ฟีฟ่าสั่งแบน ซัวเรซ ในทีมชาติ 9 นัด - ห้ามยุ่งวงการฟุตบอล 4 เดือน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ประกาศบทลงโทษ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่งของ จอมโหดอุรุกวัย ห้ามลงสนามในนามทีมชาติเป็นจำนวน 9 นัด พร้อมห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลทุกอย่างเป็นเวลา 4 เดือน และปรับเงินอีก 100,000 ฟรังก์สวิส หรือราว 3.6 ล้านบาท
โทษดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีที่ซัวเรซไปกัดไหล่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ในเกมรอบคัดเลือก กลุ่มดี ที่อุรุกวัยเอาชนะไปได้ 1-0 เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นับเป็นการกัดผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามครั้งที่ 3 ในชีวิตการค้าแข้งของซัวเรซด้วย
แถลงการณ์จากฟีฟ่า ระบุว่า หลุยส์ ซัวเรซ จะถูกลงโทษแบนเป็นจำนวน 9 นัด โดยเริ่มจากเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่จะพบโคลอมเบียในวันที่ 28 มิ.ย. นอกจากนี้ หลุยส์ ซัวเรซ จะถูกแบนจากการยุ่งเกี่ยวในวงการฟุตบอลทุกประเภททั่วโลกเป็นเวลา 4 เดือน พร้อมปรับเงินอีก 100,000 ฟรังก์สวิส
ขณะที่ เคลาดิโอ ซูลเซอร์ ประธานคณะกรรมการระเบียบวินัยของฟีฟ่า ระบุว่า พฤติกรรมเช่นนี้ไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นได้ในสนามใดก็ตาม โดยเฉพาะในศึกฟุตบอลโลกที่มีผู้ชมเป็นล้านคนเฝ้าดูนักเตะชั้นนำในสนาม
สำหรับบทลงโทษในครั้งนี้ กลายเป็นโทษที่หนักที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก จากเดิมที่ เมาโร ทัสซ็อตติ อดีตกองหลังทีมชาติอิตาลี ที่ไปศอกใส่ หลุยส์ เอ็นริเก้ กองกลางทีมชาติสเปน เมื่อศึกฟุตบอลโลก 1994 จนโดนแบนไป 8 นัด
นอกจากนี้ บทลงโทษดังกล่าวจะส่งผลต่อ หงส์แดงลิเวอร์พูล รองแชมป์ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้นสังกัดของซัวเรซ ที่จะต้องรอการกลับมาของแข้งรายนี้จนถึงช่วงปลายเดือน ต.ค. โดยคาดว่าเกมแรกที่ซัวเรซจะลงสนามได้เป็นศึกแคปิตอล วัน คัพ รอบสี่ ซึ่งวางกำหนดการไว้วันที่ 27 ต.ค. ซึ่งก่อนอื่น หงส์แดง จะต้องผ่านรอบสามในเดือน ก.ย. ไปให้ได้
อย่างไรก็ตาม อุรุกวัยยังมีเวลา 3 วันในการยื่นอุทธรณ์ต่อผลตัดสินที่ออกมา