เกาะสวรรค์ของคนรักไข่มุก....Mikimoto Pearl Island


ป้ากลับมามิลานแล้วค่ะ กลับมาสู่ความหนาวเย็น อึมครึม หมอกหนา หิมะท่วม หดหู่อย่างสุดแสนจะพรรณา คิดถึงเมืองไทยจัง มาได้สี่ห้าวันแต่ยังไม่เห็นแดดอุ่นๆส่องมาให้อุ่นหัวใจเลยซักวินาทีเดียว สามวันแรกที่มาถึงป้าเอาแต่นอน นอน.... และก็นอน จนลุงบอกว่าลุกมาทำอะไรบ้างเถอะ ไม่งั้นเธอก็เฉาเป็นผักเหี่ยวไปเรื่อยๆอย่างนี้แหละ


จริงเนอะ ถ้าปล่อยให้ตัวเองเป็นอย่างนี้ ให้สภาพอากาศกดดันตัวเองต่อไป นานวันเข้าป้าต้องเป็นอีบ้าแน่ๆ เพราะความมั่นคงทางอารมณ์ช่วงนี้แปรปรวนมาก ดังนั้นลุกขึ้นมาทำอะไรที่มีประโยชน์ดีกว่า....เล่นเนทไง โหะ โหะ

จะสังเกตุได้เลยว่าเวลาป้ากลับไทย ป้าแทบจะไม่เข้าเนทเลย เพราะวันๆมีอะไรทำเยอะมาก แถมบ้านก็ไม่ค่อยจะได้อยู่ ชีวิตแต่ละวินาทีมีค่าน่าใช้ไปหมด แต่พอกลับมาบ้านที่สอง แต่ละวันเวลาผ่านไปเชื่องช้าเสียจริง ป้าทนอยู่ที่นี่เพราะลุงคนเดียว ป้ารักลุงที่เป็นคนอิตาเลี่ยน แต่ป้าไม่ได้รักประเทศอิตาลี่นี้เลยซักนิด นี่คือเหตุผลว่าทำไมป้าถึงอยู่ที่นี่อย่างไม่มีความสุข....โอเค๊ จบ


เดือนที่แล้วเราไปนาโงย่ากันก่อนกลับมามิลาน และป้าก็ได้วางแผนหักคอลุงไปเกาะมุก Mikimoto ด้วย โปรแกรมเที่ยวทุกครั้งป้าจะเป็นคนจัดการทั้งหมด และก็จะบอกลุงล่วงหน้าว่าเราจะไปนั่นไปนี่กันนะ พักที่นั่นที่นี่ แต่คราวนี้ป้าบอกทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องการข้ามไปเกาะ Mikimoto กลัวลุงจะทำหน้าไม่เห็นด้วย กลัวลุงว่าไร้สาระ แต่ที่กลัวที่สุดกลัวลุงรู้ว่าป้ามีแผนอะไรอยู่ในใจ....หุ หุ


แต่พอถึงเวลาจริงๆ ลุงกลับไม่ว่าไง บอกว่าก็ไปซิ ไหนๆก็อยู่ไม่ไกลจากนาโงย่า ก็ควรจะจัดไปอย่าให้เสีย ป้าเลยกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ....เสร็จตรูแน่อีลุงเอ๋ย




Image Hosted by ImageShack.us

การเดินทางเริ่มจากสถานี Nagoya ปลายทาง Iseshi โดยใช้ Kintetsu line (สถานีนาโงย่า ใหญ่และสับสนวุ่นวายพอควร ก่อนเดินทางทุกครั้งไปก่อนเวลาแต่เนิ่นๆนะคะ เพราะรถไฟแต่ละสาย บางทีอยู่คนละด้านของสถานีเลย) ค่าโดยสาร 1,410 Yen ต่อเที่ยวค่ะ




Image Hosted by ImageShack.us

พอถึงเมือง Ise เราก็ไปซื้อตั๋ว Can Bus ในราคา 1,000 Yen ใช้ได้ทั้งวันค่ะจะลงจะขึ้นกี่เที่ยวก็ได้ บัสนี้จะจอดเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆเท่านั้น ป้าเก็บได้เกือบทุกที่ แต่บล๊อกนี้พาไปซื้อไข่มุกก่อน บล๊อกหน้าค่อยพาไปที่อื่นต่อ....จะบอกให้ว่าแถวนาโงย่ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอย่างไม่น่าเชื่อเลยเชียว

อ้อๆๆๆ....หางตั๋วสามารถใช้เป็นบัตรลด ในการเข้าชมสถานที่ต่างๆด้วยนะคะ




Image Hosted by ImageShack.us

ใช้ตั๋วนี้แล้วก็ต้องไปยืนรอให้ตรงป้ายนะคะ รถก็หน้าตาน่ารักอย่างในรูปนั่นเลย




Image Hosted by ImageShack.us

พร้อมแล้วก็ขึ้นรถกันเลย ป้าขึ้นป้ายแรกนะ แต่คนก็เยอะมาก มากจนกระทั่งต้องระเห็จไปยืนอยู่หน้ารถข้างๆอาเฮียคนขับนั่นแหละ แถมผู้โดยสารแต่ละคน เป็นรุ่นสมโภชเชียงใหม่ 700 ปีทั้งนั้น มารู้ทีหลังว่าคุณตาคุณยายเค้าไปศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่นกัน




Image Hosted by ImageShack.us

ยืนขาแข็งมาเกือบยี่สิบนาทีถึงจะได้นั่ง และนั่งมาอีกเกือบครึ่งชั่วโมงเราก็มาถึงป้ายสุดท้ายของ Can bus ที่หมายของเราคือเมืองโทบะ(Toba).... เกาะไข่มุก Mikimoto ตั้งอยู่ที่นี่ค่ะ




Image Hosted by ImageShack.us

เดินออกจากสถานีแล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ ข้ามไฟแดง เดินเลียบชายฝั่งไปเรื่อยๆ ผ่านเรือที่พาชมอ่าวโทบะชมกระชังหอยเลี้ยงมุกก็เกือบจะถึงที่หมายแล้วค่ะ




Image Hosted by ImageShack.us

นั่นไง....เจอแล้ว เป็นเกาะที่ไม่ไกลจากฝั่งเลย ห่างกันแค่ร้อยกว่าเมตรเองมั้ง โดยมีสะพานอย่างดีมีหลังคาคุ้มแดดคุ้มฝนข้ามไป สะพานนี้ชื่อว่า Pearl Bridge (จริงๆก็สะพานธรรมดานี่แหละ แต่ตั้งชื่อให้ดูงดงามล้ำค่าเข้าว่า)




Image Hosted by ImageShack.us

ถึงแล้วก็ไปซื้อตั๋วเข้าชมกันเลยค่ะ คนละ 1,500 Yen ใช้หางตั๋ว Can bus ลดได้ 10%

ผู้หญิงชุดขาวนั่นคือ “อามะ(Ama)” ห้ามออกเสียงว่าอาม่าละ....ขอร้อง
ส่วนอาม่า เอ๊ย อามะจะเป็นใคร โปรดเลื่อนลงไปอ่านอีก 3 ภาพด้านล่าง




Image Hosted by ImageShack.us

เราจะได้เอกสารการเข้าชมประมาณนี้ นี่แค่มุกในภาพนะ น้ำลายป้ายังเริ่มย้อยแล้ว....ป้าชอบอะไรเกินวัย(และฐานะด้วย)มาตั้งแต่วัยรุ่น ตอนเป็นเด็กเวลาแม่รื้อกระบุงถุงห่อเครื่องประดับ ป้าจะแอบหยิบสร้อยมุกมาลองใส่เป็นอย่างแรกเลย(หลังจากนั้นก็จะโดนหยิก) หรือเวลาเล่นตุ๊กตาที่ต้องมีเสื้อผ้า รองเท้ากระเป๋าและเครื่องประดับเปลี่ยน ตุ๊กตาป้าก็จะใส่แต่สร้อยมุก(เก๊)

พอโตขึ้นมาทำงานทำการกับเค้า เงินเดือนพนักงานโรงแรมอันน้อยนิด(แต่ทิปกับ service chargeเยอะหน่อย)ก็ถูกแบ่งไปซื้อเครื่องเงินบ้าง และก็ต่างหูมุกเล็กๆ ขณะที่เพื่อนๆจะพากันซื้อทอง เพราะมันเล่นแร่แปรธาตุได้ไว ราคาไม่ตก....จากนั้นก็ขยับมาเป็นแหวน เป็นสร้อย ตามกำลังก็พอจะหาซื้อได้ ดังนั้นมุกในฝันจึงต้องเป็น Mikimoto แน่นอน

เคยบอกลุงว่าอยากได้มุกของ Mikimoto ลุงบอกว่ามันแพงไป ทำไมต้องมิกิ ยี่ห้ออื่นถูกกว่ากันหลายเท่าก็มีสวยๆเยอะ ป้าบอกว่าความแวววาวมันไม่เท่ากันนะ และการคัดมุกของมิกิก็คัดกันแล้วคัดกันอีก ร้อยเม็ดนี่คัดเอาแค่สิบหรือยี่สิบเม็ดเองนะ.....ลุงทำหน้าเบื่อหน่าย เลยต้องจบบทสนทนา และจากการบ่นครั้งนั้น ในวาระสำคัญๆป้ามักจะได้ของขวัญเป็นเครื่องประดับมุก แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเป็นมุกในฝัน....และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมต้องแอบวางแผน การเยือนเกาะมุกแห่งนี้ไม่ให้ลุงรู้ล่วงหน้า




Image Hosted by ImageShack.us

Kokichi Mikimoto ผู้สร้างตำนานไข่มุกเลอค่า เกิดเมื่อ 25 มกราคม 1858 ในครอบครัวที่เปิดร้านขายอุด้ง แต่ได้แรงบันดาลใจจากที่เห็นไข่มุกจากนักดำน้ำหามุก จึงคิดจะเปิดฟาร์มเลี้ยงมุก และเริ่มศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของไข่มุก จากการค้นพบ มาสู่การทดลอง ซึ่งล้มเหลวหลายครั้งหลายครา แต่คุณตาก็ไม่ย่อท้อค้นคิดเทคนิควิธีจนประสบความสำเร็จในที่สุด และนี่คือที่มาของ Cultured Pearl หรือมุกเลี้ยงนั่นเอง

(แต่ชาติที่เริ่มเพาะมุกเลี้ยงเป็นชาติแรกคือจีนนะคะ แต่คนที่มาพัฒนาเทคนิควิธีการเพาะเลี้ยง Cultured Pearl ได้โด่งดังและมีคุณภาพคับฝาหอย คือคุณตา Kokichi Mikimoto ค่ะ)




Image Hosted by ImageShack.us

ที่นี่มีการแสดงโชว์เก็บหอยมุกด้วยค่ะ แต่เปิดให้ชมเป็นเวลานะจ๊ะ เป็นโชว์ที่เกิดขึ้นจริงในตำนานและยังสืบสานมาจนถงทุกวันนี้

หญิงในชุดขาว หรือที่เรียกว่าอามะ มีมานับพันปีแล้ว ตามเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ ได้กล่าวถึงอามะว่าเป็นผู้ที่ดำลงไปในทะเลเพื่อหาของกินเช่นหอยเป๋าฮื้อ หรือสาหร่าย แต่เดิมอามะไม่ได้มีแต่ผู้หญิง เป็นชายก็มี(แต่น้อยมาก) เนื่องจากสภาพร่างกายที่แตกต่าง อามะที่เราเห็นในแถบนี้ทั้งหมดจึงเป็นหญิง ความแตกต่างที่ว่าก็คือ....

อ่ะ....อ่านนะนักเรียน.... It is said that this is because woman have an extra layer of fat tissue under their skin which makes it easier to bear the cold. Also, women can hold their breath longer than men. เหรอ....ป้าเพิ่งรู้นะว่าพวกเราๆนี่อ้วนและอึดกว่าพวกผู้ชาย

แต่น่าสงสารอ่ะ ในเอกสารที่แนบมา บอกว่าในขณะที่สามีออกไปหาปลา ภรรยาก็จะช่วยด้วยการดำน้ำลงไปหาหอย แล้วก็มีรูปการ์ตูนสามีผูกเอวภรรยา ถ่วงด้วยของหนักๆจะได้ตายเร็วๆ เอ๊ย....จะได้ลงไปใต้น้ำเร็วๆ ส่วนตัวเองนั่งดึงเชือกอยู่บนเรือ....เง้ออออ เวงกำ เกิดเป็นหญิงญี่ปุ่นต้องอึดปานชะนี้เชียวหรือ

และคุณตา Kokichi Mikimoto ก็เปลี่ยนวิถีชีวิตของอามะในแถบเมืองอิเสะ จากที่ดำน้ำเสี่ยงตายเพื่อเก็บหอยเม่น เก็บสาหร่ายเพื่อมาเป็นอาหาร มาเป็นอาชีพดำน้ำเพื่อช่วยดูแลและเคลื่อนย้ายหอยมุกที่เพาะเลี้ยงอยู่ในกระชังแทน เป็นอาชีพที่มีความมั่นคงขึ้น และมีรายได้แน่นอน



Image Hosted by ImageShack.us

โดดแล้วนะค๊า.......ตูมมมมมม แล้วทำไมต้องใส่ชุดขาว >>>> เพราะชุดขาวจะทำให้ฉลามไม่เข้าใกล้ค่ะ




Image Hosted by ImageShack.us

ในเมื่อโดดจริงแล้วก็ต้องเก็บหอยนางรมขึ้นมาให้ชมจริงๆ อามะส่วนใหญ่นี่จะไม่สาวแล้วนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นป้าย่ายายเราทั้งนั้น อายุที่มากที่สุดก็ 80 ปีค่ะ....เฮือก

แต่กระชังเลี้ยงมุกของมิกิโมโตไม่ได้อยู่ที่นี่นะคะ อยู่ที่อ่าวอาโงะ(Ago Bay)โน่น




Image Hosted by ImageShack.us

หลังจากที่ชมโชว์การเก็บหอยมุกแล้ว เราเข้าไปดู Pearl Museum กันค่ะ
จากรูปสู่รูป บอกเล่าเรื่องราวของความเป็น Mikimoto




Image Hosted by ImageShack.us

มุกของ Mikimoto เป็นการพัฒนาสายพันธุ์การเลี้ยง มาจากหอยพันธุ์ Agoya จึงเป็นจุดเริ่มของชื่อ Japanese Agoya Pearl




Image Hosted by ImageShack.us

ขั้นตอนการเพาะเลี้ยงหอยมุกของมิกิโมโต จะใช้เปลือกหอยมาเจียให้กลมเพื่อเป็นนิวเคลียส หุ้มด้วยเนื้อเยื่อบางๆ ที่เรียกว่า Mantle ซึ่งทำหน้าที่สร้างเปลือกหอย แล้วใส่เข้าไปในรังไข่ของหอย และเจ้า Mantle นี่แหละจะค่อยๆสร้างชั้นมุกขึ้นมาเคลือบเปลือกหอยกลมที่เราใส่เข้าไป กลายเป็นมุกสุดแสนงดงามให้เราน้ำลายเหนียวกัน

แต่ก็ใช้เวลาหลายปีเลยทีเดียวกว่าที่จะได้มุกสวยๆออกมา ของมิกิโมโตจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ในกระชังเพาะเลี้ยงกลางทะเล อยากให้เม็ดโตๆก็ต้องทิ้งไว้นานๆหลายๆปี แล้วที่เลี้ยงไว้น่ะ ไม่ได้รอดทุกตัวนะคะ ตายไปก็กว่าครึ่ง และไอ้ครึ่งที่รอดก็ใช้ได้ไม่กี่ตัว ต้องระวังอุณหภูมิของน้ำ สภาพอากาศ มลภาวะ สภาพของแสง ต้องประคบประหงมดังใข่ในหอย(นางรม)จริงๆ (อ๊ะ อ๊ะ....คิดอะไรกันน่ะ อย่ามาทาลึ่งน๊าาาาา)




Image Hosted by ImageShack.us

ดูเครื่องไม้เครื่องมือสมัยโบราณซิ....อะไรนะ ไม่น่าสนใจเหรอ




Image Hosted by ImageShack.us

งั้นรูปนี้น่าสนขึ้นบ้างรึยัง




Image Hosted by ImageShack.us

ถ้าไม่หนำใจเอารูปนี้ไปเลย ป้าเห็นแล้วอยากเอาทัพพีจ้วงกลับบ้านไปซักสองที....อะไรมันจะงามได้ขนาดนี้




Image Hosted by ImageShack.us

ป้าดูวีดีโอขั้นตอนการคัดมุกของมิกิแล้วเสียดายแทบกระอักเลือด เค้าเทมุกเป็นร้อยลงบนโต๊ะที่คัดมุก แล้วคัดไว้แค่ไม่กี่เม็ด โดยดูจากสีจากความกลม จากเนื้อของมุก ส่วนที่ถูกคัดออกก็นำไปไปทำเป็นยา อาหารเสริม หรือของตกแต่งเฟอร์นิเจอร์อะไรก็ว่ากันไป (ป้าได้ข่าวว่ามิกิโมโตเริ่มออกไลน์เครื่องสำอางแล้วนะ เห็นแว๊บๆที่ไหนซักแห่ง)

ดังนั้นไม่น่าแปลกใจหรอก ว่าทำไมราคามันถึงได้กระฉูดหูฉี่ขนาดนั้น โดยเฉพาะสร้อยมุก คุณคิดดูนะ....มุกร้อยเม็ด คัดได้แค่สิบกว่าเม็ด(บางทีก็ไม่ถึง) แล้วสร้อยเส้นนึงใช้มุกเท่าไหร่ แล้วต้องไล่ขนาดไล่สีให้ได้เป๊ะๆเนี่ย มันควรจะแพงรึเปล่า....อะนะ ให้เค้าไปเหอะ(ถ้าไหวนะ แต่ป้าน่ะไม่ไหวหรอกซื้อแบบยกเส้นน่ะ)




Image Hosted by ImageShack.us

จบจาก Pearl Museum ทีนี้ก็ถึงซีนของป้า ป้ารอที่จะเข้า Pearl Plaza จนแทบจะเก็บอาการไม่ไหวแล้ว อยากเข้าไปดูมุกเม็ดละหลายๆล้าน ว่ามันงดงามขนาดไหน แล้วก็เป็นบุญตาของอีป้าจริงๆ มุกราคาเทพเทวดานางฟ้าทั้งหลายมานอนสงบนิ่งให้ดูอยู่ตรงหน้า ห่างกันแค่กระจกกั้น แต่ไม่อาจสัมผัสได้ ภาวนาเอาไว้ในใจ เกิดชาติหน้าฉันท์ใดขอเป็นเจ้าของซักเม็ดนึงเหอะ(เอาแบบแพงจัดๆเลยนะ)

แต่ที่จริงแล้วที่ Pearl Plaza ไม่ได้มีแต่มุกแพงๆนะคะ มุกราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้ก็มี ป้าคิดว่าเพราะที่นี่ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา ไม่มีค่าเช่าที่ เหมือนเป็นหน้าร้านของโรงงานน่ะ ราคาจึงไม่ต้องบวกนู่นนี่นั่นมากมาย ป้าไม่มีภาพในส่วนนี้มาให้ดู ไม่ทราบว่าเค้าห้ามถ่ายรูปรึเปล่า แต่ตามมารยาท(ป้า)ของที่มีมูลค่าและมีดีไซน์เราไม่ควรไปเก็บภาพเค้ามาค่ะ

มีแต่ภาพมุกมิกิโมโตเม็ดแรกที่ป้าได้ครอบครอง เนื่องจากเราไปญี่ปุ่นกันในช่วงวันเกิดป้าพอดี ลุงเลยให้ป้าเลือกของขวัญได้ชิ้นนึง ป้าก็เลือกในงบที่ลุงจ่ายไหว แต่แอบขอลุงไว้ว่า ไม่ว่าจะครบรอบวันเกิดอีกสิบหรือยี่สิบปีข้างหน้า ฉันก็ยังรอสร้อยมุกเส้นยาวๆอยู่นะ นานแค่ไหนฉันก็จะรอ....คงต้องรอจนแก่ตายไปข้างนึงแน่ๆ.... หะเอิ๊ก หะเอิ๊ก


((ใครที่เขียนคอมเม้นท์บล๊อกป้าไม่ได้ กดตัวอีโมใส่ไปก่อนหนึ่งตัวนะคะ แล้วหลังจากนั้นถึงจะพิมพ์ได้ค่ะ....ขอบคุณ คุณกุ้ง amskye ที่แนะนำมาค่ะ))











Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 15 มีนาคม 2555 15:28:34 น.
Counter : 10521 Pageviews.

28 comments
สงกรานต์หรรษา จันทราน็อคเทิร์น
(18 เม.ย. 2567 11:24:41 น.)
พาเที่ยววัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ขอพรวัดเก่าใจกลางเมืองรับปีใหม่ไทย นายแว่นขยันเที่ยว
(15 เม.ย. 2567 13:57:04 น.)
วัดพระธาตุเสด็จ อำเภอเมือง ลำปาง tuk-tuk@korat
(14 เม.ย. 2567 13:54:44 น.)
Mahar Shwe Thein Taw Pagoda, Royal Jasmine Hotel - Pyin Oo Lwin สายหมอกและก้อนเมฆ
(11 เม.ย. 2567 16:06:34 น.)
  
แวะมาทักทายค่ะ หลังจากไม่ได้แวะมานานเป็นปี ก็เนื่องจากคอมเม้นท์ไม่ได้ ตอนนี้รู้แระ เลยกดตัวอีโมก่อน มุกสวยๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ขิมว่าแพงสมกับความยากจริงๆ

หายเหนื่อยจากการเดินทางหรือยังคะ แล้วก็อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
โดย: pink daffodil วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:56:26 น.
  
ป้าวิสกี้ขอตามไปด้วยคนนะคะ อะไรที่เกี่ยวกับญี่ปุ่้นเนี่ยชอบมากๆ ไม่รู้เป็นอะไร

กลับมาแล้วปรับตัวสักพักจะดีเองนะคะ ตอนนี้ควันหลงเมืองไทยยังรุมๆ ติดตัว เป็นกันทุกคนตอนกลับมาจากไทยนะคะ ป้าวิสกี้เอาใจช่วยค่ะ
โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:6:28:53 น.
  
เข้ามาอ่านบล๊อค แหมอิจจฉาจกท.จังเลยค่ะ ทัวร์ญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจดใต้ ดิฉันเคยเรียนและอยู่ญี่ปุ่นมาแปดปี ยังเที่ยวไม่ทั่วเท่าคุณเลย แต่ตอนนี้มาอยู่เมกาแล้วคงยากที่จะไปเที่ยวให้ทั่วอีก ไปดูมุก แวะทานราเมงหรือเปล่าคะ ที่นั่นมีอิเซ่ ราเมงอร่อยมาก สมัยเราเรียนที่นั่น ก็ไปสอยตุ้มหูมุกมาหนึ่งคู่ ใช้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ แฮปปี้ วาเลนไทน์เดย์ค่ะ
โดย: ปีเตอร์เวย์ IP: 216.255.164.194 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:6:35:17 น.
  
โอ้ว เจอนักเที่ยวตัวยงอีกคนแล้วค่ะ....แถมไฮโซ อิๆๆๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
โดย: auau_pi วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:05:35 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ
โดย: หนูริวจัง วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:10:55 น.
  
หวัดดีค่ะป้า

โอย...ชอบบล็อกนี้มากเลยค่ะป้า ป้าเดซี่ก็เคยบ้าบอกับมุกอยู่พักนึง แต่ก็แบบมือสมัครเล่นตามกำลังทรัพย์อ่ะนะคะ สังเกตว่า คนดำ ๆ อย่างป้าเดซี่จะใส่มุกขึ้น อย่างใส่ตุ้มหูมุกเนี่ย มันช่วยทำให้หน้าเราสว่างขึ้นอย่างประหลาด ทั้งที่เราก็ไม่ได้ฉีดกลูต้าไธโอนกับใครเค้าอ่ะนะคะ กร๊ากกกส์

ชอบเรือเค้าอ่ะค่ะป้า สีน่ารักฉูดฉาดบาดใจดีจริง ๆ

กะบะมุกก็เล่นเอาเจิดจ้าซะแสบตาไปเลย มาคุยเรื่องมุกต่อว่า ตะก่อนเป็นคนขี้เกียจ เวลาใส่สร้อย ใส่ตุ้มหูก็ใส่ติดตัว ไม่เคยถอดกะเค้า ตอนหลังถึงมารู้ว่า ไม่ควรใส่มุกติดตัวเพราะมันไม่ทนเหงื่อ ไม่ทนพวกน้ำหอม หรือครีมต่าง ๆ ใส่ไปแล้วมุกกร่อน หลัง ๆ เลยเลิกซื้อค่ะ มันคงไม่เหมาะกับเรา คนเหงื่อเค็ม

ชอบสร้อยพร้อมจี้มุกเส้นนั้นค่ะ ดีไซน์เก๋เชียว
โดย: Oops! a daisy วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:17:41 น.
  
คุณปีเตอร์เวย์....ป้ารักประเทศนี้มากๆค่ะ พยายามหาโอกาส(เก็บเงินเก็บทองแทบกระอักเลือดเหมือนกัน)ไปบ่อยๆ
เคยคิดแม้กระทั่งยุให้สามีย้ายไปทำงานในสาขาที่ญี่ปุ่นเลย(สามีทำงานบริษัทของญี่ปุ่นค่ะ แต่อยู่ในมิลาน)
เสียดายที่พลาดไม่ได้ทานราเมงของ Ise ตอนแรกก็แพลนกันไว้แล้ว ว่ามื้อเที่ยงต้องหาทานให้ได้ แต่เวลาไม่อำนวยค่ะ
เลยหาทานตามรายทางไปเรื่อย และพอดีว่าซื้อปีกไก่ Tebasaki เอาไว้เป็นเสบียงมาจากนาโงย่าด้วย
เลยงัดเอาขึ้นมาทานเป็นมื้อกลางวันไป

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันนะคะ สุขสันต์วันวาเลนไทน์เช่นกันค่า
โดย: ปลาทอง9 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:55:42 น.
  
สวยเตะตาป๊าบเลยค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:31:58 น.
  
งามจริงๆค่ะ หนูมีสร้อยมุกปลอมๆอยู่เส้นนึง ใส่บ่อยเหมือนกัน ฮ่าๆๆ แต่สร้อยที่ป้าได้มานั้น สวยเก๋ ถูกใจหนูจริงๆ

เรื่องอยู่ที่อิตาลีนั้นรู้สึกเหมือนป้าเลยอ่ะ อยู่ที่นี่เพราะผู้ชายคนเดียวแท้ๆ แต่เอาเถอะสักวันเราจะกลับไปซัดอาหารทะเลที่สัตหีบกัน รอไปอีกหน่อยนึงแค่ไม่กี่ปี
โดย: settembre วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:55:25 น.
  
สวัสดีค่ะป้าแอ๊ก

งามดั่งไข่มุก ....น่าจะเป็นเจ้าของสร้อยมุกสวยเส้นนี้......

ลุงเจ้าขา ....เมื่อไรจะไปหยิบสร้อยที่เป็นไข่ปลาต่อๆกันยาวๆคะ....
โดย: nu-an วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:36:56 น.
  
สวัสดีค่ะพี่แอ๊ก

สร้อยมุกสวยมากค่ะ ชอบไข่มุกเหมือนกันค่ะ แต่ได้แต่ชมค่ะ อิอิอิ

ขอให้มีความสุขมากๆ ในวันตรุษจีนและวาเลนไทน์ค่ะ รวมทั้งสุขสันต์วันเกิดย้อนหลังด้วยนะคะ

ฝากหลานที่บล๊อกด้วยนะคะ จะไม่อยู่บ้านหลายวันค่ะ
โดย: กิ่งลีลาวดี วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:3:47:11 น.
  
ยินดีที่ได้อ่านว่ากลับถึงบ้านแล้วค่ะ

เสียดายที่ไม่ได้พบกันค่ะ

หวังว่าคงไพบกันเร็วๆ นี้ที่มิลานนะคะ

โดย: addsiripun วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:18:04 น.
  
.. มุกสำเพ็งบ้านเราเส้นละไม่กี่บาทเอง เจ๊สนป่าวล่ะ เดี๋ยวซื้อให้เอาเส้นยาววววววถึงตาตุ่มเลย..




มีความสุขมากๆนะค้าบ..
โดย: smartman หล่อสุดๆ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:27:14 น.
  
สวัสดีค่ะป้า..

เข้ามาทวงคำตอบน่ะค่ะว่าตกลงป้าวัยไหนกันแน่?

โอ้.. ได้ความรู้อีกบานเลยค่ะ เกี่ยวกับเรื่องมุก ขอบคุณนะคะ

มุกที่ป้าสอยมา สวยจังค่ะ แต่เห็นกระจาดมุกแล้วน่าจ้วงจริงๆเลยเนอะ
โดย: ป้าโซ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:47:44 น.
  
ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ อยู่ญี่ปุ่นแท้ๆ แต่ไม่เคยไปเลย (ขาดเพื่อนร่วมทริปอ่ะ )

ขอบคุณสำหรับประวัติ Mikimoto นะคะ เคยได้ยินว่ามีชื่อเสียงมาก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ที่บ้านมี จานวางที่มีเป็นกิ่ง(ทอง)พาดกะนก (กาลครั้งหนึ่ง มีคนให้เฮียมาน่ะค่ะ) แล้วในรังนก มีไข่มุกเม็ดเล็กๆๆ ไม่เคยสนใจเลย จนคุณแอ๊กพูดถึง ตะกี้เลยเดินไปดูซะ เพราะคุ้นๆ กับยี่ห้อเหมือนว่ามี

...พอดีช่วงนี้อยู่ในภาวะเนตอืด ตั้งแต่รูปที่อามะโดดลงน้ำไปคนนึง ก็ไม่เห็นรูปอื่นๆ เลย


ช่วงกลับไทยเราคล้ายกันเลยนะคะ ไม่ค่อยได้เข้าเนต เพราะที่ไทยมีอะไรให้ทำเยอะ ต้องใช้เวลาให้คุ้มเนอะ

ปล. ตอนหลังไมค์มา เพิ่งกลับมาจากไทยค่ะ แต่เวกัสน่ะ ไปตั้งแต่ปลายก.ย. แต่เพิ่งได้ฤกษ์มาอัพ จนเกือบได้เลิกอัพไปแล้ว

โดย: jan_tanoshii วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:01:08 น.
  
ดีจ้าพี่แอ๊ก

นั่นสิค่ะกำลังสงสัยอยู่เชียวว่าพี่แอ๊กไปทะยานแอ่วกันอยู่ที่ไหน
ที่แท้กลับมิลานไปแล้วนั่นเอง .. ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ได้เจอ
หรือว่าทักทายกันก่อนกลับก็ไม่เป็นไร เพราะว่ายังไงเราก็ได้คุยกัน
ผ่านโทรแล้วนะค่ะ ...อิ่มแปร้เหมือนกันแต่ว่ายังไม่ได้อิ่มอาหาร
ร่วมโต๊ะเลยนะค่ะ เอาไว้หนหน้าเนีาะพี่แอ๊ก


อ่านบล็อกวันนี้ .. คิดได้อย่างเดียวเลยค่ะว่าโชคดีน๊าที่ว่าไม่ได้เป็น
คนชอบมุก ฮ่าๆ เพราะว่ามันเกินเหตุสำหรับเงินในกระเป๋าของตัวเอง
ไม่น้อยเลยค่ะ แต่ว่ามันเริ่มจะทำให้เกิดกิเลศที่ว่า เห็นมุกคุณภาพ
แล้วก็ดันอยากได้ขึ้นมาซะงั้นสิค่ะหนิ เพราะมองใกล้ๆ ที่พี่แอ๊ก
บอกว่าจ้วงมาสักทัพพีท่าจะดี ฮ่าๆ คิดเหมือนกันเลยค่ะ ขอสักทีจริงๆ
แล้วจะเลิกบ่นเลยล่ะค่ะ เพราะสวยออกมาป่านนั้นนะค่ะ

คนข้างๆ พี่แอ๊กใจดีเน้อ แบบว่าให้เลือกซื้อของขวัญวันเกิดได้
เลยได้ของถูกใจ ของพู่นี่ไม่มีการเสนอเลยค่ะ เพราะมีแต่หักคอ
เค้าทั้งนั้น ฮ่าๆ งวดนี้จะหักอีกรอบค่ะ เอาหักดิบไปเลยจะได้
ไม่บ่นค่ะ ... ว่าแล้วคิดก่อนว่าจะหักคอเค้าซื้ออะไรดี เวลาคิด
อีกครึ่งปีค่ะ ทันถมเน๊าะ
โดย: JewNid วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:46:02 น.
  
คุณเพื่อนขาาา

อิชั้นเห็นแล้วตาวาวววววเลยค๊า ทำมัยมุกช่างเงาวาว และสวยเช่นนี้หนอ ดูอามะ (ไม่ใช่ อาม่า อิ อิ) ที่อายุก้อไม่ใช่สาว ๆ แต่ยังแสดงโชว์ได้ ยกนิ้วให้เลยอ่ะ (พึ่งรู้เหมือนกันนะนี่ว่าพวกเราน่ะอึดกว่าพวกผู้ชาย ฮิ้ววววววววว)

ม่ายรู้ว่าสเตฟังแล้วว่าอย่างงัย การคำขอของคุณนายยยยยยย ฮ่าฮ่าฮ่า

ดีใจ ๆ ด้วยที่วันนี้มีแดดแล้ว อารมณ์จะได้แจ่มใสเนอะ บ้านอิชั้นก้อพึ่งมีเหมือนกัน อารมณ์เลยดีขึ้นมากระทันหัน อิ อิ อิ

เมื่อวานอิชั้นม่ายด้ายติดเกมส์เน้อ ช่วงเช้าไปทำนิด ๆ หน่อย ๆ ได้นั่งเก็บผักที่บ้านจิ้งเดียวเอง หม่ำข้าวกลางวันเสร็จก้อไปทำอีก ทำเสร็จก้อไปช็อปของเข้าบ้าน (แบบช่วงนี้ขี้เกียจตื่นเช้ามาก ๆ เลยวันเสาร์อ่ะ เลยช็อปมันเย็นวันศุกร์ซ้าาาา)

หม่ำข้าวเย็นเสร็จ ก้อตาเหลือกถักโครเชท์ต่อ แล้ววันนี้น๊าอิชั้นเหนื่อยมากกกกกก เพราะล่อทำของกินซะเยอะ เพราะช่วงงานเข้า อดยากเหลือหลายเพื่อนเอ๋ย เวลาหมดไปเร็วมากวันนี้ เหนื่อยยยยยยยโพด ๆ

ปล. เดี๋ยวมาลุ้นกับไอ้เจ้า SDA กันว่ามันจะเอาปลาเหนื่อยอิช้านนนนนนไปหรือเปล่า
โดย: เพื่อนคนสวยของคุณนาย IP: 93.144.214.8 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:44:32 น.
  
มาวันนี้ได้ความรู้เรื่องมุกกลับไปด้วยดีจัง

แผนของแอ๊กนี่เข้าท่าแฮะ ได้เที่ยวด้วยแล้วยังได้ของขวัญถูกใจอีกต่างหาก ฮ่าๆๆ

ปล เป็นเหมือนกันเลยนะ เวลกลับจากไทยใหม่ๆเนี่ย มักจะเหงาๆเศร้าซึม เวลาที่เมืองไทยผ่านไปอย่างรวดเร็ว แป๊บเดียวต้องกลับซะแล้ว พอกลับมาเหมือนยังทำใจไม่ได้ก็เลยต้องใช้เวลาปรับใจอยู่หลายวันเหมือนกัน
โดย: jeab&michelle IP: 213.46.102.45 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:08:17 น.
  
คุณนาย เมื่อเช้าอิช้านนนนนไปงานที่พี่คนไทยเขาจัดกัน คืองานเปิดโรงเรียนสอนภาษาไทย (เล็ก ๆ) ที่อิชั้นเล่าให้คุณนายฟังว่าเขาจะให้ไปสอนอ่ะ

เขานิมนต์พระมารูปนึง เป็นพระจากวัดมิลานน๊า อิชั้นพึ่งรู้นะเนี่ยว่ามีวัดที่มิลานด้วย เขาบอกว่าเดือนเมษาจะมีบวชพระแสนรูปด้วยล่ะ ถ้าพวกเราว่างไปกันป่ะ

แถวบ้านอิชั้นเริ่มหมดเซลล์แล้วอ่ะ แต่ก้ออีกนะ เริ่มคิดเหมือนคุณเพื่อนเหมือนกันว่า เราซื้อตอนไม่เซลล์ แต่ได้ของที่เราอยากได้จริง ๆ น่าจะเวิร์คกว่าตอนเซลล์นะ

วันนี้ที่นี่แดดเปรี้ยง ๆ เลยล่ะ และก้อไม่เย็นมากด้วยนะ ยกเว้นตอนเช้า ตอนออกบ้าน -2 แต่ตอนนี้ 7 องศา (แต่ก้อต้องเปิดฮีทเตอร์อ่ะ เพราะพึ่งกลับเข้าบ้านมา บ้านเย็นมากกกกกก บรื้อออออ)

วันนี้กินอารัยอ่ะคุณเพื่อนนนนนนน อิช้านอยากกินส้มตำแครอท กับไก่ทอดมากเลยเพื่อนเอ๋ยยยยย
โดย: เพื่อนคุณนายคนสวย IP: 93.144.180.130 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:53:06 น.
  
คุณเพื่อนนนนนนนนน

สุขสันต์วันแห่งความรักนะ ขอให้คุณเพื่อนและสเตมีความสุขมาก ๆ หวานชื่อ และรักกันมาก ๆ เช่นนี้ตลอดไปเลยจ๊ะ

ปล. ไปดินเนอร์ที่ไหนป่ะเพื่อนนน
โดย: เพื่อนคุณนาย IP: 93.144.180.130 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:31:26 น.
  
วัดไทย ๆ จ้าคุณนายยยยย

จำวันไม่ได้แล้วอ่ะ เดี๋ยวเช็คอีกที อยากไปทำบุญบวชพระแสนรูปอ่ะ วันนี้ก้อใส่ซองไป แต่ถ้ามีโอกาสอยากไปทำอีกอ่ะ

เรื่องสอนอ่ะนะ เค๊าก้อบอกไปว่า ไม่รับปากว่าทำได้ตลอดหรือเปล่า เพราะเป็นวันครอบครัว และอีกอย่างไม่ได้เป็นงาน เราช่วยเป็นน้ำใจเฉย ๆ ทางโน้นเขาก้อเข้าใจนะ บอกว่าไม่เป็นไร

ขำก้อขำ สงสารคุณนายก้อสงสาร ต้องนั่งอุดจมูกมาตลอดทางเลย อิชั้นชอบกินชีสก้อจริงนะ แต่ถ้าต้องนั่งในรถที่มีชีสเต็มไปหมดนี่ก้อคงเกิดอาการเดียวกันอ่ะ (อากาศมันไม่ระบายด้วยอ่ะเนอะ)

อ๋อ ๆ ลืมบอก เดี๋ยวเจอกันคราวหน้า จะหิ้วปลาเค็มทอดแล้วไปให้นะ นายแม่อิชั้นทอดมาให้หลายชิ้นเชียวอ่ะ

อากาศหนาวๆ แบบนี้ กินแซ่บ ๆ นี้ได้ใจไปเลยอ่ะ พรุ่งนี้นะจะตำแครอทใส่พริกเม็ดเดียวให้เปาโล พริก 3 เม็ดให้อิชั้น (พิมพ์ไปก้อกลืนน้ำลายไป กร๊ากกกกก) แล้วจะหมักน่องไก่ทอดด้วยยยย แล้วนึ่งข้าวเหนียวอีก จ๊ากกกกกกกก ทนไม่ได้ ต้องหยุดพิมพ์เดียวนี้ เดี๋ยวลงแดงตาย (ว่าแต่มาหม่ำด้วยกันป่ะ อิ อิ อิ)

ปล. ขอให้พรุ่งนี้แดดบ้านคุณนายมาทำงานด้วยเถอะ เพี้ยง


โดย: เพื่อนคุณนาย IP: 93.144.180.130 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:2:03:27 น.
  
อิชั้นก้อนึกว่าคุณยายยยยยย เอ้ย ไม่ใช่ คุณนายยำเนื้อกินมื้อกลางวันอ่ะ อิ อิ แต่แหม ๆ สเตน่ารักอีกแล้วววววว

จริง ๆ ก้ออยากนัดคุณนายมาเจอกันที่เวโรน่านะ แต่อากาศเย็น ๆ แบบนี้ไม่ค่อยเวิร์คอ่ะ แถมเวโรน่าเป็นแฟลตแลนด์เหมือนมิลาน หมอกงี้ตรึมมมมม ไปเดินแล้วเศร้าอ่ะ

จริง ๆ อยากส่งปลาเค็มไปให้มากเลยอ่ะ แต่กลัวกลิ่นมันจะกระจายมาก แทนที่จะไปถึงมือคุณนาย มันจะไปอยู่ที่อื่นอ่ะจิ

อย่าทอดเด็ด ๆ เลยนะ ขนาดเค๊าเอาที่แม่ทอดมาให้เสร็จสรรพเรียบร้อยใส่เวฟนะ กลิ่นนี่หึ่งครัวเลยอ่ะ ส่วนจะเอาเข้าเตาอบอ่ะเหรอ ไม่เคยทำอ่ะ แต่คิดว่ากลิ่นคงติดเตาอบไปอีกนานเลยอ่ะ

รอหน่อยแล้วกันนะคุณนาย นายแม่อิชั้นทอดมาแบบดีเลย ใส่เวฟแป๊ปเดียว แป๊ปเดียวจริง ๆ นะ ก้อกินได้เลย (เก็บไว้ในฟรีสแบ่งไว้ให้คุณนายเรียบร้อยแล้วววว)

ปล. ลองนึกถึงปลาเค็มทอด บีบมะนาว โรยด้วยหอมแดงและพริกขี้หมูหั่น ตักเข้าปากกับข้าวสวยร้อน ๆ จ๊ากกกกกกก อิชั้นยั่วคุณนายได้งัยเนี่ย อิ อิ


โดย: เพื่อนคุณนายคนสวย IP: 93.144.180.130 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:2:43:14 น.
  
แหม ๆ ถึงว่าจิ อิช้านนนนนนตื่นมาปวดหัวตุบ ๆ เพราะคุณนายมาแอบดักตีหัวอิช้านนนนนี่เองเมื่อคืนนี้ อิ อิ อิ
โดย: เพื่อนคุณนาย IP: 93.144.180.130 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:07:41 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณป้า

ขอตามไปเที่ยวด้วยน่ะค่ะ มุกสวยมาก ๆค่ะ เป็นคนชอบมุกเหมือนกันค่ะ แต่ซื้อแบบถูกๆ เพราะเสียดายเงินค่ะ แต่ชอบมุกน่ะค่ะเพราะใส่แล้วดูสง่ามาก ๆ และเก๋ด้วย

ไม่เคยทรายว่าปลาฉลาดกลัวสีขาว ได้ความรู้ใหม่ค่ะ

สำหรับเรืองอากาศมีผลกับจิตใจจริงๆ น่ะค่ะ เมื่อเดือนก่อน ที่บ้านฝนตก อากาศหนาวมากๆ ปกติที่บ้านจะไม่หนาวค่ะ เชื่อไหมค่ะรู้สึกหงุดหงิด ยิ่งความหนาวมันหนาวมากๆ โกรธสามีมากๆ เพราะสามีบอกว่าชอบมาก ๆเลยอากาศแบบนี้ ความหนาวค่ะ ไก่เลยบอกว่าเกลียดมากๆ แล้วก็หงุดหงิดใส่สามี รู้สึกเบื่อมากๆ พอรุ่งขึ้นอากาศดี รู้สึกผิดมาก ๆเลยค่ะ ที่โกรธและหงุดหงิดใส่สามี อากาศมีอิทธิพลมาก ๆเลย เลยเข้าใจที่คุณป้าเขียนสำหรับคุณป้า แต่เพราะคุณป้ารักสามีเลยต้องทนกับอากาศ เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ แต่อีกไม่นานก็จะร้อนแล้วใช่ไหมค่ะ ไก่ยังอยากไปอิตาลีเลยค่ะ เพราะสวยมากๆ
โดย: สวยตลอดกาล วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:13:39 น.
  
กู้ด มอร์นิ่งงงงงงงงง (วันนี้ล่อภาษาปะกิตเลยอิชั้น ฮี่ฮี่ฮี่) ตื่นยังคุณนาย (ยังไม่ตื่นอ่ะจิ)

วันนี้บ้านอิชั้นอากาศงี้เน่าสุด ๆ เลย อยากจะนอนอีกจัง แต่ดันตื่นเช้าจนเคยแล้ว เลยหลับไม่ลง

วันนี้บ้านคุณนายมีแดดป่ะ
โดย: เพื่อนคนสวย IP: 93.144.180.130 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:26:37 น.
  

ป้าแอ๊กขา...มาคุยกับป้าแอ๊กหน้าบ้านนะคะ
มาแอบชื่นชมสร้อยมุกสวยๆของป้าแอ๊กค่ะ
และเรือที่ล่องในทะเลสาบก็น่านั่งจังเลยค่ะ
....
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เราชอบมาก
ไปแล้วก็อยากไปอีกค่ะป้าแอ๊ก
ป้าแอ๊กเอารูปสวยๆมาลงอีกนะคะ
คิดถึงป้าแอ๊กมากกกกกกๆๆๆค่ะ
โดย: Suessapple วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:06:36 น.
  
มุกทั้งนั้นเลย อยากไดจัง
โดย: นางแมว วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:32:12 น.
  
หวัดดีค่ะป้า อัพบล็อกใหม่แล้วมาเรียกป้าเดซี่ด้วยนะคะ
โดย: Oops! a daisy วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:14:14 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lurano.BlogGang.com

ปลาทอง9
Location :
Hamburg  Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 130 คน [?]

บทความทั้งหมด