ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
เปิดหลักเกณฑ์คืนภาษี รถคันแรก ซื้อก่อนปี 49 ส้มหล่น!!!

เปิดหลักเกณฑ์คืนภาษี รถคันแรก ซื้อก่อนปี 49 ส้มหล่น!!!

ทันทีที่ มติ ครม.เมื่อวันที่ 13 กันยายน ไฟเขียวมาตรการคืนภาษีสรรพสามิตรถยนต์คันแรกไม่เกิน 1 แสนบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ก็ส่งผลให้ทั้งผู้ที่ฝันอยากจะมีรถคันแรกหลายคนถึงกับเฮ ที่จะได้รับสิทธิจากนโยบายนี้ ขณะที่ค่ายรถน้อยใหญ่ต่างก็ขานรับ และเร่งปรับกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายกันจ้าละหวั่น หลังจากก่อนหน้านี้นโยบายดังกล่าวยังสร้างความสับสนในรายละเอียด ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์เป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ใครจะเดินเข้าไปเลือกซื้อรถยนต์ เพื่อรับสิทธิ์คืนภาษีแล้ว ผู้ซื้อต้องตรวจสอบหลักเกณฑ์ของนโยบายนี้ให้แน่ชัดเสียก่อน เพื่อพิจารณาให้ดีว่า เราเข้าข่ายได้รับสิทธินี้หรือไม่ ซึ่งหลักเกณฑ์นโยบายรถคันแรก มีดังนี้

1. ต้องเป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อ

2. ต้องทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2554-31 ธันวาคม พ.ศ.2555

3. เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน

4. เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)

5.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)

6. คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน

7. ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

8. ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี หากผู้ซื้อรถไม่สามารถผ่อนต่อได้ หรือมีเหตุอย่างอื่น จะต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับให้กรมสรรพสามิต หากไม่ดำเนินการ ทางกรมสรรพสามิตจะใช้วิธีการทางศาล เพื่อให้สั่งให้คืนทะเบียนรถยนต์

9. การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปีไปแล้ว โดยจะเริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป ซึ่งกรมสรรพสามิตจะจ่ายผ่านทางเช็คเงินสดครั้งเดียวเต็มจำนวน

10. สามารถซื้อรถแบบเงินผ่อนผ่านไฟแนนซ์ หรือเงินสดก็ได้

11. รถมือสองไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ เนื่องจากรถมือสองไม่มีภาษีสรรพสามิตในการซื้อ-ขาย

สำหรับแนวทางการดำเนินงาน หลังจากซื้อรถยนต์ตามหลักเกณฑ์ข้างต้นในช่วงวันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2554-31 ธันวาคม พ.ศ.2555 แล้วนั้น ผู้ซื้อรถคันแรกต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

- หนังสือยินยอมสละสิทธิการโอนภายใน 5 ปี

- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ

- สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)

จากนั้นกรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ จะส่งหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิการโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ ก่อนที่กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน

เมื่อบันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ลงในคอมพิวเตอร์แล้ว กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด จะส่งหนังสือรับรองการครอบครองรถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ให้กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ เมื่อกรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว จะสั่งจ่ายเช็คเงินสดคืนให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบจากราคารถยนต์ และอัตราภาษีของรถยนต์ประเภทต่าง ๆ ในท้องตลาด เพื่อคิดเป็นสัดส่วนเงินภาษีที่จะได้รับคืน จะพบว่า

- รถอีโคคาร์ ราคาประมาณคันละ 3.75-5.4 แสนบาท เก็บภาษี 17% ผู้ซื้อจะได้รับเงินคืนเฉลี่ย 45,000 บาท

- รถยนต์นั่งขนาดเล็ก (ไม่เกิน 1,500 ซีซี) ราคาประมาณคันละ 5-7 แสนบาท เก็บภาษี 25% ผู้ซื้อจะได้รับเงินคืนสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

- รถกระบะ 2 ประตู ราคาประมาณคันละ 3-5 แสนบาท เก็บภาษี 3% ผู้ซื้อจะได้รับเงินเฉลี่ย 10,000 บาท

- รถกระบะ 4 ประตู ราคาประมาณคันละ 7-8 แสนบาท เก็บภาษี 12% ผู้ซื้อจะได้รับเงินคืนเฉลี่ย 60,000 บาท

โดยมาตรการการคืนเงินภาษีดังกล่าวนี้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มั่นใจว่าจะก่อให้เกิดผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้ทุกประเภท ทั้งภาษีรถยนต์ ภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นเงินที่มากกว่าจำนวนเงินที่จะต้องใช้คืนภาษีรถคันแรก โดยจะใช้งบประมาณราว 3 หมื่นล้านบาท และเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ยื่นจดทะเบียนซื้อรถยนต์คันแรกประมาณ 5 แสนคัน

อย่างไรก็ตาม รมช.คลัง ยอมรับว่า ยังไม่ได้หารือแนวทางการป้องกันการสวมสิทธิ์ แต่ก็จะขอร้องให้ผู้ที่จะมาสวมสิทธิ์แสดงความเห็นใจบุคคลที่ยังไม่เคยมีรถยนต์เป็นของตัวเองด้วย

ขณะที่ นายเทียนโชติ จงพีร์เพียร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวถึงการดำเนินงานตามมาตรการรถคันแรก ว่า ทางกรมขนส่งทางบกจะเชื่อมโยงฐานข้อมูลรายชื่อการยื่นจดทะเบียนการครอบครองรถยนต์ไปยังกรมสรรพสามิต เพื่อตรวจสอบว่า ผู้ที่ยื่นขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีรถคันแรกเคยเป็นเจ้าของรถยนต์มาก่อนหรือไม่ หากพบว่ามีรายชื่ออยู่ก็จะถูกตัดสิทธิทันที

สำหรับโครงการนี้ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยอมรับว่า ยังมีปัญหาเรื่องฐานข้อมูลการยื่นจดทะเบียนรถยนต์ เพราะฐานข้อมูลมีบันทึกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ถึงปัจจุบันเท่านั้น แต่ช่วงก่อนหน้าปี พ.ศ.2549 ยังไม่ได้มีการเชื่อมฐานข้อมูลให้ออนไลน์ทั่วประเทศ ทำให้ฐานข้อมูลไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ดังนั้น อาจต้องยกประโยชน์ให้กับผู้ที่เคยยื่นจดทะเบียนซื้อรถยนต์ก่อนปี พ.ศ.2549 สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน


ที่มา
//hilight.kapook.com/view/62291


Create Date : 15 กันยายน 2554
Last Update : 15 กันยายน 2554 11:11:32 น. 0 comments
Counter : 772 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.