|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ขับรถในวันที่มีหมอกอย่างไรดี
หมอกลงจัด...ขับอย่างไร?
เข้าสู่ช่วงเทศกาลความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลายคนเลือกโอกาสที่มีวันหยุดยาวเดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัด โดยเฉพาะสถานที่ยอดฮิตทางภาคเหนือ หวังรับลมหนาวกันเต็มที่ ซึ่งการเดินทางบางครั้งก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงสภาพอากาศไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะช่วงหมอกลงจัดที่ทำให้วิสัยทัศน์การขับขี่แย่ลง
...ในการขับขี่รถเมื่อต้องวิ่งฝ่าหมอกในหน้าหนาว สิ่งที่ควรทำอย่างแรกคือ เปิดโคมไฟใหญ่ หรือไฟต่ำ เพื่อให้สามารถมองเห็นสภาพเส้นทางได้ชัดเจนขึ้น และทำให้รถคันอื่นที่แล่นสวนทางมามองเห็นได้ชัดเจน ในกรณีที่หมอกลงจัดมากๆ รถรุ่นใหม่ที่มีไฟตัดหมอกก็สามารถใช้ได้ อย่างไรก็ตามไฟตัดหมอกเป็นไฟที่ให้ความสว่างสูง สามารถส่องสว่างไปได้ไกล ดังนั้นหากเปิดใช้ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม แสงจากหลอดไฟตัดหมอกจะไปรบกวนสายตาผู้ที่ขับรถสวนทางมา ทำให้ตาพร่ามัว จึงมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้สูงกว่าปกติ ทั้งนี้ช่วงเวลาที่เหมาะจะเปิดใช้ไฟตัดหมอกอย่างปลอดภัยคือ ช่วงที่มีฝนตกปรอยๆหรือตกหนัก เพื่อให้รถที่สวนมามองเห็นอย่างชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้การขับรถขึ้นภูเขาสูงโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่มีหมอกหนามากกว่าปกติ ไฟตัดหมอกจะช่วยให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ดีขึ้น เนื่องจากไฟหน้าปกติของรถจะถูกพื้นน้ำสะท้อนออก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นผิวถนนได้อย่างชัดเจน ...ย้ำว่าไม่ควรใช้ไฟสูง เมื่อต้องวิ่งผ่านหมอกหนา เพราะจะยิ่งทำให้มองไม่เห็นทางข้างหน้าเพราะแสงไฟจะสะท้อนกับหมอกจนเกิดการฟุ้ง และทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ลดน้อยลงมาก นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฉุกเฉิน เพราะอาจทำให้ผู้ที่ขับตามมาเข้าใจสับสนได้ ว่าเป็นรถที่จอดอยู่ หรือหากไฟฉุกเฉินชำรุด ก็อาจจะทำให้การบอกสัญญาณผิดเพี้ยนไปได้
ขณะเดียวกันควรลดความเร็วของรถลงตามความเหมาะสม ให้เท่าที่สายตาของเราจะสามารถมองฝ่าหมอกไปได้ เพราะการขับรถฝ่าหมอกนั้น ทัศนวิสัยในการขับขี่จะลดลงอย่างมากอยู่แล้ว ทำให้ความสามารถในการตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ลดน้อยลงจากภาวะปกติ โดยเว้นระยะให้ห่างจากรถยนต์คันหน้ามากขึ้นจากการขับปกติ โดยเว้นระยะไม่น้อยกว่า 4 ช่วงตัวรถ ซึ่งจะเพิ่มระยะเวลาในการเบรกออกไปได้มากขึ้น นอกจากนี้ผู้ขับขี่ควรควบคุมความเร็วในการขับตามท้ายรถยนต์คันหน้าอย่างเหมาะสม โดยสังเกตจากไฟท้ายของรถยนต์คันหน้า จะทำให้สามารถขับรถฝ่าหมอกได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีจุดสังเกตเพิ่มขึ้นนั่นเอง และไม่ควรขับแซงหรือเปลี่ยนช่องทางการจราจรอย่างกะทันหัน การขับขี่ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นหรือมีหมอกลงนั้น อาจทำให้เกิดไอน้ำจับเป็นฝ้าที่กระจกรถยนต์ ซึ่งถ้าหากเป็นรถที่มีระบบไล่ฝ้าที่กระจกหลังก็สามารถใช้ได้ แต่หากกรณีที่ไม่มีหรือการเกิดฝ้าที่กระจกบานหน้าและด้านข้าง วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือการลดความเย็นของระบบปรับอากาศลง แต่หากฝ้าที่เกิดขึ้นไม่หาย ควรเปิดกระจกเล็กน้อยเพื่อให้อุณหภูมิภายในและภายนอกตัวรถปรับเข้าหากันได้เร็วขึ้น จะทำให้ฝ้าหายไปในที่สุด หากทำทุกวิธีที่บอกมาแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าขับรถลำบากเพราะหมอกยังลงหนามาก คำแนะนำสุดท้ายก็คือควรหาที่จอดพักริมทางในที่ปลอดภัย ไม่จอดข้างทางหรือบนไหล่ทาง ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ข้อมูล : บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย จำกัด ที่มา //www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9530000179285
Create Date : 31 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 31 ธันวาคม 2553 15:14:53 น. |
|
0 comments
|
Counter : 703 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]
|
แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
|
|
|
|
|
|
|
|