หลังจากที่มีปัญหายืดเยื้อมายาวนาน ในที่สุดเรื่องนี้ก็มียุติ?




เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย "เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ในฐานะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้พานายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ "บัวขาว ป.ประมุข" ที่เพิ่งลาสิกขาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. รับทราบข้อกล่าวหาหลังที่ฝ่าฝืนคำสั่งค่ายฯ ขึ้นชกในศึกไทยไฟต์เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา อีกทั้งจะได้มาเคลียร์ถึงเรื่องของสัญญาของค่ายป.ประมุข

พอการประชุมเริ่ม ดร.เทพปกรณ์ อินทรพัฒน์ ทนายความและที่ปรึกษาของกฎหมาย ได้ชี้แจงถึงบอร์ดว่า เนื่องจากมีการลงโทษไปก่อน ถึงจะให้มารับทราบข้อกล่าวหา จึงขอให้บัวขาวได้ชี้แจงถึงรายละเอียดต่างๆ ก่อน และขอให้นายทะเบียนเพิกถอนคำสั่งเดิม และพิจารณาใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่บัวขาวผู้ถูกกล่าวหา

หลังจากนั้น ที่ประชุมได้หารือถึงเรื่องดังกล่าว โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมงเศษๆ จึงมีข้อสรุป

นายสกล วรรณพงศ์ รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายอาชีพและสิทธิประโยชน์ เผยถึงข้อสรุปในวันนี้ว่า บัวขาวจะอยู่กับต้นสังกัดต่อไป เวลาขึ้นชกต้องชกในนาม"ป.ประมุข" และอนุญาติให้ซ้อมที่อื่นได้ ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์นั้น เงินค่าตัวที่ได้จากการชก จะแบ่งเป็น บัวขาว 60 ค่ายฯ 40 ส่วนค่าโชว์ตัวตามงานต่างๆ บัวขาวจะได้ 75 ค่ายฯ 25 อีกทั้งการทำสัญญาอะไรต่อจากนี้ ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นร่วมกัน หากฝ่ายใดเซ็นเองฝ่ายเดียว ถือว่าเป็นโมฆะ ซึ่งข้อสรุปทั้งหมดนี้ จะอยู่ภายใต้สัญญาฉบับใหม่ ซึ่งจะพิจารณากันอีกรอบวันที่ 31 พ.ค. เนื่องจากว่าบัวขาวไม่ยอมเซ็นสัญญาดังกล่าว

ส่วนเรื่องที่บัวขาว ถูกถอนใบอนุญาตชกเป็นเวลา 6 เดือนนั้น สนง.กีฬามวยให้ทางค่ายป.ประมุข ยื่นอุทธรณ์ได้ ภายใน 1 เดือน โดยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ นายเดช ใจกล้า ผู้อำนวยการสำนักงานกีฬามวย ในฐานะนายทะเบียน

ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไร ติดตามได้จากรายงานชิ้นนี้



ส่วนเรื่องที่ทางค่ายป.ประมุข ได้ยื่นฟ้องร้องกับไทยไฟต์ คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะจบลงอย่างไร