วัดประจำชาวไทลื้อ


สวัสดีปีใหม่ชาว bloggang ทุกท่านครับ ผมหายไปหลายวันหนีโควิค 19 อยู่ครับ
ด้วยความคิดถึงชาวบล็อกแก๊งครับถึงทนเฉยไม่ได้ต้องกลับมาเขียนเรื่องวัดประจำของชาวไทยลื้อ



วัดศรีมุงเมือง หรือวัดลวงเหนือ
ตั้งอยู่ที่เลขที่ 157 หมู่ที่ 4 บ้านลวงเหนือ ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติความเป็นมาของวัดศรีมุงเมือง
สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1944 โดยพญาสามฝั่งแกน กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนาในสมัยนั้น
พระองค์ทรงขึ้นครองราชบ์เป็นพระมหากษัตริย์สืบต่อจากพระเจ้าแสนเมืองมา



พระพุทธรูปบัวเข็มหน้าวิหาร
ซึ่งทั่วไปจะหมายถึงพระอุปคุตซึ่งท่านปฏิบัติธรรมอยู่ที่สะดือทะเล
ท่านจึงจะต้องประทับที่กลางน้ำเสมอ



วัดศรีมุงเมือง เดิมชื่อ “วัดบูรณฉันท์” แปลว่า "มุงเมือง" มีต้นโพธิ์ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน
เลยเรียกชื่อว่าวัดศรีมุงเมืองตั้งแต่นั้นมา
ต่อมาในปี พ.ศ.2449 ได้เปลี่ยนมาเป็น "ธรรมยุตินิกาย" เป็นวัดแรกของจังหวัดเชียงใหม่



ตามหลักฐานที่แสดงในใบวิสุงคามสีมา ซึ่งลงพระปรมาภิไธย โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5
วัดศรีมุงเมืองเป็นวัดประจำหมู่บ้านลวงเหนือ
อันเป็นชุมชนของชาวไทลื้อที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่
ชาวไทลื้อมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างมาก จึงมีการทำนุบำรุงรักษาวัดศรีมุงเมือง



วัดศรีมุงเมืองเป็นวัดประจำหมู่บ้านลวงเหนือ ซึ่งเป็นชุมชนไทลื้อขนาดใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่



บ้านลวง อำเภอดอยสะเก็ด เป็นชุมชนชาวไทลื้อจากเมืองลวงสิบสองปันนา
มีสองตำบลคือตำบลลวงเหนือและลวงใต้
ชาวไทลื้อ ตำบลลวงเหนือสันนิษฐานว่า
อพยพมาจากสิบสองปันนาเมื่อปี พ.ศ. 1932
อพยพมาตามพญาแสนเมืองมาเมื่อกลับจากการเยือนสิบสองปันนา
พร้อมกับพระชายาได้คลอดพระโอรสคือพญาสามฝั่งแกนที่นี่
ซึ่ง พ.ศ. 1944 จึงได้มาสร้างวัดไว้ที่ที่พระองค์ประสูติ คือ“วัดบูรณฉันท์” หรือว่าวัดศรีมุงเมือง

แตก็มีอีกข้อสันนิษฐานของบ้านเมืองแกน ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตงว่า
พญาสามฝั่งแกนได้ประสูติที่พันนาสามฝั่งแกน หรือเมืองแกนปัจจุบัน
ซึ่งเป็นเมืองที่มีแม่น้ำสามสายคือ แม่น้ำแกน แม่น้ำปิง และ แม่น้ำงัด



วัดในอำเภอดอยสะเก็ดส่วนมากจะสังกัดมหานิกาย
มีเพียงวัดเดียวคือวัดศรีมุงเมืองที่สังกัดธรรมยุตกนิกาย
ในช่วงประมาณปี พ.ศ.2464 หมื่นบุญเรืองวรพงษ์ กำนันตำบลลวงเหนือ
มีความศรัทธาในตัวเจ้าคุณนพศรี ศาลคุณ (มหาปิง) พระชั้นผู้ใหญ่ที่สังกัดธรรมยุตกนิกาย
ท่านจึงได้นำนิกายธรรมยุติมาใช้ที่ลวงเหนือ การบูรณะวัดได้มีให้เห็นต่อมาตามลำดับ
ซึ่งจากประวัติของการสร้างวัดต่างๆ ในอำเภอดอยสะเก็ดของสำนักงานศึกษาธิการอำเภอดอยสะเก็ด
พบว่า มีการสร้างวัดขึ้นในอำเภอดอยสะเก็ดตั้งแต่ปี พ.ศ.1835 – 2060
ในสมัยของพระเมืองแก้ว แห่งราชวงศ์มังรายซึ่งปรากฏอยู่ในตำนานเมืองเชียงใหม่
พวกไทลื้อก็ได้สร้างวัดขึ้นที่บ้านลวงเหนือ ในจุลศักราช 763 ปีมะเส็ง ตรีศก เดือนแปด
พุทธศักราช 1944 พระเจ้าแสนเมืองมาได้สิ้นพระชนม์
พระเจ้าสามฝั่งแก่นได้ขึ้นเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่และได้ยกดินแดนที่พระองค์ทรงพระราชสมภพ
คือ พันนาฝั่งแก่น สร้างเป็นอารามและขนานนามว่า “วัดบูรณฉันท์”



ภายในวัดศรีมุงเมืองมีศาสนสถานที่สำคัญ ประกอบด้วย
อนันตมหาวิหารปุญญามากโร พระอุโบสถ พระธาตุเจดีย์ศิลปะแบบพม่า
จนเป็นที่มาของการขนานนามว่า “เจดีย์ม่าน วิหารลื้อ”
พระธาตุเจดีย์สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างวัดศรีมุงเมือง
นับเป็นเจดีย์เก่าแก่และมีความสำคัญองค์หนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่
ภายในพระมหาวิหารเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสำคัญ 5 พระองค์
ได้แก่ องค์ในสุด พระเจ้าหลวงเมืองลวง ถัดออกมา ด้านซ้ายมือ คือ พระเจ้าอุ่นเมือง
และขวามือคือ พระเจ้านาคะ ถัดออกมาชั้นนอกสุดด้านซ้ายมือ คือ พระเจ้าขวัญเมือง
ส่วนด้านขวามือคือ พระเจ้ามิ่งเมือง



วัดศรีมุงเมือง มีอาคารเสนาสนะประกอบไปด้วย
อุโบสถ วิหาร กุฏิสงฆ์ 8 หลัง หอฉัน ศาลาอเนกประสงค์ ศาลาบาตรและสถานอบรมเด็กก่อนวัยเรียน
ปูชนียวัตถุในวัด ประกอบไปด้วย พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ปางสมาธิเพชร 1 องค์
พระประธานในวิหาร 5 องค์ พระประธานในอุโบสถ 3 องค์ ศิลปะไทลื้อ
พระเจดีย์ประธาน 1 องค์และเจดีย์ราย 8 องค์



ชาวไทลื้อ หรือไตลื้อ ก็คือชาวไทกลุ่มหนึ่งที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ในแถบสิบสองปันนาของจีน
มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือการใช้ภาษาไทลื้อและที่เด่นชัดเลยคือเครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะผ้าโพกหัวสีขาว



เจดีย์ศิลปะพม่า ด้านหลังวิหาร
เป็นเจดีย์ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 1944 มีการบูรณะต่อ ๆ มา
จนเจดีย์ได้ชำรุดทรุดโทรมอีกครั้งจึงได้บูรณะขึ้นใหม่
และ พ.ศ. 2561 เจดีย์สีทอง เพิ่มเติมจนสวยงามเข้ากับวัดใหม่

เจดีย์เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า
เป็นเจดีย์ทรงปราสาท ประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วนฐาน ส่วนเรือนฐาน และส่วนยอด



เจดีย์ทรงระฆัง มีรัดอกคือเส้นคาดกลางองค์ระฆัง
ส่วนยอดไม่มีบังลังก์ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเจดีย์พม่า
สันนิษฐานว่า
พระเจ้าอนิรุธทรงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากบัลลังก์ลงมาบรรจุอยู่ในใจกลางส่วนล่างของเจดิย์
จึงไม่ต้องมีบลัลังก์อีกต่อไป เรียกว่าแบบอนิรุธ จึงเป็นปล้องไฉน

ปัทมบาทคือส่วนที่มีบัวคว่ำบัวหงายที่มีลายกลีบบัวขนาดใหญ่เป็นเอกลักษณ์ของเจดีย์พม่า
ปลี ทรงพุ่มเตี้ยๆ คล้ายดอกบัวตูม และฉัตรโลหะ



วัดศรีมุงเมืองยังคงความสวยงาม โดยเฉพาะปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ
เจดีย์ศิลปะแบบพม่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1944
ซึ่งนับเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดองค์หนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่
นับถึงปีปัจจุบันมีอายุถึง 615 ปีแล้ว (พ.ศ. 2559)





อาจกล่าวได้ว่ากลุ่มคนต่างๆ สร้างวัดและอารามตามความเชื่อของบรรพบุรุษและอิทธิพลที่ได้รับจากพม่า
เช่นวัดลวงเหนือ (ศรีมุงเมือง) สร้างเป็นศิลปะไทลื้อผสมกับพม่า



สวัสดีปีใหม่ชาว bloggang ทุกท่านครับ อย่าเจ็บ อย่าไข้โควิด เราจะสู้ไปด้วยกันนะครับ

 



Create Date : 12 มกราคม 2564
Last Update : 12 มกราคม 2564 23:58:48 น.
Counter : 1688 Pageviews.

11 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณทนายอ้วน, คุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณอุ้มสี, คุณzungzaa, คุณSai Eeuu, คุณmultiple

  
วันนี้เพิ่งได้ยินชื่อบ้านลวงเหนือ บ้านลวงใต้ จากรายการผ้าโบราณในยูทูปครับ เค้ามาคุยเรื่องของผ้าชาวไทลื้อครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 12 มกราคม 2564 เวลา:20:49:47 น.
  
สวัสดีปีใหม่ครับ
ภาพสวยมากครับ
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 12 มกราคม 2564 เวลา:23:12:23 น.
  

สวัสดียามเช้าครับ

เป็นวัดที่สวย
และภาพถ่ายก็สวยมากครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มกราคม 2564 เวลา:7:16:02 น.
  
มอร์นิ่งวันที่อากาศ 17 องศา
ภาพสวย
บรรยากาศไทลื้อที่เชียงใหม่
น่าสนใจตรงเจดีย์เนาะ
น้าสวยๆๆๆๆ
ปล.ไม่ใช่น้าสวยนะฮ้า
โดย: อุ้มสี วันที่: 13 มกราคม 2564 เวลา:9:14:46 น.
  
วัดสวยอะน่าไปชมเนอะ
โดย: zungzaa วันที่: 13 มกราคม 2564 เวลา:21:22:11 น.
  
สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับ

เชียงใหม่โควิดก็ระบาดไม่น้อย
นี่ผมก็ต้องพกหน้ากากไว้ติดตัวตลอดครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มกราคม 2564 เวลา:21:32:36 น.
  

สวัสดียามเช้าครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 มกราคม 2564 เวลา:6:16:12 น.
  
พระพุทธรูป ศิลปพม่า หน้าตาจะสวยน่ารักทุกองค์ ชอบดูครับ
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 14 มกราคม 2564 เวลา:10:10:32 น.
  
โอ้ภาพสวยมาก ภาพในโบสถ์เก็บมาได้หมดจรด ขนาดแสงน้อย สลัวๆ
คาดว่าอย่างเบาะๆก็ต้องมีขาตั้ง+เลนส์ fisheye มากันครบแน่นะครับ

แล้วก็ภาพลายรดน้ำในอุโบสถ ด้านหลัง และ ด้านข้างองค์พระประธานนี่ งดงามมากๆเลย

ประวัติ รายละเอียดdetail ทางสถาปัตย์ก็ครบ
อ.เต๊ะ ว่าทริปนี้น่าจะเดินอยู่ในวัดไม่ต่ำกว่า 3 ชม.แน่เลยนะครับ555

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนกันนะครับ

โดย: multiple วันที่: 14 มกราคม 2564 เวลา:19:36:12 น.
  
ขอบคุณสำหรับกำลังใจในบล็อก " The wanderere เชียงราย" ครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 14 มกราคม 2564 เวลา:19:45:44 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 20 มกราคม 2564 เวลา:3:12:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Chansai.BlogGang.com

SertPhoto
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]

บทความทั้งหมด