:: รักษ์ โดย ราตรี อธิษฐาน ::
|
เรื่อง: รักษ์ เขียน: ราตรี อธิษฐาน สนพ.อรุณ จำนวนหน้า: 601หน้า ราคา:365 บาท
**บางส่วนของปกหลัง **
สำหรับใครบางคนอาจจะยอมสละทุกอย่างเพื่อความรัก แต่สำหรับเธอ แม้แต่ความรัก เธอก็สละได้เพียงเพื่อต้องการรักษาสิ่งที่เธอรักไว้ให้ดีที่สุดเท่านั้น ดารัณ สาวโสดวัย 33 ปีผู้ใช้ชิวิตแสนธรรมดาอยู่ในตึกแถวเล็กๆ ท่ว่าชีวิตที่ต้องปากกันตีนถีบเลี้ยงดูแม่และน้องๆอีกสองคน ต้องมาเปลี่ยนไป เมื่อดาราหนุ่มผู้แสนโด่งดังได้ก้าวเดินเข้ามาในร้านมินิมาร์ทที่เธอประจำอยู่ ทำให้เธอต้องออกจากงานและจำเป็นต้องเข้าไปสมัครเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งจากนั้นบางสิ่งที่เธอเฝ้าเก็บรักษาไว้สุดหัวใจก็ค่อยๆ เปิดเผยขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเธอได้กับ เขาคนทีเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล
หลังอ่าน
ตอนแรกตั้งใจเอาไว้ว่าเล่มนี้จะรอให้มีโอกาสและจังหวะงามๆเสียก่อนถึงจะเปิดอ่านกันเพราะว่าได้ยินชื่อเสียงและความดังของเรื่องนี้จากหลายเสียงก็เลยกะว่าเอาน่าสักพักเพราะมีคนอ่านแล้วหลายคนเราก็อ่านรีวิวบ้างนิดๆ หน่อยๆรู้แค่เพียงว่า ดัง ดราม่า น้ำตารื้นลากไปถึงหยดแหมะ คุณภาพคับแบบนี้จะพลาดได้อย่างไร แต่ก็นั่นล่ะค่ะ รอก่อนไหม เราก็เลยรอสักพักหลังจากซื้อมาจังหวะพอดีๆ แต่เพราะว่ามีแรงกระตุ้นให้อยากอ่านแทรกเข้ามางานแซงคิวก็เลยต้องมาเพราะเชื่อว่านี่ล่ะเป็นจังหวะเหมาะสมเสียแล้วค่ะ ต้องขอขอบอกคุณนะคะสำหรับแรงกระตุ้นในอยากให้ลองและเมื่อเปิดอ่านแล้ว....ส่วนตัวบอกเลย ชอบค่ะ
ดารัณ หญิงสาววัย 33 ปี ที่ใช้ชีวิตแบบว่าห่างไกลกับคำว่าสบายนัก เธอทำงานหามรุ่งหามค่ำเสื้อผ้า หน้า ผมเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าปากท้องของคนในบ้าน เธอ ทำงานทุกอย่างเก็บเล็กผสมน้อยเพียงเพื่อจะดูแลครอบครัวของตัวเองที่ประกอบด้วยแม่-เดือนจันทร์, น้องชาย-ดนัย และน้องสาวคนเล็ก-ดาราณี หรือ ดาว ความเป็นอยู่ทั่วไปในบ้านไม่ได้สบายนักเพราะแม่แม้จะทำงานขายของแต่ก็น่าเป็นห่วงเรื่องโรคหัวใจที่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด น้องชาย น้องสาวต่างก็อยู่ในวัยศึกษาต้องกินต้องใช้ ค่าเล่าเรียน ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบทั้งหมดเรียกว่าเป็นของดารัณคนเดียว เธอเหนื่อย แต่เธอไม่เคยท้อเพราะ ความรักในครอบครัวคือสิ่งที่เธอต้องรักษามันไว้ ..วันหนึ่งเธอมีโอกาสได้เจอกับพระเอกสุดหล่อของวงการแต่ดูเหมือนว่ายิ่งเจอกันยิ่งมีปัญหาแต่สุดท้ายพระเอกคนนี้ก็หยิบยื่นโอกาสให้กับเธอในการเข้าฝากงานและที่นั่นเธอได้พบกับ เขา ---- คนที่มีความสำคัญและมีส่วนยิ่งในการทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไป เขาผู้ซึ่งเป็นความหลังที่เธอไม่เคยลืมไม่เคยลืมว่าเขาเป็นคนหนึ่งในความทรงจำที่เธอไม่เคยอยากจะลบแต่เพราะมันมี บางอย่างที่เธอต้องเลือกจะต้องรักษา และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขไปบนความทุกข์แห่งทางเลือกของตัวเอง
เรื่องนี้ใครที่เกรงกลัวว่าจะเป็นเรื่องดราม่าหนักน้ำตาร่วงเปาะแปะอาจจะต้องบอกว่าไม่ไม่ถึงขนาดนั้นนะคะ ส่วนตัวแล้วคิดว่าเรื่องราว น่าจะเป็นดราม่าที่สัมผัสถึงหัวใจในบางส่วนที่เป็นความรักที่ไม่เฉพาะรักของหนุ่มสาวแต่ว่าเป็นเรื่องของครอบครัว กำลังใจ ในการยืนหยัดในการสู้กับอะไรบางอย่าง คนเรานี่บางทีเหนื่อยกายมันไม่เท่าไหร่แต่ว่าถ้าการเหนื่อยที่พาลร้าวรานมาถึงหัวใจมันรุนแรงนะคะเพราะฉะนั้นในเรื่องนี้อาจจะต้องบอกว่าเรื่องราวมันทำให้เราเหนื่อยเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นความเหนื่อยที่คุ้มค่าในการต่อสู้เพื่อก้าวไปไปข้างหน้าอย่างมีจุดหมาย แม้ว่จุดกำเนิดของเรื่องทั้งหมดมันจะเกิดจากความบริสุทธิ์แต่ถ้ามันยังไม่ถึงเวลาและมันยังไม่ใช่จังหวะเหมาะสม สิ่งนั้นอาจจะเปลี่ยนเป็นปัญหาได้ทันที เรื่องนี้ผู้เขียนได้เล่าเรื่องแบบมีแฟลชแบ็คตัดสลับฉากกับปัจจุบันเรียกว่ากลับไปกลับมาในนาทีที่เอื้อถึง คือ เล่าเรื่องราวในปัจจุบันแล้วก็มีจังหวะเล่าเรื่องราวแต่หนหลังของตัวละครหลักในสมัยวัยเรียนมัธยมปลายซึ่งการเล่าก็ทำให้เราเข้าไปรู้จักแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรโดยเฉพาะดารัณและความหลังที่มีร่วมกับเขา ในวัยอันใสบริสุทธิ์.. และเพื่อน เล่าไปก็ตัดกลับมายังเรื่องราวปัจจุบันถึงถึงสิ่งที่ทุกคนกำลังทำและดำเนินชีวิตไปอย่างที่มันควรจะเป็น เรื่องราวมันก็ค่อยๆเดินไปแล้วก็สลับฉากกับเรื่องราวในพาร์ทอดีตอีก เรียกว่าสลับไปสลับมาเพื่อทำให้เราได้เข้าใจได้ชัดเจนขึ้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขา ทำไมความรักที่เกิดขึ้นมันต้องจบลงด้วยการแยกทาง และชีวิตของแต่ละคนเดินไปในทางที่ไม่ได้คาดหวัง และปัญหามันก็ยังคงอยู่ แล้วเมื่อเวลาที่ผ่านไปกว่า16 ปี แล้วกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งด้วยหัวใจที่ฝ่ายหนึ่งเจ็บปวดอีกฝ่ายก็ยังคงรัก และยังคงกังวลว่า ปัญหา จะเปิดเผย เรื่องราวตรงนี้เลยชวนให้คนอ่านต้องมีลุ้น เพราะมันมีรายละเอียดในนั้นอีกมากมายที่เชื่อว่าแต่ละคนอ่านแล้วน่าจะรู้สึกอาจจะมากบ้างน้อยบ้าง หรือว่าไม่เกิดเลย อันนี้เลยเป็นอะไรที่น่าพิสูจน์ด้วยการอ่านนะคะ
ส่วนตัวฉันแล้วเหมือนที่บอกรวมๆ แล้วชอบเรื่องนี้นะคะ อ่านแล้วด้วยความต่อเนื่องมันเลยทำให้เพลินและอินได้ในระดับหนึ่ง และเพราะการบอกเล่าที่ตัดสลับทำให้เรารู้จักแต่ละคนมากขึ้น เราเลยได้เห็นถึงความชัดเจนของแต่ละตัวว่าพื้นฐานของแต่ละคนเป็นอย่างไร อะไรมีส่วนผลักดันให้มันเกิดมันเลยทำให้เราได้เข้านั่งตรงสถานการณ์ตอนนั้นเรียกว่าแทบจะคิดตามเค้าไปด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่แม้ว่าจะชอบเรื่องนี้อยู่แบบรวมๆแต่ก็อาจจะมีบ้างที่เราไม่ชอบในบางส่วนที่จับลงไปสร้างสีสัน เอาง่ายๆ ว่าเรื่องของตัวร้ายแล้วกันที่ถึงเราจะไม่ชอบยังไงแต่เราก็ไม่นิยมกับการที่ต้องทนอยู่กับสิ่งที่ตัวเองดันทุรังจะได้รับการยอมรับจากพระเอกนัก และพระเอกแม้ว่าจะมีความรักที่มั่นคงกับสิ่งที่เค้าพลาดหวังมาจากอดีตแต่เมื่อเราคิดถึงส่วนที่เกิดกับความสัมพันธ์ของเขากับตัวร้ายเราก็ไม่เห็นควรนักว่าทำไมจะต้องให้มันเกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานกันขนาดนี้แต่สำหรับประเด็นนี้ก็คงไม่เท่ากับ ความไม่เข้าท่า ในคาแรคเตอร์อย่างแม่ของพระเอก ที่ดูว่าจะร้ายโผงผางและโฉ่งฉ่างตลาดมาก เรียกว่านางโผล่มาเหมือนทำเอาวงจะแตกเสียได้เพราะเรียกว่าเป็นตัวละครที่สุดโต่งแบบเล่นใหญ่กว่าตัวอื่นๆ โผล่มาน้อยแต่ร้ายมากนะในความรู้สึกของฉันเพราะนางเป็นคนที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อให้ใครรักและรักใครเลย และทางออกของปัญหานี้น่าจะสร้างตัวนี้ให้มีคุณค่าขึ้นมาได้มากขึ้นนะเพราะไหนๆ คีย์เวอร์ของเรื่องนี้ก็มาจากเรื่องของ ความรักที่บริสุทธิ์ มาแล้วก็น่าจะขีดเขียนภาพตัวนี้ให้สว่างขึ้นได้แล้วความรู้สึกทั้งปวงของเรากับความเป็นลูกก็จะได้ไม่ถูกลดทอนลงไป ทั้งนี้รวมๆ แล้วอาจจะบอกว่าอารมณ์ร่วมสำหรับความผูกพัน bond กันในแต่ละตัวละครอาจจะยังสร้างไม่สุด เพราะกรอบของเวลาแห่งความห่างไกลกันกว่า 16 ปีมันยังไม่แน่นพอจะยอมรับถึงการกลับมาเจอกันและรู้สึกดีต่อกันได้ง่ายๆ ฉันอาจจะหยวนให้กับความเข้าใจส่วนตัวไปว่า ก็คงเพราะ ความผูกพันในอดีตมันก็อาจจะทำให้เป็นเงื่อนไขดัชนีชี้ง่ายว่ามันก็ไม่ยากนี่นาว่าเราจะต่อกันติดและแก้ไขทุกอย่างร่วมกันได้เพราะทุกคนเห็นความสำคัญของสิ่งเดียวกันนั่นคือเป้าหมายหลักของเรื่อง
ใครยังไม่ได้อ่านก็เห็นควรว่าถ้าหากว่าอยากลองก็ลองเถิดค่ะ ดราม่ามันมีแต่ไม่ใช่จะทั้งเรื่องใครบอกร้องไห้ รื้นๆ ก็คงจะเป็นเพราะตัวบุคคลกับการสัมผัสได้ถึงตัวหนังสือของคนเขียน ไม่ได้เศร้ารันทดหดหู่แต่มันเป็นความเศร้าในความเข้าใจถึงปัญหาและการเผชิญสถานการณ์ทางเลือกบางอย่างณ ตอนนั้น ถ้าหากว่าไม่เชื่อลังเลก็คงบอกว่ายังไงก็ต้องลองล่ะค่ะแล้วคุณจะรู้ว่า มันดี หรือว่าไม่ดียังไง สำหรับเรื่องนี้ รักษ์ | |
วันนี้มีงาน Meeting ชาว Bloggang ..
คิดถึงคุณพู่จัง..