|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
First day in Macau (1/2)
วันนี้มารีวิวทริปมาเก๊า+ฮ่องกงค่ะ แซงโค้งทริปพม่ากันมาเลยเชียว
ทริปนี้เริ่มขึ้นตอนที่แอร์เอเชียมาโปร 0 บาทออกมาค่ะ เราก็ชวนน้องสาวไปเที่ยวมาเก๊ากันเถอะ จองวันที่ 5-8 พ.ย. 2552 ได้ตั๋วคนละประมาณสองพันห้า ก็สรุปจะไปกันสองคน แต่พอก่อนไปสักเดือนก็ชวนน้องติ้นผู้ผิดหวังจากทริปเกาหลีไปด้วยกัน โดยมีมิ้นต์ตามไปอีกคน (ได้ข่าวว่าตั๋วเครื่องบินราคาX2 ที่เราจ่ายไป T^T)
ก่อนเดินทางราวสองอาทิตย์ก็จองโรงแรมกันค่ะ โดยจะพักที่มาเก๊าคืนแรกกับคืนสุดท้าย และคืนที่สองไปพักที่ฮ่องกง ก็ดูไว้หลายโรงแรมสรุปสุดท้ายก็ใช้อะโกด้าจอง Emperor Hotel ที่มาเก๊า คืนแรกเป็นคืนวันพฤหัสฯ สองคนราคาราวๆ สองพันหกค่ะ ส่วนคืนสุดท้ายเป็นคืนวันเสาร์ราคาจะอัพแพงขึ้นมา (คืนศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ โรงแรมจะแพงกว่าวันธรรมดาค่ะ) สองคนตกห้องละสามพันกว่า (ห้องเดิมเลยด้วย) โรงแรมที่ฮ่องกงพักบนฝั่งเกาลูนบนถนนนาธานค่ะ ห้องละสองพันสี่โดยประมาณ (ถูกกว่ามาเก๊าล่ะ แต่สภาพก็สู้ที่มาเก๊าไม่ได้อ่ะน้า)
5 พ.ย. 2552
ทริปของเราเริ่มต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เครื่องออกเวลาเจ็ดโมงเช้า ขาไปไม่ดีเลย์เท่าไหร่นะคะ เดินทางถึงมาเก๊าตอนสิบโมงครึ่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่ง คนไทยเต็มลำเลย ป้าคนที่นั่งข้างๆ หนูอุ้มบอกว่าให้ไปเล่นคาสิโนที่วิน (Wynn) เพราะเราจะได้เงินที่นั่นค่ะ (ส่วนที่อื่นป้าบอกว่าไม่เคยเล่นได้เลย ฮา)
พอเครื่องลงก็ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอย่างสบายๆ มีตรวจเช็กอุณหภูมิความร้อนหาไข้หวัดสองพันเก้าด้วย ก่อนจะไปรอกระเป๋า และออกมายืนมึนกันแป๊บหนึ่งว่าจะทำไงดี แล้วเราก็ไปที่ tourist center ไปสอบถามถึงวิธีไปโรงแรม พนักงานบอกว่าให้นั่งรถบัส A1 ไปลงที่ท่าเรือเฟอร์รี่มาเก๊า แล้วนั่ง shuttle bus ของโรงแรม (ฟรี) ไปโรงแรมค่ะ พวกเราก็เลยเดินไปแลกเงินที่ธนาคารข้างๆ tourist center แลกเป็นแบงค์ย่อยและเศษเหรียญสำหรับขึ้นรถเมล์ เนื่องจากรถเมล์ที่นี่ใช้หยอดช่องเอา และไม่มีเงินทอน จ่ายขาดไม่ได้ แต่จ่ายเกินโอเค (ฮา) แลกเงินกันเรียบร้อยแล้วพวกเราก็พากันลากกระเป๋าเดินไปที่ป้ายรถเมล์ อ้อ ที่นี่ใช้เงินฮ่องกงกันได้เลยนะคะ ไม่ต้องใช้เงินมาเก๊าก็ได้ แต่เวลาได้ตังค์ทอนบางที่อาจจะทอนเป็นเงินมาเก๊า เพราะงั้นเวลาใช้ต้องดูให้ดีนะคะ
ตัวอย่างเงินฮ่องกง
แบงค์สิบกับเหรียญห้าค่ะ ถ่ายเพราะสีสวยดี
รถเมล์ของที่นี่คันเล็กมากค่ะ ค่ารถจากสนามบินไปเฟอร์รี่คนละ 4.2 เหรียญมาเก๊า (จ่ายเงินฮ่องกงได้) กระเป๋าใบใหญ่ที่จะเอาไปวางบนที่วางหลังคนขับต้องเสียใบละสามเหรียญค่ะ
ถ่ายภาพจากรถเมล์ระหว่างอยู่บนสะพานข้ามเกาะ
นั่งรถสักพักข้ามสะพานจากเกาะไทปามายังฝั่งมาเก๊าก็มาถึงท่าเรือเฟอร์รี่ (อยู่ใกล้สะพานข้ามเกาะเลย) ก็เดินหารถฟรีอยู่ มีรถจากหลายคาสิโนเลยค่ะ เราก็ไปถามของคาสิโนหนึ่งถึงโรงแรมของเรา คุณพี่ผู้หญิงทำหน้าเบื่อๆ บอกว่าก็ไปเดินๆ หาเอา เพราะไม่มีท่ารถจะจอดอยู่รอบนอก อย่างขำ แบ่งระดับกันมากมาย รอสักพักรถโรงแรมก็มาค่ะ (จะมีทุกครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่ 9.30-22.30 น.) เป็นรถคันเล็กๆ ก็ขึ้นไปนั่งสักพักรถก็ไปถึงโรงแรมค่ะ
*อันนี้เป็นทริก จริงๆ สามารถนั่งรถฟรีของคาสิโนไปโรงแรมก็ได้นะคะ เขาไม่เช็กอะไรเลย โรงแรมของเราใกล้กับ Holiday Inn กับ Lisbua สามารถนั่งไปได้เหมือนกัน แต่ตอนแรกไม่รู้อ่ะค่ะ ก็เลยรอรถโรงแรมตัวเอง
หนูอุ้มกับด้านหน้าของโรงแรม
โรงแรมโอเคมากค่ะ สภาพดีสมกับราคา ห้องพักก็โอเคเลย มีสองเตียง (ได้พักชั้น 16)
มองตรงเข้าไปจะเห็นม่านโปร่งๆ บังห้องน้ำอยู่ค่ะ เข้าไปตอนแรกกรี๊ดมาก ต้องอาบน้ำทั้งโป๊ๆ เหรอ ฮา แต่มีมูลี่ปิดจากข้างในนะคะ เพราะงั้นไม่ต้องกลัวโป๊
โซฟาสองตัวตรงมุมห้อง
ภายในห้องน้ำ มีอุปกรณ์อาบน้ำพร้อมสรรพ รวมทั้งแปรงสีฟันด้วย
ที่นี่มีน้ำเปล่าให้สองขวดเล็กๆ และมีชา กาแฟ กาต้มน้ำให้ครบเลยค่ะ
เก็บของเสร็จก็ดื่มกาแฟกันนิดหนึ่งก่อนจะออกไปตะลุยเมืองมาเก๊าค่ะ พวกเราตัดสินใจกันว่าจะเดินไปชมสถานที่ใกล้ๆ โรงแรมก่อน ไม่ต้องนั่งรถ แต่ก่อนอื่นก็ขอกินข้าวกลางวันกันก่อน ตรงใกล้ๆ กับโรงแรมจะมีร้านอาหารอยู่สามสี่ร้าน แต่พวกเราก็เดินไปเรื่อยๆ
โรงแรมลิสบัวระหว่างทางเดิน
หนูอุ้มกับตู้ไรไม่รู้สีแดงๆ
เดินจนเกือบถึงย่านท่องเที่ยวที่เรียกว่าจตุรัสเซนาโด้ พวกเราก็แวะเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เห็นทันที หลังจากที่เกือบจะตัดใจเข้าแม็คฯ หรือเคเอฟซีกันแล้ว
ดูเมนูภาษาอังกฤษกับรูป (คนขายพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย) พวกเราก็ตัดสินใจสั่งมาคนละจาน ระหว่างนั่งรอในร้าน
ชอบกาน้ำชาร้านนี้
ติ้นกับมิ้นต์
อาหารจานแรกที่สั่ง กิมจิมาแบบจานโตมากๆ รสชาติอร่อยดีค่ะ
จานนี้ของหนูอุ้มเป็นเส้น ใส่ไข่ เห็ดหูหนู และมะเขือเทศ อาหารฟิวชั่นมากมาย ดูมิกซ์ๆ ประหลาดดี
อันนี้ของเรา ข้าวผัดมาเป็นโถเลย อร่อยที่สุด
ของติ้นกับมิ้นต์ สั่งมาคนละชามที่ใหญ่โตมากๆ และมันมากๆ (เหมือนใส่น้ำพริกเผา)
กินกันไม่หมด (ของติ้นกับมิ้นต์) เพราะว่าไม่ค่อยอร่อย แต่ข้าวผัดเราอร่อยน้า จากนั้นก็คิดเงิน แล้วก็ลงมาจากร้านด้วยอาการอิ่มมาก หนูอุ้มยืนยัน
ดูจากแผนที่เราจะไปจตุรัสเซนาโด้ต่อ แต่เดินไปเดินมาดันหลังไปเจอตรงนี้ เป็นโบสถ์ที่มีสีสันสวยงามมากค่ะ
แล้วเราก็ไปหาแผนที่กัน
ดูไปดูมาไม่ไกลจากซากโบสถ์เซนต์พอลเท่าไหร่ ก็เลยดูแผนที่ในมือ (ได้มาจาก tourist center ที่สนามบิน) แล้วพุ่งตรงไป โดยดูชื่อถนนตามไปด้วย ชื่อถนนที่นี่เหมือนที่อิตาลีเลยค่ะ ติดอยู่ในระดับสายตาบนตึกตรงหัวมุมถนน แอบงงเล็กน้อย ฮา แต่ก็มีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ นะคะ
ถนนที่มาเก๊าขึ้นเนินบ้างนิดหน่อย เดินไม่ยาก (หรือเปล่า) เมื่อยขาบ้าง (เพราะเดินเยอะ) ถนนแคบๆ ค่ะ
ตึกสีสันสวยดี และกระเบื้องที่ปูพื้นก็สวย
เดินกันสักพัก เราก็เริ่มเห็นคนเยอะๆ ล่ะ โผล่มาข้างหลังซากโบสถ์เซนต์พอลนี่เอง
พวกเราก็เดินอ้อมไปถ่ายภาพด้านหน้ากันก่อน
แล้วก็เดินผ่านประตูเข้าไปดูข้างใน มีซากพื้นโบสถ์ให้ดูด้วย ต้องมองผ่านกระจกลงไปค่ะ
มีภาพอดีตให้ชมอยู่มุมหนึ่ง
โชคดีที่ไม่มีแดด อากาศเลยไม่ร้อนมาก เดินสบายๆ ด้านล่างสามารถเข้าชมได้ ทำเป็นคล้ายๆ พิพิธภัณฑ์นะคะ น่าจะเป็นสุสานเก่า เพราะเห็นโครงกระดูกหลายโครงเลย (ซ้อนอยู่เป็นชั้นๆ ในตู้กระจกด้านข้าง) ด้านในเย็นมาก เพราะมีแอร์ ฮา
จากนั้นเราก็ปีนบันไดขึ้นไปหลังซากปราสาท ถ่ายรูปลงมา
จากนั้นเราก็เดินไปทางขวามือเมื่อหันหน้าเข้าหาซากโบสถ์ ซึ่งเป็นกำแพงเก่า และด้านบนมีพิพิธภัฑณ์นะคะ ไต่บันไดขึ้นไป มีคนหอบ ฮา
ด้านไม้ข้างทาง
ซากกำแพงเมือง
ทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ไม่ได้เข้าชมค่ะ เพราะใกล้เวลาปิดแล้ว
ระหว่างทางเห็นคนจูงหมามาเดินเล่นเยอะมาก เจอเจ้าตัวนี้เดินอยู่ตัวเดียว น่ารักมาก อุ้มเลยถ่ายรูปด้วยซะเลย
ข้างบนมีปืนใหญ่ด้วยค่ะ และมีคนมือบอนเขียนข้อความไว้บนปืนใหญ่ด้วย เขียนว่าอะไรหว่า
วิวจากด้านบน
จากนั้นพวกเราก็พากันไต่บันไดลงมาค่ะ ไปยังซากโบสถ์อีกรอบ เพื่อถ่ายรูปเต็มๆ
พวกเราไม่ได้ไต่บันไดนะคะ เดินทางลาดเอา ไต่บันไดไม่ไหว ฮา
ตึกข้างๆ ซากโบสถ์สวยดี
บันไดสู้งสูง
ของที่ระลึกข้างทาง
ทางด้านหน้าที่ตรงไปยังซากโบสถ์มีร้านขายของเยอะมากค่ะ พวกเราก็เดินกันไปเรื่อยๆ ถ้าไม่อิ่มคงได้ชิมหมูแผ่นหนาๆ กันพุงกางเลยเชียว โดยเฉพาะทาร์ตไข่ (แต่เราว่ามันเป็นพายนะ) อยากกินแต่ไม่มีพื้นที่ว่างในกระเพาะแล้ว เจ้านี้สีสดมากค่ะ ทั้งร้านและคนซื้อ
มีคนอยากกินชาไข่มุก ก็เลยมีคนไปซื้อ ฮา
กุ๊กกิ๊ก
พรีเซนเตอร์
ร้านขายของข้างทาง มีคนอยากซื้อว่าวไปฝากหลาน
ในตึกอะไรสักอย่างระหว่างทาง
อุ้มรับพลังแสงอาทิตย์ที่หน้าโบสถ์
ตึกข้างทาง
นารายาของไทยมีทั้งที่มาเก๊าและฮ่องกงเลย
วันแรกยังไม่จบนะคะ เหลืออีกครึ่งหนึ่ง (ห้าสิบรูป >_<) เดี๋ยวมาอัพเพิ่มค่ะ (ยังไปไม่ได้ถึงเซนาโด้เลย ฮา)
เด็กทะเล 09.11.15
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2552 17:32:58 น. |
|
19 comments
|
Counter : 1263 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กุ้งก้ามกราม IP: 111.84.102.56 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:54:28 น. |
|
|
|
โดย: lily IP: 58.9.157.61 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:23:48 น. |
|
|
|
โดย: lily IP: 58.9.157.61 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:30:52 น. |
|
|
|
โดย: Emotion-P วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:09:12 น. |
|
|
|
โดย: นักรบ IP: 74.193.252.136 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:36:34 น. |
|
|
|
โดย: แมวเหมียวก้อย (neko-koy ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:13:48 น. |
|
|
|
โดย: nupaew วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:21:47 น. |
|
|
|
โดย: Clear Ice วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:52:19 น. |
|
|
|
โดย: ปุ้ม IP: 113.53.238.249 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:56:01 น. |
|
|
|
โดย: ปลายฝัน IP: 58.8.196.139 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:52:27 น. |
|
|
|
โดย: ColdOut วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:2:23:37 น. |
|
|
|
โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:09:35 น. |
|
|
|
โดย: น้องบุ๊ง IP: 125.25.213.143 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:29:36 น. |
|
|
|
โดย: ryoma19 IP: 202.12.73.6 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:34:22 น. |
|
|
|
โดย: เบลล์ IP: 203.144.144.165 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:58:18 น. |
|
|
|
โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:01:10 น. |
|
|
|
โดย: เบลล์ IP: 124.120.13.114 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:00:45 น. |
|
|
|
โดย: Masaomi IP: 124.122.223.66 วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:19:23:41 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ตอนใต้ Japan
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]
|
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์ โดยการนำรูปภาพ และบทความงานเขียน รวมทั้งข้อความต่างๆ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดในบล็อกแห่งนี้ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญติไว้สูงสุด
|
|
|
|
|
|
|