Autumn in DPRK Day 2 "Film Studio & Victorious War Museum" หลังอาหารกลางวัน เราก็กลับสู่เปียงยาง จะไปคัดตัวนักแสดงที่ Film Studio ไม่ใช่ละ... ไปเยี่ยมชมที่นั่นค่ะ... ![]() ![]() เราไม่เคยดูหนังเกาหลีเหนือนะ แต่เชื่อมั้ยว่าอุตสาหกรรมภาพยนต์ของที่นี่เคยทำหนังที่ชนะการประกวดเทศกาลหนังที่ฝรั่งเศสมาแล้ว หนังชื่อ The Flower Girl ค่ะ ลี ไกด์สาววัยใสของเราเล่าเรื่องย่อให้ฟังว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นสมัยต่อต้านกองกำลังญี่ปุ่น เด็กสาวคนนึงต้องดูแลแม่ที่ป่วย แถมน้องยังตาบอด เป็นหนี้ท่วมหัวเพราะต้องซื้อยารักษาแม่และน้อง อะไรประมาณนี้ เราร้อง อู้วว เลยทีเดียว ลีบอกลองหาดูได้นะ คิดว่าที่ศูนย์วัฒนธรรมน่าจะมีขาย ซับอิงด้วย ขอบายอ่ะ ชีวิตตัวเองทุกวันนี้ก็รันทดพออยู่ละ เดี๋ยวก็ต้องกลับบ้านกินแกลบเพราะเอาเงินมาเที่ยวหมดเหมือนกัน... แฮ่ๆๆ อ้อ... เหมือนว่าผู้นำ คิมอิลซุง จะมีส่วนในการสร้างหนังเรื่องนี้ด้วยนะคะ ไม่แน่ใจว่าช่วยเขียนบทหรืออะไรนี่แหละ และ film studio ที่นี่ก็ไม่ใช่อุนจิ ๆ นะ สร้างหนังมาหลายเรื่องแล้วค่ะ และหลายเรื่องเป็นที่นิยมในต่างประเทศด้วย เราหันไปถามพอลว่าหนังเกาหลีเหนือมันน่าสนใจเหรอ พอลบอกว่าคนเกาหลีเหนือนี่เก่งด้านอนิเมชั่นเหมือนกันนะ มีคนที่มีฝีมือด้านนี้หลายคนถูกจ้างงานจากต่างประเทศด้วย... ว้าว!!... ![]() สตูดิโอนี้กินพื้นที่กว้างเป็นล้าน ๆ ตารางฟุตเลยทีเดียว มีสตูดิโอถ่ายทำและโรงละครอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ ![]() นอกจากนั้น ถ้าเราเข้าไปด้านใน เดินไม่ไหวนะบอกก่อน ต้องนั่งรถเข้าไป ก็จะเหมือนย้อนยุคมากอ่ะ จะเป็นฉากบ้านเมืองของประเทศต่าง ๆ แต่เป็นในสมัยก่อน ลีแอบเล่นมุกว่าเดี๋ยวจะพานั่งไทมแมชีนไปนะ แหม่ ขี้เล่นนะน้องสาว (ปกติลีจะเงียบ ๆ พอลีบอกจะพานั่งไทมแมชีนเราเลยขำ ๆ คือจริง ๆ คนที่นี่เค้าก็เหมือนพวกเราป้ะ มีฮามีปล่อยมุก... ![]() ด้านนี้เป็นฉากเมืองจีนค่ะ อยากถ่ายหนังแบบประมาณพระเอกไปท่องยุทธภพฝีกกังฟู ก็มาถ่ายกันส่วนนี้ ![]() เกิดอยากจะถ่ายกลกิโมโน ไล่ล่าซามูไรงี้... อ่ะ ก็มาส่วนนี้ได้ เราอยากไปวิ่งเล่นส่วนนี้มาก แต่ไกด์ค้อนขวับ ๆ ช่วยอยู่เฉย ๆ กันบ้างเถอะ ไกด์วิ่งตามไม่ทัน... ![]() ตรงนี้เค้าทำบ้านเมืองได้เป็นญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามมากอ่ะ มีโรงงานชอคโกแลตโมรินากะด้วย เอากะพี่คิมซี่... ![]() ![]() และใช่ว่าจะมีแต่เฉพาะแถบเอเชีย ยุโรปก็มีนะจ๊ะ ![]() แต่เวลาเรามีไม่ค่อยมาก ก็เลยอยู่ที่นี่ไม่ค่อยนาน แค่นี้ก็ต้องตัดบางโปรแกรมออกแล้ว แต่พวกเราก็โอเคนะ เพราะบางที่พวกเราก็อยากใช้เวลาอยู่ตรงนั้นนานหน่อยจริง ๆ เสร็จจากที่นี่ เราก็ไปสถานที่ต่อไปเลยค่ะ War Museum เอาจริง ๆ นะ เราไม่ค่อยชอบเข้าสถานที่แบบนี้เท่าไหร่ เรารู้สึกหดหู่ แต่ในเมื่อเป็นสถานที่บังคับ เราก็ต้องไปค่ะ ![]() ที่ War Museum นี่ห้ามเอามือถือเข้าไป เอากล้องลงไปได้ แต่ถ่ายภาพได้เฉพาะด้านนอก และห้ามถ่ายรูปทหารเช่นเคย... ไกด์ย้ำจนจำได้แล้วจ้ะ... แหะๆๆ ตั้งแต่ไปมาทั้งหมดจนถึงที่นี่ เพิ่งเห็นที่นี่แหละที่เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยหน่อย หัวเข็มขัดเราเป็นโลหะ พอเค้าเอาที่สแกนมามันก็ดัง เค้าก็สแกนหลายรอบมาก เราเปิดแงะให้ดูว่ามันเป็นโลหะพันด้วยหนัง เค้าก็ปล่อยเรามา ![]() เข้ามาด้านใน เห็นตั้งกล้องขาตั้งพร้อม บางคนซูมอย่างใหญ่ และบางคนมีกล้องวีดีโอแบบมืออาชีพมาเลยทีเดียว เราก็ อ้าววว... ไหนว่าห้ามเอาเข้ามา แต่พอเหลือบไปเห็นปลอกแขน อ้อ... พวกสื่อนี่เอง เราเดาว่าเค้ามา DPRK กัน เพราะงานฉลองพรุ่งนี้ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เราไปเกาหลีเหนือเดือนตุลาคม เราก็รอวันพรุ่งนี้เหมือนกัน... ![]() พวกสื่อต่าง ๆ พยายามจะขอสัมภาษณ์นักท่องเที่ยว แต่ก็ไม่มีใครให้สัมภาษณ์ นักท่องเที่ยวพูดกันว่าจะเอาไปเสนอยังไงก็ไม่รู้ ไม่อยากเสี่ยงด้วย ก็ปฏิเสธกันไป ![]() ยอมรับจริง ๆ ว่าสิ่งก่อสร้าง sculpture ต่าง ๆ ที่นี่มันอลังการจริง ๆ แต่ละอย่างต้องมหึมาไว้ก่อน เห็นเค้าว่าเป็นฝีมือของพวกเค้าเองด้วยนะ... จริงเหรอ เก่งไปนะ ![]() ![]() พอคนมาครบประมาณนึง คือเราต้องเข้ารวมกับกรุ๊ปอื่นด้วย คุณทหารก็ไกด์พวกเราเข้าชมเลยค่ะ และสิ่งแรกที่พาไปดูก็จะเป็นพวกยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ที่ยึดมาได้จากศัตรูประเทศต่าง ๆ ส่วนใหญ่เป็นอเมริกา ![]() ![]() จริง ๆ มีเยอะมาก แล้วไกด็ก็จะพรีเซนต์ด้วยความภาคภูมิใจ หลังจากนั้นก็พาไปชมเรือดำน้ำ Pueblo เป็นเรือดำน้ำของอเมริกาที่เกาหลีเหนือยึดได้ ตอนถูกจับ จริง ๆ คือจับเป็น แต่มีทหารอเมริกันนายนึงจะหนี ก็เลยถูกยิงเสียชีวิต ณ ตรงนั้น มีบอร์ดภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นอยู่ด้วยค่ะ ไกด์เล่าไปและมีการถามคำถามจากไกด์เป็นระยะ เราคิดว่า... การตกเป็นเชลย คงจะไม่สนุกนัก ![]() ![]() ![]() ตอนที่นั่งชมวีดีโออยู่ด้านในเรือดำน้ำ มีครอบครัวนึงพาเด็กเล็ก ๆ มาด้วย เด็กคงไม่ชอบก็เริ่มทำเสียงดัง และลงไปเลื้อยบนพื้น ตอนแรกแม่ก็เริ่มปราม แต่เด็กก็ทำเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายปรามไม่อยู่ เด็กเตะของในเรือที่เป็นกล่องโลหะ มันก็ดังไง ทหารที่เฝ้าอยู่ทำหน้าเรียบ ๆ เดินไปหาครอบครัวนี้เลยนะ แล้วอุ้มเด็กออกนอกเรือ โดยไม่พูดอะไรซักคำ ไม่ได้อุ้มรุนแรงนะคะ อุ้มธรรมดา ๆ นี่แหละ แม่ก็เลยต้องตามออกไปด้วย ทุกคนก็ชมวีดีโอต่อแบบไร้เสียงรบกวน ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ไม่กี่วินาที เราทึ่ง... ![]() จัดการลูกตัวเองไม่ได้ ไม่เป็นไร พี่ทหารจัดการให้ เป็นไง หายห้าวเลย ช่วยมาจัดการที่เมืองไทยบ้างได้ไหม จากใจแฟนเพจลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน... ![]() เสร็จตรงมุมเรือดำน้ำ ก็พากันเข้าไปในตัวอาคาร กล้องใช้ไม่ได้แล้วนะจ๊ะ อย่าลืม... ![]() อาคารใหญ่และใหม่ มี 2 อาคาร และมีทางเดินเชื่อมกัน ข้างในอลังการงานสร้างมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเกี่ยวกับสงครามค่ะ เช่นข้าวของเครื่องใช้ ประวัติและเรื่องราวต่าง ๆ ข้างในมีมุมกาแฟและมุมขายของที่ระลึกด้วยค่ะ กว้างมาก เดินเหนื่อยมากอ่ะ ![]() ส่วนอันนี้เป็นทางเชื่อมไปตึกด้านหลัง ตรงทางเชื่อมนี้ก็มีประวัติของฮีโร่ทั้งหลายในสงครามเกาหลีจัดแสดงด้วยค่ะ เป็นประวัติ ผลงาน แล้วก็ของใช้ ![]() เสร็จจากทางเดิน ก้าวเข้าไปตึกด้านหลัง ตึกนี้... นะ... แบ่งโซนเลยจ้า โซนด้านนี้นะเป็นเกี่ยวกับสงครามญี่ปุ่น โซนอีกด้านเป็นเกี่ยวกับสงครามอเมริกัน... ![]() ความอลังของตึกนี้คือมันจะเป็นมุมมองเมืองเปียงยางสมัยที่มีสงครามแบบพาโนรามา 360 องศา เรานั่งแล้วมันก็จะหมุนไปเรื่อย ๆ กำลังกระซิบกระซาบเม้ามอยกันอยู่ว่าสงสัยประเทศนี้คงจะชอบอะไรหมุน ๆ ไกด์ก็กดปุ่มให้แสงสีเสียงเริ่มทำงาน ไฟเริ่มดับลง ระบบเสียงดีใช้ได้ เหมือนกับเรานั่งอยู่กลางสงคราม เสียงปืน เสียงระเบิด เสียงเครื่องบิน เสียงไซเรน เสียงกรีดร้อง เสียงอะไรต่อมิอะไร . .. ... .... การแสดงจบ ออกมาด้านนอก พบกับสิ่งนี้ ทำให้รู้สึกว่า สันติภาพและความสงบ คือสิ่งสวยงาม ![]() ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยียน
ฮ่าๆๆ... ภาพเล้กเผื่อจะอยากไปดูด้วยตาตัวเองน่ะค่ะ... ![]() โดย: melody_bangkok
![]() |
บทความทั้งหมด
|
ภาพสวย เสียดายที่เล็กไปหน่อย ดูไม่สะใจเยยยย อิอิ