เฉลิมกว้าง...กลางแปลง
...หนังกลางแปลง...



ฉันมานั่งรอที่ ม้านั่งตัวยาว...ของ Museum Siam พิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้
หลังจากเดินเล่นข้างในได้พักใหญ่ แต่วันนี้ความพิเศษของวัน
ไม่ใช่ความเป็นมาของสยามประเทศ
หากแต่เป็น...สิ่งที่รอฉันอยู่ ที่ลานกว้างหลังตึกพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ต่างหาก



เสียงเพลงลูกกรุงเก่าเก่า บรรเลงเรื่อยเจื้อยแจ้ว
กล่อมผู้คนที่นั่งอยู่ที่ลานหญ้ากว้างหลังตึก
ฉันลุกจากเก้าอี้ เดินออกไปสู่ลานกว้าง เพื่อจับจองที่นั่ง
รอให้พระอาทิตย์ลดแสงให้มากพอที่ฉันและผู้ชมอีกหลายต่อหลายคน
จะเข้าสู่ความบันเทิงของ...ศาลาเฉลิมกว้าง หนังกลางแปลง...



วันนี้หนังเก่าอย่าง "อยู่กับก๋ง" จะถูกนำออกมาฉายกลางแปลง ณ เพลานี้
โดยหอภาพยนตร์แห่งชาติ กรมศิลปากร ทำให้บรรยากาศยามเย็นเย็น
ของวันศุกร์ของฉัน...พิเศษ...กว่าที่เคย

ก่อนหนังจะเริ่มต้นขึ้น มีการชวนคุยเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้
เลยทำให้การดูหนังในวันนี้มีค่าขึ้นอีกมาก
อ.มนัสและคุณโดม เอ่ยถึงคุณหยก บูรพา นักเขียนเจ้าของบทประพันธ์
"อยู่กับก๋ง" ได้อย่างน่าสนใจ เมื่อบทประพันธ์ได้กลายมาเป็นหนัง
ให้ผู้คนได้ชม

หนัง "อยู่กับก๋ง" ออกฉายครั้งแรกในวันตรุษจีนหลังเราเกิดแค่ 2 ปีเท่านั้น
ตอนเรา 2 ขวบ อยากรู้จังหนังเรื่องนี้ดังขนาดไหนนะในยุคนั้น ?
แล้วก็เหมือน อ.มนัสจะรู้ว่าฉันสงสัยอะไรอยู่ในใจ
หรือหน้าตาฉันสื่อความอยากรู้กันนะ
อาจารย์พูดขึ้นมาว่า ตอนนั้น "อยู่กับก๋ง" เป็นเพียงแค่ หนังแถม

อาจารย์ให้เล่าต่อว่า หนังยกเอาคำพูดจากในหนังสือมาเป็นบทพูด
ในเรื่องในหนัง เลยทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติไปสักนิด
เลยอยากให้ตั้งใจดู...



พระอาทิตย์ลดแสงลงแล้ว เหมือนเป็นใจให้คำบอกเล่าของอาจารย์
และคุณโดมมีมนต์ขลังมากขึ้น
โดยเฉพาะคำที่บอกพวกเราทุกคนว่า...อยากให้ตั้งใจดู...



"อยู่กับก๋ง" ดำเนินเรื่องไปอย่างมีเสน่ห์ ทีละนิดทีละน้อย
มีหลายตอนที่สื่อออกมาได้อย่างน่ารัก โดยเฉพาะภาพวิถีชีวิตของชาวจีน
บนผืนดินสยามแห่งนี้ เหมือนคนทำหนังหลงเสน่ห์โลกของหนังสือ
จนหาทางออกจากโลกนั้นได้ยากเย็น

คงเหมือนฉันที่หลงเสน่ห์หนัง...หนังกลางแปลง...จนถอนตัวไม่ขึ้น
ตั้งแต่เด็ก หนังกลางแปลงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ฉันกระโดดโลดเต้น
ได้เสมอเสมอ เมื่อมีรถฉายหนัง ออกป่าวประกาศโปรแกรมหนังล่วงหน้า
ให้คนในหมู่บ้านเล็กเล็กของฉันได้รู้ ว่าคืนนี้ คืนนั้น ที่ทุ่งนากว้าง
หรือลานวัดใหญ่ หรือสนามหน้าโรงเรียน ที่ไหนก็ได้
หัวใจของฉันแทบจะกระโดดออกมาเต้นนอกอก พร้อมวิ่งสุดแรงเกิด
ไปหาแม่ ระลำระลักบอกแม่ว่า...แม่จ๋า ไปดูหนังกันเถอะนะ นะ นะ...

หรือฉันเองจะตั้งตารอคอยให้มีงานบุญที่วัด งานตานก๋วยฉลาก
งานปอยหลวง ทุกปี รอคอยไม่ไหวจนบางครั้ง จะรบเร้าขอตาม
ตาไปประชุมกรรมการวัดด้วยทุกครั้ง ภาพของผู้ใหญ่บ้านอย่างตา
ที่ทุกคนเห็นจนชินตา ก็จะมีหลานมาวิ่งอยู่ใกล้ใกล้
วิ่งอยู่ตามใต้โต๊ะหรือกลิ้งหมุนหมุนอยู่บนเสื่อ อย่างเงียบเงียบ

เพราะสัญญากับคุณตาไว้ว่า หนูจะมาประชุมกับตาเงียบเงียบ
แต้แต้นะเจ้า...อุ้ย ตายิ้มอย่างรู้ทัน เพราะรู้ว่าฉันอยากรู้อะไร
พรุ่งนี้จะเอาไปบอกเพื่อน กรรมการวัด ลุง ป้า น้า อา จะช่วยกันเสนอ
ความคิดเห็นเรื่องมหรสพกันหลากหลาย

ยิ่งปีไหนมีงานวัดใหญ่ มีผ้าป่ามาจากกรุงเทพ หรือฉลองโบสถ์ใหม่
ปีนั้นงานที่วัดจะใหญ่โต มหรสพหลากหลาย อย่าง จ๊อยซอ ลิเก
ฟ้อนหัววัด เยอะแยะไปหมด แล้วเมื่อมีคนเสนอ...หนังกลางแปลง...
ฉันจะหันไปยิ้มให้อย่างกับเค้าเป็นฮีโร่ ตาก็จะหันมายิ้มให้อย่างรู้ทัน
ฉันก็จะยิ้มกว้างคืนให้ตา นั่งนิ่งนิ่งอย่างสุขใจ

เมื่อค่ำคืนของหนังกลางแปลงมาถึง เสื่อหรือหนังสือพิมพ์
จะถูกเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่เย็น เงินเหรียญกรุ๊งกริ๊งถูกมัดจุก
ด้วยหนังยางติดเสิ้อไว้ เดี๋ยวหาย ฉันกลัวจะไม่มีสตังค์ไปซื้อ
ลูกชิ้นกลมกลมที่เสียบไม้ ปลาหมึกย่างหอมหอม ถั่วซีกของโปรดอีกละ
จับมือแม่ หรือขึ้นหลังพ่อ มุ่งหน้าสู่ลานกว้าง แห่งความบันเทิง
ด้วยความตื่นเต้น...

ฉันไม่ค่อยรู้หรอกว่าหนังกลางแปลง แต่ละเรื่องที่ดูในตอนที่เป็นเด็ก
จบอย่างไร...
รู้แค่เมื่อเพลินตาเพลินใจกับหนังไปได้สักพัก เพลินพุงกับของกินเต็มเสื่อ
ตาของฉันจะเริ่มหรี่ลง หรี่ลง แล้วตักของแม่หรือพ่อก็จะอุ่นเป็นพิเศษ
จะสลึมสลือรู้ตัวบ้างไม่รู้บ้าง ก็เมื่อตัวฉันกับเสื่อกันหนาวที่แม่ไม่เคยลืม
อยู่บนหลังกว้างของพ่อแล้ว...กลับบ้าน...

เวลาเปลี่ยนหนังกลางแปลง มาเป็นหนังโรง กลายมาเป็นโรงหนังบนห้าง
แต่ความหลงใหลในเสน่ห์ของหนังกลางแปลงของฉัน...
ก็ยังคงอยู่ไม่เคยลืมเลย จริงจริง...



โปรดทราบ...โปรแกรมหน้า หนังกลางแปลง...ไปดูด้วยกันนะ

..............................................................................................

ปล. แรก : รูปของไดในวันนี้ถ่ายจากกล้องมือถือรุ่นโบราณ ขออภัยใน
ความไม่ชัดคมเจ้าค่ะ

ที่สอง : ...หนังกลางแปลง...ที่บันทึกนี้ ไปดูมานานนานมากมากแล้ว
เปิดมาเจอในหนึ่งบันทึกหลายหลายเล่มเลยคิดถึง
อยากไปดูอีกจังหนังดีจากหอภาพยนตร์แห่งชาติ

ที่สาม : รูปที่เด็กน้อยวาดให้จากblogหน้าที่แล้ว...รอนแรม...
ขอยืนยันว่าสวยกว่าตัวจริงหลายเท่านัก จริงจริงนะเจ้า
ลองคิดภาพผู้หญิงกระด่างกระดำ เดินท่อมท่อมอยู่กลางป่า
เขาดูนะคะ คงสวยอย่างที่เด็กเด็กเขียนเด็กเด็กวาด
ได้ยากจริงจริงค่ะ : ) ขอบคุณทุกคำติชมหลังไมค์ค่ะ



Create Date : 07 สิงหาคม 2553
Last Update : 7 สิงหาคม 2553 15:44:50 น.
Counter : 1815 Pageviews.

5 comments
ถนนสายนี้มีตะพาบ ประจำหลักกิโลเมตรที่่ 365 : ไกล The Kop Civil
(2 ธ.ค. 2567 14:02:25 น.)
อดีตไม่สำคัญ ปัจจุบันสำคัญกว่า Alex on the rock
(30 พ.ย. 2567 16:38:51 น.)
กล้วยน้ำว้า tanjira
(29 พ.ย. 2567 14:36:19 น.)
บล็อกเก็บ link คลิปน้องๆ ที่อยู่บน youtube eternalyrs
(29 พ.ย. 2567 03:19:54 น.)
  
เดี๋ยวนี้แถวบ้านผมก็ยังพอมีหนังกลางแปลงให้ดูอยู่บ้างครับ
ก็ตามงานวัด งานบวชของคนรวยๆ เสน่ห์ของหนังกลางแปลงมี
จริงๆแหละครับ
โดย: Don't try this at home. วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:14:34:43 น.
  

สมัยเด็ก ๆ จะฉายหนังกลางแปลงในกองบินที่พ่อทำงานอยู่ที่จะฉายทุกค่ำวันศุกร์

ต้องปั่นจักรยาน หลายกิโลถึงจะถึงที่หมาย

ปั่นกันไป แกล้งกันไป พี่ๆ น้อง ๆ เป็นช่วงเวลาที่สนุกสนาน :)

ปล. คงจะดีหากได้ไปดูหนังกลางแปลงด้วยกันเนอะ
โดย: ภูติ IP: 182.232.11.169 วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:20:04:48 น.
  
หนังกลางแปลงที่แถวบ้านผมก็เน้นฉายหนังฝรั่งฮอลลีวู๊ดนี้
แหละครับ ส่วนมากจะเน้นหนังแอ๊คชั่น
โดย: Don't try this at home. วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:21:39:43 น.
  
วันนี้เป็นหนังกลางแปลงเหรอ ไม่ได้ดูมานานมากแล้ว ส่วนมากที่ได้ดูก็คือตอนเทศกาลกินเจ เพราะได้กลับไปกินเจที่บ้านทุกปี และที่ศาลเจ้าตอนกลางคืนจะมีหนังกลางแปลงที่เค้านำมาเปิดฉายตอนสามทุ่มหลังจากที่พระออกจากร่างม้าทรงแล้ว แม่เราก็ชอบดู แม่บอกว่าถ้ามีเวลาพาแม่มาดูหนังกลางแปลงสักแป๊บน่ะ มาแป๊บเดียวจริง ๆ เพราะมาถึงก็นั่งบนรถเครื่องสักพักก็กลับบ้านเพราะแม่อยากไปดูละครต่อ

คิดถึงเมื่อก่อนหนังกลางแปลงเมื่อตอนเป็นเด็ก จะมาพร้อมกับรถขายยา ขายยาสารพัดโรค ยาแก้อักเสบ ยาแก้คัน ยาบรรเทาทุกโรค ก่อนฉายก็จะโฆษณาสรพพคุณยา และระหว่างพักเบรคก็มีโฆษณาอีกหน่อย


อดีตยังคงหวานอยู่ในความทรงจำเสมอมา....
โดย: aenew วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:23:01:48 น.
  
ภาพสวยนะ ดูมีความหมายดี

ปล เราสบายดีแล้ว อาการปวดหัวเริ่มลดลงแล้วจ้า
โดย: Bluejade วันที่: 7 สิงหาคม 2553 เวลา:23:06:59 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Chance.BlogGang.com

changnon
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด