เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรมังกรพรม
RALPH BATTEN : เขียน
ปณิตา ธรรมนิธิ : แปล
สำนักพิมพ์หิ่งห้อย
พิมพ์ครั้งแรก กันยายน 2545
ราคา 98 บาท จำนวน 128 หน้า
เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรมังกรพรมเป็นวรรณกรรมเยาวชนเล่มเล็กๆ ที่สนุกตามแบบฉบับของวรรณกรรมสำหรับเยาวชนทั่วไปคือเรื่องราวสนุก สดใสไม่มีพิษมีภัยแล้วยังแฝงข้อคิดเป็นคติสอนใจไว้มากมาย
อาน่าห์ เป็นเจ้าหญิงองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรมังกรพรม ในทุกปีที่เป็นวันครบรอบประสูติเธอจะได้รับของขวัญจากพระราชา แล้วเช่นกันทุกปีเธอจะนำของขวัญที่ได้มา มาใช้ในแบบฉบับของเธอ เธอเคยใช้หมวกผ้าไหมปีกใหญ่ทำเป็นว่าว แล้วใช้ชุดหนังสือประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรฉบับสมบูรณ์ 12 เล่มเป็นบันไดเพื่อปีนไปเก็บว่าวหมวกไหมพรมที่ติดอยู่บนต้นซีดาร์ หรือแม้แต่รัดเกล้าผูกยางยืดทำเป็นเครื่องดีดสับปะรดเพื่อเก็บว่าวหมวกไหมพรมที่ยังค้างอยู่บนต้นซีดาร์
และในปีนี้การให้ของขวัญวันครบรอบประสูติขององค์รัชทายาทจึงเป็นเรื่องยากลำบากของพระราชาและเหล่าคณะ ซึ่งช่วยกันคิดว่าของขวัญชิ้นไหนจะเหมาะกับเธอจนกระทั่งพระราชาได้มอบของขวัญล้ำค่าเป็นหินเนื้อหยาบห้อยกับสร้อยทองอย่างประณีต
พระราชาได้ทรงตรัสกับเจ้าหญิงน้อยว่า "นี่ไม่ใช่ของขวัญธรรมดาหรอกนะ หินก้อนนี้มีพลังอันยิ่งใหญ่ แม้ว่ามันจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวมันเองได้ก็ตามที แต่มันสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ที่อยู่ในอาณาจักรแห่งนี้-เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น จีงเป็นหน้าที่ของลูกแล้วละที่ต้องใช้มันอย่างชาญฉลาด"
"จำไว้นะอาน่าห์มันเปลี่ยนอะไรก็ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นและยังมีเรื่องอื่นที่ต้องรับรู้เกี่ยวกับหินก้อนนี้อีกสองข้อ ข้อแรกลูกต้องใช้มันก่อนการเฉลิมฉลองวันเกิดจะจบลงและข้อสองมันจะใช้ได้ผลต่อเมื่อลูกมองเห็นพระราชวังนั่นคือลูกต้องใช้มันเมื่ออยู่ในอาณาจักรนี้เท่านั้น"
ระหว่างเวลาที่มีอยู่เพื่อให้เจ้าหญิงน้อยตัดสินใจว่าจะใช้อำนาจหินก้อนนี้ทำอะไรพระราชาได้มอบของขวัญอีกชิ้นหนึ่งให้คือนิทานที่เป็นเรื่องราวของอาณาจักรแห่งนี้โดยมอบหมายให้เหล่าที่ปรึกษาผู้ใกล้ชิดได้เล่าให้เจ้าหญิงฟังวันละเรื่อง
และเรื่องก็ดำเนินโดยที่เจ้าหญิงได้เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กหญิงแสนซนให้กลายเป็นเจ้าหญิงองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรมังกรพรมแห่งนี้ด้วยตัวเองโดยปราศจากอำนาจจากก้อนหินวิเศษนั้นนั่นเอง
วรรณกรรมเยาวชนที่เหมาะมากๆสำหรับเยาวชน เป็นเหมือนนิทานที่สอดแทรกสาระและความสนุกได้อย่างลงตัว อ่านตอนนี้(ที่วัยใกล้เลข 3 เข้าไปเต็มทีแล้ว)ยังรู้สึกสนุก เลยไม่น่าเป็นที่สงสัยเลยว่าทำไมเด็กถึงชอบนิทาน การที่เด็กจะรักหรือชอบอ่านหนังสือ ความสนุกจากเนื้อเรื่องและประโยชน์ที่สอดแทรกได้อย่างลงตัว ไม่มากไปไม่น้อยไปแบบนี้แหล่ะที่สำคัญที่สุด
ใครที่มีลูก มีหลาน แล้วอยากปลูกฝังนิสัยรักการอ่านเรื่องนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยนะครับ