวจ 


แวะเที่ยวที่เกาะตะรุเตา

ถ้าขึ้นเรือรอบ 11.30 น. เราจะได้แวะที่นี่ประมาณ 15 นาทีครับ

 

กาะตะรุเตาเป็นเกาะหลักและเกาะที่ใหญ่ที่สุดของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา อยู่ระหว่างเกาะหลีเป๊ะกับท่าเรือปากบารา และอยู่ห่างจาก เกาะลังกาวี ของประเทศมาเลเซียเพียง 4 กิโลเมตร
 
คำว่า "ตะรุเตา" เพี้ยนมาจากคำในภาษามลายูว่า ตือโละตาวาร์ (Teluk Tawar) แปลว่า "อ่าวจืด" หรือ "อ่าวน้ำจืด" เพราะบนเกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่เดียวที่มีธารน้ำจืดอยู่ด้วย ทำให้ในอดีตเกาะตะรุเตา ถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษโดยเฉพาะนักโทษการเมือง ทั้งจากคดีกบฏบวรเดช และกบฏนายสิบ ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เกาะตะรุเตาถูกตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่ ทำให้เกิดการขาดแคลนทั้งอาหารและยา เรื่องราวในช่วงนี้เคยถูกนำไปสร้างเป็นหนังชื่อว่า นรกตะรุเตา ที่มี คุณสมบัติ เมทะนี เล่นเป็นพระเอกด้วยครับ
 

สิ่งที่น่าสนใจบนเกาะตะรุเตา ได้แก่

1. หมูป่า พระเอกคนสำคัญบนเกาะนี้


2. ศาลเจ้าพ่อเกาะตะรุเตา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2524 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เจ้าหน้าที่ ที่เคยปฏิบัติหน้าที่ต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายจนเสียชีวิต
 



3. หาดทรายขาว น้ำทะเลใสแจ๋ว
 



แวะเที่ยวที่เกาะไข่

ไฮไลท์ของเกาะนี้คือ ซุ้มประตูเกาะไข่ เปรียบเสมือนว่า เป็นประตูสู่เกาะหลีเป๊ะครับ

 



 
มีความเชื่อว่าคู่รักคู่ใดได้ลอดซุ้มประตูหินนี้จะสมหวังในความรัก และครองคู่กันอย่างมีความสุข มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง 
 

นอกเหนือจากซุ้มประตู ไฮไลท์ของเกาะนี้ก็คงเป็น หาดทรายขาวสะอาด ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า ที่ใครมาที่นี่ก็ต้องแวะถ่ายรูปกัน
 



 
เรือของเราออกจากท่าเรือปากบาราตอน 11.30 น. จากนั้นก็แวะเที่ยวเกาะตะรุเตาและเกาะไข่ แล้วจึงมาส่งที่ท่าเรือบนเกาะหลีเป๊ะ ตอนประมาณบ่ายสองครับ โดยท่าเรือบนเกาะหลีเป๊ะจะอยู่ที่ หาดบันดาหยา (หลายคนเรียกว่า หาดพัทยา) ใกล้ๆกับ ถนนคนเดิน (walking street) บนเกาะหลีเป๊ะ จากตรงนี้ เราสามารถเดินไปที่โรงแรม หรือนั่งรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ให้ไปส่งที่โรงแรมได้เลยครับ


หลังจากเข้าที่พัก ผมพักผ่อนคลายเหนื่อยจากการเดินทาง พอถึงตอนเย็นๆก็ออกมาเดินเล่นตรง walking street และหาดบันดาหยา จากนั้นก็หาอาหารเย็นทานที่ร้านอาหารฮาลาลชื่อว่า ศรีหลีเป๊ะ 
 

 
โดยรวมผมชอบร้านนี้นะ อาหารทะเลสด อร่อย ราคาก็เป็นไปตามมาตรฐานเกาะหลีเป๊ะ 
 

พอทานอาหารเสร็จ ผมก็เดินเล่นอีกนิดหน่อย แล้วก็กลับที่พัก พักผ่อนเตรียมตัวสำหรับทริปดำน้ำในวันรุ่งขึ้นครับ

สำหรับรีวิวในตอนนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะครับ ในตอนหน้า ผมจะมารีวิวทัวร์ดำน้ำรอบเกาะหลีเป๊ะ ยังไงฝากติดตามกันต่อด้วยนะครับ 

บล็อกอื่นที่เกี่ยวข้อง



Create Date : 09 กันยายน 2564
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2566 23:14:36 น. 1 comments
Counter : 1886 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณKavanich96


 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 10 กันยายน 2564 เวลา:8:13:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจ้าสำนักคันฉ่องวารี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




ชอบท่องเที่ยว สนใจประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และการเมืองระหว่างประเทศ

Blog นี้จะใช้เขียนความทรงจำในการเดินทาง และวิธีการเดินทางอย่างละเอียด เผื่อใครจะมาตามรอย หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

ถ้าชอบ blog เนื้อหาประมาณนี้ ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เจ้าสำนักคันฉ่องวารี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.