bloggang.com mainmenu search
ตะลึง! ผ่าซากช้างล้มแก่งกระจาน พบลูกปืนในกระเพาะ

ตะลึง!! ผ่าซากช้างป่าแก่งกระจาน อายุ 7 ปี ที่ล้มไร้รอยแผล พบกระสุน 11 มม. ฝังคากระเพาะ “หน.ชัยวัฒน์” คาดนักเที่ยวป่าคะนองมือ หรือชาวบ้านยิงไล่ ลั่นหากพบยิงเพื่อล่าลุยดำเนินคดีไม่ปล่อย...

จากกรณีที่ ชาวบ้านหมู่ 3 บ้านป่าเด็ง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พบซากช้างพลาย เพศผู้ อายุประมาณ 7 ปี สูงประมาณ 1.60 เมตร เป็นช้างมีงาเริ่มงอก นอนตายในสภาพตะแคงขวานอนตายอยู่ในป่าโปร่งริมถนนสายป่าเด็ง-ห้วยโสก อ.แก่งกระจาน ห่างจากริมถนนเข้าไปประมาณ 50 เมตร โดยตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือบาดแผล สัตวแพทย์ จึงสมมติฐานสาเหตุการตายไว้ 3 ประเด็น คือ 1 ป่วยเป็นพยาธิเนื่องจากพบเห็นพยาธิในกองมูลที่ช้างถ่ายออกมาอยู่ใกล้ๆ 2.เกิดจากการสะสมของสารเคมีที่ชาวบ้านใช้ในพืชไร่ หรือช้างกินปุ๋ยเคมีโดยตรง หรือ 3.โดนผึ้งหลวง ที่อยู่ใกล้ช้างตายรุมต่อยแต่ยังไม่สามารถสรุปได้

ล่าสุด วันที่ 27 พ.ย. นายสัตวแพทย์บุรฉัตร ตันประดิษฐ์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชพร้อมคณะ 6 คน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 144 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ ทัพพระยาเสือ เดินทางไปที่สุสานช้างที่หุบเต่า ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายของช้างป่าปรากฏที่ต้นขาหลังด้าน ขวา พบหัวลูกปืนลูกซอง (ลูกปลาย) ฝังอยู่ใต้ผิวหนัง 16 เม็ด และเมื่อผ่าซากพิสูจน์พบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 1 หัววิถีกระสุนผ่านม้ามและปอด ไปติดคาอยู่ในถุงกระเพาะอาหารช้าง เบื้องต้นคาดว่าการอักเสบและติดเชื้อจากกระสุนปืนขนาด 11 มม.ที่ยิงใส่ช้างมานานเนื่องจากบาดแผลที่ผิวหนังสมานตัวปิดหมดแล้ว แต่ยังฝังตัวอยู่ภายในเป็นสาเหตุหลักในการเสียชีวิต

นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า หัวกระสุนปืนที่พบในซากช้าง มี 2 ขนาด ขนาด 11 มม.ที่พบ แม้ไม่ใช่กระสุนที่ใช้ล่าช้าง แต่ห่วงว่าอาจเป็นกระสุนปืนจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่แล้วคะนองยิง ใส่ช้าง หรือเป็นการตกใจใช้อาวุธปืนยิงใส่ช้างเพื่อป้องกันตัว โดยไม่คาดคิดว่าจะทำให้ช้างตาย ส่วนที่ 2 หัวกระสุนที่พบเป็นขนาดลูกซองแบบลูกปรายซึ่งคาดว่าจะเป็นปืนชาวบ้านที่ยิงไล่ในช่วงที่ช้างเข้าทำลายพืชไร่โดยไม่ได้หวังเอาชีวิตเช่นกัน ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจกับทั้ง นักท่องเที่ยวและชาวบ้านให้มากยิ่งขึ้น และหาทางเยียวยาแก้ไขในระยะยาวไม่ให้เกิดการทำร้ายช้างเกิดอีก

“หากพบว่าเป็นการยิงเพื่อล่า เจ้าหน้าที่อุทยานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ที่ผ่านมาได้จับกุมดำเนินคดี และส่งฟ้องศาลมาแล้วหลายคดี ล่าสุดศาลเพชรบุรีมีคำสั่งพิพากษาผู้กระทำผิด ในคดีล่าสัตว์ป่า จำคุก 5 ปี 6 เดือน และในคดีเดียวกันมีคำสั่งจำคุก ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องหลายคน คนละ 2 ปี นอกจากนี้ ยังมีคดีอื่นที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอีกหลายคดี จึงขอป้องปรามบุคคลที่มีความคิดล่าสัตว์ป่า หรือกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป่าไม้ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดให้เลิกความคิดดังกล่าว เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ดำเนินการเอาผิดและจับกุมอย่างจริงจังแน่” นายชัยวัฒน์กล่าว

Create Date :28 พฤศจิกายน 2556 Last Update :28 พฤศจิกายน 2556 7:24:42 น. Counter : 1383 Pageviews. Comments :0