เก็บตกปรมาจารย์ลัทธิมาร – The Untamed Fun Facts!
ไม่น่าเชื่อว่าจะได้กลับมาเขียนอะไรเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้อีก หลังจากรีวิวไปแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมา ทั้งที่ตอนนั้นหนังสือฉบับแปลภาษาไทย ยังออกมาแค่ 3 เล่มเท่านั้นเองอีกต่างหาก ถือโอกาสที่ว่าตัวเองอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษจบไปแล้วแท้ๆ ถึงได้หน้ามึนรีวิวออกมาเฉยเลยนั่นล่ะค่ะ จนบัดนี้หนังสือฉบับแปลภาษาไทยออกมาครบ 5 เล่มจบแล้ว ก็เข้าธันวาคมพอดีหนังจากที่เราอ่านเล่ม 5 ฉบับภาษาไทยจบไปแล้ว


 
ส่วนตัวเราไม่ได้ค่อยได้ติดตามเรื่องราววงการนิยายแปลอะไรเท่าไหร่ แต่ก็พอรู้มาบ้างว่า มีเสียงจากแฟนนิยายที่เป็นแฟนพันธุ์แท้เหนียวแน่น ที่ออกมาบ่นๆ กับผลงานแปลเวอร์ชั่นภาษาไทยอยู่ไม่น้อย ซึ่งเรื่องนี้เอาเป็นว่าเราจะไม่ขอพูดถึงก็แล้วกันนะคะ เพราะข้อแรก รังแต่จะก่อให้เกิดดราม่าขึ้นเปล่าๆ ข้อสอง เราไม่ได้มีความรู้เรื่องภาษาจีนอะไร จะออกความเห็นมากมายนักก็ดูจะไม่เข้าท่า แม้ว่าจะมีต้นฉบับภาษาอังกฤษที่เชื่อถือได้มาคอยเปรียบเทียบอยู่ก็ตาม ส่วนเรื่องสำนวนอะไรต่างๆ ก็ขอละเอาไว้ก็แล้วกันค่ะ เพราะยังไงซะ งานก็แปลมาแล้ว หนังสือก็ออกมาแล้ว เราเองก็อ่านจบไปแล้วเหมือนกัน ก็เลยขอไม่พูดถึงล่ะนะคะ


 
ที่จะมาเขียนถึงคราวนี้ เป็นเกร็ดเบาๆ ที่เราบังเอิญไปไถเจอใน IG ได้ซักพักใหญ่ๆ แล้ว ตอนนั้นก็อ่านเอาสนุก แต่จู่ๆ ก็คิดว่าเออ เอามาลงให้แฟนๆ ปรมาจารย์ฯ ได้อ่านกันก็น่าจะดีนะ ก็เลยตัดสินใจเอามาแปล (จากภาษาอังกฤษ) ลงในนี้เลยก็แล้วกัน ไหนๆ แฟนพันธุ์แท้ทั้งนิยายทั้งซีรีย์ก็มีไม่น้อยอยู่แล้ว
 
ที่เอามาแปลเนี่ยมันคือ Fun Fact 10 ประการที่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากนิยายที่ตัวอาจารย์โม่เซียงถงซิ่ว ผู้แต่ง ได้โพสต์เอาไว้ในเว่ยป๋อ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ปี 2017 เป็นการฉลองที่นิยาย ม๋อเต้าจู่ซือ หรือ ปรมาจารย์ลัทธิมาร ครบรอบ 2 ปีพอดี แหม... นับไปนับมา ปี 2020 นี้ก็ถือว่านิยายเรื่องนี้มีอายุครบ 5 ปีแล้วสินะคะ

มาค่ะ เราลองไปอ่าน 10 Fun Facts จากปลายปากกาของอาจารย์โม่กันเถอะ

1. เซียนจื่อ (ผู้แปล: สุนัขเวทย์ของจินหลิง) นั้นเป็นสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกีจริงๆ ตอนที่ฉัน (โม่เซียงถงซิ่ว) วางตัวละครตัวนี้เอาไว้ ฉันไม่รู้เลยว่าสุนัขพันธุ์ฮัสกีมันออกจะ... ไม่ค่อยฉลาดซักเท่าไหร่ ถึงตอนนี้ ในหัวของฉัน ภาพลักษณ์ของเซียนจื่อ ก็คือฮัสกีอยู่ดีนี่แหละ ก็คิดซะว่า เซียนจื่อเป็นสุนัขพันธุ์ฮัสกี้กลายพันธุ์ที่แสนจะเฉลียวฉลาดไปเสียก็แล้วกันนะคะ

2. หลานฉี่เหริน (ผู้แปล: ท่านอาจารย์อาผู้เข้มงวดของหลานวั่งจี และหลานซีเฉินนั่นล่ะค่ะ) ไว้หนวดเครามาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม แต่มีวันหนึ่งหนวดแสนรัก ดันถูกฉางเซ่อส่านเหรินตัดทิ้งไปซะอย่างนั้น ทำเอาท่านโกรธหัวฟันหัวเหวี่ยงทีเดียว!
ภายหลัง ลูกชายของฉางเซ่อส่านเหริน ก็ยังมาแอบตัดหนวดตัดเคราของเขาซ้ำรอยแม่ไปอีก (แต่ฉันไม่ได้เขียนรายละเอียดตรงนี้ใส่เอาไว้ในนิยายนะคะ)
*** (ผู้แปล: สำหรับใครที่จำไม่ได้ ฉางเซ่อส่านเหริน คือแม่ของเว่ยอู๋เซี่ยนค่ะ แปลกใจมั้ยล่ะค่ะ ที่ท่านอาหลานฉี่เหรินจะเหม็นหน้าเว่ยอิงอย่างกับอะไรดี)

3. ตอนที่จินกวงเหยายื่นมือเข้าช่วยหลานซีเฉินนั้น (ผู้แปล: ตอนที่อวิ๋นเซินปู้จือชู่โดนตระกูลเวินเผานั่นแหละค่ะ) ในตอนนั้นเขาทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลห้องหนังสืออยู่
กวงเหยาถึงกับต้องช่วยแม้กระทั่งเรื่องซักเสื้อผ้าของซีเฉินทีเดียว เพราะตัวซีเฉินซักผ้าไม่เป็นค่ะ แล้วนี่ก็ไม่ใช่ธุระที่จะไปขอให้ใครก็ได้มาช่วยซัก เพราะเสี่ยงต่อการที่จะถูกคนจดจำลายเมฆบนเสื้อผ้าได้ ทีนี้ก็จะอันตรายต่อชีวิตไปอีก แถมจะทิ้งไปหรือเผาซะก็ไม่ได้
จินกวงเหยายังเคยถึงกับออกปากบ่นกับเนี่ยหมิงเจวี๋ยมาแล้วด้วยว่า กำลังแขนของหลานซีเฉินก็มีมากเกินซะจน ถ้าปล่อยให้ซักผ้าไปจริงๆ มีหวังได้ทำเสื้อผ้าขาดหมดแน่ๆ

4. การจะทำให้เสี่ยวซิงเฉินหัวเราะได้นั้น เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ทั้งเซวียหยางและอาจิงต่างก็รู้ความจริงข้อนี้ แล้วก็ไม่ยอมบอกซิงเฉินเสียด้วย ซ่งหลานไม่เคยรู้เรื่องนี้ เพราะตัวพี่แกเองก็ไม่เคยหัวเราะเลยซักครั้ง

5. เจียงเฉิงเคยผ่านการนัดบอดมาแล้ว 3 ครั้ง ด้วยเหตุผลบางประการ เจ้าตัวถูกขึ้นบัญชีดำไปเรียบร้อยโดยเหล่าบรรดาเซียนที่เป็นสตรีทั้งวงการ
คุณสมบัติของเนื้อคู่ที่เจียงเฉิงมองหา มีดังต่อไปนี้ นางจะต้องมีความสวยแบบธรรมชาติ สง่างาม และเชื่อฟัง เป็นคนขยันขันแข็งและประหยัด ต้องมาจากครอบครัวที่ได้รับการนับหน้าถือตา ระดับฝีมือในการล่าภูตผีไม่ต้องสูงมาก บุคลิกไม่ต้องแข็งกร้าวมาก ต้องไม่พูดมากจนเกินไป เสียงก็ต้องไม่ดังเกินไป ต้องไม่ใช้จ่ายเงินทองมากเกินไป ที่สำคัญที่สุด จะต้องปฏิบัติต่อจินหลิงเป็นอย่างดีด้วย

6. หลานซือจุยแก่กว่าจินหลิง แต่ทั้งคู่สูง 172 ซม. เท่ากัน ซือจุยในวัยเด็กนั้นไม่ได้รับสารอาหารมากเพียงพอ ช่วงที่เติบโตขึ้นมาก็กินแต่อาหารที่จืดชืดไร้รสชาติ ดังนั้นพัฒนาการทางร่างกายจึงเป็นไปอย่างค่อนข้างช้า
ส่วน หลานจิ่งอี๋ สูง 168 ซม.
(ผู้แปล: ความสูงจริงของนักแสดง เจิ้งฟ่านซิง (รับบท หลานซือจุย) คือ 175 ซม. นักแสดง กัวเฉิง (รับบท หลานจิงอี๋) 180 ซม. นักแสดง ฉีเผยซิน (รับบทเป็นจินหลิง) 175 ซม.)

7. เพื่อที่จะสารภาพรักกับเจียงเยี่ยนหลี จินจื่อเซวียนถึงกับเคยจ้างคนให้มาเขียนความเรียงชวนหวานเลี่ยนแบบที่ยาวมากเป็นพิเศษ ซึ่งเจ้าตัวก็ตั้งอกตั้งใจอ่านมาเป็นอย่างดี สุดท้ายก็ไม่เคยได้เอามาใช้งานเลยสักที
วันหนึ่ง หลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันไปแล้ว เขาก็รู้สึกขึ้นมาว่า จังหวะนี้แหละ เป็นโอกาสที่จะได้เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์เสียที ก็เลยหยิบเอาบทความที่ว่ามาอ่านให้เจียงเยี่ยนหลีฟัง ขณะที่ฟัง เจียงเยี่ยนหลียกมือขึ้นลูบไปที่แก้มของสามีด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันหลังแล้วเดินออกไป คือนางเป็นคนดีเกินกว่าจะทิ้งตัวลงบนพื้นแล้วหัวเราะใส่หน้าสามีตัวเองนั่นแหละค่ะ

8. หลานวั่งจีรู้มาตั้งแต่แรกๆ แล้วว่า เว่ยอู๋เซี่ยนกลัวสุนัขอย่างยิ่ง  จินจื่อเซวียนเคยเลี้ยงสุนัขเอาไว้ตัวนึง แล้วก็เคยทิ้งมันเอาไว้ตรงตีนเขาอวิ๋นเซินปู้จือชู่ วันหนึ่งสุนัขตัวที่ว่าวิ่งขึ้นไปบนเขาจังหวะเดียวกับที่เว่ยอู๋เซี่ยนแอบหนีออกมาทางกำแพงพอดี ก็เลยทั้งเห่าไล่ ทั้งขู่จนทำเอาเว่ยอู๋เซี่ยนหนีหัวซุกหัวซุนขึ้นไปซ่อนบนต้นไม้ ก็ได้หลานวั่งจีนั่นแหละที่มาช่วยไล่สุนัขให้
อย่างไรก็ตาม เว่ยอู๋เซี่ยนกลับคิดว่าหลานวั่งจีคงไม่ทันได้เห็นตัวเองกลัวจนตัวสั่นอยู่บนต้นไม้หรอก
*** (ผู้แปล: ผู้แปลต้นฉบับภาษาอังกฤษโน้ตเอาไว้ตรงนี้ว่า เวอร์ชั่นนี้สามารถหาดูได้จาก ปรมาจารย์ลัทธิมาร เวอร์ชั่น Q หรือเวอร์ชั่นจิบิที่เป็นลายการ์ตูนน่ารักน่าฟัดนั่นล่ะค่ะ)

9. ถึงแม้หลานวั่งจีจะไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยก็ตาม แต่เว่ยอู๋เซี่ยนก็ค้นพบว่า หลานวั่งจีชอบใช้ของสารพัดอย่างมามัดเว่ยอู๋เซี่ยนเอาไว้เวลาที่ เอิ่ม..... นั่นแหละค่ะ รู้ๆ กันอยู่ (ผู้แปล: อาจารย์ต้องคิดละเอียดถึงเพียงนี้เชียวรึคะเนี่ย )

10. ไม่ว่าจะเป็นตัวพระเอกหรือนายเอก (ผู้แปล: ต้นฉบับภาษาอังกฤษเรียกว่าเซเมะและอุเคะค่ะ) เว่ยอู๋เซี่ยนก็ถือเป็นตัวละครที่ถูกวางเอาไว้ตั้งแต่แรกก่อนตัวละครอื่นๆ
ตอนที่ฉันเริ่มเข้ามาสมัครเว่ยป๋อ สิ่งที่ฉันคิดก็คือ “ตัวละครที่เป็นนายเอกตัวนี้ช่างสร้างความปวดหัวให้ฉันมากเหลือเกิน จนไม่รู้ว่าจะสร้างตัวละครที่เป็นพระเอกแบบไหนเพื่อที่จะรับมือกับหมอนี่ได้!”
ตัวพระเอกนั้นถูกเปลี่ยนไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกนิสัย ลักษณะภายนอก อายุ พื้นเพ รวมถึงเรื่องราวชีวิต เรียกว่าเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนเหลือแสนจริงๆ
ในที่สุด ก็เหมือนมีแสงจากสรรค์ส่องลงมาเลยก็ว่าได้ค่ะ ฉันถึงกับตบโต๊ะแล้วก็สุดท้ายก็เลือกเวอร์ชั่นแรก โดยบอกกับตัวเองว่า “ต้องเป็นเขานี่แหละ!”
จะเห็นได้ว่าทั้งหลานวั่งจีและเว่ยอู๋เซี่ยน ทั้งคู่ต่างก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าจะต้องได้อยู่ด้วยกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องเป็นคนคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น

Credit – Mondengel on tumblr
Credit – IG: yibosyamaha

หมดแล้วค่ะ 10 ข้อ ตอนอ่านก็ไม่ได้คิดว่ามันยาวขนาดนี้นะคะเนี่ย แต่พออ่านแล้วก็ทำเอาอดหัวเราะให้กับความมีอารมณ์ขันของอาจารย์โม่ฯ ไม่ได้จริงๆ นั่นแหละค่ะ แล้วก็ทำให้ได้เห็นนะคะว่า อาจารย์เธอช่างเป็นคนละเอียดลอออย่างยิ่งในการที่จะเขียนนิยายซักเรื่องออกมา ซึ่งที่จริงตามหลักแล้วมันก็ควรจะเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ถ้าไม่ผ่านการคิดอย่างรอบคอบ ขั้นตอนที่มากมาย หรือการแก้แล้วแก้อีก นิยายเรื่องนี้ก็คงจะไม่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ใช่ไหมคะ เห็นอย่างนี้แล้ว สำหรับคนที่อยากจะเป็นนักเขียนแล้วล่ะก็ ควรจะดูเป็นตัวอย่างเอาไว้เชียวล่ะค่ะ เราถึงได้ทึ่งกับอาจารย์โม่ฯ เธอมาก เพราะงานเธอดีและละเอียดอย่างยิ่ง แล้วเราก็อ่านซ้ำได้หลายรอบด้วย เพราะแม้จะเต็มไปด้วยรายละเอียดมหาศาลแต่ก็สนุกไปด้วยนี่ล่ะค่ะ

เอาไว้ถ้าไปเจอพวก fun facts หรือเกร็ดอะไรสนุกๆ เกี่ยวกับนิยายเรื่องไหนอีก หรือแม้แต่กับเรื่องนี้เองก็ตาม วันหลังจะแปลเอามาให้อ่านอีกก็แล้วกันนะคะ อันนี้นี่ไปเจอโดยบังเอิญจริงๆ บวกกับต้นฉบับภาษาอังกฤษแปลออกมาดีเลยล่ะค่ะ เราก็เลยสบายใจที่จะแปลมาให้ได้อ่านกัน เพราะบางแหล่งที่แปลมานี่คือภาษาค่อนข้าวจะวายป่วงเอาการ แปลไม่ออกกันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเพื่อนนักอ่านท่านไหน หากไปเจอเรื่องน่าสนุกอะไรทำนองนี้ อยากให้เราแปลลงบล็อกให้ได้อ่านก็ลองส่งมาให้เราได้นะคะ (ขอต้นฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้นค่า) ถ้ามีเวลาหรือเห็นว่าน่าสนใจจริงๆ ก็ยินดีและเต็มใจที่จะแปลให้แน่นอนค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามแล้วรออ่านเรื่องต่อไปกันนะคะ
 



Create Date : 14 ธันวาคม 2563
Last Update : 6 มกราคม 2564 11:57:02 น.
Counter : 4001 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Fingers-crossed.BlogGang.com

fingers-crossed
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด