​​​​​​​ล่องเรือขอพร 3 วัด 3 ชนชาติ ที่ สังขละบุรี กาญจนบุรี






วัดใต้น้ำ หรือ วัดจมน้ำ หรือ เมืองบาดาล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อเสียงของ
อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และยังถือเป็น Unseen Thailand จึงทำให้นักท่อง
นิยมมาล่องเรือเพื่อชมซากโบราณสถานของวัด ซึ่งเป็นวัดที่จมน้ำ 2 และไม่จมน้ำอีก 1วัด
 เมืองสังขละบุรี เดิมตั้งอยู่บนพื้นราบ เมื่อมีการสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ 
จึงทำให้น้ำท่วมหมู่บ้านและวัดให้จมอยู่ใต้น้ำ ทำให้ชาวต้องอพยพขึ้นมาอยู่ด้านบน
ทิ้งเมืองสังขละเก่าให้จมอยู่ใต้น้ำนาน 20 ปี ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันใน ชื่อวัดใต้น้ำ หรือ
เมืองบาดาล โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมทั้ง 3 วัด ได้ที่บริเวณสะพานไม้มอญ 







วัดจมน้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการามหลังเก่า เป็นวัดของชาวมอญ เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ
ร่วมกันกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ และร่วมกันสร้างขึ้น ในปี พ.ศ.2496
ที่บ้านวังกะล่าง อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีดินแดนใกล้กับชายแดนไทย-พม่า
ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี 220 กิโลเมตรโดยประมาณ วัดหลวงพ่ออุตตมะ ก็เป็นชาวบ้าน
ที่เรียกกันขึ้นมา เดิมตั้งอยู่บนเนินสูง ที่เรียกว่า สามประสบ ที่นี่จะเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย
คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และ แม่น้ำรันตี ไหลมารวมกัน ต่อมาได้มีการก่อสร้างเขื่อน
เขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งน้ำในเขื่อนจะเข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวม
ทั้งวัดนี้ด้วยจึงได้ทำการย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขาแทน ส่วนวัดเดิมก็ได้จมอยู่ใต้น้ำมานาน
ราวสิบปี เหลือเพียงซากปรักหักพังของวัดเท่านั้น สำหรับการเที่ยวชมโบสถ์นั้น
ถ้าอยากจะเดินเข้าไปชมความ









วัดสมเด็จเก่า อยู่ตรงข้ามเมืองบาดาล  เป็น วัดไทย ใน สังขละบุรี วัดเก่าที่ถูกทิ้งร้าง และ
อุโบสถ ที่ปกคลุมไปด้วยต้นโพธิ์ และต้นไทร  วัดสมเด็จ เก่า เป็นอีกหนึ่งสถานที่
ที่นักท่องเที่ยวจะมาแวะเที่ยว โดยที่นี่จะอยู่ใกล้กับ วัดใต้น้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการาม เก่า 
ที่ไม่ได้จมอยู่น้ำใต้น้ำเหมือนวัดอื่น แต่เป็นวัดถูกทิ้งร้างเมื่อครั้งย้ายอำเภอสังขละบุรี
ตอนสร้างเขื่อนเขาแหลมหรือเขื่อนวชิราลงกรณ์ วัดตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆที่มีต้นไม้ปกคลุม
จะต้องเดินบันไดขึ้นประมาณ 90 เมตร ความโดดเด่นสวยงามของวัดเก่าแห่งนี้ก็คือ 
โบสถ์ของวัดสมเด็จ โดยที่รอบๆ ตัวโบสถ์นั้นจะมีต้นไทร ต้นโพธิ์ ขนาดใหญ่ ปกคลุมสวยงาม
ดูมีมนต์ขลังมากๆ ทีเดียว นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่เพื่อเยี่ยมชม และถ่ายรูปสวยๆ  
ภายในโบสถ์มีพระพุทธชินราชองค์ที่ 17 ที่ยังคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ และมีผู้คน
แวะเวียนมากราบไหว้ สักการะ ขอพร อีกด้วย

















วัดศรีสุวรรณเก่า เป็นวัดของชาวกระเหรี่ยง ที่มีอายุมากที่สุดใน 3 วัด เป็ดวัดที่จมอยู่ใต้น้ำ
มากที่สุดเมื่อเวลาน้ำขึ้นเหลือไว้เพียงบางส่วนที่โผล่พ้นน้ำหรือท่วมมิดจนมองไม่เห็น
แต่ในช่วงเมษายน ช่วงที่น้ำลดจะสามารถลงไปเดินได้ ว่ากันว่าในบรรดาวัดของทริปล่องเรือ
นั้น มี 2 วัดที่จมอยู่ใต้น้ำ หรือโผล่พ้นเหนือน้ำ นั่นก็คือวัดวังก์วิเวการามเก่า
หรือวัดหลวงพ่ออุตตมะ และวัดศรีสุวรรณนี่เอง ส่วนอีกวัดหนึ่งนั้นคือวัดสมเด็จเก่า
ซึ่งอยู่บนเนินเขา ทั้ง 3 วัด เป็นเสมือนตัวแทนของ 3 ชนชาติ นั่นก็คือ
วัดวังก์วิเวการาม คือ วัดของชาวมอญ วัดศรีสุวรรณ คือ วัดของชาวกระเหรี่ยง
วัดสมเด็จ คือ วัดของชาวไทย.  ถ้าทุกท่านได้ไปสังขละ อยากให้ทุกท่านได้ไปขอพรและ
ชมความงามทั้งสามวัดสักครั้งหนึ่ง






















 



Create Date : 08 ตุลาคม 2564
Last Update : 8 ตุลาคม 2564 11:24:46 น.
Counter : 1622 Pageviews.

3 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณThe Kop Civil, คุณสองแผ่นดิน, คุณนกสีเทา, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณมยุรธุชบูรพา, คุณhaiku, คุณKavanich96

  
งดงาม
เหมือนได้ไปเห็นมากับตา
โดย: นกสีเทา วันที่: 9 ตุลาคม 2564 เวลา:0:20:03 น.
  
ขอบคุณที่นำมาฝากกันจ้า

โดย: หอมกร วันที่: 9 ตุลาคม 2564 เวลา:6:45:26 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 15 ตุลาคม 2564 เวลา:9:07:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Chansai.BlogGang.com

SertPhoto
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]

บทความทั้งหมด