ถนนสายนี้มีตะพาบประจำหลักกิโลเมตรที่ 284 "เที่ยวทิพย์ทั่วไทย...เที่ยวสิงห์บุรี"


เที่ยวทิพย์ทั่วไทย" โจทย์โดยคุณอุ้มสี
คำอธิบายโจทย์ เขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่พี่น้องผองเพื่อนไปเที่ยวทั่วไทย ชอบประทับใจจังหวัดไหน
Postภาพ เล่าเรื่องประทับใจทริปนั้นจะได้ตามไปเที่ยวมั่ง



1.วัดพิกุลทอง









วัดพิกุลทองตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อยฝั่งตะวันออกห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรีประมาณ 16 กิโลเมตร
เป็นวัดขนาดใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำน้อยที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของสิงห์บุรีชาวบ้านเรียกว่า วัดหลวงพ่อ
เนื่องด้วยเป็นวัดจำพรรษาของหลวงพ่อแพแพ (พระเทพสิงหบุราจารย์)
พระเกจิดัง ซึ่งมรณภาพเมื่อพ.ศ.2542
‘พระธรรมมุนี’ หรือที่รู้จักกันในนาม หลวงพ่อแพ เขมังกโร อดีตเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง
ผู้สร้างคุณานุคุณสูงส่งแก่ชาวเมืองสิงห์บุรี จนได้รับการยกย่องให้เป็น “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย”
แม้ว่าท่านจะละสังขารไป 22 ปี แต่ก็ยังเป็นที่รำลึกนึกถึงเสมอมา

ภายในวัดพิกุลทองมี "พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ"
จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติและเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อแพตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

นอกจากนั้นอีกด้านหนึ่งของวัดนี้มีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
คือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่
ขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว สูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว
ภายในเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยโมเสกทองคำธรรมชาติชนิด 24 เค



2."วัดไทร" ตั้งอยู่ในหมู่ 5 ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
โดยมีชื่อเดิมว่า "วัดทะยาน"
ชาวบ้านเล่าขานมาว่า เคยมีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาพบวัดร้างและเห็นว่าบริเวณโดยรอบมีต้นไทรขึ้นอยู่หนาแน่น
จึงบอกชาวบ้านให้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดไทร" มาจนถึงปัจจุบัน
สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา







ลักษณะพิเศษของโบสถ์วัดโทร นั่นคือเป็นวัดที่มีรากต้นไทรโอบยึดกำแพงโบสถ์ไว้ไม่ให้พังทลายลงมา
ซึ่งส่วนของศาลาวัดได้พังลงน้ำไปแล้ว
ภายในเป็นสถานที่ประดิษฐานองค์พระประธาน
แต่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อขาว" หรือ "หลวงพ่อทะยาน"
แต่ปัจจุบันเรียกว่า "หลวงพ่อวัดไทร" ตามชื่อของวัดไทร





3.วัดสุทธาวาส ตั้งอยู่บ้านสวนมะม่วง ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
เดิมชื่อวัดใหม่แต่ได้สร้างในพื้นที่วัดเก่า ซึ่งเป็นวัดร้าง
การสร้างวัดใหม่เริ่มประมาณปี พ.ศ.2403 ในสมัยราชกาลที่ 4
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยนายเอม ชาวบางช้าง จังหวัด
สมุทรสงคราม

ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระจุฬามณี
วาดด้วยช่างฝีมือชั้นครู เป็นภาพตอนพระพุทธองค์
ทรงออกบรรพชา ภาพตอนผจญมาร ภาพตอนพระพุทธองค์ฉันอาหารที่นายจุนทะถวาย
ทรงประชวรแล้วเสด็จไปประทับ ณ ต้นรังคู่ เสด็จสู่ปรินิพพาน
และภาพเรื่องราวของการถวายพระเพลิง การแจกจ่าย
นับเป็นโบราณสถานที่มีความงดงามและมีคุณค่าอีกแห่งหนึ่ง



4. อยู่ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรีไปทาง อ.อินทร์บุรี ราว 5 กม. เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองสิงห์อีกแห่งหนึ่ง
เดิมชาวบ้านเรียนสั้นๆว่าวัดประโชติหรือวัดประชด
หลักฐานการสร้างไม่ปรากฏแน่ชัด มีเพียงตำนานที่เกี่ยวกับสิงหพาหุ
ผู้มีพ่อเป็นสิงห์แล้วเกิดความ อับอายที่มีพ่อเป็นสัตว์เดรัจฉาน จึงฆ่าพ่อตัวเองเสีย
ภายหลังสำนึกในความผิดจึงไปสร้าง พระนอนจักรสีห์และวัดสละบาปเพื่อเป็นการไถ่บาป
แต่ก็ยังกลัวว่าบาปนั้นไม่ได้เบาบางลง
จึงได้มาสร้างวัดประชดขึ้นอีกแห่ง โดยสร้างพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติขึ้น 2 องค์
ขนานนามว่า หลวงพ่อทรัพย์ และหลวงพ่อสิน

หลวงพ่อทรัพย์และหลวงพ่อสิน เป็นพระพุทธรูปจัดอยู่ในกลุ่มพระอัฏฐารส
กล่าวคือพระยืนที่สร้างแล้วมีความสูงเกิน 18 ศอก
ที่พิเศษไปกว่านี้คือเป็นพระพุทธรูป ยืนซ้อนกัน 2 องค์
โดยหลวงพ่อสินประดิษฐานอยู่ทางด้านหน้า หลวงพ่อทรัพย์อยู่ทางด้านหลัง
หลวงพ่อสินองค์หน้า สูง 3 วา 3 ศอก 5 นิ้ว ส่วนหลวงพ่อทรัพย์องค์หลัง สูง 6 วา 7 นิ้ว
นอกจากนี้ยังมี “หลวงปู่โอ่ง” หรือไหสี่หู แบบโบราณ ซึ่งขุดได้จากเนินดินด้านหลังวิหารหลวงพ่อทรัพย์
เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ตามความปรารถนาของผู้ขอ ปัจจุบันเป็นที่ใช้ใส่น้ำพระพุทธมนต์ประจำวัดประโชติการาม



5. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี พามาเยือน "บ้านหนองโขลง ต้องเที่ยว"
ชุมชนที่สร้างชีวิตภายใต้แนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงในหลวงรัชกาลที่ 9



ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านหนองโขลง ตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี



ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านหนองโขลง ตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
นับเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเดียวกับตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเชื่อมโยงท่องเที่ยวมาได้ตรงนี้จะเป็นท่องเที่ยวชุมชนที่ทำโดยชุมชนจริงๆ
โดยชาวบ้านนำโดยท่านผู้ใหญ่บ้านแตงโม สละพื้นที่ของท่านในการที่จัดสรรพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งน้ำ
เป็นแหล่งปลูกข้าวมีแลนด์มาร์กเป็นต้นไม้ใหญ่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วยซึ่งชาวบ้านนักถือกันแล้ว
ก็ยังมีต้นไม้ใหญ่อีกต้นทำเป็นแลนด์มาร์กมีเก้าอี้นั่งซึ่งป็นที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยวได้ดีเยี่ยมอีกด้วย





BLOG ผมวันนี้ผมมาเชิญชวนชาว BlogGang มาสนุกกับกิจกรรม

ททท. ชวนเที่ยวทิพย์ แชะแชร์ ที่เมืองสิงห์ ลุ้นรางวัลง่ายๆ มากมาย
ททท. ชวนเที่ยวทิพย์ แชะแชร์ที่เมืองสิงห์
แบ่งปันประสบการณ์ความประทับใจในจังหวัดสิงห์บุรี ถิ่นวีรชนคนกล้า
เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงวิกฤต COVID-19

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง ร่วมกับ CIO World&Business
และ เมธาคันทรี่วิวโฮมสเตย์ สิงห์บุรี เชิญร่วมกิจกรรม “แชะแชร์ ที่เมืองสิงห์”
พร้อมลุ้นรางวัลง่ายๆ มากมาย ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน 2564
เที่ยวทิพย์ภาคกลาง เที่ยวเมืองรองจองไว้ก่อน ภาคกลางเที่ยวใกล้ที่ไหนก็สนุกได้ 

และร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความประทับใจในจังหวัดสิงห์บุรี ถิ่นวีรชนคนกล้า
เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงวิกฤต COVID-19
พร้อมร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 125 ปี จังหวัดสิงห์บุรี
ลุ้นรับรางวัลมากมาย อาทิ
1.แพ็คเกจห้องพัก เมธาคันทรี่วิวโฮมสเตย์ 2 วัน 1 คืน จำนวน 5 รางวัล
2.รางวัลพิเศษจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จำนวน 5 รางวัล
3.ผลิตภัณฑ์นีเวีย จำนวน 3 รางวัล
4.ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแบล็คมอร์ จำนวน 7 รางวัล
5.ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Crown Fiber จาก All Around Tech จำนวน 5 รางวัล
6.ถุงมือทางการแพทย์ Le First Intertrade จำนวน 5 รางวัล

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมที่ เว็บไซต์ เที่ยวภาคกลาง >> https://tiewpakklang.com/



เว็บไซต์ CIO World&Business >> https://www.cioworldmagazine.com/tat-cio-metha-country.../

เพจเฟซบุ๊ก >> https://www.facebook.com/CioWorldBusiness



เพจเฟซบุ๊ก เมธาคันทรี่วิวโฮมสเตยสิงห์บุรี >> https://bit.ly/3yKVuug



#cioworldbusiness #เมธาคันทรี่วิวโฮมสเตย์ #เที่ยวภาคกลาง #สิงห์บุรี







6.“ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน”
ตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์เก้าต้น อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี วันเสาร์-อาทิตย์
ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน เกิดขึ้นจากการที่ พระครูวิชิต วุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เก้าต้น
มีดำริต้องการจะช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ
โดยเริ่มจากการให้ชาวบ้านนำผลผลิตทางการเกษตรมาขายอยู่ในพื้นที่วัดอยู่หลายปี
โดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ และมาในช่วงงานลอยกระทง พ.ศ.2559
ชาวบ้านย้ายไปจัดตลาดและงานลอยกระทงที่บริเวณท่าน้ำหลังวัด
และใช้พื้นที่บริเวณนี้จัดเป็นตลาดย้อนยุคตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา





ไว้โอกาสหน้าผมจะนำภาพประทับใจที่ได้ไปท่องเที่ยวมา
ชักชวนให้ชาว bloggangได้มาชมกันอีกนะครับ ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกันครับ




Create Date : 27 สิงหาคม 2564
Last Update : 27 สิงหาคม 2564 2:19:07 น.
Counter : 1635 Pageviews.

6 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณhaiku, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณอุ้มสี, คุณดาวริมทะเล, คุณกะว่าก๋า, คุณSweet_pills, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน

  
อร๊ายยยยยยยย
น้ามีของ 3 BLOG ติดกันเลย
เทพฝุดฝุด
โดย: อุ้มสี วันที่: 27 สิงหาคม 2564 เวลา:11:49:56 น.
  
ตามมาเที่ยวทิพย์จังหวัดสิงห์บุรีค่ะ
ภาพเปิดสวยงามมากค่ะ

โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 27 สิงหาคม 2564 เวลา:14:21:01 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับ

ภาพสวย
นางแบบน่ารักครับ
ชอบภาพพระที่มีแสงสาดเข้ามาจากด้านบน
สวยมากๆเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 สิงหาคม 2564 เวลา:6:19:25 น.
  
สวัสดีค่ะ
ภาพสวยค่ะ ขอบคุณที่ไปส่งกำลังใจที่บล็อก
วันนี้แวะมาทักทายกันก่อนนะคะ
โดย: เนินน้ำ วันที่: 29 สิงหาคม 2564 เวลา:11:58:49 น.
  
รูปสวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ เห็นแล้วอยากไปเที่ยว
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 31 สิงหาคม 2564 เวลา:12:55:06 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Chansai.BlogGang.com

SertPhoto
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]

บทความทั้งหมด