ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
30 ธันวาคม 2555
 
All Blogs
 
10 ต้นแบบน่าสนใจแห่งปี 2012

แม้จะไม่มีงานอย่าง แฟรงค์เฟิร์ต และ โตเกียว มอเตอร์โชว์ จัดแสดง แต่แค่งานเดียวอย่าง ปารีส มอเตอร์โชว์ บวกกับงานประจำปีอย่าง เจนีวา มอเตอร์โชว์ ที่มีขึ้นเมื่อต้นเดือนมีนาคม ตรงนี้ถือว่าเอาอยู่ในเชิงการตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของผู้บริโภคทั่วโลกในเรื่องของสีสันและความน่าตื่นตาตื่นใจของรถยนต์ต้นแบบ

และนี่คือ ตอนแรกของบทความ 10 รถยนต์ต้นแบบคันเด่นที่ทาง ASTV ผู้จัดการออนไลน์ คัดเลือกและนำเสนอในฐานะคอนเซ็ปต์คาร์ที่โดดเด่นในช่วงปีนี้ โดยนอกจากจะเน้นไปที่ความน่าตื่นตาตื่นใจของการออกแบบและเทคโนโลยีแล้ว ทีมงานยังสนใจเรื่องประเด็นข่าวที่เกิดขึ้นกับตัวรถ โดยเฉพาะโอกาสที่คนทั่วไปจะได้สัมผัส อาจจะทั้งคัน หรือเพียงแค่บางส่วนผ่านทางงานออกแบบ





Nissan Invitation : อาจจะไม่ได้สร้างความฮือฮาอะไรมากในเชิงความเร้าใจทางสายตาเหมือนกับรถยนต์ต้นแบบรุ่นอื่นๆ แต่เหตุผลที่เราเลือก Invitation ของนิสสันให้ติดอยู่ในปีนี้เป็นเพราะนี่คือร่างจำแลงของการกลับมาสู่การทำตลาดรถยนต์คอมแพ็กต์หรือ B-Car อย่างเป็นทางการของนิสสัน

ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่สิ้นยุคของอัลมีรา ตลาดเก๋งของนิสสันในยุโรปแทบจะไม่มีอะไรที่เรียกว่าเป็นความชัดเจนในการทำตลาดเลย นอกจากไมครา หรือมาร์ช ขณะที่ตลาด B และ C Car ถูกปล่อยให้ร้างสนามมานาน เพราะการเปลี่ยนแนวคิดในการนำพวกครอสโอเวอร์อย่างจู๊ค และแคชไคเข้ามาสร้างความแปลกใหม่ ซึ่งก็เรียกว่าได้ผลแบบพอสมควร

อย่างไรก็ตาม นิสสันยอมรับว่าถึงเวลาที่จะต้องกลับมาทำตลาดเก๋งแท้ๆ อีกครั้ง และ Invitation คือ ร่างต้นแบบของว่าที่ B-Car คันใหม่ของนิสสัน โดยจะมาในสไตล์แฮทช์แบ็กมาดสปอร์ต และจะเป็นคู่ปรับโดยตรงของฟอร์ด เฟียสตา, ฮอนด้า ฟิต และเปอโยต์ 208 อย่างเป็นทางการ






McLaren P1 : ว่าที่ Halo Car ของค่ายแม็คลาเรน ซึ่งหลังจากเปิดตัวก็มีการยืนยันว่าจะผลิตจากต้นแบบให้เป็นรุ่นจำหน่ายจริงแน่นอน และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ โปรเซส ใช้เวลาเพียงแค่ 12 เดือนเท่านั้น นั่นเท่ากับว่าไม่เกินต้นปี 2014 แม็คลาเรน P1 จะต้องวางขายอยู่บนท้องตลาด

P1 จะเป็นการสืบทอดตำนานความเร้าใจของรุ่น F1 ที่เคยทำเอาไว้ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 เพื่อสร้างความโดดเด่นบนท้องถนนอีกครั้ง โดย P1 จะถูกจัดอยู่ในคลาสเดียวกับสปอร์ตตัวแรงที่เป็นท็อปเอนด์ของตลาด โดยแม้ว่าพื้นฐานของตัวรถจะใช้ร่วมกับ MP4-12C แต่ก็มีการปรับรายละเอียดของตัวรถกันขนานใหญ่ เพื่อให้เป็นที่สุดของความเร้าใจ โดยเฉพาะในแง่ของการออกแบบ รวมถึงเทคโนยียานยนต์ซึ่งแม็คลาเรนได้นำประสบการณ์ในสนามแข่ง F1 ที่มีร่วม 50 ปีมากลั่นกรองทางด้านความคิดเพื่อนำมาใช้งานอย่างเต็มที่

ในแง่ของสมรรถนะการขับเคลื่อน หน้าที่หลักยังเป็นเครื่องยนต์วี8 เทอร์โบคู่ของ MP4-12C แต่มีการปรับเซ็ตในด้านการตอบสนองของกำลังขับเคลื่อน และมีการนำแนวคิด KERS ซึ่งใช้อยู่ใน F1 มาใช้บนท้องถนนด้วย โดยระบบนี้จะคล้ายกับการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่เหมือนกับรถยนต์ไฮบริด และเมื่อชาร์จจนเต็มและต้องการใช้ ก็กดปุ่มให้ระบบส่งกระแสไฟฟ้าเข้าสู่มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในการช่วยขับเคลื่อนในระยะทางสั้นๆ ซึ่งว่ากันว่าตัวเลขแรงม้าของ P1 ขณะที่ระบบ KERS ทำงานจะสูงถึง 900 แรงม้าเลยทีเดียว






Audi Crosslane Concept : ความน่าสนใจของครอสส์เลนนอกจากจะอยู่ที่รูปทรงในแบบเอสยูวี 3 ประตู ซึ่งสามารถเปิดประทุนได้แล้ว ยังอยู่กับประเด็นข่าวที่ว่า ออดี้ตัดสินใจยุติโครงการผลิตรถสปอร์ตและเป็นการปัดฝุ่นชื่อ ควอตโตร กลับมาอีกครั้งเอาไว้ก่อน และมาทุ่มเทกับการผลิต Crosslane ให้เป็นจริงขึ้นมา

ตัวรถได้รับการพัฒนาบนโครงสร้างตัวถังแบบ ASF หรือ Audi Space Frame อันเลื่องชื่อของออดี้ในการนำอะลูมิเนียมมาผลิตโครงสร้างตัวถัง โดยคันต้นแบบมากับความยาว 4.21 เมตร และระยะฐานล้อ 2.56 เมตร ซึ่งถ้าขายจริง และไม่ได้เป็นพวกเอสยูวีระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ผลิตน้อยแล้ว Crosslane จะทำตลาดแทรกกลางระหว่าง Q3
และ Q5

สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้ในการขับเคลื่อนเป็นเรื่องของระบบไฮบริด ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน TFSI 3 สูบ 1,500 ซีซี 130 แรงม้า กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยมอเตอร์ไฟฟ้าตัวแรกจะทำหน้าที่ช่วยเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน ส่วนตัวที่ 2 จะรับหน้าที่ขับเคลื่อนเดี่ยวๆ ในโหมด EV ซึ่งเมื่อแบตเตอรี่ชาร์จจนเต็ม Crosslane จะแล่นในโหมด EV ทำระยะทางได้ถึง 55 กิโลเมตรเลยทีเดียว

ฟังแล้วน่าทึ่ง แต่คิดว่าเมื่อเป็นคันจริงในการทำตลาด เราคงจะไม่ได้สัมผัสกับเทคโนโลยีนี้อย่างแน่นอน






Rinspeed Dock+Go : รินสปีด บริษัทผลิตชุดแต่งของสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นเจ้าไอเดียในการคิดค้นต้นแบบอยู่เสมอ และในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ ของทุกปีพวกเขาก็มาร่วมแชร์ความน่าตื่นตาตื่นใจในการนำเสนอต้นแบบรุ่นใหม่ๆ ให้คนทั่วโลกได้สัมผัสอยู่เสมอเป็นเวลาเกือบๆ จะ 20 ปีแล้ว และในปีนี้ก็เช่นเดียวกัน

จริงอยู่ที่ต้นแบบของรินสปีดในปีนี้จะออกแนวนำของที่มีขายอยู่แล้วในตลาดมาดัดแปลง แต่ก็เป็นการถ่ายทอดไอเดียอีกมุมที่น่าสนใจ เพราะว่าการดัดแปลงทำได้อย่างน่าสนใจ ซึ่ง Dock+Go ที่ได้รับการพัฒนาอยู่บนพื้นฐานของสมาร์ท ฟอร์ทู สามารถดัดแปลงรูปแบบการใช้งานได้อย่างหลากลาย

โดยจุดเด่นจะอยู่ที่ตัวถังพ่วงด้านท้าย ซึ่งมีให้เลือกเปลี่ยนได้ตามความต้องการไม่ว่าจะเป็นรถยนต์พลังไฟฟ้าที่สามารถขับได้นานขึ้น เพราะมีการบรรจุกแบตเตอรี่เอาไว้ที่ด้านหลัง หรือว่าจะเป็นปิกอัพแบบมีพื้นที่ใช้สอยด้านท้ายก็ได้

ซึ่งการใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก แค่เสียบซ้อกเก็ตของสายไฟตามที่ระบุเอาไว้ และนำตัวถังพ่วงเสียบเข้าไปที่ด้านท้ายของตัวรถ ก็จะได้สมาร์ท ฟอร์ทูแบบพร้อมใช้งานหลากหลายรูปแบบ

เป็นไอเดียที่น่าทึ่ง แต่คงยากที่จะผลิตขายจริง






Bentley EXP9F : การเข้ามาอยู่ในเครือโฟล์คสวาเกนทำให้เบนท์ลีย์มีความได้เปรียบในการขยายตลาดด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งใช้เวลาในการทำงานที่รวดเร็ว เนื่องจากสามารถต่อยอดจากพื้นฐานทางวิศวกรรมของรถยนต์ที่มีอยู่ในเครือ และ EXP9F คือ การขยายออกสู่ตลาดที่เบนท์ลีย์ไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่ทว่าสามารถเดินหน้าลุยได้อย่างมั่นใจภายใต้การสนับสนุนทางวิศวกรรมจากเอสยูวีของโฟล์คสวาเกน, ออดี้ และปอร์เช่

EXP9F เป็น 1 ใน 2 เอสยูวีระดับหรูที่โฟล์คสวาเกนหวังส่งออกมาทำตลาด โดยอีกรุ่นจะทำตลาดผ่านทางแบรนด์ลัมบอร์กินี ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวออกมาทางเบนท์ลีย์คอนเฟิร์มว่าจะมีการผลิตออกสู่ตลาดเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเอสยูวีระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีแบรนด์ระดับหรูไหนทำ ยกเว้นแอสตัน มาร์ตินที่มีความเคลื่อนไหวมาก่อนหน้ากับโปรเจ็กต์ที่เป็นการปัดฝุ่นนำชื่อ ลากอนด้า กลับมาสู่ตลาด

ถ้าไม่โดนโรคเลื่อนเล่นงาน EX9F จะพร้อมเปิดตัวขายในปี 2015 เพียงแต่ว่าชื่อรุ่นยังไม่มีการยืนยันว่าจะใช้ชื่ออะไรในการทำตลาด






Benz G-Force Concept : ทีมงานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งโจทย์เอาไว้ว่า ‘หน้าตาของ G-Class ที่จะวางขายในปี 2025 จะเป็นอย่าง ? นี่ก็เลยเป็นที่มาของต้นแบบรุ่นนี้ ซึ่งใช้ชื่อว่า G-Force Concept หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็น G-Class แห่งอนาคตก็คงไม่ผิด

คอนเซ็ปต์ของต้นแบบรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานของนักออกแบบรุ่น หนุ่มของค่ายดาว 3 แฉกที่เข้าร่วมการประกวดงานออกแบบรถยนต์ที่จัดโดยสมาคมนักออกแบบและผู้ จัดงาน แอลเอ มอเตอร์โชว์ อย่างรายการ Los Angeles Design Challenge ซึ่งต้นแบบรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นจากผลงานที่ถูกส่งเข้าประกวดในปีนี้ ภายใต้หัวข้อที่ว่า "Highway Patrol Vehicle 2025" หรือหน้าตาของรถตรวจการณ์ในอีก 13 ปี จะเป็นอย่างไร ?

และนี่คือผลงานที่ถูกสานฝันจากแผ่นกระดาษให้กลายเป็นจริง โดยกลุ่มนักออกแบบจากศูนย์ Advanced Design Studio ที่เมือง Carlsbad มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตามไอเดียของทีมออกแบบที่เกิดขึ้น G-Force จะมากับตัวรถที่เน้นความสมบุกสมบันและมีกลิ่นอายการออกแบบของ G-Class เอาไว้ด้วย แต่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับการเป็นรถยนต์แห่งอนาคต

ทั้งหมดนี้เกิดจากไอเดียของนักออกแบบจากค่ายดาว 3 แฉกล้วนๆ แต่โอกาสที่จะกลายเป็นจริงได้หรือไม่นั้น คงต้องรอดูกันต่อไป






BMW Active Tourer Concept : ทันทีที่เปิดตัวออกมา หลายฝ่ายฟันธงเลยว่านี่คือ ว่าที่รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่นแรกของค่ายนี้ และดูเหมือนว่าข่าวก็น่าจะออกมาในทำนองนั้น เพราะ Active Tourer Concept จะถูกพัฒนาต่อเนื่องเพื่อเป็นรถยนต์ รุ่นขายจริง และว่าน่าจะเป็นรถยนต์ที่เป็นซับแบรนด์ใหม่ของ BMW เหมือนกับรหัส i

ต้นแบบรุ่นนี้พัฒนามาจากแพล็ตฟอร์มรุ่น UKL1 และเมื่อดูจากขนาดตัวถังที่มี ความยาว 4,350 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตรแล้ว คู่ปรับของ ATC คงหนีไม่พ้นบี-คลาสจากค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่หนีไปทำรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าตั้งแต่ปี 1997

คาดว่ารุ่นจำหน่ายจริงจะเปิดตัวออกมาในลักษณะเดียวกันกับตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตูทรงสูง เน้นความอเนกประสงค์ โดยเบาะนั่งหลังสามารถแยกพับในอัตราส่วน 40-20-40% ส่วนชื่อรุ่นยังเป็นปริศนา ยังไม่รู้ว่าจะใช้ชื่อว่าอะไร แต่บางกระแสก็อ้างว่าจะเป็นการแตกไลน์ของรหัสซีรีส์ 1 โดยใช้คำว่า GT ต่อท้ายเหมือนกับซีรีส์ 5 GT ที่เปิดตัวออกมาก่อนตัวถังซีดาน

รุ่นต้นแบบมากับเครื่องยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน ใช้ขุมพลังแบบ 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหน้า และมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อนล้อหลังเมื่อจำเป็น โดยทั้งระบบสามารถผลิตกำลังออกมาได้ 188 แรงม้า ใช้เวลาต่ำกว่า 8 วินาทีสำหรับการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง






Renault Alpine A110-50 Concept : ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อยสำหรับโปรเจ็กต์การหวนคืนสู่ตลาดของแบรนด์อัลไพน์ แต่อย่างน้อยการนำรถยนต์ต้นแบบที่ชื่อว่า A110-50 ออกมาแล่นโชว์ตัวในงาน FOS หรือ Festival of Speed ที่ Goodwood ประเทศอังกฤษ ถือว่าเป็นหลักฐานที่ดีในการช่วยให้นักข่าวตีความว่า โอกาสที่อัลไพน์จะคัมแบ็คตลาดมีสูงมาก

ในรุ่นต้นแบบคันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ วี6 3,500 ซีซี ที่วางอยู่กลางลำและมีกำลังสูงสุด 400 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 43 กก.-ม. ที่ 6,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ในแบบซีเควนเชียล โดยรายละเอียดทั้งการออกแบบภายนอกและภายในทำขึ้นในสไตล์รถแข่ง เพื่อเฉลิมฉลองอายุของสปอร์ตคลาสสิครุ่น A110 ที่ครบ 50 ปี

อัลไพน์ เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่ตั้งขึ้นโดย ฌอง เรเดเล่ เมื่อปี 1955 และมีการผลิตรถยนต์ออกมาขายหลายรุ่น โดยใช้เครื่องยนต์ของเรโนลต์เป็นขุมพลัง และในปี 1973 เรโนลต์ได้ซื้อกิจการของอัลไพน์เข้ามา ก่อนที่จะยุติการทำตลาดในอีก 18 ปีต่อมา แต่ด้วยชื่อชั้นที่ถูกใจนักเลงรถทั่วโลก ทำให้เรโนลต์กำลังจะนำชื่ออัลไพน์คืนสู่ตลาดรถสปอร์ตอีกครั้งด้วยการยกระดับตลาดและตีตราเป็นแบรนด์ซูเปอร์คาร์ไปเลย เหมือนกับที่มีแบรนด์ดาเซียทำตลาดรถยนต์ราคาประหยัด






TATA Megapixel : มีไม่บ่อยที่เราจะได้เห็นรถยนต์ต้นแบบจากค่ายทาทาบนเวทีมอเตอร์โชว์ระดับโลก และการเปิดตัวต้นแบบที่ชื่อว่าเมกะพิกเซลในงาน เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2012 ถือเป็นอีกขั้นของความพยายามในการที่จะยกระดับแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกให้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้นสิ่งที่น่าสนใจคือ เมกะพิกเซลถูกนำไปเชื่อมโยงกับการเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของนาโน รถยนต์ป้ายแดงที่มีราคาถูกที่สุดในโลกซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2008 ซึ่งเมื่อนับอายุอานามไปแล้ว ก็พอมีเหตุผล เพราะขายกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องดูกันว่าจะมีแนวโน้มเป็นจริงขนาดไหน

สำหรับต้นแบบรุ่นนี้เป็นการพัฒนาต่อเนื่องมาจากรุ่นพิกเซลที่เปิดตัวในปี 2011 และถ้าดูจากชื่อแล้วก็น่าจะพอบ่งบอกถึงระดับตลาดของแต่ละรุ่นว่าใครอยู่สูงกว่าใคร โดยเมกะพิกเซลเป็นแฮทข์แบ็กแบบ 5 ประตูซึ่งประตูบานหลังสไลด์เปิดได้ด้วยไฟฟ้า และมีความยาวตัวถังเกิน 3.5 เมตรมา 4 มม.

ในรุ่นต้นแบบขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี REEV หรือ range extended electric vehicle ซึ่งก็คือรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนแต่มีเครื่องยนต์ทำหน้าที่ชาร์จไฟ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้เป็นแบบฝังอยู่ที่ล้อ และแต่ละตัวมีกำลังสูงสุด 13 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ 0.3 ลิตรทำหน้าที่ชาร์จกระแสไฟฟ้า โดยน้ำมัน 1 ถัง (ไม่บอกว่าความจุเท่าไร) สามารถปั่นกระแสไฟฟ้าส่งให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าใช้ในการขับเคลื่อน รวมระยะทางได้ 900 กิโลเมตร






Acura NSX : ในที่สุดฮอนด้าก็ปัดฝุ่นนำแผนการพัฒนาตัวแทนของสปอร์ตรุ่น NSX กลับมาพิจารณาอีกครั้ง โดยคราวนี้ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง และเราคงจะได้เห็นคันจริงที่เป็นโฉมใหม่ของ NSX กลับมาโลดแล่นบนถนนในอีก 2-3 ปีนับจากนี้

ชื่อของ NSX เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในฐานะสปอร์ตญี่ปุ่นเครื่องยนต์วางกลางที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยเฉพาะการนำสิ่งที่ได้จากสนามแข่ง F1 มาใช้ในการพัฒนาตัวรถ ซึ่งฮอนด้าประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะผู้สนับสนุนเครื่องยนต์ให้กับทีมแม็คลาเรนในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 แถมยังได้ ไอร์ตัน เซนน่า แชมป์โลก 3 สมัยชาวบราซิลเข้ามีส่วนในการทดสอบและแสดงความคิดเห็นในการปรับปรุงสมรรถนะของตัวรถอีกด้วย

ในแง่ของตัวรถ NSX ใหม่ที่จะถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 จะคงเอกลักษณ์หลายอย่างเอาไว้ โดยเฉพาะการเป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำ พร้อมเครื่องยนต์วี6 แบบใหม่ติดตั้งระบบ Di หรือ Direct Injection ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางด้านเทคนิคออกมาอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ฮอนด้าจะยังยึดรูปแบบของ Production Version เหมือนกับตัวต้นแบบหรือไม่

เพราะถ้าคำตอบคือ ใช่ NSX ใหม่จะมาในรูปแบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งเป็นการใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบใหม่ที่ประยุกต์จากระบบ SH-AWD หรือ Super Handling All Wheel Drive ภายใต้การติดตั้งขุมพลังแบบไฮบริด เพราะระบบ SH-AWD ใหม่นี้จะมีการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มเข้าไปอีก 2 ตัวในการช่วยขับเคลื่อนเพลาขับด้านหน้าและหลัง เพื่อช่วยในแง่ของการเพิ่มสมรรถนะในด้านอัตราเร่ง และในทางกลับกันยังช่วยในแง่ของการยึดเกาะและการทรงตัวในรูปแบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ

และในปี 2015 เราน่าจะได้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้


ที่มา
- //www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9550000155838
- //www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9550000156368


Create Date : 30 ธันวาคม 2555
Last Update : 30 ธันวาคม 2555 11:54:55 น. 0 comments
Counter : 2107 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.