ถูก ตม ส่งกลับ ที่มา: //www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H10148571/H10148571.html เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหรือ ตม มีอำนาจสิทธิขาดในการพิจารณาว่าจะให้คุณเข้าเมืองได้หรือไม่ ถึงแม้ว่าคุณจะมีวีซ่ามาถูกต้องแล้วก็ตาม เหตุผลในการปฏฺิเสธการเข้าเมืองนั้นมีมากมายหลายข้อ หลักๆ ก็คือ * สงสัยว่ามาหางานทำแล้วจะไม่กลับ * สงสัยว่าจะมาแต่งงาน * สงสัยว่าพัวพันกับองค์กรก่อการร้าย * สงสัยว่าจะมาค้าประเวณี * สงสัยว่าจะเกี่ยวพันกับการขนยาเสพติด หรือของผิดกฏหมาย * หนีคดีมาจากประเทศของตัว * เป็นโรคติดต่อที่อยู่ในข่ายต้องห้าม * เคยอยู่เกินกำหนดวีซ่ามาก่อน * ฯลฯ ผู้ที่ถูกปฏิเสธและถูกส่งกลับมักจะเป็นกรณีแรกคือ สงสัยว่ามีจุดมุ่งหมายอื่น และที่แน่ๆ ไม่กลับประเทศของตน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยว ในแต่ละปีจำนวนผู้ที่ถูกปฏิเสธและถูกส่งกลับทวีจำนวนมากขึ้นทุกปี เหตุผลหลักคือ ตม ไม่เชื่อว่าจะไปเที่ยว และหลักฐานบ่งชี้ว่าเจ้าตัวมีเจตนาอย่างอื่น เช่น * บอกว่าจะมาเที่ยวสามเดือน แต่มีเงินติดตัวไม่กี่ร้อยเหรียญ บัตรเครดิตก็ไม่มี... แถมมีนามบัตรของคนที่มีกิจการในอเมริกา แปลว่า มีคนรู้จักที่จะให้ที่พักและให้งานทำ ซึ่งผิดกฏหมาย เพราะผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยวห้ามทำงาน * มาเที่ยวแต่พกชุดสำหรับรำ และนามบัตรสำหรับโฆษณาตัวเองมาด้วย... คนที่จะหอบเครื่องแต่งตัวแบบนี้มาได้ คือคนที่มากับโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเสียเป็นส่วนมาก แต่ถ้าลงว่ามีนามบัตรพิมพ์มาเป็นกล่องสำหรับแจก คงไม่ได้มาเที่ยวแน่ๆ กรณีอย่างเคสข้างบนนี่ก็เหมือนกัน เพราะนักท่องเที่ยวทั่วไปไม่มีใครเขาหอบชุดสูทไปด้วย ยกเว้นคนที่จะเดินทางไปสัมนา ซึ่งถ้าเป็นกรณีสัมนาก็จะต้องระบุไปตอนที่ยื่นเรื่องว่าไปสัมนา ข้อมูลในหน้าวีซ่าจะถูกบันทึกตามนั้น ลำพังมีชุดสูทอย่างเดียวก็หนักแล้ว นี่ยังพกเมนูอาหารอีกต่างหาก * มาเที่ยวแต่พกทรานสคริปต์มาด้วย... แปลว่าจะมาหาที่เรียน การเปลี่ยนสถานะ ในขณะที่ตัวอยู่ในอเมริกานั้นทำได้ก็จริง แต่ถ้าเป็นไปได้ ทางการก็อยากให้ทุกคน เข้าตามตรอกออกตามประตูให้เป็นเรื่องเป็นราว ยุคนี้อินเตอร์เน็ทช่วยได้มากในการติดต่อหาที่เรียน ฯลฯ ถ้าอยากจะมาเรียนก็ควรขอวีซ่านักเรียนมาเสียเลย * มาเที่ยวแต่มีสูติบัตร ใบหย่า ฯลฯ แปลและรับรองโดยกรมการกงสุลมาเรียบร้อย อันนี้แน่นอนว่าจะมาหาแฟน กะว่าแต่งงานและปรับสถานะไปเลย ไม่อยากรอวีซ่าถาวรหลายเดือน กรณีอย่างนี้ถูกส่งกลับมาแล้วมากมายทุกชาติไม่เฉพาะคนไทย ขนาดคนอังกฤษ หรือออสเตรเลีย ซึ่งสามารถเดินทางเข้าอเมริกาได้ 90 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า พอ ตม รู้ว่าเจ้าตัวจะมาหาแฟนที่เป็นคนอเมริกัน ก็ส่งกลับมานับไม่ถ้วนแล้วเหมือนกัน โดยบอกว่าให้ไปขอวีซ่าคู่หมั้นมา * ตอนสัมภาษณ์บอกว่าจะมาสองอาทิตย์ แต่บอก ตม ว่าจะอยู่สามเดือน ปัจจุบันกงสุลอเมริกันทุกแห่ง ใช้ระบบใหม่ในการทำวีซ่า คือเป็นวีซ่าที่มีข้อมูลบรรจุในหน้าพาสปอร์ตเป็นการถาวร และอ่านด้วยเครื่องอ่านเท่านั้น ไม่มีการประทับตรา หรือที่เรียกย่อๆ ว่า FOIL ที่คนส่วนมากไม่ค่อยทราบก็คือ ทันทีที่ ตม รูดพาสปอร์ตคุณ ข้อมูลทุกอย่างจะปรากฏ รวมทั้ง annotation หรือ remark ที่ทางกงสุลบันทึกไว้ตอนสัมภาษณ์วีซ่าของคุณด้วย ดังนั้นอย่าประมาทว่าได้วีซ่าแล้ว ยังไงๆ ตม ก็ไม่รู้หรอกว่าตอนสัมภาษณ์บอกอะไรไปมั่ง * มาเที่ยวแต่บ่อยผิดปกติ และมาอยู่ทีละ 4-5 เดือน กลับไปไม่ทันถึงหกเดือน มาอีกแล้ว อย่างนี้ก็ชวนให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่ามาหางานทำแน่นอน * ยื่นวีซ่าอย่างนึง เวลาเดินทางอีกอย่างนึง อันนี้ก็มีส่วนทำให้โดนส่งกลับได้เหมือนกัน เคยเจอเคสจริงที่เจ้าตัวขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกามาจากฝรั่งเศส (ไม่ใช่พลเมืองของฝรั่งเศสแต่มีบัตรพำนัก) ไม่ได้แจ้งตอนขอวีซ่าว่า จุดประสงค์คือจะไปงานสัมนาที่จัดขึ้นสำหรับช่างภาพมืออาชีพทั่วโลก มีการสาธิตผลงาน ฯลฯ ซึ่งควรจะเป็น B-1 พอเอาเข้าจริง หอบกล้องพร้อมอุปกรณ์ และข้าวของมากมายเดินทางไปพร้อมตัว ผลคือ ตม ส่งกลับเดี๋ยวนั้น * ไม่ใช่คนจากแถบตะวันออกกลาง แต่เดินทางผ่านประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยมีการหยุดค้างคืน ไม่ใช่เปลี่ยนเครื่องเฉยๆ กรณีนี้ ตม จะไม่สนใจว่าเหตุผลในการไปอเมริกาคืออะไร จะปฏิเสธทันที ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น รายละเอียดแต่ละเคสก็จะมีข้อปลีกย่อยที่ต่างกันไปบ้าง รู้ว่าเขาตั้งข้อสงสัยที่จุดไหน ก็ปรับแก้เอานะคะ............. โชคดีค่ะ Free TextEditor ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
![]() โดย: ตกตะกอน
![]() สวัสดีวันวาเลนไทน์ค่ะ ตามมาจากกระทู้ห้องศาลาค่ะ
แวะมาอ่านเรื่องถูก ตม.ส่งกลับ อ่านแล้วได้ความรู้ดีค่ะ มีความสุขวันวาเล ![]() โดย: กิ่งฟ้า
![]() |
บทความทั้งหมด
|