ไม่มีชื่อ... -1-... วันนี้ฟ้าใส มีลมพัดอ่อนๆ ฉันเดินผ่านร้านขายดอกไม้ กุหลาบสีสวยชูช่อน่ารัก สวยจนฉันอดใจซื้อไม่ได้ ฉันไม่ชอบดอกกุหลาบจะว่าไม่ชอบก็ไม่เชิง ไม่ชอบที่เป็นดอกๆที่โดนตัด ชอบที่ติดกับต้นมากกว่า ดูมีเสน่ห์ สง่างาม เพื่อนของฉันเคยถามว่าแล้วถ้าวันวาเลนไทน์มีหนุ่มส่งกุหลาบมาให้จะรับมั้ย ไม่รับ จะบอกให้เขาเอามาให้ทั้งต้นทั้งกระถาง พิลึกคน เพื่อนว่า พิลึกตรงไหน ถ้าหนุ่มนั่นปิ๊งฉันจริงเขาก็คงยอมหาให้เป็นต้น แต่ถ้าไม่ ก็ผ่านไปซะเถอะ ฉันว่า แต่มาคิดอีกที ฉันไม่อยากได้หรอกกุหลาบ ฉันชอบพวกแคคตัสหรือไม่ก็บรอมมีเลียดมากกว่า เลี้ยงง่าย ตายยาก ดอกสวย มีเสน่ห์ เหมือนฉัน..5 5 5 พิลึกที่สุดเธอนี่ เพื่อนๆว่า ถึงไหนแล้วนะ อ๋อ!กุหลาบ ใช่ๆฉันซื้อดอกกุหลาบ สีแดงเสียด้วย ไม่มีแจกัน ปักไว้ในเหยือกแก้วนี่ละกัน ตั้งไว้ไหนดีๆ เดินไปวางบนโต๊ะรับแขก ไม่เอาดีกว่า โต๊ะกินข้าว ไม่เอาดีกว่าเกะกะของกิน เดินถือเหยือกดอกกุหลาบรอบบ้าน โอ๊ย!ทำไมมันวุ่นวายอย่างนี้ เห็นมั้ยล่ะซื้อเป็นกระถางง่ายกว่าเยอะ ตั้งตรงไหนก็ได้ หน้าบ้าน ข้างประตู ในสวนหย่อมเล็กๆนั่น เสียงโทรศัพท์มือถือดังอยู่ที่ไหนสักแห่ง อ้อ..หลังตู้เย็น เดินไปหยิบโทรศัพท์ อุ้มเหยือกกุหลาบไปด้วย ก็ฉันยังหาที่เหมาะๆสำหรับวางไม่ได้เลย ใครกันๆ อ๋อ! เหวย ! ฉันส่งเสียงทักทายปลายสาย อยู่ไหน ทำอะไร เย็นนี้ว่างมั้ย จะไปหานะอีกสักชั่วโมงน่าจะถึง ทำกับข้าวเผื่อผมด้วยนะ หิวมากเลย เสียงปลายสายถามและสั่ง ก่อนจะมาน่ะ จะไม่ฟังคำตอบก่อนรึไง ฉันย้อนให้ วางเหยือกใส่กุหลาบลงบนโต๊ะรับแขก ก่อนที่มันจะหล่นแตก ให้มันอยู่ตรงนี้ก่อนจนกว่าจะคิดออกว่าจะเอาไปวางไว้ที่ไหน จะไม่อยู่รึ ทำเสียงแปลกใจซะงั้น เปล่า อยู่สิ ฉันว่า งั้นถามทำไม ผมรู้อยู่แล้วว่าวันนี้คุณอยู่บ้านชัวร์ งั้น ถามทำไม ฉันย้อนด้วยคำของเขา เดินเข้าครัวเปิดตู้เย็นสำรวจของสดที่จะทำอาหารเย็นนี้ ไปอารมณ์เสียมาจากไหน ดูทำเสียง ใครบางคนยังไม่รู้ตัว อารมณ์ดีมาตลอดทั้งวัน เพิ่งจะอารมณ์เสียเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี่แหละ ฉันว่า เสียงหัวเราะเบาๆจากปลายสาย ผมกำลังขับรถ และรถติดมากเลย ยังไม่อยากทะเลาะด้วย จะเอาอะไรมั้ยจะซื้อไปให้ น้ำองุ่น อยากกินน้ำองุ่น อ้อ! บรอมมีเลียดสวยๆสักต้น ได้เลย คุณผู้หญิง เสียงรื่นเริงปลายสาย แล้วเจอกัน เจอกัน กดวางสาย อืม มีของสดในตู้เย็น เพียงพอที่จะทำอาหารง่ายๆสำหรับคนสองคน -2- เขา คือเพื่อนของพี่ชาย เรารู้จักกันมากว่า 5 ปี จำได้ คราวนั้นฉันตามพี่ชายไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พี่ชายชอบดูนก ฉันชอบเที่ยวไม่ได้ดูอะไรจริงจัง มีเพื่อนพี่ชายมาสมทบอีกสามคน แน่นอนมี เขา ด้วย เวลาผู้ชายเจอกันนี่ไม่เห็นจะต่างจากผู้หญิงเจอกันสักนิดเมาธ์แตกพอกัน บางทียังเอาแฟนตัวเองมาเมาท์หน้าตาเฉย แต่ก็มักตบท้ายด้วยน้ำเสียงที่ไม่คิดว่าจะได้ยินได้ฟัง แต่ก็น่ารักว่ะ ฉันนั่งฟังยังอดไม่ได้ที่จะทำตาโต เพื่อนของพี่กลุ่มนี้ดีอยู่อย่างไม่กินเหล้าจนเมาเสียงดังไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษอะไรนักหนาหรอกเหตุผลคือ สถานที่ไม่เอื้ออำนวย ต้องเคารพกฎกติกา พี่ท่านว่ามาอย่างนั้น พวกเขาคุยกันถูกคอ น้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อใครบางคนพูดถึงนกที่เขาได้เจอ มีเสียงซักถาม มีเสียงหมายมาดในใจว่าจะต้องตามล่าให้เจอ ล่า ของพวกเขาคือตามดู ฉันเคยเรียกพวกเขาว่า พวกถ้ำมอง เลยโดนโวยซะลั่นป่า มีเพียง เขา ที่นั่งหัวเราะส่ายหน้าเฉยๆ ทำไมต้องพากันด้อมๆมองๆ แอบๆซ่อนๆ อยากดูก็แค่โยนหินโยนไม้เข้าไปเดี๋ยวนกมันตกใจก็บินขึ้นมาให้เห็นเองแหละ ฉันแกล้งว่า คราวนี้เลยมีหลายเสียงรุมถล่มฉันยับว่า คิดได้ไง น้องใครวะไม่รู้จักสั่งสอน ปั้ดเดี๋ยวปล่อยทิ้งไว้ในป่าไม่พากลับ แล้วฉันก็โดนจับเลคเชอร์เรื่องการดูนก กลางป่าแก่งกระจานจากบรรดาพี่ๆที่คิดว่าตัวเองเป็นเซียนดูนก หลังจากนั้นฉันก็หัดดูนกบ้าง ดูพอให้มีกิจกรรมทำ ไม่ถึงกับคลั่งไคล้ เวลาที่พี่ชายไปเที่ยวดูนก ถ้าไม่มีนัดที่ไหนฉันมักจะขู่กรรโชก เอ๊ย! รบเร้า อ้อนวอน ขอติดสอยห้อยตามไปด้วยเสมอ แน่นอน!มี เขา ด้วยเสมอ ก็เขาอยู่ในแก๊งเดียวกันกับพี่ชาย และเขานี่แหละที่เป็นคนคอยช่วยเหลือและดูแลเวลาไปดูนก พี่ชายน่ะเหรอ แทบจะจับฉันผูกติดกับเขา อย่าเดินตามฉันนักเดี๋ยวสาวๆเข้าใจผิดว่าแกเป็นแฟนฉัน เป็นไงพี่ชายของฉันรักและห่วงน้องจริงๆ เขาก็ช่างกระไรไม่บ่นสักคำยอมให้ฉันเกาะติดตลอดทริป ไม่กลัวสาวๆเข้าใจผิดว่าฉันเป็นแฟนเหมือนพี่กล้ารึ ฉันเคยลองถามเขาเมื่อเราสนิทกันกันมากขึ้น คำตอบน่ะรึ ไม่กลัว คุณยังดูห่างไกลจากคำว่าแฟน ดูเขาตอบสิ แปลว่าไงล่ะนั่น -3- ปีที่แล้ว พี่ชายแต่งงานแยกไปอยู่กับพี่สะใภ้ ทิ้งฉันอยู่บ้านเพียงลำพัง อยู่คนเดียวก็สบายดี แม้บางครั้งจะเงียบเหงาบ้าง โถ!ลูกกำพร้ามีกันอยู่สองพี่น้อง พอต้องแยกกันอยู่ก็มีเหงาบ้างเป็นธรรมดา พี่ชายอยากให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่ฉันขี้เกียจย้ายตาม ไม่สะดวกถ้าต้องเดินทางไปทำงาน พี่ชายกับพี่สะใภ้จะมาเยี่ยมมาพักด้วยเดือนละครั้ง บางทีก็สองเดือนครั้ง แต่ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน พี่ชายก็มักโทรศัพท์หาฉันเสมอ ทุกเย็น พอไม่ได้อยู่ด้วยเลยออกอาการเป็นห่วง ฉันกลัวแกจะไปก่อเรื่องเลยต้องโทร.เช็คทุกวัน ดูดู๊ แสนรู้ เอ๊ย!แสนดีจริงพี่เรา ส่วน เขา เคยมาบ้านฉันยังไงตอนที่พี่ชายอยู่ เดี๋ยวนี้ก็ยังมาอย่างนั้นแม้ตอนนี้พี่ชายไม่อยู่ เขา บอกว่า มาเพราะความเคยชิน ก็เคยมาบ่อยๆจะให้เลิกมาทำใจยาก อีกอย่างกล้าเขาฝากให้มาดูกลัวคุณไปก่อเรื่องที่ไหน เอาเถอะ ไม่ว่าจะมาเพราะเหตุผลอะไร ฉันก็รู้สึกดีทุกครั้ง เพราะทำให้บ้านหลังน้อยๆไม่เงียบเหงาเกินไป ยอมรับอย่างไม่อาย บางทีก็แอบเหงาเหมือนกัน พอพี่ไม่อยู่ไม่มีคนโวยวายโหวกเหวก ไหนบอกชั่วโมงนึงไง นี่เกือบสองชั่วโมง ฉันแกล้งว่า ตอนที่เปิดประตูรั้วให้ ถ้ารู้ว่ามีคนคิดถึงอยากเจอหน้าเร็วๆจะโดดงานภาคบ่ายแล้วตรงดิ่งมาเลย เชอะ ! เดินนำเข้าบ้าน ในขณะที่เขาเดินตาม หูแว่วได้ยินเสียงคนเดินตามหัวเราะหึ หึ เหนื่อยจัง วันนี้งานยุ่งทั้งวัน ใครบางคนบ่น งานยุ่งดีกว่าไม่มีงานนะ ฉันเดินไปรินน้ำเย็นมาให้ เห็นว่าเหนื่อยหรอกนะ ขอบคุณครับ อาจเป็นเรื่องบังเอิญเมื่อปลายนิ้วของเขาโดนปลายนิ้วของฉัน ฉันอุ้มเหยือกน้ำใส่ดอกกุหลาบจากโต๊ะรับแขก เดินไปวางบนโต๊ะอาหาร มันดูกินพื้นที่ของโต๊ะไปเยอะ อุ้มไปวางบนหลังตู้เย็น ส่ายหน้าไม่เหมาะ ทำอะไร เขาคงทนไม่ได้เห็นฉันเดินวนไปวนมา ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนดี หิวมากมั้ยรอเดี๋ยวนะ กุหลาบไม่กี่ดอกทำไมยุ่งยากจัง คิดยังไงซื้อกุหลาบไหนบอกไม่ชอบ มันก็ดูสวยดี คนขายน่ารัก ซื้อเพราะคนขายน่ารัก เขาลุกขึ้นเดินตรงมาหา อุ้มเหยือกกุหลาบวางลงในซิงค์น้ำ เปิดชั้นลอยเหนือซิงค์หยิบแก้วทรงสูงมาสามใบ หยิบมีดในลิ้นชัก ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ไปหมดว่าอะไรอยู่ที่ไหน ไม่แปลกหรอก ก็บ้านหลังนี้เขาเทียวเข้าเทียวออกตั้ง 4-5 ปี ตัดก้านตัดใบของกุหลาบออกให้พอดีกับความสูงของแก้ว แล้วแบ่งดอกกุหลาบใส่แก้วสามใบ ในแก้วมีดอกกุหลาบอยู่ใบละสามถึงสี่ดอก แล้วเขาก็นำไปวางบนโต๊ะรับแขก โต๊ะทานอาหารและหลังตู้เย็น ฉันยืนมองเขาจัดการกับดอกกุหลาบทั้งหมด พอเสร็จเขาหันมามองหน้าฉัน ยักไหล่นิดๆ เป็นไง ใช้ได้มั้ย มีตรงไหนที่คุณคิดจะนำไปวางอีก จะได้หาแก้วมาแบ่งอีก ฉันหัวเราะเบา ทำไมฉันคิดไม่ได้นะ อย่างนี้น่ะ เสร็จแล้วทานข้าวกัน เดี๋ยวอุ่นกับข้าวแป๊บนึงนะ เอาใจเสียหน่อย เดี๋ยวมานะ ลืมของไว้ในรถ คนตัวโตเดินออกไปนอกบ้าน ในขณะที่ฉันเอากับข้าวเข้าไมโครเวฟ เขากลับเข้ามาพร้อมกล่องกระดาษใบโตในอ้อมแขน บนกล่องมีถุงพลาสติกขนาดย่อมใส่อะไรสักอย่างคล้ายหนังสือ ฉันช่วยเลื่อนจานกับข้าวออกเพื่อให้เขาวางได้ง่าย ของที่คุณผู้หญิงสั่ง เขาว่าพลางเปิดกล่อง น้ำองุ่น 4 ขวดจากไร่ แถวสระบุรี ฉันทำตาโต บังเอิญไปสัมมนา จำได้ว่าคุณชอบเลยซื้อมา เขาบอกยิ้มๆ ขอบคุณค่ะ แล้ว..บรอมมีเลียดล่ะ อย่างนี้เรียกโลภมากรึเปล่า มีแต่นี่จะแทนได้มั้ย เขายื่นหนังสือในถุงให้ ดอกไม้และพืชพันธุ์ในป่าอะเมซอน โดยมากาเร็ตต์ มีร์ ฉันหยิบหนังสือมาดูปกเป็นรูปวาดกล้วยไม้ และบรอมมีเลียด พลิกดูคร่าวๆยังไม่ได้อ่านก็ยิ้มแก้มปริ ภาพประกอบสวยมาก ส่วนใหญ่เป็นบรอมมีเลียดที่ฉันโปรดปราน โหย ถูกใจมาก มากที่สุด ขอบคุณค่ะ เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้มั้ย เขาว่า ประโยคนี้เชยสุดๆตั้งแต่ได้ยินมา ฉันว่า ก็มันจริง อ่านนิยายเจอออกบ่อย เอ๋า!เป็นงั้นไป -4- หลังอาหารพื้นที่ว่างหน้าทีวีเป็นพื้นที่ประจำที่ถูกยึด เขาเลื่อนโต๊ะออกเพื่อจะได้เหยียดขายาวๆ เอนหลังพิงเก้าอี้รับแขก มีเก้าอี้แต่ไม่นั่ง คนบางคนทำตัวเป็นเจ้าของบ้านมือหนึ่งถือแก้วน้ำองุ่น อีกมือถือรีโมททีวี กดหาช่องที่อยากดู แต่ดูเหมือนว่ายังไม่เจอ ฉันเดินมานั่งลงข้างๆ ระหว่างเราถูกกั้นด้วยจานผลไม้และขนม จะดูอะไรก็เลือกสักช่อง ฉันชักจะรำคาญ กดอยู่นั่น เขามองหน้าแล้วเลือก รายการเพลงลูกทุ่ง จะดูนี่ เขาว่าแถมยักคิ้วให้อีกต่างหาก ฉันแย่งรีโมทมาถือ นี่มันบ้านของฉันนะ ทีวีก็ของฉัน จะดูนี่ รายการสารคดีที่กำลังพูดถึงสภาวะโลกร้อน ความตื่นตัวของคนทั่วโลก หลายประเทศลงนามร่วมกันแก้ปัญหา ลดใช้พลังงาน เพื่อช่วยโลก เพื่อช่วยตัวเอง เรานั่งดูทีวีเงียบๆ จู่ๆคนที่นั่งดูด้วยก็พูดขึ้น แต่งงานกันมั้ย ฉันกำลังดื่มน้ำองุ่น ถึงกับไอสำลัก เขาลูบหลังลูบไหล่ให้ พอค่อยยังชั่วฉันก็มองหน้าเขา เมาน้ำองุ่นรึไง เขาทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนหันมามองฉัน มองที่ตา พูดจริงๆนะ แต่งงานกันเถอะ คราวนี้เป็นฉันที่นิ่งและครุ่นคิด ลองบอกทีว่าทำไมต้องแต่งงาน กล้าอยากให้เราแต่งงานกัน กล้าคือพี่ชายของฉัน เขาเป็นห่วงคุณไม่อยากให้อยู่คนเดียว แล้วยังไง ฉันซักต่อ ผมก็เป็นห่วง อยู่บนคานมันโดดเดี่ยวนะ เฮ้อ! ผู้ชายเขาขอผู้หญิงแต่งงานยังไงนะฉันอยากรู้นัก และเราก็รู้จักกันมาพอสมควร รู้จักซะยิ่งกว่ารู้จัก ดูยังหาเหตุผลข้างๆคูๆ อืม แล้วยังไง ฉันทำตาใสรอฟัง คือ เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนไง พลังงานหารสอง ประหยัดจะตาย จะตกคูมั้ยนั่นน่ะ ฉันแกล้งถอนหายใจเสียงดัง ขออีกเหตุผลเดียว เอาเหตุผลที่ดีที่สุดทำไมต้องแต่งงาน เขาจ้องหน้าฉัน และบอกว่า เหตุผลสุดท้ายที่เราควรแต่งงานกันก็คือ ไม่มีใครที่จะรักคุณได้มากเท่าผมอีกแล้ว ผมรักคุณ เฮ้อ! ฉันแกล้งถอนหายใจก่อนแสร้งทำหน้าครุ่นคิด ขอแต่งงานหรือชวนเข้าหุ้นทำธุรกิจนะนั่น ว่าไง จะแต่งมั้ย จริงจังไปหรือเปล่านะ ฟังเหมือนขู่กรรโชกยังไงไม่รู้นะนั่น ฉันว่า แล้วจะแต่งมั้ย เขาว่า ฉันเลยหัวเราะเบาๆก่อนตอบว่า เพื่อเห็นแก่มวลมนุษยชาติ เพื่อลดสภาวะโลกร้อน และเพราะไม่มีใครจะรักฉันได้มากเท่าคุณ ก็คงต้องแต่ง ตกลงฉันจะแต่งงานกับคุณ เราทั้งคู่จะแต่งงานเพื่อลดสภาวะโลกร้อน พลังงานหารสอง แล้วคุณล่ะ หารเฉลี่ยอีกส่วนของชีวิตกับใครหรือยัง :-) ...
" เขา " น่ารักเนอะ คุณnikadaว่างั้นมั้ยคะ (เป็นความฝันของคนเขียน อยากเจอจังผู้ชายแบบนี้น่ะ) :-) โดย: สิงห์อมบ๊วย วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:23:24:11 น.
อ่านแล้วตาร้อนทันที อิจฉาง่ะ TT TT โดย: f a i f u n (oHsINa ) วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:18:32:58 น.
ลองแล้วไม่ได้ผลค่ะคุณสิงห์ฯ วิธีรักษาที่ดีที่สุดคงเป็นการหาคนขอแต่งงานบ้างแล้วค่ะ ^^ โดย: f a i f u n (oHsINa ) วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:21:20:36 น.
..
เอ่อ..จะรบกวนเกินไปหรือเปล่า..หาเผื่อด้วยนะคะ..อิอิ โดย: สิงห์อมบ๊วย วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:21:34:12 น.
ทุกวันนี้ก็แทบดักตีหัวแล้วลากเข้าบ้านอยู่แล้วค่ะคุณสิงห์ฯ แต่ผู้ชายสมัยนี้ระวังตัวแจ แผนนี้เลยล่มไม่เป็นท่าน่ะคะ ^^ โดย: f a i f u n (oHsINa ) วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:19:20:22 น.
แอบตามมาอ่านจ้าคุณสิงห์ฯ แหะๆ ไม่รู้จะเรียกไรดีขอเรียกแบบนี้เลยแล้วกันนะคะ
ยังหาคนมาร่วมพลังหารสอง เพื่อลดภาวะโลกร้อนไม่ได้เรย เหอๆ ตามหาอยู่น้า โดย: หนึ่งเดียวในใจ วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:20:52:57 น.
...
เห็นด้วยกับคุณไฟฝันค่ะ ตามมาจริงๆด้วยคุณหนึ่งฯขอบคุณค่ะขอบคุณ โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 61.7.133.186 วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:10:01:34 น.
อ๊ายย ~ อ๊ายยย คุณสิงห์ฯ คะ ฝ้ า ย ฝั น ค่ะ ฝ้ า ย ฝั น บ่ไจ้ ไฟฝัน TT TT มีแต่คนอ่านชื่อเค้าผิด โดย: f a i f u n (oHsINa ) วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:11:31:38 น.
...
แสดงว่าอ่านผิดเป็นส่วนใหญ่ คุณฝ้าย..ควรเปลี่ยนชื่อนะ..ขอบอก โดย: สิงห์อมบ๊วย วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:13:16:04 น.
เปลี่ยนจาก eng เป็น thai แล้ว คงไม่มีใครเข้าใจผิดอีก (มั้ง) TT TT โดย: ฝ้ า ย ฝั น (oHsINa ) วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:15:47:56 น.
เอ่อ... ทำไมสาวๆถึงได้น่ากลัวขนาดนี้เนี่ย ...งือ.....
เอ๊ะ แต่เราก็โดนหลอกล่อตีหัวเข้าบ้านไปแล้วนี่นา ...เอิ๊กๆๆๆ ปลอดภัยๆๆๆ คุณสิงห์อมบ๊วย ผมเดาชื่อคุณ f a i f u n อยู่ตั้งนานเลยล่ะ 5555 แวะมาทักทายพร้อมกับทวงเรื่องน่ารักๆเรื่องต่อไป โดย: กลิ่นกาแฟ IP: 202.139.223.18 วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:19:52:00 น.
...
คุณฝ้ายฯเลยต้องเปลี่ยนชื่อเพราะเดาผิดเยอะ..อิอิ เอาน่า..ประชานิยม ลุงกลิ่นกาแฟแวะมาถึงนี่ ยินดีๆ แต่เรื่องน่ารักๆนี่ ต้องไปหาข้อมูลแถวมหา'ลัย จะได้รอดจากข้อหาพรากผู้เยาว์ โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 61.7.133.179 วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:20:52:48 น.
อุ้ย ๆๆ ถูกพาดพิง อิอิ ร้อนตัวๆ เข้ามารอเรื่องใหม่เหมือนกันค่ะ สู้ๆ นะคะคุณสิงห์ฯ คุณกลิ่นฯ โมเมว่าถูกหลอกล่อตีหัวเข้าบ้าน โกรธแทน 'เธอคนนั้น' ของคุณเลยนะเนี่ย โดย: ฝ้ า ย ฝั น (oHsINa ) วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:23:09:53 น.
น้องสิงห์จ๋า..กอดๆ เป็นผู้ชายที่กวน ผสมกับความอบอุ่นเหนือคำบรรยาย พี่รุจชอบจ้ะ
โดย: พี่รุจ IP: 125.25.14.251 วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:15:25 น.
...
ขอบคุณค่ะพี่รุจ กวนพอกันทั้งคู่... เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากนักท่องเที่ยวคนนึงที่เจอบนภูกระดึง คุยกันระหว่างเดินขึ้น สิงห์พูดเรื่องดูนก ดูผีเสื้อ เขาบอกว่า ไปซุ่มดูทำไม โยนไม้เข้าไปนกมันก็บินออกมาให้ดูเอง ฮา..มาก เลยจดใส่กระดาษไว้ แล้วนำมาเขียนค่ะมีอีก หลายเรื่องเหมือนกันจับมาผสมๆกันค่ะพี่รุจ โดย: สิงห์อมบ๊วย วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:08:23 น.
wow so relax reading this story..muan lai der nong sing..!!
โดย: Camille IP: 71.81.178.101 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:19:24 น.
|
บทความทั้งหมด
|
น่ารักมากค่ะ...โดยเฉพาะท่อนนี้
เหตุผลสุดท้ายที่เราควรแต่งงานกันก็คือ ไม่มีใครที่จะรักคุณได้มากเท่าผมอีกแล้ว ผมรักคุณ