ภูเขาซากุระ.... Yoshinoyama
เข้าอีหรอบเดิมอีกแล้ว ทิ้งบล๊อกไว้เนิ่นนานอีกจนได้ ทั้งๆที่ใจอยากจะเขียนอยู่รอนๆ อยากให้วันนึงมีมากว่า 24 ชั่วโมง เดือนนึงมากกว่า 31 วัน และปีนึง โอ๊ย.... พอๆๆๆ เอาเป็นว่ายังไงฉันก็ตัดขาดจากบล๊อกไม่ได้หรอก ขอบคุณเพื่อนๆที่หลังไมค์มาหา ว่าคิดถึงแล้ว ทำไมไม่เขียนบล๊อกต่อ ทุกครั้งที่ได้หลังบ้านแบบนี้หัวใจมันพองโตเหลือเกิน เพราะแม้ว่าฉันจะปิดคอมเม้นท์เพราะเวลาไม่เอื้ออำนวยในการกลับไปทักทาย แต่ก็ยังมีเพื่อนๆพี่ๆตามอ่านบล๊อกฉันอยู่ ขอบคุณจากใจจริงค่ะ.... ตัวอักษรที่ส่งให้กันแม้เพียงไม่กี่ตัว แต่มันเหมือนน้ำทิพย์สำหรับฉันมากๆ
วันนี้พาไปเที่ยวญี่ปุ่นกันดีกว่า (เอ่อ.... เชียงใหม่ยังไม่จบ ภูเก็ตก็ยังไม่ได้พาไป กล้าดียังไงถึงข้ามซีนอีกแล้ว เอาน่า ถ้าอ่านบล๊อกนี้มาพอสมควร ก็จะรู้ว่าเจ้าของบล๊อกมันไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยแบบนี้แหละ อิอิ)
ถ้าพูดถึงจุดชมซากุระในญี่ปุ่น Mt. Yoshino เป็นอีกที่ ที่คนญี่ปุ่นนิยมมาชมซากุระกันมากที่สุด เพราะที่นี่มีซากุระหลากพันธุ์ให้ชมถึง 30,000 ต้น และเชื่อกันว่าต้นซากุระที่ลดหลั่นกันตามเนินเขา ได้เริ่มปลูกต้นแรกเมื่อ 1,300 ปีที่แล้ว และไม่ได้โด่งดังแค่เรื่องซากุระ แต่ยังมีวัดสำคัญที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกอีกด้วย
ฉันไปญี่ปุ่นอีกรอบเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา จัดวันที่จะขึ้นเขาโยชิโนะไม่ลงตัวซักที เพราะปีนี้ซากุระในญี่ปุ่นเรรวนเอาแต่ใจมาก ก็เล่นแย้มกลีบก่อนเวลาเป็นอาทิตย์ๆ ทำเอาแผนฉันเป๋ไปหมด เพราะต้องการเก็บในโอซาก้าและเกียวโตก่อนมันทิ้งร่างลงพื้น แต่ก็ได้ข่าวว่าบนเขาโยชิโนะเองก็แย่งกันบานแฉ่งเหมือนกัน เลยต้องปรับแผนกันวันต่อวันเมื่อถึงญี่ปุ่น
แล้วก็จัดวันได้ในที่สุด แต่ไม่ใช่วันที่ดีที่สุดซะทีเดียว เพราะคืนนั้นฝนตกหนัก และช่วงเช้าที่โยชิโนะฝนก็ยังตกอยู่ แต่ไม่มีทางเลือกแล้ว คิวฉันเต็มตลอดสองอาทิตย์ ถ้าวันนั้นไม่ไป รอไปอีก ซากุระก็ร่วงหมด หรือไปก่อนฉันก็จะพลาดซากุระสวยๆในเกียวโตไป ชีวิตต้องเลือกจริงๆ
การเดินทางไม่ว่าจากโอซาก้า หรือเกียวโต ปลายทางคือต้องมาลงที่สถานีโยชิโนะจังหวัดนารา ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงสนาถีโยชิโนะ นี่ขนาดเช้าๆเก้าโมงกว่า คนยังเยอะแล้ว
จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเมลล์ หรือเคเบิลคาร์เพื่อจะขึ้นไปยังจุดชมซากุระที่อยู่ต่ำสุด
แต่ขึ้นไปแล้วใช่ว่าจะเห็นซากุระเลย มันต้องเดินกันหน่อยค่ะ จะเลี้ยวไปทางขวาก็ได้ มีจุดชมซากุระเหมือนกัน ซึ่งเป็นส่วนที่ต่ำที่สุดของโยชิโนะ (คุณลุงคนนี้มองฉันมาตั้งแต่อยู่ในกระเช้าแล้ว ลงมาแล้วก็ยังมองฉันอยู่ ไอ้ฉันก็เช็คแล้วนะ ว่าซิบรูดแล้ว ผมหวีแล้ว กระดุมก็ติดครบเรียบร้อย ไม่รู้คุณลุงมองอะไร)
แต่ฉันใฝ่สูง ขอเดินหน้าฝ่าความชันขึ้นไป เหนื่อยมากขอบอก จริงๆขึ้นรถเมล์ก็ได้นะ ขึ้นไปจุดสูงสุดเลย แล้วค่อยเดินลงมา หรือนั่งรถเมล์ลงมาแต่ละจุดก็ได้ แต่ฉันรู้สึกว่าญี่ปุ่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องเดิน เพราะสิ่งละอันพันละน้อย จะเห็นได้ก็ต้องใช้ขาเราพาไป
เห็นโทริอิที่ไหนก็แสดงว่ามีศาลเจ้าที่นั่น อย่าสับสนกับวัดนะคะ เพราะโทริอิเป็นสัญลักษณ์ของศาลเจ้า เหมือนบอกอาณาบริเวณว่านี่กำลังจะเข้าเขตศาลเจ้าแล้วนะ
แต่เราก็จะเห็นศาลเจ้าและวัดอยู่เคียงข้างกันบ่อยๆ อย่างศาลเจ้าที่เห็นอยู่ในวัดKinpusenji เป็นวัดที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก ตัวอาคารของวัดสร้างด้วยไม้ และใหญ่เป็นอันดับสองรองจากวัด Todaiji ซี่งเป็นมรดกโลกเช่นกัน ถ้ามีเวลาวันหลังจะเขียนเกี่ยวกับสองวัดนี้ น่าสนใจมากๆเลยค่ะ
และข้อดีของการเดินก็คือ ได้ชมร้านรวงขายของและขายอาหารไปด้วยในตัว ที่สำคัญคืออิชั้นได้เห็น ได้ชิมซูชิที่เป็นเอกลักษณ์ของนาราก็ที่นี่.... เรียกว่า Kaki-no-ha Zushi เป็นซูชิที่อัดเป็นแท่งสี่เหลี่ยม โปะหน้าด้วยแซลมอน หรือแมคคาเรล แล้วห่อด้วยใบพลับ.... เอื๊อก
ทำให้เห็นกันสดๆ หั่นกันฉับๆแบบนี้ ไม่ลองก็ไม่ใช่ฉันแล้ว
เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอ อาหารอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งน่าจะมีส่วนผสมของดอกซากุระ เพราะสีออกชมพูๆอร่อยมากๆค่ะ ตรงกลางก็จะเป็นผัก ฉันกำลังหาชื่อเจ้านี่อยู่ ถ้าได้คำตอบแล้วจะเอามาลงทีหลังนะคะ
เดินไปอีกเรื่อยๆก็เจอวิวแบบนี้.... งั้นรีบเดินต่อ
หนทางไม่ได้สะดวกสบาย เพราะต้องเดินขึ้นๆๆๆๆ แต่วิวข้างทางแบบนี้มันช่วยให้มีกำลังใจในการเดินซะจริง คราวนี้ฉันไปญี่ปุ่นคนเดียว ต้องแบกทุกสิ่งอย่างไว้บนหลังตัวเอง และการเดินขึ้นเขาแบบนี้ นึกออกใช่มั้ย ว่ามันครือๆกับการไปยิมเลยละคุณ
เดินถึงไหนแล้ว ขอแวะดูแผนที่แป๊ปนึง.... กรี้ดดดดด จากกระเช้าไฟฟ้า จนถึงลูกศรสีชมพูที่หมายถึงว่าคุณกำลังยืนอยู่ตรงนี้ อิชั้นเดินมาเกินครึ่งทางแล้ว และเป็นทางขึ้นเขาด้วยนะ แถมแบกกล้องและเลนส์ นั่นนู่นนี่อีกเยอะแยะในกระเป๋า.... แม่เจ้าจะเก่งไปไหนวะคะเนี่ย
แต่ก็ยังไม่เห็นป้ายบอกทางไปดูซากุระเลย งั้นเดินตามลุงๆป้าๆข้างหน้าไปละกัน (จริงๆมันมีป้ายอยู่ทางซ้ายมือนะคุณ แต่ตอนนั้นอิชั้นใจจะขาดแล้ว เหนื่อยจนหูอื้อตาลายไปหมด มองไม่เห็นทั้งๆที่ถ่ายรูปติดมันมาด้วย)
รถก็ติ๊ดติดนะคุณขนาดในป่าในเขา แสดงว่าของเค้าดีจริงๆ
หลายๆคนปีนขึ้นไปบนนั้น งั้นไปด้วย.... แฮ่ก แฮ่ก
ว้าวววว สวยจัง
จริงๆตรงนี้ก็สวยแล้วนะ ไม่เดินต่อดีกว่ามั้ย
แหม.... แต่มาได้ขนาดนี้แล้ว ไปอีกหน่อยเหอะ
สองฝ่ายตบตีกันอยู่ในหัว แล้วในที่สุด
ไปต่อค่ะ.... คำสอนของพ่อผู้ล่วงลับก้องอยู่ในหู "เป็นลูกทหารต้องอดทน"
เพราะความอดทนจึงได้เห็นภาพแบบนี้ ถามว่าหายเหนื่อยไหม.... ขอตอบเลยว่า "ไม่" อะไรมันจะหายง่ายอย่างนั้นละคุณ อิชั้นเดินมาเป็นชั่วโมงนะ
แต่มันมีความอิ่มเอมใจ เข้าใจกับคำที่ว่า อะไรที่มันได้มายาก มันก็จะมีค่า เหมือนภาพตรงหน้านี่แหละ มันสวยมาก มันคุ้มกับการเดินขึ้นมาจริงๆ ฉันว่าคนที่นั่งรถ(ติด)มา คงไม่อิ่มเท่ากับคนที่เดินมาอย่างฉันหรอก
เหมือนภาพวาด เหมือนความฝัน
ไม่บรรยายแล้วนะคะ ดูกันเอาเอง ว่าควรมาดูไหม
ใครไปญี่ปุ่นช่วงซากุระบาน แล้วมีโอกาสไป ก็ควรไปนะ และขอบังคับให้เดิน เพราะคุณจะผ่านวัดดีๆหลายวัด มีมุมน่าสนใจอยู่หลายที่
หลังจากถ่ายรูปจนสาแก่ใจ ก็เดินกลับ.... ใช่ค่ะ เดินกลับไปที่เคเบิลคาร์ที่ขึ้นมาเมื่อเช้านั่นแหละ บรรยากาศมันเป็นใจ อากาศหนาวๆธรรมชาติสวยๆ.... เดินได้ค่ะรับรอง
พอลงมาถึงข้างล่าง เจอคิวยาวเหยียดเชียว ทั้งที่รอขึ้นกระเช้าและรถเมลล์ แอบยิ้มอยู่คนเดียวว่าทำไมไม่ตื่นกันเช้าๆจ๊ะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามายืนรอกันเป็นครึ่งชั่วโมงแบบนี้ อิอิ
ซื้อ Kaki-no-ha Zushi กลับมาด้วย หลังจากที่ฟาดไปแล้วหนึ่งกล่องตอนนั่งพักบนเขา
ดูหีบห่อของคนญี่ปุ่น วิจิตรมากๆ คุณรู้มั้ยว่าข้างในมันคือซูชิ
ถึงเปิดกล่องแล้วก็เหอะ เดาออกรึเปล่า ถ้าไม่เคยเห็นมาก่อน
อร่อยดีนะคะ แต่แมคคาเรลมันคาวไปนิด ส่วนแซลมอลนี่ชนะอยู่แล้วเพราะความชอบส่วนตัว
วันนี้มาสั้นๆแค่นี้ก่อน ถ้ามีเวลาจะมาเขียนต่อเรื่อยๆค่ะ
รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ.... คิดถึงทุกคนที่อ่านบล๊อกนี้จ้า
Create Date : 16 พฤษภาคม 2556
Last Update : 16 พฤษภาคม 2556 23:31:48 น.
Counter : 6562 Pageviews.
0 comments
Share
Tweet
เลี้ยงรุ่น 15/ 04 / 2024
tanjira
(19 เม.ย. 2567 17:52:18 น.)
บางปู : นกกาบบัว
ผู้ชายในสายลมหนาว
(19 เม.ย. 2567 10:34:34 น.)
ตลาดเช้า, สถานีรถไฟพินอูลวิน
สายหมอกและก้อนเมฆ
(18 เม.ย. 2567 17:06:42 น.)
สงกรานต์หรรษา
จันทราน็อคเทิร์น
(18 เม.ย. 2567 11:24:41 น.)
Lurano.BlogGang.com
ปลาทอง9
Location :
Hamburg Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
ผู้ติดตามบล็อก : 130 คน [
?
]
บทความทั้งหมด
อาหารขึ้นชื่อของโอกินาวา
ขอไว้อาลัยกับผู้ที่จากไป.... The Battle of Okinawa
วิ่งตามหาซากุระ.... จากใต้ขึ้นเหนือ
จุดชมซากุระสวยๆ.... ในเขตคันไซ
ใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น
Tonkatsu Maisen Aoyama Honten
Afternoon Tea.... @Tobu Ikebukuro F6
ชิมอาหารโอกินาว่า.... ที่ร้าน Ashibina ใกล้สถานีชิบุยะ
ช้อปปิ้ง ชิคแอนด์ชิล.... @Omotesando
ภูเขาซากุระ.... Yoshinoyama
เก็บตก บนเกาะฮอกไกโด
Miso Ramen, Genghis Khan, Soup Curry.... Sapporo
Maruyama Park.... Sapporo
Nanda 難陀 seafood buffet restaurant (Sapporo)
Nanda 難陀 ....seafood buffet restaurant (Sapporo)
อร่อยและสนุก ที่ Nemuro Hanamaru sushi.... Sapporo
Otaru.... พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี
Otaru.... ชีสเค้กเนียนๆที่ LeTAO
Masa Zushi.... Otaru
Otaru.... ขนมอร่อยที่ร้าน Kitakaro
Otaru วันฝนพรำ.... เมืองเล็กๆที่โด่งดังเรื่องซูชิ
Japan trip 2012
Shirakawa-go หมู่บ้านมรดกโลก....Kanazawa ชมหมู่บ้านเกอิชา
Takayama....Little Kyoto, Hida Folk Village (Hida no Sato)
Meoto-Iwa....หินแต่งงานแห่งเมืองอิเสะ
Nagoya....Nagoya Castle, Osu Kannon Temple และแหล่งช้อปปิ้งย่าน Osu
Nagoya, Shirakawago, Kanazawa....กินอะไรดี
อุตส่าห์ไปถึง Takayama....จะพลาด Hida Beef ได้อย่างไร
เกาะสวรรค์ของคนรักไข่มุก....Mikimoto Pearl Island
หน้าร้อนที่แสนหนาว....บนเกาะ Hokkaido
เก็บตกรอบโตเกียว....Kamakura, Hakone
Hiroshima....และอำลา Fukuoka
Hiroshima-อนุสรณ์สถานแห่งความเศร้า....Iwakuni-สะพานไม้ไร้ตะปู....Miyajima-Torii กลางน้ำ
Nagasaki....Huis Ten Bosch
Nagasaki....Glover garden
Fukuoka....ปราสาทคุมาโมโต้
Fukuoka....และ....Dazaifu
Osaka....จากปราสาทโอซาก้า สู่ฮิเมจิ
Osaka....กิน กิน กิน
Kyoto....ภาคจบ(Fushimi Inari , Kiyomizu Temple , Gion Corner)
Kyoto....จากเส้นทางนักปราชญ์ สู่....วิหารเงิน
Kyoto....เมืองหลวงเก่าที่แสนงดงาม
Tokyo......จบแบบป่วยๆ
Tokyo.......ลัดฟ้าสู่แดนปลาดิบ
Tokyo....ภาค หม่ำๆๆ
Tokyo....เเล้วฉันจะกลับไปอีก
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.