bloggang.com mainmenu search



9th April 2024



หลังค่ำคืนที่ฝนโปรยปราย 100 % ตลอดคืน เช้านั้นเราไม่หวังว่าฝนจะหยุดตกเมื่่อไหร่ ได้แต่เช็คตามเว็บแล้วปรับแพลนเป็นรายชั่วโมงไป
หลังเก็บกระเป๋าและเช็คเอาท์เรียบร้อยแล้ว เราลากกระเป๋าเดินไปที่สถานีวากะยามะชิ ราว 7 โมงกว่า ๆ เพื่อหาข้าวเช้าที่คอมบินิ และฝากกระเป๋าที่ coin locker เพราะเราต้องย้ายเข้าที่พักไปย่านใหม่กันเย็นนี้


เช็คเอาท์ กางร่มลากกระเป๋าไปสถานี
ลมแรงพัดเอาร่มหงาย คนก็หนาวสะท้านตามกระแสกันไป


ตื่นเช้าเพื่อเลี่ยงความแออัดบนรถไฟ แต่ก็ยังไม่วายเลี่ยงไม่ได้
เราเริ่มคุ้นชินกับสถานีวากะยามะชิ และเริ่มจับทิศทางเส้นทางที่จะไปยังที่ต่าง ๆ ได้บ้างในเช้าวันที่สองของการเยือนที่นี่ แพลนของวันนี้คือเยือนถิ่นทามะนายสถานีแมวชื่อดังของวากะยามะ 





Ichigodensha


เอาจริงทามะ คือไฮไลท์ของวันนี้
ด้วยความออกตัวแต่เช้าเลยต้องรอรถไฟแมวทามะนานเกือบชั่วโมง เราตัดสินใจไม่รอ 
รถไฟรอบแรกของวันนี้คือรถไฟสายสตอร์เบอร์รี่ ไปค่ะ นั่งสายนี้กัน
ค่าโดยสารตลอดสายจากสถานีวากะยามะชิ ถึง สถานีคิชิ 410 Yen สำหรับคนไม่ซื้อตั๋วทามะ  แต่ถ้าซื้อตั๋วลดไป 10 Yenค่ะ








































อากาศกลางคืน 8 องศา
แต่เช้านั้นที่สถานีคิชิ 10 องศา เป็นองศาหนาวเพราะลมแรง








ด้านหลังสถานีที่เราลงรถไฟ
มีศาลเจ้าทามะ ศาลเจ้าโอโมจจะ และศาลเจ้าอิจิโงะ อยู่ด้วยค่ะ
ตอนเสิร์ทจากกูเกิ้ลเหมือนไกล เอาจริง ๆ ลงรถไฟก็เจอเลย อยู่หลังสถานีแบบติด ๆ กันเลยล่ะค่ะ เราเก็บรูปเล็กน้อยก่อนจะไปหานายสถานีทามะกัน





เราถึงสถานีคิชิราว 8 โมงกว่า ๆ ยังเช้ามาก
และไม่มีนทท.เลย และแน่นอนนายสถานีทามะยังไม่มาทำงานจร้า


































Kishigawa Sightseeing Strawberry Picking Association


ที่สถานีเงียบมาก ไร้เงา นทท. เพราะนอกจากเราสาม พ่อ แม่ ลูกแล้ว
ก็ไม่มีใคร

เราคั่นเวลารอนายสถานีทามะ และรถไฟขากลับด้วยการไปเก็บสตอร์เบอร์รี่ในฟาร์มแล้วนั้น  เปิดกูเกิ้ลแมพแล้วเดินไม่ไกล แค่ 1.1 กม.เอง











ป้ายเตือนเด็ก ๆ ป้ายแรกที่เห็นที่เมืองนี้
มีความน่ารัก
































ราคารวม สามพ่อแม่ลูก  7480 Yen
หลังลดราคาให้โมเสสเป็นราคาเด็กมัธยมต้น เดิมทีราคาต้อง 8100 Yen / 2700 Yen ต่อคน

สามารถใช้เวลาที่ฟาร์มได้ถึง 2 ชั่วโมง
เราขอบคุณพระเจ้าที่ฝนหยุดตกเมื่อเราถึงสถานี และการเดินไปที่ฟาร์มสตอร์เบอร์รี่ก็ไม่มีฝนเลย มีแต่ลมแรงเท่านั้นที่ทักทายเราตลอดทางเดิน









เดินเท้ามาถึงฟาร์ม เราทักทายคนงานที่นั่น
พร้อมโชว์ตั๋ว และถามว่าใช่ฟาร์มนี้ไหมคะ เขาต้อนรับเรา และเรียกคุณป้าคนนึงมาดูแลรับช่วงต่อ



เมื่อเข้ามาข้างใน คุณป้าจะให้เรากดเจลแอลกอฮอลล์ล้างมือก่อน แล้วให้แก้วกระดาษเราคนละ 1 ใบ สอนวิธีเด็ดที่ถูกต้อง
เมื่อได้สตอร์เบอร์รี่แล้วนำไปล้างด้านนอก มีทิชชู่ให้เช็ด และแนะนำจุดทิ้งขยะ
















































































แม้ว่าจะมีเวลาให้เราเก็บรูป และเก็บสตอร์เบอร์รี่นานถึง 2 ชั่วโมง 
แต่เอาเข้าจริง ๆ เราสามคนใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมงก็ชิมและเก็บรูปอย่างหนำใจแล้วล่ะ




ได้เวลาลาฟาร์มสตอร์เบอร์รี่กัน
ขากลับเราเริ่มดื้อกับกูเกิ้ลแมพ ถ่างแผนที่แล้วเลือกที่จะเดินเส้นทางที่ดูแล้วสั้นกว่า ลัดตรอกซอกซอยแถวนั้นเดินทะลุเส้นเมนที่จะพากลับไปยังสถานีคาชิกัน


























ชอบเมืองนี้จัง
ป้ายเตือนอันตรายมีอยู่ทั่วไปตามข้างทางของถนนทุกเส้นในเมืองนี้












วากะยามะ มีมรดกโลกมากมาย
แต่เมืองหรือสถานที่ที่ไม่ได้ขึ้นลิสต์ก็มีอีกมาก เราเลือกเที่ยวเมืองเล็ก ๆ อย่างคิชิกาวะโจโคโดะเพราะนายสถานีทามะ แต่เราได้รับมากกว่าที่คาดไว้มากทั้งอากาศ บรรยากาศ สตอร์เบอร์รี่และซากุระ








ขอบคุณที่แวะมา

Create Date :19 พฤษภาคม 2567 Last Update :21 พฤษภาคม 2567 19:22:55 น. Counter : 166 Pageviews. Comments :0