ทำดี ต้อง"ฝืนใจ" เคยตกเป็นทาสของ "ตัณหา" ไม๊คะ ? "ตัณหา" คือ ความอยาก แยกให้ละเอียดคือ 1. กามตัณหา(ความอยากมี) 2. ภวตัณหา (ความอยากเป็น) 3. วิภวตัณหา (ความอยากไม่ให้มี ความอยากไม่ให้เป็น) ที่มาตั้งคำถาม เพราะคนเขียนอยากหาเพื่อนที่ตกเป็นทาสของตัณหาเหมือนกัน ฮี่ฮี่ ขอเล่านิดนึงค่ะ ว่าปกติไม่ค่อยชอบดูละคร หรือซีรีส์เกาหลีทั้งหลายที่คนเค้าฮิตดูกันเท่าไหร่นัก ที่ไม่ชอบ ไม่ได้หมายความว่าไม่ชอบดู แต่ไม่ชอบเวลาที่ตัวเองดูแล้ว "ติด"ต่างหาก อิอิ แล้วเมื่อวันก่อน เอารถไปเคลมประกันที่ศูนย์ฯ ตอนที่นั่งรอประกันอยู่ ก็เห็นที่ศูนย์ฯเปิดโทรทัศน์ช่อง 3 เป็น ละครตอนบ่ายที่เอามารีรันใหม่ เรื่อง "วนิดา"ค่ะ จำได้ว่าดูเมื่อ 3 ปีที่แล้วฉายตอนกลางคืน ตอนนั้นดูแล้วก็ชอบมากกกก ติดเลย ! แล้วเมื่อคืนก็เข้า YouTube ดูซะหลายตอน โอยยย ติดอีกแล้วอ่ะ !!! ฮ่วย พอติด! ก็ดูต่อไปเรื่อยๆ ไม่หลับ ไม่นอน ทั้งที่ควรจะนอน บอกตัวเองว่า ให้เวลาชั่วโมงเดียวนะ ! แต่แป๊บๆ เหลือบมองนาฬิกาอีกที ปาเข้าไป 2 ชั่วโมงแล้วอ่ะ ! ตอนที่ดูก็สนุกดีค่ะ แต่มันสนุกแบบไม่สบาย มันไม่มีความสุข เพราะเรามีความอยากดู และมีความอยากที่จะไม่ดูด้วย ทุกข์ซ้ำซ้อนเลยนะเนี่ยยย ก็ได้แต่ตามรู้กายรู้ใจตัวเองไป เท่าที่สติจะเอื้ออำนวย ! จริงๆแล้ว การ "ติด" อะไรซักอย่าง ถ้าไม่ทำให้เสียการเสียงาน เสียเวลา หรือ เสียสุขภาพ ก็ไม่มีอะไรเสียหายนะคะ เพียงแต่ ถ้าอาการ "ติด" นั้น ทำให้เราเสียอะไรไป ก็ควรต้องพิจารณาแล้วค่ะ ว่าควรจัดการ อาการ "ติด" นั้นอย่างไรดี นึกถึง คำสอนหนึ่ง ของครูบาอาจารย์ที่นับถือ หลวงพ่อ จรัญ ฐิตธัมโม ท่านสอนให้ "ฝืนใจ" "ทำดี ต้องฝืนใจนะ" "ฝืนใจ สำเร็จทุกอย่าง ถ้าฝืนใจไม่ได้ไม่ต้องทำงาน อายปลา ปลามันฝืนน้ำขึ้นไปได้" ธรรมชาติของจิต ไหลลงที่ต่ำเสมอ เราจึงต้องฝึกฝนตนเองเพื่อทวนกระแสขึ้นไป เปรียบเหมือนปลาที่ว่ายทวนน้ำ เพราะปลาที่ปล่อยตัวตามน้ำ คือ ปลาที่ตายแล้ว เปรียบเหมือนคนที่ประมาทแล้วฉะนั้น ! หลายครั้งเราก็ปล่อยตัวเองให้ตกเป็น "ทาส" ของตัณหา ซึ่งเจ้าตัณหานี้ฉลาดมาก เพราะไม่ทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นทาสของมันเลย มันใช้หลักการปกครองในแบบที่ ไม่ให้ผู้ที่ถูกปกครองรู้ว่าตัวเองกำลังถูกปกครองอยู่ !!! ฉลาดไม๊ล่ะคะ เจ้าตัณหาเนี่ย ! ดังนั้นเวลาที่เราไม่มี "สติ" เราก็ยอมตกเป็นทาสมันแต่โดยดี เช่น ฉันเอง ฮือ ฮือ ในเมื่อมันฉลาด เราก็ต้องฝึกปัญญาของเราให้ฉลาดมากกว่ามัน วิธีที่จะหลุดพ้นจากความเป็นทาสได้ ต้องใช้หลัก อหิงสา ค่ะ หลวงพ่อปราโมทย์ ครูอาจารย์ที่ฉันนับถืออีกองค์หนึ่ง สอนไว้ว่า กิเลส มันร้าย แต่มันขี้อายนะ วิธีสู้กับมัน จึงไม่ใช่การจับอาวุธสู้รบ ต่อต้านมันรุนแรง แต่ต้องรู้ทันมัน รู้ทันจิตใจตัวเองค่ะ การรู้จิตใจตัวเอง ทำให้เกิด "สติ" และ "สติ" ย่อมไม่เกิดพร้อมกับ "กิเลส" เมื่อ สติเกิด กิเลสตัณหาก็กระเด็นหลุดไปจากใจค่ะ มันขี้อายน่ะค่ะ โดนจับได้ก็หนีไปตามธรรมดา (แต่เมื่อวานจับได้ แล้วไม่ยอมไล่มัน ตัวฉันเองก็ยังคงเป็น "ปุถุชน" หลงบ้าง เผลอบ้าง รู้บ้าง แต่ก็พยายามฝึกฝนตนเอง ให้เหมือนปลาที่ว่ายทวนน้ำอยู่เสมอ เมื่อคราวแพ้ต่อตัณหา ก็ต้องยอมรับ และปรับปรุงฝึกฝนสติให้แข็งแรงขึ้นอีก แต่ก็ไม่หยุดที่จะ ว่ายทวนน้ำ ค่ะ เพราะ ทำดี ต้อง "ฝีนใจ" นี่คะ Thank you very much
![]() โดย: Kai (nookookai8
![]() แวะมาเยี่ยมยามค่ำ...สวัสดีครับ
ขอบคุณสำหรับบทความที่ให้ข้อคิดดีๆ ที่นำมาฝาก นะครับ โดย: **mp5**
![]() ![]() สวัสดีครับ
ผมไม่ติดละคร แต่ติดบล็อกครับ 555 ต้องเล่นทุกวันเลย ไม่งั้นรู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไปครับ ซีรี่ย์เกาหลีก็ไม่เบานะครับ ผมว่าใครดูก็ติดหนึบเหมือนกัน ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ถ้าไม่ได้ติดธุระอะไรทีไ่หน
ผมตื่นมาอัพบล็อกทุกเช้าแน่นอนครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() ขอบคุณครับ
โดย: เศษเสี้ยว IP: 182.52.34.206 วันที่: 22 มีนาคม 2556 เวลา:16:05:50 น.
ฮู้ยยย
เหตุผลเดียวกัน และเหตุการณ์คล้ายกันเลยค่ะ ไม่อยากดูละคร ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่เพราะว่าดูแล้วมันติด.. ตอนนั้น ถึงขนาดดูถึงเช้าไปเรียนไม่ไหวเลย โดย: หมึกไม่ออก
![]() |
บทความทั้งหมด
|