มองธุรกิจท่องเที่ยวไทย หลังปัญหา 'ทัวร์ศูนย์เหรียญ' ยังไม่จบดี กลับมามีศึกใหญ่ 'ทัวร์อั้งยี่' ที่ว่ากันว่า รุนแรงกว่าเดิม

ในช่วง 10-15 ปี ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะจากประเทศจีน พากันหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ด้วยค่าครองชีพต่ำ และความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว ที่แตกต่างจากจีน มาประเทศเดียวก็คุ้มแล้ว ซึ่งผลจากการที่เมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม จึงมีสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา นั่นคือ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ”

 

แต่ช่วงวิกฤตโควิดนั่นเอง ที่ทำให้มีชาวจีนจำนวนมาก อาศัยในประเทศไทย กว้านซื้อที่ดิน ยึดหัวเมืองหลัก เริ่มต้นทำธุรกิจแบบปักหลัก สร้างรากฐาน บริหารงานโดยคนจีน โดยเฉพาะการเปิดร้านอาหาร และภัตตาคาร

 

ทัวร์รูปแบบใหม่จึงเกิดขึ้น และส่งผลกระทบมากกว่าเดิม นั่นคือ “ทัวร์อั้งยี่” ที่กินรวบเบ็ดเสร็จผูกขาดโดยกลุ่มทุนจีน 100% ตั้งแต่โรงแรม, ที่พัก, ร้านอาหาร, รถบัสนำเที่ยว, ร้านขายของฝาก ฯลฯ โดยไม่มีบริษัททัวร์ของคนไทยมาข้องเกี่ยวแม้แต่น้อย เรียกว่า ไม่ได้เงินแม้แต่แดงเดียว


                                                                

 

หลังจากที่ประเทศไทยดีใจกันอย่างหนักกับการที่ประเทศจีนประกาศเปิดประเทศในเดือนมกราคม65 ที่ผ่านมา แน่นอนว่าทุกคนคิดว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้นน่าจะยิ้มหน้าบานไปตามๆ กัน เศรษฐกิจไทยและปากท้องคนไทยนั้นคงจะดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้วแน่ๆใช่มั้ย

                                                              

การเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนนั้น อาจจะไม่ได้นำเงินเข้าประเทศไทยของเราแต่กลับเอาเงินเข้ากระเป๋านักลงทุนชาวจีน  เพราะจากที่คิดว่านักท่องเที่ยวจีนจะมาเป็นลูกค้าแต่กลับกลายว่ามาเป็นคู่แข่งทางการค้าด้วยซ้ำไป  จะเห็นได้อย่างชัดเจนในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของชาวจีน ขอยกตัวอย่างง่ายๆ  ห้วยขวาง ถ้าลงมาดูตลาดท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านของฝาก ร้านนวด ร้านอาหาร บริเวณนั้น เจ้าของเป็นคนจีนที่มีธุรกิจรวมกับคนไทย หรือเรียกง่ายๆว่า คนไทยเราเองเป็นนอมินีของเศรษฐีชาวจีน

แถมร้านพวกนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน  เพราะพวกเค้าจะได้รับการบริการในรูปแบบคนกันเอง พูดภาษาเดียวกัน วัฒนธรรมเดียวกัน ลดแลกแจกแถมกันแบบนี้เป็นใครใครก็ชอบ แล้วจะเรียกได้ว่าเงินเข้ากระเป๋าใครกันแน่ ลองคิดดู


                                                                     

สุดท้ายถ้ารัฐบาลยังไม่ลงมาดูแลส่วนนี้ การปล่อยให้กลุ่มทุนจีนเข้ามามีผลต่อเศรษฐกิจท่องเที่ยวนั้นไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน(หรือจะมีส่วนได้เสียกันแน่นะเลยทำเบลอๆไป) ทั้งที่ประชาชนตาดำๆอย่างเรายังมองเห็นชัดเจนมาก ถ้ารัฐบาลยังหลับหูหลับตากันต่อไป ธุรกิจท่องเที่ยวของเราคงไม่มีทางกลับมานำเงินเข้าประเทศเหมือนเดิมได้อย่างแน่นอน อีกอย่างควรเอาเวลากับการหลงตื่นเต้นไปกับตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่มาเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังน้อยอยู่ดี ลงมาช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยวกันดีกว่ามั้ย เพราะลืมไปหรือป่าวว่า ธุรกิจที่ปิดตัวไปกว่า 3 ปี ขาดสภาพคล่องอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้าน โรงแรม ดิวตี้ฟรี สายการบิน กลุ่มธุรกิจSME รายย่อยๆในตอนนี้พวกเค้าเหลือเงินในกระเป๋าเพื่อดำเนินธุรกิจต่อหรือไม่ เพราะเท่าที่ผ่านมาเห็นแต่การประโคมข่าวเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดยข่าวจำนวนเงินใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวที่ลดลงนั้น กลับไม่มีการนำเสนอ ฝากไว้ให้คิดนะทุกคน


 



Create Date : 27 พฤษภาคม 2566
Last Update : 27 พฤษภาคม 2566 17:00:53 น.
Counter : 500 Pageviews.

0 comments
23 มีค.68 โรงมหรสพศาลาเฉลิมกรุง เชิญมาชมคอนเสิร์ต คิดถึง Miss you ไกรวิทย์ พุ่มสุโข อุ้มสี
(7 มี.ค. 2568 01:50:38 น.)
Key Takeaways: "น้ำชาภาวนา" โดย พระอาจารย์โชติก อภิชาโต peaceplay
(3 มี.ค. 2568 18:25:14 น.)
DIOR Gold House @ Central Chidlom haiku
(28 ก.พ. 2568 22:59:44 น.)
เดลิ แบรนด์เครื่องเขียนชั้นนำ ลั่นกลองรบในตลาดไทย ชูกลยุทธ์เดือด 5 ปี ขึ้นแท่น Brand leader แน่นอน อุ้มสี
(25 ก.พ. 2568 01:52:25 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Theyuyoo.BlogGang.com

ผักกาดดองเน่า
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด