ซื้อทองรูปพรรณวูบลงเหลือ 10%สมาคมค้าทองหวังปลายปียอดกระเตื้อง
ทองรูปพรรณยอดขายวูบลดลงเหลือ 10% หลังผู้บริโภคเจอพิษเศรษฐกิจ ไม่มีเงินซื้อทองใส่ เพราะราคาพุ่งสูงและผันผวนหนัก แต่นักลงทุนแห่เก็งกำไรทองคำแท่งแทนนำเงินฝากธนาคาร นายกสมาคมค้าทองคำและเจ้าของร้านทองจินฮั่วเฮง ยอมรับสภาพกำไรขายทองลด คาดยอดกระเตื้องช่วงปลายปี ด้านร้านทองโต๊ะกังเยาวราช ปรับแผนผลิตทองรูปพรรณลดลง และเพิ่มสต๊อกทองแท่ง พร้อมระบุราคาทองคำอาจพุ่งถึง 950 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ และผู้บริหารร้านทองจินฮั้วเฮง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นและมีความผันผวนอย่างมาก ส่งผลให้กลุ่ม ทองคำรูปพรรณมีสัดส่วนยอดขายลดลงเหลือเพียง 10% จากสัดส่วนยอดขายที่มากถึง 90% ในช่วงก่อนที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นและมีความผันผวนเหมือนเช่นปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันยอดขายกว่า 90% เป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อทองคำแท่ง เพื่อเก็งกำไรจากราคาทองคำเป็นหลัก
"ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้คนประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งทองรูปพรรณคนที่จะซื้อก็เนื่องจากมีเงินเหลือ แต่ปัจจุบันคนซื้อจะเป็นกลุ่มที่เก็งกำไรและมาซื้อเฉพาะช่วงทองราคาลง แต่พอทองขึ้นราคาก็นำมาขาย ซึ่งทองคำแท่งถือว่ามีกำไรน้อยกว่าทองรูปพรรณ และทองรูปพรรณตอนนี้คงไม่มีการทำตลาดอะไร เพราะทำไปก็คงไม่เกิดประโยชน์ เนื่องจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อน้อย ส่วนการลดค่ากำเหน็จก็คงลดลงไม่ได้มากนัก เพราะจะทำให้ขาดทุนได้ ปัจจุบันค่ากำเหน็จเฉลี่ยอยู่ที่ 400 บาทต่อทองคำน้ำหนัก 1 บาท ซึ่งการซื้อขายจริงก็มีการลดลงบ้าง" นายจิตติ กล่าวและว่า
ในช่วงนี้ทางร้านทองคงต้องยอมรับกำไรที่ลดลงไปสักระยะหนึ่ง เพราะต้องรอให้สภาพเศรษฐกิจกลับฟื้นตัวให้มากกว่านี้ก่อน แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงปลายปีนี้ยอดการซื้อทองรูปพรรณน่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ในอัตรา 20-30% จากกลุ่มลูกค้าองค์กร หรือบริษัทต่างๆ ที่มักจะซื้อทองคำรูปพรรณเป็นสินค้าสำหรับแจกลูกค้า หรือพนักงานในบริษัท
ด้านนายวิชัย แสงเจริญตระกูล กรรมการผู้จัดการ ห้างทองโต๊ะกังเยาวราช กล่าวว่า ภาวะความผันผวนของราคาทองคำในระยะนี้ ส่งผลให้ยอดจำหน่ายทองคำรูปพรรณ ลดลงจาก 90% เหลือเพียง 10% เท่านั้น เพราะผู้ที่มาซื้อทองคำจะเน้นที่ทองคำแท่งเป็นหลัก และเป็นกลุ่มนักลงทุน ซึ่งเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่น้อยเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนจากราคาทองคำ ทำให้กลุ่มผู้มีเงินฝากในธนาคารหันมาซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร โดยมีการซื้อทองคำแท่งตั้งแต่ราคา 10 บาท จนถึง 200 บาท
สำหรับแนวทางการบริหารงานขายของห้างทองโต๊ะกังเยาวราชที่มีอยู่ 5 สาขาในปัจจุบัน คือการลดกำลังการผลิตทองรูปพรรณลง และมีการบริหารสต๊อกสินค้าด้วยการเก็บเป็นทองคำแท่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการที่ทองรูปพรรณจะกลับมามียอดขายเพิ่มขึ้นได้นั้น ราคาทองคำจะต้องอยู่ในระดับราคาบาทละ 12,000 -13,000 บาท หากสูงกว่านี้ผู้บริโภคจะไม่กล้าตัดสินใจซื้อ ส่วนใหญ่จะชะลอการซื้อเพื่อให้ราคาอยู่ในระดับดังกล่าว แต่หากจำเป็นต้องใช้เพื่องานพิธี เช่นงานแต่งงานก็อาจจะซื้อแต่จะลดจำนวนลงเท่าที่จำเป็น แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปียอดจำหน่ายทองรูปพรรณคงกลับมาสูงได้ในอัตรา 20-30% จากยอดลูกค้าองค์กร และบริษัท
"ราคาทองคำนับจากนี้จะเป็นอย่างไรคงบอกลำบาก แต่ประเมินว่าน่าจะปรับถึง 950 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ถ้ามีกองทุนเข้ามาซื้อ เพราะช่วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 17 กันยายน ราคาอยู่ที่ 770 ดอนลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ เพียงวันเดียวในวันที่ 18 กันยายนราคาก็กลับเพิ่มขึ้นถึง 100 ดอนลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ จึงเชื่อว่าราคาน่าจะปรับสูงขึ้นไปอีกด้วยสาเหตุสำคัญคือ ราคาทองมีการลดราคาลงมามาก ทำให้กองทุนเข้ามาช้อนซื้อ ปัญหาเรื่องความเสี่ยงของสถาบันการเงินที่ล้มละลาย และความต้องการทองคำในเอเชียเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ขณะที่เหมืองแร่ขุดทองคำได้ลดน้อยลง" นายวิชัย กล่าวในตอนท้าย--จบ--
ที่มา: //www.thannews.th.com
Create Date : 23 กันยายน 2551 |
Last Update : 23 กันยายน 2551 10:59:28 น. |
|
0 comments
|
Counter : 480 Pageviews. |
|
|
|
|
|