พระพุทธรูปปางเดียวกัน สามสถานที่ สามวัด พระพุทธรูป "ปางกราบพระบรมศพ" สมัยอยุธยา ณ วัดสรรพยาวัฒนาราม ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ประวัติกล่าวไว้ว่า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จปรินิพพานไปแล้ว 7 วัน มัลละกษัตริย์แห่งเมืองกุสินารา พร้อมด้วยประชาชนและพระสงฆ์ อันมีพระมหากัสสปเถระเป็นประธาน ได้พร้อมกันกระทำการถวายพระเพลิงพุทธสรีระ ณ มกุฏพันธนเจดีย์ แห่งเมืองกุสินารา นับเป็นอีกวันที่ชาวพุทธมีความโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะการสูญเสียแห่งพระพุทธสรีระ เมื่อวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งนิยมเรียกกันว่าวันอัฏฐมีนั้น เมื่อเวียนมาบรรจบแต่ละปี พุทธศาสนิกชนบางส่วนได้ประกอบพิธีบูชาขึ้น มีการเวียนเทียน เป็นต้น แต่ไม่ทั่วไปทั่วราชอาณาจักร โดยจะประกอบพิธีในบางวัดเท่านั้น ตามแต่ความศรัทธาของท้องถิ่น อาทิ ในจังหวัดอุตรดิตถ์ เช่น ประเพณีถวายพระเพลิงฯ จำลอง ที่วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง เป็นต้น ต่อมาอีกวัดหนึ่งครับ ณ วัดอินทารามวรวิหาร ธนบุรี กรุงเทพมหานคร "ปางถวายพระเพลิง" โดยมีพระมหากัสสปะถวายบังคมพระบรมศพที่เบื้องพระบาท มีที่มาจากพุทธประวัติในตอนหลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว โดยครั้งนั้นมีการเตรียมจะถวายพระเพลิงพระบรมศพแต่จุดยังไงไฟก็ไม่ติด เหมือนพระพุทธเจ้าจะทรงรอให้พระมหากัสสปะที่ขณะนั้นอยู่ระหว่างการธุดงค์มาร่วมพิธี จนเมื่อพระมหากัสสปะมาถึงแล้วได้ถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทก็ได้ยื่นออกมาเหมือนรับการถวายบังคม แล้วไฟก็ติดขึ้นเองอย่างน่าอัศจรรย์ มาสักการะที่วัดอินทารามวรวิหาร ธนบุรี กรุงเทพมหานครครับ วัดสุดท้าย หลวงพ่อสุขสบาย พระนอนหงายองค์แรกของเมืองไทย ณ วัดราชคฤห์ ที่อยู่ : เลขที่ 434 ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร พระปางถวายพระเพลิงที่มีเพียงแห่งเดียวในกรุงเทพมหานคร ณ วัดราชคฤห์วรวิหาร เป็นพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง หรือพระนอนหงาย ซึ่งมีอายุเก่าแก่นับตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าเอกาทศรถ ประวัติของวัดราชคฤห์มีอยู่หลายสำนวน และพระยาพิชัยดาบหักก็มักจะมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหล่านี้อยู่ด้วย แต่จากที่ ทัศน์ ทองทราย ไปค้นหาข้อมูลมาทั้งหนังสือศิลปวัฒนธรรมไทย เล่ม 4 วัดสำคัญกรุงรัตนโกสินทร์ โดยกรมศิลปากร พ.ศ. 2525 และหนังสือประวัติวัดราชคฤห์ โดย ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2528 ระบุเพียงว่า ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรี คงมีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัด เพราะเชื่อว่าพระยาพิชัยดาบหัก แม่ทัพสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีเป็นผู้สร้างพระอุโบสถ ซึ่งปัจจุบันคือพระวิหารใหญ่ และพระปรางค์ด้านหน้าพระวิหารใหญ่ ในหนังสือประวัติวัดราชคฤห์วรวิหาร พ.ศ. 2549 ได้ให้ข้อมูลประวัติพระนอนหงายในสมัยกรุงธนบุรีเพิ่มเติมว่า พระยาพิชัยดาบหัก ได้บูรณะปฏิสังขรณ์วิหารเล็กแล้ว จ ากนั้นก็บูรณะปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง (พระนอนหงาย) เพื่อเป็นการบำเพ็ญบุญอุทิศกุศลให้แก่เพื่อนทหารที่เป็นข้าศึกและชาวบ้านที่ล้มตายเป็นจำนวนมาก เพราะตนเป็นต้นเหตุเป็นเหมือนการชดใช้ถ่ายกรรมที่ตนได้ฆ่าคนตายไป ดังนั้นชาวบ้านจึงนิยมมากราบไหว้ขอถ่ายกรรมและขอพรเพื่อให้ประสบความสำเร็จมีโชคมีลาภ เป็นการแก้ร้ายให้กลับกลายเป็นดีกันเป็นจำนวนมาก พระพุทธรูปปางนอนหงาย หรือที่ชาวบ้าน เรียกกันติดปากว่า "หลวงพ่อนอนหงาย" ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารเล็ก นับเป็นพระปางถวายพระเพลิงโดยที่เบื้องปลายพระบาทนั้นมีพระสาวก กล่าวคือ พระมหากัสสปะนั่งประนมมือโดยในพุทธประวัติมีกล่าวไว้ว่า หลังจากพระพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานแล้วได้นำผ้าใหม่ซับด้วยสำลี ห่อด้วยผ้าห้าร้อยคู่แล้วเชิญพระพุทธสรีรศพลง ประดิษฐานในรางเหล็กที่ใส่น้ำมัน ปิดครอบด้วยฝารางเหล็กแล้วนำไปตั้งพระพุทธสรีระรศพ โดยลักษณะนอนหงายไว้บนจิตกาธารหรือเชิงตะกอนที่ทำด้วยไม้หอมล้วนๆ ที่มกุฏพันธนเจดีย์ เมืองกุสินารา เพื่อทำฌาปนกิจถวายพระเพลิงแล้วจึงได้ทำการประชุมพระเพลิง แต่ปรากฏว่าไฟไม่ติด จนต้องรอให้พระมหากัสสปเถระเดินทางมาถึงและได้กราบพระพุทธสรีระศพ พอพระมหากัสสปเถระกราบครบ 3 ครั้ง ปรากฏว่าไฟติดขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ จึงเรียกปางนี้ว่า "ปางถวายพระเพลิง" มาสักการะและชมความงามได้ที่วัดราชคฤห์ ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร พระนอนที่วัดราชคฤห์เป็นปางเสด็จดับขันธปรินิพพานปางที่สาม ที่บางครั้งเรียกว่า "ปางถวายพระเพลิง" หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วมีการนำผ้าใหม่ซับด้วยสำลีห่อพุทธสรีระ จำนวน 500 คู่ แล้วจึงอัญเชิญพระพุทธสรีระมาประดิษฐาน ณ รางเหล็กที่เต็มไปด้วยน้ำมันแล้วปิดครอบด้วยฝารางเหล็ก ก่อนนำไปไว้บนจิตกาธานที่ทำจากไม้หอมที่มกุฏพันธนเจดีย์ เมืองกุสินารา เพื่อถวายพระเพลิง แต่ไม่ไม่ติด จนกระทั่งพระมหากัสสปะเถระมาถึงและได้กราบพระบรมศพครบ 3 ครั้ง จึงจุดไฟติดอย่างน่าอัศจรรย์ ดังนั้นชาวบ้านจึงนิยมมากราบไหว้ขอถ่ายกรรมและขอพรเพื่อให้ประสบความสำเร็จ มีโชคมีลาภ เป็นการแก้ร้ายให้กลับกลายเป็นดีกันเป็นจำนวนมากครับ และนี่ก็คือพระพุทธรูปปางเดียวกันสามสถานที่สามวัดที่ผมนำมาฝากในวันนี้ครับ สาธุ ๆ ๆ อนุโมทนาบุญค่ะ แล้วไปทำบุญด้วยกันกับพี่อ้อมแอ้มนะคะ โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:6:21:06 น.
ขอบคุณครับที่ไปเยือนที่บล๊อก
ผมดูภาพที่คุณประเสริฐถ่ายมาให้ดู พร้อม คำบบรรยาย.. ผมอมยิ้มเลย.. ผมเข้าสอบสัมภาษณ์เข้าโรงเรียนเพาะช่าง นาน ๆ มาก ๆ แต่เข้าไม่ได้นะครับ อาจารย์ถามว่า พระพุทธสิหิงค์ มีที่เชียงใหม่องค์เดียวใช่หรือเปล่า อาจารย์เขารู้ว่าผมเด็กเชียงใหม่ ผมเลย ตอบอย่างมั่นใจว่า มีองค์เดียวครับ 555 คือผมเห็นที่วัดพระสิงห์องค์เดียวนี่นา ถ้าใกล้ชิดเซียนพระมาก่อน คงไม่ตอบแบบนั้น คงนับไม่ถ้วนแน่เลย โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:6:39:53 น.
เป็นความรู้ที่ละเอียดมากกว่าที่เคยรู้มา
น่าจะต้องหาหนทางไปกราบองค์ที่ วัดราชคฤห์ น่าจะไปง่ายที่สุด ขอบคุณข้อมูลนี้นะคะ โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:7:00:31 น.
ตามเที่ยวแหล่งธรรมสถาน
ด้วยภาพสวยๆ สาธุค่ะ SertPhoto Photo Blog โดย: Tui Laksi วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:9:22:14 น.
เคยไกราบพระปางปรินิพพานที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก ครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:13:16:46 น.
ตามมาไหว้พระด้วยคน ขอบคุณที่แวะไปส่งกำลังใจนะค้าา
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:15:27:40 น.
สวัสดีครับ
ตามมาเที่ยวมาไหว้พระด้วยครับ ขอบคุณที่แวะไปนะครับ โดย: Sleepless Sea วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:16:57:28 น.
สวัสดี จ้ะ คุณประเสริฐ
ขอบใจที่แวะมาให้กำลังใจที่บล็อกครู และยินดีที่ได้เพื่อนชาวบล็อกเพิ่มขึ้นอีกคน พระพุทธรูปปางพระบรมศพ ปางถวายพระเพลิง หลวงพีอสุขสบาย ทั้งสาม องค์ สามวัด โดยเฉพาะองค์สุดท้าย เป็น พระพุทธรูปนอนหงาย ยังไม่เคยเห็นเลยจ้ะ เป็นบุญตาที่ได้เห็นจ้ะ แล้วยังได้ ทราบประวัติความเป็นมาของพระพุทธรูป แต่ละองค์ด้วย สาธุ สาธุ ขอบใจ จ้ะ โหวดหมวด รูปภาพ โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:18:43:09 น.
สวัสดีครับพี่ ขอโทษที่ไม่่ได้ตอบนานลยครับ รูปสวยมากๆครับ โดย: ตะลลอนไปทั่ว (สมาชิกหมายเลข 5722835 ) วันที่: 23 กรกฎาคม 2563 เวลา:12:47:45 น.
ตามไปกราบหลวงพ่อที่วัดราชคฤห์มาแล้วค่ะ
ขอบคุณข้อมูลและกำลังใจที่บล็อกนะคะ โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 4 สิงหาคม 2563 เวลา:18:43:40 น.
สวัสดีคะคุณเสริฐ...
ยังไม่เคยเห็นปางเหล่านี้เลยคะ.. น่าทึ่งดีจริงๆ ขอบคุณที่นำมานะคะ โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 16 ตุลาคม 2563 เวลา:11:12:16 น.
สวัสดีปีใหม่..
ขอให้คุณเสริฐมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขมากมาก เฮงๆรวยๆนะคะ. โดย: อ้อมแอ้ม IP: 49.230.111.56 วันที่: 28 ธันวาคม 2563 เวลา:11:02:21 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 12 มกราคม 2564 เวลา:16:07:19 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ล้วนเป็นวัดประจำของพี่อุ้ม
เพราะเป็นคนเกิดวันอังคาร
เวลาไปจังหวัดไหน
จะเสาะแสวงหาพระนอน
ไปหราบเวมอ
ภาพสวยทุกภาพ
เจิมบอกแล้วออกจากบ้าน
ไปบิน