...สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา... "ทำให้เชื่องแปลว่าอะไร ?" "เป็นสิ่งซึ่งมักถูกลืม" สุนัขจิ้งจอกกล่าว "มันคือการสร้างความผูกพัน..." "ต้องทำอย่างไรเล่า ?" เจ้าชายน้อยถาม "เธอจะต้องมีความอดทน" สุนัขจิ้งจอกตอบ "...ถ้าเธอทำให้ฉันเชื่อง ชีวิตของฉันก็จะสดใสขึ้น ฉันจะเรียนรู้จักเสียงฝีเท้าของเธอ ซึ่งผิดจากเสียงอื่นทั้งสิ้น เสียงฝีเท้าอื่นจะทำให้ฉันหลบหนีไปใต้ดิน แต่ฝีเท้าของเธอจะเรียกให้ฉันออกมาจากโพรงดิน เช่นเดียวกับเสียงดนตรี และดูนั่นสิ เธอเห็นไหม ที่นั่นทุ่งนาข้าวสาลี ฉันไม่กินขนมปังหรอก ข้าวสาลีหามีประโยชน์ต่อฉันไม่ นาข้าวสาลีจึงมิได้ทำให้ฉันหวนระลึกถึงสิ่งใดเลย และนั่นก็เป็นสิ่งน่าเศร้า เธอมีผมสีทอง ฉะนั้นถ้าเธอก่อความผูกพันระหว่างเราทั้งสอง ก็จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ยิ่ง ข้าวสาลีสีเหลืองอร่ามจะทำให้ฉันหวนระลึกถึงเธอ ฉันเองจะชอบฟังเสียงลมพัดผ่านต้นข้าว..." "นี่คือความลับของฉัน มันแสนธรรมดา เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้นสิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา" ~เจ้าชายน้อย Le Petit Prince~ เจ้าชายน้อย... ฉันคิดถึงเธอ ขอบคุณนะที่ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ที่ฉันได้สัมผัสเธอ เธอทำให้ "สิ่งสำคัญ" ที่ฉันมักจะเผลอหลงลืมมันไปกับการใช้ชีวิตบนดาวดวงนี้ ดาวที่เธอมาเยือนและเราได้รู้จักกัน ดาวดวงที่เธอเคยบอกฉันว่า "คนในโลกของเธอ ปลูกกุหลาบตั้งห้าพันต้นในสวนเดียว และเค้ายังไม่พบสิ่งที่เค้าต้องการ และทั้งๆสิ่งที่เค้าต้องการอาจหาได้จากกุหลาบแค่ดอกเดียว หรือ น้ำเพียงนิดเดียว" เธอทำให้ "สิ่งสำคัญ" นั้นกลับมา น้ำตาที่มีเมื่อฉันได้สัมผัสเธอ มิใช่น้ำตาแห่งความเศร้าโศก หากแต่เป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ความคิดถึง และเป็นน้ำตาที่ช่วยไล่ความเขลา ขลาดกลัว ให้ไปจากฉันอีกด้วย... เจ้าชายน้อยรู้ไหม...เธอทำให้ฉัน "มีดวงดาวซึ่งยังไม่เคยมีใครมีเหมือน..." เธอรู้ไหม "ขณะที่ฉันมองดูท้องฟ้าตอนกลางคืน เพราะเหตุที่เธออาศัยอยู่ในดาวดวงหนึ่งในบรรดาดาวทั้งหลาย เนื่องจากเธอกำลังหัวเราะอยู่บนดาวดวงใดดวงหนึ่ง ฉะนั้นจึงดูประหนึ่งว่าดาวทุกดวงกำลังหัวเราะด้วย ฉันมีดวงดาวที่หัวเราะได้" เธอได้ให้ดวงดาวที่หัวเราะได้แก่ฉัน ดวงดาวที่เป็นเหมือนลูกกระพรวนนับร้อยบนท้องฟ้า ที่กำลังกระพริบแสงเหมือนส่งเสียงหัวเราะ ให้แก่ฉัน ฉันมักจะเปิดหน้าต่าง เพื่อมองไปที่ดวงดาว เพื่อความสุขที่เธอมอบให้ฉัน และมันเป็นเช่นนั้นเสมอ งดงามและเป็นสุข เจ้าชายน้อย... เธอเคยบอกฉัน เราเคยคุยกัน ในเรื่องความรัก เราต่างเห็นพ้องต้องกันตรงที่ว่า...เราต่างอ่อนหัดเกินกว่าที่จะรู้จักรัก... "The fact is that I did not know how to understand anything! I ought to have judged by deeds and not by words. She cast her fragrance and her radiance over me. I ought never to have run away from her... I ought to have guessed all the affection that lay behind her poor little strategems. Flowers are so inconsistent! But I was too young to know how to love her..." "ฉันไม่เข้าใจอะไรเสียเลย ในตอนนั้นฉันควรจะรู้จักตัดสินเธอจากการกระทำของเธอ มิใช่จากคำพูดของเธอ เธอทำให้โลกของฉันหอมหวนและแจ่มใส ฉันจึงไม่ควรหนีจากเธอมาเลย ฉันควรจะเห็นความอ่อนหวานที่ซ่อนอยู่ภายใต้มารยาของเธอ ดอกไม้ก็มีอารมณ์หวั่นไหวง่ายเช่นนี้เสมอแหละ แต่ฉันก็อ่อนหัดเกินกว่าที่จะรู้จักรัก" ขณะที่ฉันเขียนถึงเธออยู่ตรงนี้ ฉันมิอาจห้ามน้ำตาของความคิดถึงที่มีต่อเธอได้ มิได้ทุกข์ทน แต่กลับเป็นสุขกับความงดงามที่ไร้เดียงสาของเธอ ที่ทำให้ฉันผู้ใหญ่ที่แสนจะขลาดเขลา โง่งม อย่างฉัน ชัดเจนมากขึ้นกับสิ่งที่เธอย้ำกับฉันเสมอถึง "สิ่งสำคัญ"ที่... "เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา" " It is only with the heart that you can see fully ; what is essential is invisible to the eyes " ...ฉันรักเธอ ~เจ้าชายน้อย Le Petit Prince~... อ้อ...มาเพิ่มเติมอีกหน่อยไม่ได้เห็นจากหน้าบล็อกนะคะว่าเพื่อนเปิดบล็อกใหม่
แต่เห็นได้ด้วยใจคะ รู้สึกคิดถึงขึ้นมาก็เลยสุ่มเข้ามาหา .... กู๊ดไนท์อีกรอบ...ไปนอนก่อนนะคะ... โดย: aenew วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:0:02:50 น.
กรี๊ด.ด.ด.ด .. ด้วยค่ะ มาแล้วหนิ เปิดบ้านเข้ามาเจอชานซ์ดีใจจังเลย อ่านแล้วยิ้มเลยหละ รู้ได้ ก็คิดถึงชานซ์เหมือนกัน ความคิดของเรานี่คงเดินทางแรมรอนเหมือนกันนะ .. ให้วันนี้เป็นวันที่สดใสนะคะ โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:8:37:22 น.
เจ้านิคมาปากหวานแถวนี้นะ...
คนเราใจตรงกัน นิสัยคล้าย ๆ กัน มักจะอยู่ด้วยกันได้ อยู่ที่คนสองคน สามคน สี่คน ห้าคน และหลายคน ช่วยด้วย...ประโยคด้านบนหาบทจบไม่ได้ เอาจบแบบดื้อ ๆ เลยแล้วกันนะชานซ์ จบแล้วคะ แฮะ แฮะ กลับมาจากที่แห่งหนไหน บอกกันบ้างจิ แล้วจะเดินทางอีกรอบเมื่อไหร่คะ ต้นเดือนเราไปพังงานะ จะไปกินเจคะ โดย: aenew วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:21:23:45 น.
สวัสดีคะชานซ์
ยังคงโหมงาน เปลี่ยนจากกาแฟมาเป็นโกโก้ร้อนตอนกลางคืนก็ไม่เลวนะ ช่วงนี้เราดื่มโกโก้ร้อนของเนสกาแฟเกือบทุกคืน อร่อยและมีพลังขึ้น โดย: aenew วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:21:57:24 น.
ชานซ์ไปแอบวิ่งเล่นกะเจ้าชายน้อยอยู่มั๊ง เดี๋ยวเราไปสำรวจในปราสาทดูดีกว่า อยู่ห้องไหนน๊า... โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 22 กันยายน 2554 เวลา:21:56:56 น.
มาตี้ด ๆ บ้านเราก็รู้สิว่าต้องมีอะไร
ไปอ่านมาเรียบร้อยแล้วคะ... ไปหลังไมค์ด้วยนะชานซ์ ....เรายังไม่นอน อ่านหนังสือเตรียมสอบจ๊ะ ช่วงนี้ขยันเป็นระยะ ว่าจะไม่นอนแต่สายตามันชักจะเริ่มไปก่อนแล้วสิ โดย: aenew วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:0:04:08 น.
สวัสดีคะชานซ์
เรายังอยู่ออฟฟิศคะ ที่นี้เป็นบ้านอีกหลังที่อยู่แล้วมีความสุข ถ้ามีห้องอาบน้ำนะ จะอยู่ที่นี้ซะเลย โดย: aenew วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:20:07:15 น.
เมื่อคืนฝนตกลงมานิดหน่อย ตอนเช้าก็เลยอากาศดีมากเลยค่ะชานซ์ มีความสุขนะคะเพื่อน โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 27 กันยายน 2554 เวลา:11:10:04 น.
สวัสดีคะชานซ์
วันนี้เราถึงห้องเร็ว หนีฝนขึ้นรถไฟฟ้า กลับถึงห้องเร็วก็มีเวลาเป็นส่วนตัวมากขึ้น... โดย: aenew วันที่: 27 กันยายน 2554 เวลา:20:21:28 น.
|
บทความทั้งหมด
|
กรี๊ด...ด้วยความคิดถึงจึงได้เข้ามา ไม่คิดว่าเพื่อนจะเปิดบ้านแล้ว
คิดถึงนะชานซ์ เหนื่อยไหม อ่านข้อความด้านบนแล้วมีความสุข
"ทุกอย่างรับรู้ได้ด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยสายตา"
นอนหลับฝันดีคะชานซ์
ขอให้ทุกวันของชานซ์พบพานแต่สิ่งที่ดีเข้ามานะคะ