Daily Strategy - บล.กสิกรไทย
Daily View ปรับฐานก่อนสงกรานต์แต่คงไม่มาก แนะนำสะสมหุ้น
Market catalysts เศรษฐกิจ: อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมี.ค. 52 อยู่ที่ 0.2% YoY โดยเป็นการติดลบติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 จากที่ลดลง 0.1% YoY ในเดือนกุมภาพันธ์ ในด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่1.5% YoY ต่ำลงจาก 1.8% ในเดือนก่อนหน้า สำหรับในช่วงไตรมาสที่ 1/52 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.3% และ 1.7% ตามลำดับ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงมีตัวเลขติดลบที่รุนแรงขึ้นในช่วงเดือนเม.ย.ไปจนถึงเดือนก.ค. เนื่องจากผลของฐานเปรียบเทียบที่สูงอย่างมากในปีก่อน ดังนั้นเราคาดว่าธปท.ยังสามารถใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงได้อีก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามปัจจัยดังกล่าวคงมีผลกระทบจำกัดต่อตลาดหุ้น เศรษฐกิจ: วันนี้จะมีการประชุม G20 ซึ่งข่าวที่ออกมาจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น โดยจะเป็นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเจรจาเรื่องการกีดกันทางการค้าเป็นหลัก รวมถึงการปฏิวัติกฎควบคุมระบบสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกต่างๆ ได้รับรู้ไปพอสมควรแล้วเนื่องจากผู้นำในแต่ละประเทศได้ออกมาเปิดเผยไปมากพอสมควร อีกทั้งมาตรการที่จะออกมาโดย G20 คงเป็นการหวังผลถึงการฟื้นตัวในระยะยาว อย่างไรก็ตามมีคำขู่จากประเทศฝรั่งเศสและเยอรมันว่าจะไม่รวมประชุมครั้งนี้ หากข้อเสนอของทั้ง 2 ประเทศไม่ได้รับการสนับสนุน แต่เราเชื่อว่าไม่น่าเกิดขึ้น กลุ่มพลังงานทดแทน: ประเทศญี่ปุ่นเตรียมประกาศให้ใช้เอทานอลเติมในน้ำมัน 3% หรือ E3 ในวันที่ 26 เม.ย. ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะเป็นผลดีต่อ KSL เนื่องจากผู้ประกอบการไทยจะได้เปรียบประเทศบราซิลเนื่องจากค่าขนส่งที่ถูกกว่า เรายังมอง KSL เป็นหุ้นน่าลงทุนระยะยาว ราคาพื้นฐาน 7.0 บาท แต่มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น กลุ่มสื่อสาร: ที่ประชุมบอร์ดกทช. ให้กลับไปทบทวนผลการศึกษาการออกใบอนุญาต 3 G ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงจากเดิม ซึ่งยังมองเหมือนเดิมว่าโอกาสในการเกิด 3G ยังเป็นไปได้ยาก ซึ่งจะกระทบต่อกลุ่มสื่อสาร อย่างไรก็ตามหากไม่มี 3G ADVANC จะเป็นบริษัทที่คาดว่าจะรายงานกำไรออกมาดีที่สุดในกลุ่ม กลุ่มรับเหมาฯ: รฟม. ยังไม่สรุปราคารถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 1 กับทาง CK โดยรอเจรจาใหม่ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจมีผลในเชิงลบระยะสั้นต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมา อย่างไรก็ตามเรามั่นใจว่าในที่สุดจะได้ข้อสรุป และเริ่มประมูลสัญญาที่ 2 และ 3 ต่อไป อีกทั้งในปีนี้จะมีการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอีกสาย หลังจากไจก้าอนุมัติปล่อยกู้แล้ว ดังนั้นเรายังมองถึงการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มนี้ในระยะยาว ดังนั้นแนะนำ Overweight โดยมี STEC เป็นTop pick กลุ่มเดินเรือ: ค่าระวางเรือปรับลดลง 41 จุด เป็น 1574 จุด ลดลงเป็นวันที่ 16 ติดต่อกัน ราคาน้ำมัน: น้ำมัน Nymex ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1.27USD/bbl ปิดที่ USD48.39/bbl ตัวเลขสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้นเกินคาด ตลาด DJ: ตลาดหุ้น DJ ปรับเพิ่มขึ้น 152.68 จุด ปิดที่ 7761.60 จุด ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.1%MoM ดีกว่านักวิเคราะห์คาดและดีขึ้นกว่าการปรับลดลง 7.7% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ ISM ภาคการผลิตเดือนมี.ค.ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก.พ. นอกจากนั้น GM และ FORD รายงานยอดขายรถยนต์เดือนมี.ค.ลดลง 45% YoY และ 41% YoY ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด อย่างไรก็ตาม ADP รายงานคนตกงานเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 742,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่คาดที่ 663,000 ตำแหน่ง กลยุทธ์การลงทุนหุ้นปันผล: ยังแนะนำเก็งกำไรหุ้นปันผลที่น่าสนใจมี HTECH SIS AKR CSL HMPRO และขายก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD โดยวันนี้ขาย GFPT PTL
Today reports
TTW: ขาย สหภาพแรงงานได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการปปช. ของรัฐสภาเพื่อพิจารณาว่าสัญญาที่ TTW ทำกับการประปาจะเข้าข่ายต้องเข้าพ.ร.บ. ร่วมทุนหรือไม่ แม้ว่ากฤษฎีการเคยตีความว่าไม่เข้าก็ตามเนื่องจากมีการยกเรื่องขึ้นมาว่าข้อมูลที่กฤษฎีการเคยใช้ตีความในตอนนั้น กับข้อมูลในปัจจุบันไม่เหมือนกัน ซึ่งประเด็นข่าวนี้จะเป็นลบต่อ TTW มาก เนื่องจากปัจจุบัน TTW ขายน้ำให้กับการประปาในราคา 23.55 บาทต่อลูกบาศก์เมตร แต่การประปาขายให้กับผู้ใช้ที่เฉลี่ยประมาณ 10-15บาทต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากสัญญามีปัญหาจริง และต้องมีการตกลงราคากันใหม่ กำไรของ TTW จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยหากราคาขายลดลงเหลือเพียง 11.49 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ ประปาปทุมฯ ขายให้กับการประปา กำไรของ TTW จะลดลงเหลือเพียงประมาณ 400 ล้านบาทจากเดิม 1700 ล้านบาท และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ได้ข้อสรุปในระยะสั้นแน่นอน โดยในกรณีของ EASTW ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ก็ยืดเยื้อเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว ดังนั้นแนะนำให้ขายออกไปซื้อหุ้นในกลุ่ม Utility อื่นๆ เช่น GLOW RATCH
SAT: ปรับคำแนะนำลง เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 52 ของ SAT ลง 52% เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับยอดการผลิตรถยนต์ที่คาดว่าจะลดลง 30% เหลือเพียง 0.99 ล้านคันเท่านั้น ตามการลดกำลังการผลิตของค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ทั่วโลก ขณะที่อัตรากำลังการผลิตของ SAT ปัจจุบันลดลงมาเหลือเพียง 55% จากปีที่แล้วอยู่ที่ 86% ดังนั้นเราปรับคำแนะนำลงเป็น Neutral จาก ซื้อ
AOT: ภาพไม่ดีเท่า THAI แนะนำ Neutral แนวโน้มของ AOT ไม่ชัดเจนเท่ากับของ THAI ทั้งในแง่ของการลงทุนในสุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งมีความเห็นไม่ตรงกันระหว่างกระทรวงการคลังและคมนาคม ถึงแผนการขยายสนามบินและเงินลงทุนที่ใช้ และรวมถึงค่าใช้จ่ายชดเชยผู้ได้รับเสียหายจากมลภาวะด้านเสียงที่ AOT ต้องรับผิดชอบมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังต้องลดค่าเช่าในสนามบิน 10% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ดังนั้นเรายังคงแนะนำ Neutral
Stocks News SCIB: (ข่าวหุ้น) ธนาคารเตรียมยื่นประมูลรัฐวิสาหกิจ 2 แสนล้านบาท หวังได้แชร์ 2 หมื่นล้านบาท รับแม้ได้ส่วนต่างดอกเบี้ยเพียง 1% เหตุรัฐค้ำประกันความเสี่ยงไม่เกิด ส่วนนโยบายปีนี้ธนาคารเน้นรายย่อยหลัง 2 เดือนตัวเลขสินเชื่อที่อยู่อาศัยโตเกินเป้า IRPC: (ข่าวหุ้น) ผู้บริหารเตรียมเปิด 2 โครงการใหม่เอชดีพีอีไปป์เกรด-เอบีเอสซีซีเอ็ม ต้นเม.ย.นี้ ส่วนผลประกอบไตรมาส 2 ยังคาดได้ยาก แต่ไตรมาสแรกออกมาดีแน่ TCAP: (กรุงเทพธุรกิจ) ธนาคารธนชาตเปิดเผยว่าในปีนี้ธนาคารพร้อมทำธุรกิจบัตรเครดิต หลังจากที่ธนาคารสโกเทียได้เข้ามาถือหุ้นและนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการทำธุรกิจดังกล่าว โดยธนาคารจะใช้ธุรกิจบัตรเครดิตในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ของธนาคาร SAT: (กรุงเทพธุรกิจ) บริษัทลดเป้ายอดขายปีนี้หด 35% ขณะที่กำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 16% จากปีที่แล้ว 20% ตามวิกฤติเศรษฐกิจโลก คาดครึ่งปีหลังการผลิตเริ่มฟื้น หลังค่ายรถยนต์ทยอยลดสต็อกเก่า เผยปีนี้รับออเดอร์มาเพิ่มกว่า 3 พันล้านบาท ประคองรายได้ระยะยาว QH: (ทันหุ้น) ผู้บริหารยืนยันปันผลสูงผลตอบแทนดีกว่า ฝากแบงก์ แม้ยอดขายไตรมาสแรกหดตัว 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลูกค้าตลาดบนไปได้ดี วางแผนเปิดโครงการใหม่ปีนี้ 8 โครงการมั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 11,000 ล้านบาท SC: (ข่าวหุ้น) บริษัทคงเป้ารายได้ปีนี้ 4,200 ล้านบาท โตกว่า 5% จากปีก่อน ส่วนยอดขายตั้งเป้าไว้ที่ 4,000-4,500 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิปีนี้คาดไม่ต่ำกว่า 16% พร้อมเปิดใหม่ 9 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท BCP: (ทันหุ้น) บริษัทเผยอยู่ระหว่างศึกษาแผนเพิ่มสภาพคล่องหุ้น หรือฟรีโฟลตคาดสรุปปลายเดือนเม.ย.นี้ พร้อมแย้มแจกหุ้นปันผลเป็นแนวทางที่ดี หากเป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้นก็พร้อมทำ ส่วนไตรมาส 1/52 คาดรายได้-กำไรดีกว่าไตรมาส 1/51 และไตรมาส 4/51 เหตุมีค่าการกลั่นที่สูงกว่ามีการทำเฮดจิ้งไว้ 40% อีกทั้งส่งออกน้ำมันเตาไปจีนได้ราคาที่ดี TRC: (ทันหุ้น) บริษัทเดินหน้าหาทางออกทำงานรวมกับพาร์ตเนอร์ "CLOUGH" ในประเทศไทยร่วมลงทุนหวังต่อยอดมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจในอนาคต ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 2,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนมีรายได้1,814 ล้านบาท เหตุ Backlog ในมือมีสูงถึง 1,500 ล้านบาท และจะรับรู้เข้ามามากกว่า 90% STAR: (ทันหุ้น) ผู้บริหารเผยงานแสดงสินค้าสุขภัณฑ์โลก ลูกค้าให้การตอบรับดี มีลูกค้ารายใหม่จากต่างประเทศเพิ่มอีกกว่า 4 ราย ตั้งเป้ารายได้ปี 2552 โต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 230 ล้านบาท แม้เศรษฐกิจโลกตกต่ำ แต่ส่งออกยุโรปยังไปได้สวย
นักวิเคราะห์ : กวี ชูกิจเกษม Kavee.c@kasikornsecurities.com, +662 696-0030
โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 2 เม.ย. 2552
Create Date : 02 เมษายน 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 2 เมษายน 2552 10:35:29 น. |
Counter : 3751 Pageviews. |
|
 |
|