"คุณผู้หญิง" จะทำอย่างไรเมื่อเจอโรคจิตคุกคามบนรถสาธารณะ ถ้าเจอแล้วจะทำอย่างไร ผู้หญิงหลายคนคงกำลังตั้งคำถาม ซึ่งยังคงไม่มีใครตอบ หลังจากข่าวที่ว่ามีชายโรคจิตแอบถ่ายหน้าอกหญิงสาวที่นั่งหลับบนรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ถูกมือดีซ้อนแผนถ่ายภาพชายโรคจิตรายนี้ประจาน ไทยรัฐออนไลน์ จึงหาคำตอบและวิธีจัดการมาให้คุณสาวๆ ไว้ใช้กัน....

ภาพชายคนหนึ่งกำลังใช้มือถือถ่ายภาพอัดคลิปวิดีโอสุภาพสตรีที่นั่งหลับอยู่ข้างๆและซูมไปที่หน้าอกของสุภาพสตรีรายนี้ บนรถไฟฟ้าใต้ดิน และมีผู้โดยสารรายอื่นเห็นเหตุการณ์และถ่ายภาพพฤติกรรมนั้นได้ แล้วนำมาลงโซเชียลมีเดียและมีการแชร์ การส่งต่อ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำและความปลอดภัยบนรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือจะเป็นรถโดยสารขนส่งมวลชนในรูปแบบอื่น

โดยก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะมีแต่ข่าวบนรถไฟฟ้าบีทีเอส อย่างถ่ายภาพใต้กระโปรงขณะขึ้นบันไดเลื่อน อย่างล่าสุดที่เป็นข่าวไปไม่กี่เดือนนี้ ชายคนหนึ่งไปสำเร็จความใคร่บนรถไฟฟ้าบีทีเอสใส่หญิงสาวที่ยืนข้างๆ โดยสาวเจ้าไม่รู้ตัว คิดว่าเป็นน้ำแกงหกใส่ขา จนถึงคิวรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่คราวนี้เรื่องดังกล่าวเป็นกระแสของสังคม จนทางบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL  ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็ออกมายอมรับว่า ภายในตัวโบกี้รถไฟฟ้าใต้ดิน ไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เป็นเพราะข้อจำกัดทางด้านเทคนิค มีเพียงตามสถานีเท่านั้นที่มีกล้อง แต่จะเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารมากขึ้น เพราะเรื่องดังกล่าวกระทบต่อภาพลักษณ์ของการให้บริการของรถไฟฟ้าใต้ดิน

ทั้งนี้ ผู้โดยสารจะหวังเพียงพึ่งมาตรการการรักษาความปลอดภัยเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะคนใช้รถไฟฟ้าใต้ดินก็จำนวนมากในแต่ละวัน โดยวิธีการดูแลตัวเองให้รอดปลอดภัยจากพวกโรคจิตห รือมิจฉาชีพนั้น

พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือ "หมอแอร์" รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แนะนำสุภาพสตรี ที่ต้องใช้รถไฟฟ้าใต้ดินและรถสาธารณะประเภทอื่น ว่า อันดับแรกเลยคือ สุภาพสตรีเวลาออกไปไหนคนเดียว 1.ต้องห้ามหลับ เพราะรถไฟฟ้าใต้ดินไม่ใช่ที่หลับ หรือพักผ่อน 2.ควรมีสติ เพื่อดูแลตัวเองตลอดเวลา เพราะอาจมีพวกคนที่คิดไม่ดี หรือมิจฉาชีพ ใช้จังหวะที่เราไม่รู้ตัวถือโอกาสทำไม่ดีไม่ร้ายเรา 3.เว้นระยะห่าง เวลาขึ้นไปนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน หากมีผู้ชายมานั่งข้างๆ ให้ขยับออก เว้นระยะห่าง หรือถ้ายืน ก็ควรยืนให้มีองศาในการขยับตัว ไม่ควรให้ใครยืนใกล้จนประกบแน่นเกินไป

"หมอเองก็เคยเจอตอนขึ้นรถไฟฟ้า เขาก็ขึ้นมายืนด้านหลังเรา ทั้งที่คนไม่เยอะ เจตนามายืนประกบแน่น จนหมอรู้สึกได้ทันทีเลยว่าเจอกับตัว จึงรีบเดินหลบออกไปเลย" หมอแอร์ เล่าเหตุการณ์ที่เจอกับตัวเอง

นอกจากนี้ หมอแอร์ ยังแนะนำถึงวิธีหากเมื่อสุภาพสตรีรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์นั้นว่า อันดับแรกคือ ร้องตะโกนให้ดัง โดยไม่ต้องอาย เพราะคนที่อายคือคนที่ทำแบบนั้น และต่อมาคือ รีบหลบออกจากจุดนั้น เมื่อถึงสถานีก็รีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานีให้ช่วยเหลือ หรือถ้ารุนแรงมาก ก็ให้ไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจับกุมตัว ซึ่งถ้ามีเจ้าทุกข์ ตำรวจก็สามารถขอภาพวงจรปิดตามสถานีรถไฟฟ้าไปตรวจสอบและติดตามจับกุมได้ ซึ่งหากจับได้ เบื้องต้นแจ้ง ข้อหากระทำอนาจาร โทษทั้งจำทั้งปรับ และถ้าเอาไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ก็ผิดในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกข้อหาหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนลักษณะนี้ ถ้าถามว่าเขาคือผู้ป่วยไหม ก็คงไม่สามารถระบุได้ เพราะตอนนี้มีโรคจิตหลายประเภท กามวิปริตหลายประเภท ต้องมีการตรวจสภาพจิตอย่างละเอียดถึงจะรู้ แต่ทั้งนี้ก็อยากฝากเตือนคุณสาวๆ ให้ระมัดระวังตัว มีสติอยู่ตลอด ไม่ใช่เฉพาะรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่เป็นที่สาธารณะอื่นๆ ด้วย

ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นผู้ป่วยทางจิตหรือไม่ แต่การกระทำในลักษณะดังกล่าว ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง ซึ่งหากข้อกฎหมายไม่สามารถลงโทษให้กลุ่มคนพวกนี้ได้ทั่วถึงและเข็ดหลาบ แต่พลเมืองดีอย่างเราๆ นี่แหละ ที่จะใช้มาตรการทางสังคมอ ย่างในโลกโซเชียลมีเดีย จัดการลงโทษทัณฑ์ทางสังคมได้อีกรูปแบบหนึ่ง อาจทำกลุ่มคนเหล่านี้ไม่กล้าคิดทำอีก อย่างกรณีนี้ก็เห็นได้ว่า ภาพผู้ชายคนนี้ค่อนข้างจะเห็นใบหน้าด้านข้างอย่างชัดเจน ซึ่งป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าคงเข็ดไปพักใหญ่...แอบถ่ายภาพเขา แต่หารู้ไม่ว่าตัวเองก็โดนแอบถ่ายเหมือนกัน เรียกได้ว่า เหนือฟ้า ยังมีฟ้า.