โต้ลือตัดสัก5พันต้น-สร้างถนน ผวจ.แพร่แจงประสานป่าไม้ย้ายไปที่ใหม่



แพร่ - นายอภิชาต โตดิลกเวชช์ ผวจ.แพร่ กล่าวถึงกระแสข่าวลือว่าจะมีการตัดต้นสักกว่า 5,000 ต้น เพื่อขยายถนนหมายเลข 1023 แพร่-ลอง จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร ว่า ข้อเท็จจริงคือ จะมีการขยายถนน 2 ช่วง คือ ช่วงแรก ก.ม.ที่ 0+800 ถึง ก.ม.ที่ 1+800 ซึ่งดำเนินการเสร็จแล้ว ช่วงที่ 2 ที่กำลังจะดำเนินการคือ ก.ม.ที่ 1+800 ถึง ก.ม.ที่ 4+200 ระยะทางประมาณ 2.4 กิโลเมตร โดยจากการสำรวจพบว่ามีต้นสักที่อยู่ในแนวการขยายถนนจำนวน 457 ต้น เป็นไม้กระยาเลย 127 ต้น และไม้อื่นอีก 34 ต้น รวมแล้วประมาณ 500 ต้น ไม่ถึง 5,000 ต้น อย่างที่มีข่าวลือ



ผวจ.แพร่กล่าวต่อว่า ในขั้นตอนการสำรวจออกแบบนั้น หากพบต้นไม้ในสองข้างทางคือไม้สัก หรือไม้อื่น ที่เป็นไม้หวงห้ามตามกฎหมาย กรมทางหลวงจะแจ้งไปยังอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อให้กรมป่าไม้มาสำรวจและวัดขนาด หลังจากนั้นจะมีแนวทางในการพิจารณาคือ มอบไม้เหล่านั้นให้ทางราชการใช้ประโยชน์ แต่หากไม่มีหน่วยงานใดขอใช้ประโยชน์จากไม้ดังกล่าว ก็จะส่งต่อให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ อ.อ.ป. ไปประมูลขายและนำรายได้เข้าแผ่นดินต่อไป



นายอภิชาตกล่าวว่า สำหรับกรณีนี้ในส่วนของจังหวัดแพร่ได้ขอใช้ประโยชน์ไม้สักดังกล่าวจากกรมป่าไม้ โดยมีแนวทางในการขุดล้อมย้ายไปปลูกที่ศูนย์ราชการแห่งใหม่ ศูนย์ประชุม กอเปา หรือถนนสายต่างๆ ที่จะเป็นเส้นทางเข้าสู่จังหวัดแพร่ เพราะต้นสักดังกล่าวมีขนาดใหญ่กว่าที่จะโตได้ก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 50 ปี ซึ่งที่ผ่านมาเคยร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ย้ายต้นสักจากการขยายถนนที่อำเภอสองประมาณ 30 ต้น นำไปปลูกใหม่ก็ได้ผลดี ต้นสักเจริญเติบโตอยู่รอดเกือบทั้งหมด ในส่วนของต้นไม้ที่ไม่สามารถขุดล้อมย้ายมาปลูกใหม่ได้จะต้องตัดซึ่งมีไม่ถึง 20 ต้น หรือนำมาปลูกแล้วตาย จะนำไปใช้ในการแกะสลักเพื่อเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดแพร่ต่อไป จึงอยากชี้แจงทำความเข้าใจให้กับประชาชนได้ทราบ