หลายท่านที่เคยได้สัมผัสรถทั้งสองรุ่นนี้ คงจะรู้สึกเหมือนๆกันว่า
พวงมาลัยของตัว EK มันเบาและไวกว่าของตัว ES
จริงๆแล้วมันเป็นยังไงกันแน่ มาดูกันเลยดีกว่า
EK หมุนเลี้ยวขวา 1 รอบ

ES หมุนเลี้ยวขวา 1 รอบ

เมื่อหมุนพวงมาลัย 1 รอบเท่ากัน ล้อของ ES จะเลี้ยวได้มากกว่า
ซึ่งก็เป็นไปตาม spec ที่บอกว่า
EK ทด 17.1:1
ES ทด 14.74:1
รูปมุมล้ออาจจะไม่ชัด คราวนี้มาดูวงเลี้ยวจริงๆเมื่อหมุนพวงมาลัยเลี้ยวขวา 1 รอบ
จะเห็นเลยว่า EK เลี้ยวกว้างกว่า

ทีนี้ลองหมุนพวงมาลัยจนสุดดู
EK หมุนเลี้ยวขวาสุด

ES หมุนเลี้ยวขวาสุด

ทีนี้จะเห็นว่าเมื่อเลี้ยวสุดแล้ว ล้อ EK จะหมุนได้มากกว่า
ทั้งนี้เพราะ พวงมาลัยของ EK สามารถหมุนสุดได้ถึง 3.47 รอบ
ซึ่งมากกว่าของ ES ที่สามารถหมุนสุดได้เพียง 2.88 รอบ
จึงส่งผลให้วงเลี้ยวของ EK มีรัศมีอยู่ที่ 5.0 เมตร และของ ES มีรัศมีอยู่ที่ 5.2 เมตร
ตัวเลขต่างกันแค่ 20cm อาจจะดูน้อย แต่ในการใช้งานจริงจะต่างกันพอควร
เช่นตอนกลับรถ วงเลี้ยวจะมีค่าเป็นสองเท่าของรัศมี
EK ตีวงทั้งหมด 10 เมตร แต่ ES ต้องตีวง 10.4 เมตร ต่างกันเกือบครึ่งเมตรเลยทีเดียว
อย่างถนนตรงแถวบ้านผม EK จะกลับได้โดยกินเลนเพียงเลนเดียว
แต่ถ้าเป็น ES จะต้องกินไปถึง 2 เลน ซึ่งจะต้องเสียเวลารอมากกว่ากันพอสมควร
มาดูขนาดของพวงมาลัยกันต่อ
EK

ES

จากรูปจะเห็นว่ามันเท่ากัน แต่เวลาขับจะรู้สึกว่าของตัว ES มันจะใหญ่กว่า
และของตัว ES จะให้ความรู้สึกว่ามันตอบสนองได้ช้ากว่า
ทั้งๆที่ถ้าหักพวงมาลัยเท่ากัน ES จะเลี้ยวได้มากกว่า
ความรู้สึกต่างๆนี้ มันเป็นผลมาจากความฝืดของระบบพวงมาลัย
ที่ของตัว ES นั้นเซ็ทมาให้ฝืดมากกว่า คนขับก็เลยโดนพวงมาลัยหลอกไป
EK
ฐานล้อ 2620
ระยะระหว่างล้อคู่หน้า/หลัง 1475/1475
ES
ฐานล้อ 2620
ระยะระหว่างล้อคู่หน้า/หลัง 1470/1470
//www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V4069312/V4069312.html