bloggang.com mainmenu search
หายนะสติ! เมื่อคราบน้ำมัน 'สีดำ' กลืน 'สีฟ้า' ท้องทะเล!


ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าภาพเหตุการณ์น้ำมันรั่วจากมาบตาพุด สู่หาดแม่รำพึง สู่อุทยานเขาแหลมหญ้า เกาะเสม็ด และอ่าวบ้านเพ ที่ทำให้คนที่รักท้องทะเลเจ็บปวดแล้ว ภาพทะเลสีดำอันเนื่องมาจากคราบน้ำมันปกคลุมอยู่ตามท้องทะเล โขดหิน ชายหาด ทำให้ไม่เหลือเค้าโครงความสวยงามอยู่เลย...

ในขณะที่ภาพย่ำแย่ของท้องทะเลระยองถูกเสนอซ้ำตามสื่อต่างๆ จนกลายเป็นภาพจำที่น่าเศร้า "ไทยรัฐออนไลน์" จะพาไปย้อนเรื่องราวและความทรงจำ ความสวยงามต่างๆ เพื่อตอกย้ำว่าก่อนหน้านี้ พื้นที่เหล่านี้ (เคย) งดงามราวกับสวรรค์เพียงใด   

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์


ผู้เขี่ยวชาญท้องทะเล : ภาพในความทรงจำ ปะการัง น้ำใส หาดทรายงดงาม...!

"ผมรักท้องทะเลไทย รักมากเท่าๆ กับที่ทุกคนรัก เพราะท้องทะเลไทยมันคือสมบัติของทุกคน ..."

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ ในฐานะอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เล่าว่า ตั้งแต่เด็กๆ จนถึงปัจจุบันตนผูกพันกับท้องทะเลบริเวณนั้นมากมาย โดยเฉพาะเสม็ดที่พูดได้เต็มปากว่าเป็นแหล่งดำน้ำที่มีปะการังใหญ่ สวย สมบูรณ์และใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุดในภาคตะวันออกเลยทีเดียว


"ตอนเด็กๆ ผมตามคุณพ่อไปทำงานสำรวจปะการังเมื่อราว 30 ปีก่อน พอมาเรียนหนังสือปี พ.ศ.2527 ที่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล พูดได้ว่าผมไปดำน้ำสำรวจแนวปะการังบริเวณนี้เป็นคนแรกของประเทศไทย บริเวณนี้โดยเฉพาะเสม็ด สวย เงียบสงบ และน้ำยังใสมาก ถามว่าสวยสมบูรณ์แค่ไหน ต้องเข้าใจว่าที่บริเวณนี้โดยเฉพาะเสม็ดขึ้นชื่อว่าเป็น “อุทยานแห่งชาติทางทะล” ซึ่งฝั่งตะวันออกมี 2 แห่ง 1. เกาะเสม็ด 2. เกาะช้าง ดังนั้น ทรัพยากรที่เป็นอุทยานแห่งชาตินั้น จะต้องสวยและสมบูรณ์มาก โดยจุดเด่นที่สำคัญคือ เกาะเสม็ดเป็นเกาะที่มีแนวปะการังรอบเกาะเป็นพันๆ ไร่ แน่นอนว่าดูเสม็ดอย่างเดียวไม่ได้ต้องดูความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศทางทะเลของอ่าวบ้านเพ ซึ่งกว้างประมาณ 10 กิโลเมตรประกอบด้วย เพราะเสม็ดไม่ได้มีแค่นั้น อ่าวบ้านเพก็มีเกาะเล็กๆ ที่เป็นแหล่งหญ้าทะเลที่บ้านเพสมบูรณ์มากๆ”

ผู้เชี่ยวชาญด้านท้องทะเลชื่อดัง กล่าวย้ำด้วยว่า แม้แต่สิ่งที่ทุกคนมองข้ามคือการสำรวจคราบน้ำมันจากจุดรั่วก่อนที่จะเคลื่อนที่มายังอ่าวพร้าว ระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร และบริเวณใกล้เคียงเป็นพื้นที่น้ำตื้นว่าได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากเราขาดความเข้าใจอาจจะส่งผลกระทบต่อปะการังน้ำตื้น หญ้าทะเล และสิ่งมีชีวิตต้องเสียหายมหาศาลโดยเฉพาะปะการังที่กำลังจะฟื้นตัวจากการฟอกขาวที่เกาะเสม็ดเมื่อปี 2535 ล่าสุดที่ไปสำรวจมาก็เริ่มฟื้นตัว แต่กลับมาเจอเหตุการณ์สูญเสียในทางทะเลแบบนี้อีกก็ต้องดูแลอย่างเข้าใจและใกล้ชิด แม้กระทั่งเรื่องฟิล์มน้ำมันที่พัดเข้าหาหาดทรายและกลายเป็นก้อนน้ำมันดินบนหาด เช่น เสม็ดฝั่งตะวันออก หาดทรายแก้วยาวไปถึงแหลมแม่พิมพ์กว่า 20 กิโลก็ต้องเฝ้าระวัง แม้จะไม่มีผลเสียต่อระบบนิเวศ แต่ถือว่าเป็นสิ่งสกปรก


เมื่อถามว่าปะการัง สัตว์น้ำ และระบบนิเวศทางทะเลต่างๆ จะกลับคืนสู่สภาพเดิมเมื่อไหร่ ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้ว่าบอกว่า ระบุไม่ได้ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะนานเท่ากับเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันเอ็กซอน วัลเดซ ชนเข้ากับแนวปะการัง  นอกชายฝั่งรัฐอะลาสกาทำให้น้ำมันดิบไหลลงทะเลกว่า 119,000 ลูกบาศก์เมตร เหตุการณ์ครั้งนั้น ใหญ่สุดของโลกแน่นอน

“ผมเชื่อว่าอย่างน้อยต้องเป็นปีขึ้นไป อย่างปะการังมันโตช้ามากๆ ก้อนใหญ่ปีหนึ่งโตเพียง 1-3 เซนติเมตร คิดดูว่า ปะการังที่เราเห็นกว้าง 1 เมตร ต้องใช้ระยะเวลาเป็นร้อยปี ไหนจะความเสียหายของปะการังฟองน้ำ ดอกไม้ทะเล สัตว์น้ำ ที่อยู่แถวแนวปะการัง น้ำอ่าวพร้าวที่โดนคราบน้ำมันเต็มๆ ส่วนปะการังน้ำลึกเป็น 10 เมตรคงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก สุดท้ายผมก็เชื่อว่า PTTCG หรือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ก็คงรักทะเล ปะการังเท่ากับตนเอง เพราะว่าเสม็ดเป็นของคนไทย หวังว่าตัวเองและคนไทยจะเชื่อใจ ปตท.ได้ และอยากให้คน ปตท.รักเสม็ดเท่ากับคนไทย หวังว่าจะทำให้เสม็ดกลับมาสวยอย่างเดิม” ผู้เชี่ยวชาญชื่อดังกล่าว



อิศรา บูรณสมภพ : ภาพจากเฟซบุ๊ก

อิศรา บูรณสมภพ : ภาพจากเฟซบุ๊ก


ช่างภาพระดับประเทศ : ภาพถ่ายในความทรงจำ ไร้น้ำมันเคลือบ
!

ขณะที่ นายอิศรา บูรณสมภพ ช่างภาพชั้นแนวของเมืองไทย การันตีด้วยรางวัลมากมาย ทั้งในและนอกประเทศ เจ้าของตำนาน กลุ่ม Nautilus หนึ่งในห้าเสือ กลุ่มช่างภาพโฆษณาของเมืองไทย กล่าวถึงความสวยงามของท้องทะเล ก่อนที่ภาพคราบน้ำมันจะลามเต็มท้องทะเลว่า จำภาพความประทับใจเก่าๆ หาดแม่รำพึง ที่ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายขาวและมีลักษณะโค้งยาว แต่ก็ไม่สวยเท่าเสม็ดว่า สถานที่เกิดเหตุตนไปมาหมดแล้ว แต่ประทับใจเสม็ดมากที่สุด เมื่อ 50 ปีก่อนบริเวณนี้ยังไม่ค่อยมีคนไปมากนัก เสน่ห์และความมหัศจรรย์ คือ น้ำใส เงียบสงบ สวยงาม หาดทรายขาว จึงมีการเรียกกันว่า เกาะแก้วพิศดาร หลังจากเกิดเหตุการณ์ 14ตุลา นักศึกษาต่างพากันหลบหนีไปที่เกาะเสม็ดบ้าง หนีเข้าป่าบ้าง ออกนอกประเทศบ้าง คนเหล่านี้จะหนีมาพักที่เกาะเพื่อทำจิตใจให้สงบ


“ส่วนใหญ่พวกที่หนีมาก็เป็นพวกศิลปิน, นักศึกษาจิตรกรรมชอบไปเกาะเสม็ดมากไปเพื่อเก็บตัว วาดรูป สมัยนั้น ยังไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวไม่วุ่นวายเหมือนวันนี้ เกาะเสม็ดเป็นหาดทะเลที่มีอ่าวเยอะมาก มีน้ำที่ใส เงียบสงบ มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งเป็นเกาะที่สามารถดูพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้ ทั้งสองด้าน โดยจะมีถนนเล็กๆ ผ่านตรงกลาง เพื่อข้ามฝั่งไปอีกด้านหนึ่ง ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชม.เศษ ปัจจุบันเกาะเสม็ดมีผู้คนมาสร้างรีสอร์ต ขายของกันมากขึ้น และนักท่องเที่ยวก็มากขึ้น ความสวยงามจึงลดลง แต่ก็ยังมีความสวยอยู่แม้จะไม่เหมือนเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา”

ช่างภาพชั้นแนวหน้าเล่าประสบการณ์ว่า ครั้งหนึ่งตนเองเคยไปทำงานถ่ายโฆษณาที่เกาะเสม็ด ตอนนั้นเป็นช่วงโอกาสที่ดี ไปเจอตอนน้ำลงพอดี พอน้ำลงเราจะเห็นเป็นโขดหินที่โผล่ขึ้นมาจากทรายเต็มหาดเหมือนแกรนด์แคนยอน พอน้ำขึ้นพ้นโขดหินได้สักประมาณ 2 ซม. มันถึงจะลงและก็ขึ้นใหม่อีกรอบ


“เกาะเสม็ดเองก็มีความสวยในตัวทั้ง 2 ด้าน มีทั้งด้านที่เป็นหาดขาว และด้านที่เป็นโขดหิน ด้านที่เป็นโขดหินจะมีปะการังค่อนข้างเยอะต้องดำน้ำลงไปดู แต่น่าเสียดายในช่วงนี้เกิดเหตุน้ำมันรั่ว ทำให้ภาพเก่าๆ คนอาจจะลืมไปบ้าง แต่ผมเชื่อว่ามันอาจกลับมาสวยเหมือนเดิมได้แต่ต้องใช้เวลา เพราะธรรมชาติมีการปรับตัวของมันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดก็คือการพ่นสารเคมีลงไปเพื่อทำให้มันเกิดตะกอน ตรงนี้อาจจะใช้เวลามากหน่อย เพราะข้างล่างใต้น้ำทะเลจะไปเคลียร์สารเคมีคงยาก ก็ต้องปล่อยให้น้ำทะเลปรับตัวของมันตัวเองตามธรรมชาติ ส่วนด้านบนเรายังสามารถจัดการได้"


สุดท้ายช่างถ่ายภาพชื่อดังบอกว่า อย่างที่บอกภาพที่ไม่สวยงามที่เราเห็น เป็นเพียงสถานะชั่วคราว เชื่อว่าอีกไม่นานทะเล และเสม็ดจะกลับมาสวยงามเหมือนกับรูปถ่ายก่อนเหตุการณ์อย่างแน่นอน

“หนึ่งในภาพที่ผมชอบก็คือ ภาพย้อนแสง เพราะธรรมชาติมันมีอยู่ทุกวันของมัน ถ้าเราเฝ้าคอยอยู่ตรงนั้น เราก็จะได้ภาพออกมาที่สวยงาม เหมือนเมฆสวยๆ หรือพระอาทิตย์ตก ซึ่งมันตกของมันอยู่ทุกวัน มันขึ้นอยู่กับจังหวะที่เรายืนอยู่ เราพบเห็นมันเราก็จะได้ภาพมา จริงๆ แล้วความสวยงามมันมีอยู่ตลอดเวลาเพียงแต่ว่าบางครั้ง ถ้าตาเรามันพรางอาจจะมองภาพไม่ค่อยออก เราจะดูสวยได้เราต้องมีกรอบ การถ่ายรูปเกาะเสม็ดที่จะให้ได้รูปสวยๆ ไม่ถ่ายช่วงเช้าก็ถ่ายช่วงเย็น เพราะเมืองไทยอยู่ในเส้นศูนย์สูตร พระอาทิตย์มันก็ขึ้นกลางหัว มันจะมีเวลาถ่ายรูปสวยๆ ในช่วงเช้ากับเย็น ซึ่งมันไม่เหมือนแทบยุโรป ที่พระอาทิตย์มันวิ่งเฉียง วิ่งข้าง กว่าจะได้แสงที่ทะแยงอีกไม่นานภาพสวยๆ เหล่านี้จะกลับมาหวังว่าจะเป็นแบบนั้น” ช่างภาพชั้นแนวของเมืองไทยกล่าว

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์


กวีซีไรต์ : ภาพตัวอักษรเพริดพริ้ง ราวอยู่บนสรวงสวรรค์ ..!

ในมุมของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์และกวีรัตนโกสินทร์ นักคิด นักเขียนคนสำคัญของประเทศไทย ผู้มองเหตุการณ์และกลั่นผ่านเป็นตัวอักษร กล่าวว่า "สมัยก่อนผมไปบ่อยมาก โดยเฉพาะเสม็ดที่ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายขาวมากๆ ที่มีคนจินตนาการว่าสุนทรภู่มาเขียนพระอภัยมณี หนีนางผีเสื้อสมุทรที่เกาะนี้แหละ"


“ทะเลระยองผมเคยไปมาหมดแล้วที่ประทับใจมากๆ ก็คือเกาะเสม็ดที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำใส หาดทรายขาวสะอาดมาก คนไปเพราะทรายขาวบรรยากาศเงียบสงบ แต่พอมีโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ขึ้นมา แม้กระ ทั่งน้ำมันที่เข้ามามันก็ทำลายทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ และที่ไปทำงานก็คือเมื่อปี พ.ศ. 2533 -2535 ผมไปเขียนแผ่นดิน เป็นบทกวีที่เขียนทุกจังหวัดทั่วประเทศ ระยองก็ต้องไปบ้านเพ แล้วก็ไปเกาะเสม็ด ผมเขียนถึงหาดทรายทำนองว่า “มีเม็ดทรายนับไม่ถ้วนจำนวนทราย คนทั้งหลายนับไม่ถ้วนในคุณค่า ทรายจะแกร่งก็เพราะผ่านกาลเวลา คนจะกล้าก็เพราะผ่านความอดทน”

สุดท้ายฝากคนที่จำภาพความสวยงามเมื่อสมัยก่อนที่คราบสีดำจะปกคลุมสีฟ้าจากน้ำทะเล..?

"ถือว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นหายนะสติที่จะเตือนถึงหายนภัยอันจะเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ ซึ่งไม่ใช่เกิดจากน้ำมือธรรมชาติเท่านั้น เกิดจากน้ำมือมนุษย์มากกว่าเพื่อน ถ้ายังจำเหตุการณ์อ่าวมาหยา จ.กระบี่ ที่ถูกกองถ่ายหนังย่ำยียับเยิน พอมีสึนามิธรรมชาติก็กวาดหาดให้เรียบเหมือนเดิม นี่ก็เหมือนกัน ผมว่าจะเกิดธรรมชาติเอาคืนเพื่อกวาดหาดให้เรียบเหมือนเดิม เพราะคนมักประมาท ดังนั้น มนุษย์ต้องอยู่ในความไม่ประมาทเสมอ” กวีซีไรต์ กล่าวในที่สุด.

Create Date :03 สิงหาคม 2556 Last Update :3 สิงหาคม 2556 1:40:24 น. Counter : 1383 Pageviews. Comments :0