หลักนิติธรรมในประเทศไทย: มิติใหม่ฝีมือ คปค. ในประเทศที่เจริญแล้ว ราษฎรมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย มิฉะนั้นจะต้องรับผิดชอบต่อผลของการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยที่มาของกฎหมายก็คือสภานิติบัญญัติที่ในกรณีทั่วไปคือผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้ง บางครั้งบางคราวฝ่ายบริหารสามารถออกกฎหมายในลำดับรองลงมาได้หากมีสถานการณ์เร่งด่วน แต่ไม่ว่ากรณีใด การออกกฎหมายของฝ่ายบริหารจะต้องเป็นไปภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว ในสังคมประเทศที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ศาลจะพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามตัวบทกฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงคำสั่งหรือคามประสงค์ของคณะบุคคลคณะหนึ่งคณะใด ในประเทศไทย เมื่อ คปค. ออกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 3 กำหนดให้ศาลพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามตัวบทกฎหมายและตามคำสั่งของ คปค. ก็จะเกิดข้อสงสัยในใจว่าสถานะทางกฎหมายของคำสั่งของ คปค. นั้น เทียบเท่าหรืออยู่เหนือตัวบทกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อกฎหมายส่วนใหญ่ผ่านกระบวนการทางนิติบัญญัติที่เป็นประชาธิปไตย แต่คำสั่ง คปค. หรือ คมช. เป็นคำสั่งของกลุ่มทหารผู้ทำการรัฐประหาร และยึดอำนาจมาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่ศาลยุติธรรมก็ยังต้องเชื่อฟัง คำสั่ง ดังกล่าวหรือ ในประเทศที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ศาลจะไม่มีวันนำกฎหมายที่เพิ่งมีการประกาศใช้บังคับขึ้นใหม่มาลงโทษราษฎรย้อนหลัง ศาลจะลงโทษราษฎรผู้กระทำความผิดที่กฎหมายในขณะนั้นเองบัญญัติว่าเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ตามนั้น ในโลกที่เจริญแล้วการบัญญัติกฎหมายเพื่อเอาผิดหรือเอาโทษบุคคลใดบุคคลหนึ่งย้อนหลังเป็นเรื่องที่ไม่มีใครยอมรับ ไม่มีใครทำ แต่ในประเทศไทย เรื่องที่ขัดต่อหลักนิติธรรมดังกล่าวสามารถกระทำได้ (โปรดอ่านความเห็นกรณีคำวินิจฉัยคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ) อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ความปรารถนาอันแรงกล้า ตามแผนการบันได 4 ขั้นของคณะรัฐประหาร ได้รับการตอบสนองด้วยดี ลองไปพลิกอ่านมาตรา 208 และมาตรา 300 ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับพุทธศักราช 2550 ที่จัดร่างมาอย่างดีแล้ว ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อะไรคือสาเหตุที่ต้องมีการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญให้มีการต่ออายุ ทั้งประธานศาลฎีกา และประธานศาลปกครองสูงสุดในปัจจุบันให้ได้ดำรงตำแหน่งประธานและรองประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญไปอีกเป็นเวลาถึง 9 ปี ข้อสงสัยต่อไปก็คือ ทำไมจึงมีการต่ออายุราชการ ของผู้พิพากษาออกไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในศาลฎีกาอีก 10 ปี ทั้งๆ ที่เรื่องการต่ออายุราชการ 10 ปีของผู้พิพากษานั้นก็บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตุลาการอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่เป็นการต่ออายุราชการ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้พิพากษาอาวุโสช่วยดูแลพิจารณาอรรถคดีเป็นพี่เลี้ยงผู้พิพากษาที่อ่อนอาวุโสกว่าในศาลชั้นต้น แต่ทำไมร่างรัฐธรรมนูญฉบับทายาทเผด็จการจึงต้องเอาเรื่องการต่ออายุผู้พิพากษาเฉพาะศาลฎีกา หมกเม็ดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ ทำไมไม่มีการนำเสนอประเด็นนี้เข้าสู่การพิจารณาในระหว่างที่มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ใครเป็นคนสอดไส้มาตรานี้เข้ามา! ในประเทศที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรม จะไม่มีการออกกฎหมายมาเพื่อเล่นงาน กลั่นแกล้งหรือจัดการกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งและที่สำคัญที่สุดในประเทศที่เจริญแล้วและยึดมั่นในหลักนิติธรรม จะไม่ยอมให้มีการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ทางการเองหรือเพื่อการล้างแค้นของคนกลุ่มเดียว (ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30) |
บทความทั้งหมด
|
ผิดจากนี้ มันเป็นไปไม่ได้