“นายพลจะแบ่งปันหัวใจให้กับใครไม่ได้ จะต้องมีฉันคนเดียว...มีฉันคนเดียวเข้าใจมั้ย”

เสียงของหล่อนแผดก้องสะเทือนไปทุกส่วนของคฤหาสน์พยับฝน

มันเป็นความคั่งแค้นของวิญญาณร้ายที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิด

ตามแรงอาฆาตเพราะการตายที่สามีไม่นำพาตลอดชีวิตของนาง...

“หยุด...คุณหญิง..! ตายแล้วยังไม่ไปสู่แดนสงบ ทำไมจะต้องมาหึงมาหวงอย่ามายุ่งกับผม... !”

นายพลตะโกนตอบพยายามมองหาที่มาของเสียงที่เปลี่ยนมุมดังขึ้นทั่วทุกทิศทาง เขาเหงื่อกาฬแตก

“ฉันต้องยุ่ง...นายพลมิมีวันสมหวังกับนางแม่ม่ายนั่นแม้แต่อีเมียน้อยทั้งหลาย

ฉันจะหักคอมันทีละคน... ทีละคน... นายพลรักพวกมันมาก

ถึงขนาดปล่อยให้เมียตัวเองตายอย่างน่าทุเรศ

ฉันจะไม่ทนอยู่กับความเจ็บปวดเหมือนคราวมีชีวิตอีกแล้ว

ถึงคราวที่ฉันจะแก้แค้น สอนบทเรียนให้กับความใจดำของนายพล!”

หลังอ่าน :

ถ้าใครอยากอ่านอะไรที่แบบว่าลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน เห็นทีว่าเล่มนี้อาจจะไม่ใช่แนวค่ะ แต่ว่าถ้าหากว่าอยากเสพงานเขียนของนักเขียนการันตีหลากหลายรางวัล( เพราะปกหลังเค้ามีแนะนำด้วย ) ก็คิดว่าน่าจะลองค่ะเพราะว่าถือเป็นครั้งแรกของท่านนักเขียนที่ได้ทำงานร่วมกับคุณหมอพงศกร แห่ง กรู๊ฟพับลิชชิ่ง และก็เพลินดีค่ะเรื่องดีค่ะเรื่องนี้

เรื่องราวแรกในตอนต้น อ่านแล้วเหมือนนิยายผีจ๋ามาก เพราะว่าอธิบายเรื่องกลิ่นเรื่องความน่ากลัวไว้แบบว่าหลอนเอามากๆ เลยเหมือนกันนะค่ะตอนตัวเองอ่านแล้วเหมือนว่าเห็นภาพ 3D ลอยมาเลยเหมือนกันเพราะว่าบรรยากาศหลอนๆในวัดสำหรับศพสดๆ ที่เอามาตั้งวางเพื่อรอการจัดการศพของเจ้าภาพ เล่นเอาอิฉันสะดุ้งหวิวเพราะศพที่ตั้งวางนั้นก็ไม่ได้ธรรมดาเลยเพราะว่าเป็นศพสดๆ เพราะฉะนั้นเรื่องกลิ่นนี่ไม่ต้องห่วงแถมมีความน่ากลัวในการหลอกหลอนอยู่เอาการเหมือนกันในเรื่องของความเฮื้ยนแม้แต่ในวัดและเณรน้อยที่ต้องนั่ง-นอนในอาคารเดียวกัน เสียวดีแท้ๆ ค่ะ แต่ว่าเรื่องราวมันก็ไม่ได้น่ากลัวถึงขั้นอ่านต่อไม่ได้นะเพราะว่านอกจากนั้นเราก็จะได้รู้จักว่า ทำไม เพราะอะไร ศพนี้ถึงเฮี้ยนศพนี้มีความเป็นมาอย่างไรกับครอบครัวโยมเจ้าภาพ จะว่าไปแล้วพล็อตไม่เยอะค่ะ แต่สนุกตรงการได้อ่านเรื่องราวนี่ล่ะอ่านได้เพลินๆ ค่ะไม่ต้องมีลุ้นอะไรมากเพราะเรารู้ล่ะว่าใครเป็นต้นเหตุ และสุดท้ายผลกรรมมันก็คือการกระทำของตัวเองนั่นล่ะค่ะ

อ่านได้เพลิน อ่านได้แบบไม่คาดหวังและปกสวยจริง ๆค่ะ เรื่องนี้