Prelude to the memories ผมตื่นขึ้นมากับเช้าที่แดดสาดแสงรุนแรง จนเหงื่อรอบคอผุดพราย หยีตามองปลายฟ้าก่อนก้มมองดอกไม้กลางดงไม้ดอก หลายวันแล้วที่ผมยืนมองทิวทัศน์ภายนอกจากขอบหน้าต่างแห่งนี้ สายลมเย็นๆพัดโบกเบาๆ แม้จะไม่อาจคลายร้อนได้ แต่ก็ชวนเย็นผิวกายเล็กๆ ....................................... ความทรงจำสำหรับผมมันคืออะไร? มันเป็นแบบไหน? ผมตอบตัวเองไม่ได้เลย ผมจำเรื่องราวของสองอาทิตย์ก่อนไม่ได้ เรื่องราวก่อนวันที่ผมตื่นมาด้วยอาการปวดหัวแสนสาหัส ปาดแผลบนร่างกายมาจากไหนผมตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ผมพยายามนึกทุกเรื่องราวในอดีต แต่ก็พาลทำให้ตัวเองปวดหัวอย่างรุนแรงเปล่าๆ เพราะมันไม่ช่วยอะไรเลย ................................................................. ใบไม้บนกิ่งอ่อนของต้นชมภู่ไหวเอนเบาๆตามแรงลม เธอปรากฎกายขึ้น เงาร่างที่เคลื่อนไหวไปมา ช่างรู้สึกชินตาและคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เธอที่เดินอย่างเดียวดายกลางดงไม้ที่ผลิบาน นอกหน้าต่างห้องผม เรือนผมที่ดำและเงางามสะท้อนให้รู้ถึงความงามจากส่วนลึกของเธอ แสงแดดสะท้อนประกายกายเรือนผมดูยิบยับ ผมหยีตามองเธอ มองตามเธอที่เดินผ่านสายลมไปสู่ส่วนลึกของดงไม้ ผมก้าวช้าๆข้ามขอบหน้าต่าง เดินเหม่อลอยผ่านราวกั้นริมห้อง สัมผัสพื้นหญ้าที่ขจีด้วยเท้าที่เปลือยเปล่า สายตาจดจ้องไปที่แผ่นหลังอันอ้อนแอ้นของเธอ พลางก้าวเดินตามรอยเยื้องก้าวของเธอสู่ส่วนลึกของดงไม้อันชอุ่มนั้น อากาศรอบข้างเริ่มเย็นขึ้นมาบ้าง อาจจะเพราะแสงแดดที่โดนบดบังหรือเพราะอ้อมกอดอันเย็นฉ่ำของแมกไม้ ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เธอหยุดยืนอยู่ริมต้นไม้ที่ดูเก่าแก่ต้นหนึ่ง ด้วยทีท่าเหม่อลอย ผมเห็นแผ่นหลังของเธอที่สะท้านไหว และหยุดยืนอยู่ด้านหลังเธอในระยะพอเอื้อมมือก็สัมผัสถูกตัวเธอได้ เธอกำลังร้องไห้ ซบหน้ากับฝ่ามือทั้งสองข้าง จนกระทั่งถึงตอนนี้ ผมยังไม่เห็นหน้าเธอ แต่ความคุ้นเคยในใจ มันช่างเป็นแรงผลักดันอันกล้าแกร่งให้ผมเอื้อมมือไปประคองไหล่ของเธอ และขยับเธอให้หันหน้ามาทางผม เธอนิ่งลงพลางเงยหน้าที่ระรื้นน้ำตาขึ้นมามองผม ณ วินาทีนั้น ความผูกพัน ความเคยคุ้น ความเคยชิน และไออุ่นทั้งหมดในใจมันสะท้านไหว ดวงใจเต้นแรงเร่าขึ้นมาฉับพลัน ดวงตาที่เอ่อคลอน้ำตานั้นของเธอ เริ่มหลั่งน้ำตาราวตาน้ำที่ผุดขึ้นกลางดงหมอกอันลึกลับ เธอโผเข้าสู่อ้อมกอดผมโดยที่ผมก็ดึงหัวไหล่เธอเข้าหาตัวเอง เธอซุกหน้ากับไหล่พลางร้องไห้อย่างไม่อาจยั้ง ผมงุนงง กับอาการของใจตัวเอง และความรู้สึกที่คุ้นเคย กับกลิ่นจางๆจากเรือนผมเธอที่ทำให้รู้สึกว่าพบที่ของตัวเองแล้วนั้น หัวใจของผมเต้นเร่าอย่างรุนแรงขณะที่ผมก็ตระหนักได้ว่า หัวใจของเธอก็เต้นแรงไม่แพ้ผม โดยที่ผมที่สวมกอดเธออยู่รู้สึกได้ ซักพัก เธอขยับตัวเบาๆ ผละจากหน้าอกผม เงยหน้าที่ระรื้นน้ำนั้นจ้องตาที่กลมโตสู้สายตาผม ถามผมว่า ........."เราเคยพบกันมาก่อนใหมค่ะ?" ........." ไม่รู้สิ " ผมตอบพลางยิ้มริมปาก .........." ทำไมตอนที่ฉันเห็นคุณ ถึงเกิดความรู้สึกสนิทอย่างรุนแรงและคุ้นเคยจัง " .........." ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ " ..........." เหรอค่ะ " เธอก้มหน้าลงมองปลายเท้าตัวเอง ผมเห็นประกายหยดน้ำตาเธอที่พวงแก้มสีชมพูของเธอ ........." คุณกำลังเสียใจ " .........." ค่ะ " ............." เรื่องอะไรเหรอครับ บอกผมได้ใหม? " .........." ฉันไม่รู้ว่าเรื่องอะไรค่ะ ฉันร้องไห้ตลอดหลายวันที่ตื่นขึ้นมา พร้อมกับการที่จำเรื่องราวอะไรไม่ได้เลย " ..........." ........... " ......." ขอโทษนะค่ะ ที่เมื่อกี้เสียมารยาท " ........" ไม่เป็นไรครับ ผมก็รู้สึกว่าเหมือนเราจะเคยเจอกันที่ไหนซักที่มาก่อนนะครับ แต่ก็จำไม่ได้เหมือนกันว่า ที่ไหน " ......... " เหรอคะ" เธอเงยหน้ามาจ้องตาผม พร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกว่าโลกทั้งโลกของผม คือสิ่งนี้แหล่ะ ผมเผลอเอื้อมมือไปดึงหัวไหล่เธอ เข้ามากอดอีกที ..............." ผมรักคุณ " .................."........" เธอเอื้อมสองมือขึ้นโอบรอบตัวผม .............." ฉันก็รู้สึกว่า ฉันรักคุณเหมือนกันค่ะ " ..........."........." ผมนิ่งยิ้มและตอบรับไออุ่นในอ้อมแขนอย่างเต็มที่ เรากอดกันนานแค่ไหน? ไม่รู้ตัวเหมือนกัน รู้แต่เพียงว่า สายลมได้โบกพัดไอร้อนรอบข้างจนไกลห่าง เสียงใบไม้และกิ่งก้านเสียดสีราวเสียงหัวเราะของเด็กน้อย นานแค่ไหนน่ะ กับอุ่นกายที่เคยคุ้นของเธอนั้น และอ้อมกอดของตัวเอง กอดกับเธอโดยไม่รู้สาเหตุ กอดใครบางคนที่เราบอกว่าเรารักเธอโดยที่ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร ผมชื่ออะไร? .................................. นานแค่นไหนนะ ไม่รู้เลย จนกระทั่งเสียงระฆังที่ดังกังวานจาก อาคารที่ผมเดินออกมา " ปลุก " เราให้ตื่นสู่โลกแห่งความเป็นจริงขึ้นมา ....." เที่ยงแล้วสิ หิวใหมครับ?" .........."......." รอยยิ้มเธอเป็นคำตอบ ผมเดินจับมือเธอก้าวช้าๆ ประคองกันและกัน เดินไปสู่อาคารสีขาวที่ตระหง่านและสดใสภายใต้แสงแดดสีทองวาว .................... เมื่อเดินเข้าสู่อาคารที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนหลายหลาก เธอยิ้ม ผมระรื่นใจ เราเดินตระกองกันและกัน เข้าไป .........." พ่อฮะ แม่ฮะ " เราสองคนชะงักก้าวเดินพร้อมกัน ก่อนหันมามองหน้าซึ่งกันและกัน แล้วค่อยๆหันไปด้านหลังของเรา เด็กชายวัยสิบสองสิบสามปี กับแววตาที่สุกใส ร่างกายที่ผอมโปร่ง ผมเห็นร่องเงาของเธอ จากตัวของเด็กชาย ขณะที่เธอสะท้านไหล่พร้อมหลั่งน้ำตา เธอหันมามองหน้าผมพร้อมสะอื้น ..........." นั่นลูกคุณใช่ใหมค่ะ เหมือนคุณจังเลย " ..........." ลูกของเราต่างหาก " .................... ก่อนที่ร่องความทรงจำทั้งหมดจะกลับคืนมา ก่อนที่ทุกความจริงในชีวิตจะหวนสู่บันทึกในสมอง ภาพเธอตั้งแต่เธอ ในชุดสบายๆ ชุดทำงาน และชุดนักศึกษา กับเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่สดใสนั้นของเธอ กับคำพูดเธอ........." ฉันรักคุณนะีค่ะ " พร้อมเรื่องราวของอุบัติเหตุกลับคืนสู่ความนึกคิดของผม พร้อมเสียงกรีดร้องของเธอก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงในวันนั้น น้ำตาใสๆเริ่มไหลรินจากดวงตาของผม .................... ผมเอื้อมมือกอดเธอ พลางกระซิบบอกเธอว่า " ผมรักคุณ " เธอกอดตอบผมพร้อมพูดว่า " ฉันรักคุณ " เด็กชายที่ยืนนิ่งด้วยความงุนงงในตอนแรก เริ่มหลั่งน้ำตาทั้งรอยยิ้ม พร้อมเดินเข้าหาเรา และก้าวสู่อ้อมแขนของเรา นี่จึงเป็นเราจริงๆไง .......................... ผมเคยบอกเธอว่า ไม่ว่าจะท่ามกลางคนกี่หมื่นแสนคน ผมก็จะหาเธอจนเจอจนได้ ผมเคยบอกเธอว่า ไม่ว่าผมจะจำสิ่งใดไม่ได้เลยก็ตาม ผมก็จะจำได้ว่า " ผมรักเธอ " และเธอก็ยิ้มกับคำพูดนั้นของผม ........................ ผมเคยนึกคิดในใจเสมอว่า หากคนสองคนที่บอกรักกันทุกวัน กอดรักกันและกัน พยายามจดจำทุกเรื่องราวระหว่างกัน เมื่อวันหนึ่ง สูญเสียความทรงจำทั้งหมดไปแล้ว ใช่จะยังจำได้ใหมว่า เขายังมีคนที่เขารักอยู่อีกคนหนึ่ง อยู่ที่ไหนซักที่ อยู่คนหนึ่ง ใหม? .................... |
บทความทั้งหมด
|