หุบเขาคนโฉด ไม่ใช่ไอศครีม ไม่ต้องเข้ามาเลีย หรือเชียร์จนละเหี่ยใจ แต่ขอแค่ความจริงใจ ของคนกล้าคิด ไม่ติดอยู่ในกรอบ

สิงคโปร์ 2009 คนโฉดพาไปโฉบ 3



หมู่ตึกมารสำราญ บ่วงซื่อเฮง
ooความสุขของมาร คือ การทรมานผู้คน

หุบเขาคนโฉด, หมู่ตึกมารสำราญ, ท่องเที่ยว, ไม่ง้อทัวร์, Singapore, 2009, คนโฉดพาไปโฉบ Singapura ภาค 3, Formula 1



Singapura 2009


คนโฉดพาไปโฉบเมืองสิงหปุระ ในปี 2009 ภาค 3
2009 Formula 1 Singtel Singapore Grand Prix

2009-09-27
ขออนุญาตเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการ update ข่าวการท่องเที่ยวสิงคโปร์กันหน่อย คิดว่าทัวร์ของเราปีนี้คงไม่ทัน แต่ขอเอาเรื่องนี้มาเล่าเผื่อว่าปีหน้า เราอาจจะได้ไปเที่ยวด้วยกันนะครับ

ในวันที่ 25-26 กันยายน 2552นี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ได้มีการแข่งขันกีฬาระดับโลกบนเกาะสิงคโปร์ นั่นก็คือ การแข่งรถฟอร์มูล่าวัน หรือ F1 ซึ่งหลายคนคงจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ซึ่งก็แปลกนะครับที่เราก็เห็นรถยนต์วิ่งอยู่บนถนน ในตรอกซอกซอย บางแห่งแถวๆชานเมืองก็อาจจะได้ยินเสียงเขาแข่งรถซิ่งกัน แต่เราหลายคน ไม่เคยคิดที่จะไปดูเขาแข่งรถเท่าไหร่เลย ถ้าประเทศสามารถจัดการแข่งขันแบบนี้ได้ ประเทศเราก็จะมีเงินไหลเข้ามาในประเทศเป็นร้อยๆล้าน แถมเป็นการขยายความรู้ด้านเทคโนโลยี่สายวิชาชีพเครื่องยนต์กลไกให้กับคนไทยอีกด้วย ผมเองชอบดูหนังแข่งรถ และรายการทีวีที่มีการแข่งความเร็ว พวกเกม playstation ผมก็มีแผ่นเกมส์แข่งรถมากมาย เลยทำให้มีความใฝ่ฝันที่จะได้ดูการแข่งรถแรงๆ อย่าง Nascar หรือ Formula 1 เป็นอย่างยิ่ง ผมเลยขอแทรกเรื่องนี้ไว้ในตอนที่ 3 ใครไม่พอใจก็ไม่เป็นไร แต่อย่าโวยนะครับ แฮ่!

F1 C042009 Formula 1 Singtel Singapore Grand Prix เป็นการแข่งรถสูตรสุดแรง หรือ รถเอฟวัน(F1) ในช่วงวันที่ 25-28 กันยายน 2552 โดยใช้สนามกลางคืนกลางใจเมืองสิงคโปร์ ถือเป็นสนามแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก เพราะเขาจะทำสนามทับถนนในเมืองเลย (คือเอาถนนหลวงมาทำเป็นสนามแข่ง) ซึ่งก็คือเขต Marina Bay เชื่อมต่อไปยัง downtown และ Central Business Zone ผมเชื่อแล้วว่า คนสิงคโปร์ช่างกล้าคิด กล้าทำจริงๆ สนามแข่งนี้จะให้รถวิ่งตัดผ่านสถานที่สำคัญๆ เช่น Temasek Blvd., Raffles Boulevard, Nicoll Highway, St. Andrews, สะพานAnderson, Esplanade Drive, Raffles Avenue, Connaught Drive, Stamford, …

ผ่านตึกใหญ่ๆ และสถานที่สำคัญ ใจกลางเมือง เช่น Millenia Walk, Pan Pacific Singapore, Mandarin Oriental, Marina Square, Meritus Marina Mandarin, One Raffles Link, War Memorial Park, Singapore Recreation Club, The Padang, the Old Supreme Court, Singapore Cricket Club, Asian Civilisation Museum, The Fullerton Hotel, ตึก Esplanade, …

ประวัติธุรกิจการแข่งรถ F1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมจำได้ว่า มาเลเซียเขาเป็นขาใหญ่อยู่มาแต่ก่อน ถ้าจำไม่ผิดสนามเขาชื่อ Sepang Circuit ส่วนที่สิงคโปร์เขามาจัดแข่งแบบนี้ เท่าที่ผมทราบก็มีเมื่อปี 2008 พอจัดแล้ว คนแข่งก็ได้เงินได้รางวัลกัน ส่วนผู้จัดก็ยังได้รับรางวัลกันอีกด้วย เช่น The Federation International of Automobile มอบรางวัล The Promoter of The Year, หนังสือ Autosport มอบรางวัล The Pioneering and Innovation Award และ The Professional Motor Sport World Awards ได้ให้รางวัล The Motor Sport Facility of the Year 2008 สงสัยว่าอาตี๋อาซิ้มชาวสิงคโปร์ได้ใจเลยจัดอีกครั้ง ผมว่าปีหน้า 2010 ก็น่าจะมีจัดแข่งอีกทีนะ อ้าว...แบบนี้ทางอาบังมาเลเซียจะว่าอย่างไร?

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ไปเห็นเขากำลังทำที่นั่ง หรืออัฒจันทร์ กันอยู่หลายแห่งในเมือง ตอนนั้นเป็นตอนเย็นผมเดินผ่านจากถนนนอร์ธบริดจ์ เข้าไปในถนนโคลแมน ตัดผ่านสนามปาดาง (Padang) ไปยังตึกทุเรียน (Esplanade) เพื่อไปถ่ายรูปสิงโต Merlion เห็นเขาทำรั้วอลังการงานสร้างมากๆ เขายังติดตั้งทีวีจออภิมหายักษ์ที่เรียกว่า SuperScreen จอใหญ่เบ่อเริ่มเฮิ้ม บนท้องฟ้ามีเฮลิคอปเตอร์ทดสอบการบิน โดยบินนิ่งๆ อยู่แถวนั้นนานเป็นชั่วโมงๆ คงทดสอบกล้องและสัญญาณวิทยุกันสนุกสนาน ป่านนี้คงได้ภาพของผมไปเก็บไว้ในแฟ้มข่าวเรียบร้อยแล้ว เพราะผมอุตส่าห์ยืนโบกมือนานเกือบ 5 นาที (อยากโกอินเตอร์มากๆ)

ผมบอกกับตัวเองว่า ถ้าเราไปวันโน้น(27 กันยา) เราไม่จำเป็นต้องเสียค่าเข้าชมหรอกครับ เพราะเราอาจจะมองมาจากหน้าต่างโรงแรม หรือขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าตึก (โห...เสียวจัง) หรือผมอาจจะขึ้นไปนั่งชิงช้าสวรรค์หรือที่เรียกว่า Singapore Flyer ที่ว่าสูงที่สุดในโลกก็ได้ แต่ถ้าคุณไปเที่ยวสิงคโปร์ในวันนี้ (27 กันยา) คุณไปยืนดูริมถนนก็ได้ครับ แต่มุมมองอาจจะไม่มันเท่าไหร่

F1 17ตอนแรกผมก็คิดว่าจะบินไปสัปดาห์นี้ แต่เด็กน้อยดันติดเรียนหนังสือ ผมเลยอดไป ต้องร่นมาเป็นสัปดาห์ก่อน ผมมีความรู้สึกที่ว่า ถ้าได้ไปดูการแข่ง F1 จริงๆ สักครั้ง ได้ยินเสียง วู๊ม แหลมๆ สูงๆ ดังๆ ได้กลิ่นน้ำมันที่เต็มไปด้วยสารตะกั่ว (น้ำมันรถแข่งเขาไม่ใช้แบบ unlead นะ เท่าที่ผมเคยได้ยินมา เพราะแรงหมามันจะตกจนลิ้นห้อย เสี่ยรถแรงข้างผมแกบอกว่า ถ้ารถ F1ใช้น้ำมันสะอาดๆอย่างที่เราใช้ มันจะวิ่งสุภาพเกินไป) แค่ครั้งเดียวในชีวิตมันก็เกินคุ่มแล้ว แต่ก็อด ชะตาฟ้าลิขิตแท้ๆ

สำหรับคนที่เป็นคอรถแรงแซงทางตรง คงจะทราบข่าวที่ FIA หรือ สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ ได้สอบสวนและห้ามนักแข่งหนุ่มหน้าหยก Nelson Piquet Jt. (เนลสัน ปีเก้ จูเนียร์) นักแข่งทีมเรโนลต์ เพราะว่าเมื่อปี 2008 ที่สิงคโปร์ มีการเกิดอุบัติเหตุรถของเขาพุงชนกำแพง รถของเขาได้ขวางรถของของเพื่อนๆนักแข่ง และพวกรถเซพตี้ หรือปอเต็กตึ้งสนามฝรั่งก็ได้วิ่งกันพล่านเต็มสนามแข่งไปหมด จังหวะนั้นจึงมีผลทำให้เพื่อนร่วมทีม Fernando Alonso (เฟอร์นอนโด อลองโซ่) ได้เป็นแชมป์ แบบมีกลิ่นตุๆ เพราะเขาว่าหัวหน้าทีมเรโนลเองนี่แหละ ที่น่าจะวิทยุ วอสองวอสามไปบอกให้เนลสันขับรถแถเข้าหากำแพง เรียกว่าจงใจทำเองมากกว่าเป็นอุบัติเหตุ ก็พี่เค้าดันแถรถแฉลบใส่ข้างทางตอนวิ่งทางตรงนี่ครับ ดูเอาเถอะนะ คนเราไม่ว่าการเมือง การค้า แม้แต่กีฬ่าระดับพระกาฬ คนดูกันทั่วโลกแบบนี้ ยังมีการโกงกันอยู่เลย อามิตตาพุทธ

F1 09ในรายการนี้ นักแข่งดังๆก็มีมากมายได้แก่ Lewis Hamington (McLaren), Sabastian Vettel (Red Bull), Nico Rosberg (Willians), Mark Webber (Red Bull), Fernando Alonso (Renuault), Timo Glock (Toyota), Nick Heidfeld (BMW Sauber), Robert Kubica (BNW Sauber), Heikki Kovalainen (McLaren), Rubens Barrichello (Brawn GP), …. ฯ คุณรู้จักใคร หรือทีมอะไรบ้าง? ผมรู้จักแต่ทีมชื่อ Red Bull เออ...นี่มันกระทิงแดงนี่หว่า 555

ย้อนไปเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม ปี2552นี่เอง ที่ประเทศไทย ได้มีค่ายมือถือดัง ที่ชื่อมีตัว A นำหน้า ได้ร่วมจัดงานแถงข่าวและยังให้รางวัลเป็นบัตรชมการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน ที่สิงคโปร์ โดยจัดกันที่ ฮาร์ดร๊อคคาเฟ่ สยามสแคว์ แต่ช่วงนั้นหวัดหมูกำลังหัดกลืนกินชีวิตคนไทยและซีกโลกด้านเอเชีย อย่างสนุกสนาน เลยทำให้งานไม่ค่อยคึกคักนัก มีการประกาศผลไปแล้วเมื่อ 14 กันยา ใครได้รางวัลไป ผมก็ทราบเหมือนกัน (ความจริงอิจฉาเลยไม่อยากบอกชื่อพวกเขา) แต่ที่แน่ๆ ผมไม่ได้รางวัล (555) ป่านนี้คนชนะก็คงไปอยู่ที่สิงคโปร์ มีตั๋วเครื่องบินขากลับ ได้นอนโรงแรมห้าดาว มีตั๋วดูการแข่งรถแบบดูได้ทุกรอบทุกรายการ น่าอิจฉาจริงๆ

และก็ยังมีโปรโมชั่นจากบริษัทต่างๆ หลายราย ที่ทำงานช่วยให้การเกิดทริปการเที่ยวเกาะสิงคโปร์บวกการดูรถแข่ง นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากขึ้น อย่างเช่น World Planet เขาจัดทัวร์เพียงท่านละ 26,900 บาท ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายต่างๆเอาไว้หมดแล้ว ต้องขอบอกว่าตั๋วเข้าดู F1 แบบเดินไปซื้อหน้างานราคาโหดมากๆ และอาจจะไม่มีให้ซื้ออีกด้วย แผ่นพับที่ผมถืออยู่ในมือตอนนี้เขียนเอาไว้ว่า ห้อง Pit GrandStand 3วัน ตลอดการแข่งขันคิดค่าตั๋วเป็นเงินไทยประมาณ 35,750 บาท (ไม่รวมค่าโรงแรมนะ ไม่ใช่ราคาแพคเกจ) ตั๋วแบบถูกที่สุดคือ 1-Day Walkabout Friday เป็นตั๋วยืนๆเดินๆ ยื่นหน้าไปดูตามรั้วลูกกรงข้างสนาม ไม่มีร่มหรือชายคากันฝน (ซึ่งชอบตกบ่อยจริงๆ) ต้องจ่ายหัวละ 900 บาท แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์ วันที่เขาแข่งจริงกัน วันนั้นราคาขึ้นไปเป็น 3 พันบาทต่อคน ถ้าใครมาเที่ยว 3 วันก็ซื้อตั๋ว 3-Day Walkabout ได้ในราคา 4,500 บาทต่อคน เข้าออกได้ 3 วัน ถ้าไปทัวร์แบบนั้น คงต้องรอให้มีรายได้เดือนละแสนหรือล้านเสียก่อนกระมังครับ เก็บเงินเอาไว้ซื้อของปลอดภาษีกันดีกว่า แล้วแอบดูเขาแข่งรถจากบนโรงแรมก็ได้

เมื่อวันที่ 25 เขามีการเปิดงานด้วย คอนเสิร์ตใหญ่ โดยใช้ชื่อว่า F1 Rocks Concert โดยทำการโชว์ให้ฝรั่งได้ชื่นชมศิลปินดังของเอเชีย ด้วยนักร้องสุดดัง คือ A-Mei(อาเหม่ย) และ จาง เซียะ โหยว (พวกนี้ลืมพี่เบิร์ดกับน้องทาทาของเราได้อย่างไร?) และก็มีวง NO DOUBT ที่มี Gwen Stefani (เกวน สเตฟานี่) เป็นนักร้องนำ, มี Beyonce, มีวง Black Eyes Peas และอื่นๆอีกเยอะครับ

มีเรื่องนินทาชาวบ้านตามประสาคนโฉดอีกตามเคยครับ เขาซุบซิบกันอย่างดังว่า พิธีกรนั้นเดิม คือ Nicole Scherzinger (นิโคล เชอร์ซิงเกอร์) จากวง Pussy Cat Doll แต่ต้องเปลี่ยนมาให้ตัวแม่แห่งวงการปาปารัสซี่ Lindsay Lohan (ลินซี่ย์ โลแฮน) มาแทน เรื่องนี้ก็เพราะ Lewis Hamilton หวานใจของเธอ ซึ่งเป็นนักแข่งรถ ขอเลิก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เธอเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธอชอบเลวิสมั๊กมาก “เขาน่าทึ่ง ถ่อมตัว ให้เกียรติผู้หญิง เราสองคนอยากจะมีลูกด้วยกัน (angle babies)....” เธอก็เลยเซ็งเป็ดพูดจาไม่ฮาเฮ แหม!ดันมาอกหักเวลาที่เงินกับงานจะมาอยู่ตรงหน้าพอดี

ส่วนเรื่องสปอนเซอร์รายใหญ่ หรือที่เรียกว่า Official Sponser ของการแข่ง F1 ที่สิงคโปร์นี้ คุณคงไม่อยากจะเชื่อว่า คือ LG ที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ ฯ ต้องบอกว่าในต่างประเทศนั้น แบรนด์แอลจีดังมากนะครับ ของเกาหลีดังหลายยี่ห้อนะคุณ อย่าง สามซุง เด็กก็รู้ว่ามาจากเกาหลี ใครมีลูกมีหลานก็รีบพาไปสมัครทำงานที่บริษัทนี้ได้เลย กระซิบนะครับ กระซิบจริงๆ เขาว่าท่านกรรมการผู้จัดการบริษัท แอลจี ของประเทศไทย ได้ตอบสนองนโยบายบริษัทแม่ ที่ใช้คำว่า A Global Partner of Formula 1 ด้วยการทุ่มงบถึง 30 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมันในตัวแบรนด์ในฐานะที่เป็นหนึ่งเหมือนชื่อรถ F1 แต่ผมว่า ทำไมถึงเงี๊ยบเงียบจังเลย

F1 C07มาดูผลสรุปล่าสุดกันเลย พอดีคอมฯเจ้ง โพสต์เรื่องนี้ลงในวันอาทิตย์ไม่ได้ ก็เลยได้ข้อมูลเพิ่มมาอีกหน่อย ผู้ชนะการแข่งขัน F1 Singapore 2009 เมื่อวานนี้ก็คือ Lewis Hamilton ตามคาดหมาย ส่วนที่สองเป็นของ T.Glock และที่สามเป็นของ F.Alonso โดยมีผู้ที่เหยียบจนแป้นคันเร่งติดพื้นคือ Alonso โดยทำเวลาในรอบนั้นเพียง 1.48.240 นาที ขับรอบสนามที่ยาวประมาณ 5.067 กม. เวลาในการแข่งทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 56 นาทีกว่าๆ สนามหน้าคงจะเป็นญี่ปุ่นครับ งานนี้ดีนะครับที่สาวสวยอย่าง นิโคล แห่งวงพุซซี่แคทฯ ไม่ได้รับเป็นพิธีกร เพราะอดีตคนเคยรักอย่าง เฮมิงตั้นได้รางวัลที่หนึ่งแบบนี้ แล้วตัวเองต้องมาแสดงความดีใจในฐานะพิธีกร เอ้อ...มันยิ่งกว่าละครน้ำเน่าหลังข่าวเสียอีก เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก (555)

ในตอนต่อๆไป คณะทัวร์ไม่ทั่วของเรา รอคอยเรื่องที่ผมจะกล่าวอย่างบ้าคลั่งในเรื่องของที่พัก โรงเตี้ยม โรงแรม หรือที่พัก แต่วันนี้ขอโม้ให้คุณทราบนิดๆหน่อยๆ ใครที่ต้องการจะประหยัดเงินค่าที่พักในการไปเที่ยวแบบไม่พึ่งพาอาศัยไกด์นั้น จำเป็นต้องรู้จัก //www.agoda.co.th ซึ่งจะเห็นว่า เป็นของไทย (แต่จงเชื่อที่ตาเห็นเพียงครึ่งเดียวครับ) ใครก็ได้ ลองเข้าไปดูราคาที่พักในนั้นกันหน่อย หรือจะลองเข้าเว็บของโรงแรมต่างๆดูว่า ถ้าเราเป็นแขกขาจรเข้าไปพัก (Walkin) จะต้องจ่ายคืนละเท่าไหร่ ถ้าท่านอยากรู้จักว่า อาโกด้าเขาทำธุรกิจอะไรก็เข้าไปหาอ่านได้ในเน็ทนี่แหละ แต่ถ้าขี้เกียจค้นหา ผมสรุปย่อๆก็ได้ อโกด้าเป็นบริษัทผู้นำในการสำรองห้องพักทางอินเตอร์เน็ท หรือเรียกว่า online booking เขาเป็นเครือญาติของ Priceline.com ขาใหญ่ในอเมริกาเชียวนะพี่ ที่ว่าน่าสนใจเพราะเขาทำเป็นระบบสมาชิกได้ เราสะสมแต้มได้ แล้วก็อย่างที่รู้ๆกัน เอาแต้มมาแลกอะไรต่อมิอะไรได้ ยกเว้นหัวใจของผมเท่านั้น เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม 555 เรื่องโรงแรมนี่ ทางอโกด้าไม่ได้เป็นมิตรหรือศัตรูกับค่ายไหนเลย เขาเป็นกลางมาก เขาเป็นพวก PATA (ที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้านะ) มาจากคำว่า Pacific Asia Travel Association โอ้ย...เชียร์กันจนออกนอกหน้า เดี๋ยวโดนแบนซะ เลยอดเที่ยวเลย

ที่เอามาเล่าเพราะเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ทางอาโกด้า เขาได้ร่วมด้วยช่วยกันกับทีมงานฟอร์มูล่าวัน 2009 สนามกลางคืนสิงคโปร์ฯ โดยหาโรงแรมที่สิงคโปร์และตั๋วเครื่องบินให้ผู้สนใจในราคาลดแล้วลดอีก ซึ่งท่านก็จะได้ดูคอนเสิร์ตดีๆ ดูรถแข่งแรงๆ และเที่ยวชมเมือง อย่างสนุก แถมสุดประหยัด แบบที่จะหาประสบการณ์ใดมาเทียบไม่ได้อีกแล้ว โรงแรมที่เขาหามาให้ก็ได้แก่ Carton, Grand Park City Hall, Royal @ Queen, Royal Plaza on Scotts หรือ Yolk ซึ่งก็ปนกันระหว่าง 4 ดาวกับ 5 ดาว ยกตัวอย่าง Carton เป็นโรงแรม 4 ดาว ราคาปกติ ห้องซูพีเรีย 18,400 บาท ลดเหลือ 7,250 บาท ต้องขอบอกก่อนว่าข้อมูลท่องเที่ยวของเขาที่ให้มานั้นมากมาย ต้องค่อยศึกษาไป การไปนอนสิงคโปร์ไม่ต้องนอนโรงแรมใหญ่โต หรือกลางใจเมืองหรอก เพราะการเดินทางสะดวก มุดดินเอาก็ได้ ขโมย โจรและผู้ร้ายมีน้อยมาก คนบ้า คนเมาก็ไม่มีให้เห็นเลย (เห็นแต่ผมนี่แหละที่บ้าบอคอแตกอยู่คนเดียว )นอนที่ไหนก็ได้ครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นก้วนชายล้วนหลายๆคน คุณสามารถนอนได้ในราคาคืนละพันกว่าบาทเอง แต่คุณผู้หญิงสาวโสดสวยสดอาจจะมีปัญหา เพราะอาจจะไปได้โรงแรมอยู่ใกล้แหล่งที่ผู้หญิงหากินกลางคืนพัก แต่เชื่อหัวไอ้เรื่องเถอะเจ้ เพียงจ่ายเพิ่มอีกนิด ก็ได้ที่พักที่ดีๆแล้ว

ประเทศสิงคโปร์เน้นการท่องเที่ยว เมืองเขาไม่มีภูเขา ชายหาด หรือเกาะสวยงาม สิ่งก่อสร้างก็มีไม่มาก แต่เขาไม่ยอมแพ้ เขาหาทางเรียกคนเข้ามาจ่ายเงินในประเทศเข้าทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษี ความสะอาด การต้อนรับของพลเมือง ฯ ประเทศเราใหญ่กว่า มีคนมากกว่า มีศิลปวัฒนธรรมที่สวยงาม ลึกล้ำพิสดารกว่าเขามาก ทำไมเรายังเป็นเหมือนบ้านป่า ที่มีแต่โจรผู้ร้ายและยาเสพติด แท็กซี่เราก็ขยันโกงนักท่องเที่ยวจริงๆ


F1 116


zOOmzERo2009









 

Create Date : 28 กันยายน 2552
32 comments
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 19:19:31 น.
Counter : 1482 Pageviews.

 

ใช้ถนนในสิงคโปร์เลย น่าทึ่งมาก

 

โดย: มิสเตอร์ฮอง 29 กันยายน 2552 0:27:30 น.  

 

ไหนๆ ตอนที่ 3 นี้ ก็เป็นช่วงบันเทิงอยู่แล้ว
เรามาคลายอารมณ์กันอีกหน่อย
เมื่อหลายวันก่อนมีป้าแก่แถวนี้ส่งไฟล์เรื่องๆหนึ่งมาให้อ่าน บอกว่าให้อ่านให้ได้
ที่แท้ก็มาจาก Forward Mail นี่เอง
ผมได้ปรับภาษาบางคำเล็กน้อยเพราะกลัวว่าจะโดน censor ไม่ผ่าน
เรื่องนี้ชื่อว่า จดหมายแพนด้า

ฉบับแรก ช่วงช่วง เขียนถึง หลินฮุ่ย

ที่อยู่...โซนจัดแสดงแพนด้าแห่งสวนสัตว์เชียงใหม่
วันที่เฝ้า เดือนที่รอ พ.ศ.ที่คอย
ถึงหลินฮุ่ย..........แพนด้ายาใจ

สวัสดีจ้ะ หลินฮุ่ย
เธอเป็นยังไงบ้างจ้ะ หลินฮุ่ย สบายดีมั้ย
ตั้งแต่วันนั้นที่เธอเบื่ออาหารโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการเธอยังกะหมีแพ้ท้องเลยนะ หลังจากวันนั้นพวกมนุษย์ก็จับตัวเธอแยกไปจากฉัน
วานนี้ตอนที่ฉันกำลังนั่งคิดถึงเธออยู่ ฉันก็ได้ยินพวกมนุษย์พูดคุยกันว่าเธอมีลูกแล้ว
เธอรู้มั้ยว่าตอนแรกที่ฉันได้ยิน ฉันตกใจและโกรธเธอมาก ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าเธอไปท้องกับใครมา
ฉันเสียใจกับการกระทำของเธอที่เธอนอกใจฉัน จนฉันอยากจะร้องเพลง "น้ำตาจ่าโท" (ช่วงนั้นฉันขอบตาคล้ำขึ้นด้วยล่ะ)
แต่ฉันก็คิดไม่ออกจริง ๆ ในประเทศไทยก็มีแค่เธอกับฉันเท่านั้นที่เป็นแบบนี้(เป็นหมีแพนด้า) ฉันเองก็ไม่เคยอะไรกับเธอ แค่เกือบไปครั้งนึงเท่านั้น
พูดถึงเรื่องนี้ ฉันเองต้องขอโทษเธอสำหรับวันนั้นด้วยนะ วันที่ฉันเกือบล่วงเกินเธอไป อารมณ์ชั่ววูบเกือบจะทำพรหมจรรย์เธอพินาศ
หลินฮุ่ย เธอรู้ใช่มั้ยว่าตอนฉันอยู่ที่เมืองจีน ฉันได้รับสมญาจากหมีสาวทั้งหลายว่า "ช่วง ช่วง ร้อยลีลา" หรือไม่ก็ "คาสแนนด้า" ดังนั้น เรื่องอย่างว่าเนี่ยะ ฉันไม่เป็นรองหมีแพนด้าใดในโลกอยู่แล้วล่ะ มีเรื่องตลกอยู่ที่หลังจากนี้ เธอรู้มั้ยว่าพวกมนุษย์แก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไง
พวกมนุษย์เอาหนังโป๊หมีแพนด้าให้ฉันดู !!
พวกมนุษย์นอกจากจะมีคลิปแอบถ่ายพวกเดียวกันเองแล้ว ยังจะมาแอบถ่ายหมีแพนด้าอีก
อนิจจา มนุษย์ พวกมันเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย!!
มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังค้างคาใจ
ถามเธอตรง ๆ แล้วกันนะ
หมีตัวไหนเป็นพ่อของลูกเธอ??
ยังไงก็ตามฉันร้อนใจกับเรื่องนี้มาก
หวังว่าเธอคงรีบตอบกลับนะ ฉันไม่อยากตาคล้ำไปมากกว่านี้

I look forward to hearing from you na.
คิดถึง..........จนเธอคิดไม่ถึงเลยล่ะ

จาก ช่วง ช่วง ในห้วงหฤทัย

พ.ล. (แพนด้าลิขิต)
ฉันว่าวันที่ 12 สิงหาคมนี้ พวกมนุษย์ต้องให้ลูกเธอมามอบดอกมะลิกับเธอแน่ ๆ
พนันกับฉันมั้ยล่ะ...

********************************************************************



จดหมายตอบจากหลินฮุ่ย ถึง ช่วงช่วง

ที่อยู่….โซนจัดแสดงแพนด้าแห่งสวนสัตว์เชียงใหม่
วันที่เคลื่อน เดือนที่หนี ปีที่ผ่าน

ฉันเห็น จดหมายฉบับที่แล้ว เธอทักทายฉันด้วยคำว่า "สวัสดี" แบบพวกมนุษย์แล้วฉันรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเลย ฉันไม่อยากให้เธอรับค่านิยมของพวกมนุษย์มากจนเกินไป พวกเราเป็นหมีก็ไม่ควรลืมกำพืดหมี พวกเราก็น่าจะต้องอนุรักษ์ภาษาหมีเราไว้ อย่าให้ภาษาหมีของเราต้องวิบัติเหมือนกับภาษามนุษย์เลยเนอะ
ต้องขอโทษเธอด้วยนะที่ฉันตอบจดหมายเธอช้าไปหน่อยต้องสาละวนอยู่กับการเลี้ยงลูก ลูกสาวของเรากำลังซนเลยทีเดียว
อ้อ พอพูดถึงเรื่องลูกแล้วนึกได้
จากจดหมายฉบับที่แล้วที่เธอส่งมาถามฉันว่า "ใครเป็นพ่อของลูกหมี"
โถ โถ โถ โถ โถ โถ..........ช่วงช่วง ผู้น่าสงสาร
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่มีใครบอกเธอเลยเหรอเนี่ย ว่า "เธอนี่แหละ ที่เป็นพ่อของเด็ก"
ฉันเองไม่ถือโทษโกรธเธอหรอกนะที่เธอไม่รู้ว่าลูกหมีตัวนี้เป็นลูกของเธอ
เพราะตอนแรก.....ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าฉันท้อง
ฉันไม่รู้จนกระทั่งวันที่หมีน้อยตัวนี้ไหลปรุ๊ดออกมาจากหมีใหญ่ (ฉันหมายถึงตัวฉันเอง อย่าคิดลึก)
ตอนนั้นฉันงงมากว่าฉันมีลูกได้ยังไง เพราะตั้งแต่เล็กจนโตฉันก็ไม่เคยปั่มปั๊มกับหมีตัวไหน ฉันยังรักษาพรหมจรรย์อย่างบริสุทธิ์ผุดผ่องเสมอมาจนกระทั่งวันนี้
ฉันนอนนึกถึงเรื่องนี้อยู่หลายคืน ว่าไอ้หมีน้อยตัวนี้มันมาอยู่ในท้องฉันได้ยังไง มีใครเล่นคุณไสยเสกหมีเข้าท้องฉันรึเปล่า
แล้วคืนที่ 10 ฉันก็ได้รับคำตอบ
ต้องเป็นฝีมือของพวกมนุษย์แน่ ๆ

อุ๊ย ขอโทษอีกทีนะจ๊ะ ช่วงช่วง ฉันเผลอเข้าโหมดเครียดอีกแล้ว (ฉันใช้ศัพท์วัยรุ่นไหม ฮิฮิ)
ตอนนี้ฉันเครียด ๆ น่ะ ไหนจะต้องเลี้ยงลูกของเราที่กำลังซน ไหนจะต้องรับมือกับพวกมนุษย์ที่เข้ามารบกวนฉันทั้งเช้าทั้งเย็น

เธอรู้มั้ย พวกมันเอาลูกของเราไปวัด ส้...นตี...น ทุกวันเลย
ฉันไม่ได้หยาบคายนะจ๊ะ ช่วงช่วง
พวกมนุษย์เอาลูกของเราไปวัด ส้...นตี...น จริง ๆ ไม่รู้ว่าจะไปวัดทำ ส้...นตี...น อะไร?
จดบันทึกทุกวัน ว่า ส้...นตี...นลูก เรายาวขึ้นเท่าไร
ลืมตาซ้ายเมื่อไร ลืมตาขวาเมื่อไร ลืมตาไหนก่อนกัน ลืมตาซ้ายขวาห่างกันกี่วัน
วันนี้ลูกเราขนขึ้นที่ไหน ขนสีขาวหรือสีดำ ขนตรงหรือหยักศก ฯลฯ

ช่วงช่วง เธอคิดว่าพวกมนุษย์ วื่นวือ มั้ย
ในฐานะที่ฉันเป็นแม่ ฉัน โค...ต...ร ดีใจเลยแหละที่มีมนุษย์สนใจตั้งชื่อให้ลูกเราขนาดนี้
บางชื่อฉันว่ามันก็น่ารักดีหรอก แต่บางชื่อนี่สิ คิดมาได้ไง
มีใบนึงตั้งชื่อลูกของเราว่า "เห็น"
ทุเรศ ใช้อะไรคิดเนี่ย จะเรียกหมีเห็น ๆ เนี่ยนะ น่าเกลียดแย่ ลูกเราเป็นผู้หญิงซะด้วย
จะตั้งชื่ออะไรก็ตามเถอะ ขออย่างเดียว หวังว่าคงไม่มีมนุษย์คนไหนเอาวันเดือนปีเกิดของลูกเราไปให้พระที่วัดตั้งชื่อให้นะ
ฉันกลัวบาป
เอาล่ะ ในที่สุดก็มี 4 ชื่อที่ได้เข้ารอบนั่นก็คือ

1. ขวัญไทย ฉันไม่ชอบชื่อนี้เลยอ่ะ ฉันว่าไอ้ชื่อ "ขวัญไทย" เนี่ย มันเหมือนชื่อนิตยสารแสดงแบบชุดผ้าไหมมากกว่าชื่อหมีแพนด้านะ
2. ไทยจีน อื้อ หือ ใช้ความคิดสร้างสรรค์มาก ๆ เลยล่ะ จีนส่งหมีมาไทย เลยชื่อไทยจีน
3. หญิง หญิง ฉันไม่ค่อยชอบชื่อนี้นะ มันธรรมดาไป
4. หลินปิง มนุษย์โหวตชื่อนี้กันแหละ เธอชอบมั้ย ฉันเฉย ๆ

พ่อชื่อช่วงช่วง แม่ชื่อหลินฮุ่ย ลูกของเราก็น่าจะชื่อ "ชุ่ยชุ่ย"

นี่ ๆ ฉันมีเรื่องตลกจะเล่าให้เธอฟังด้วยล่ะ
เธอรู้มั้ยว่าพวกมนุษย์ทำให้ลูกสาวของเรารู้จักเธอได้ยังไง

ติ้ก ต้อก ติ้ก ต้อก ติ้ก ต้อก

พอแระ ฉันให้เวลาเธอแค่นี้ ฉันเหนื่อย
เฉลยก็คือ…พวกมนุษย์ติดรูปเธอไว้รอบ ๆ กรง เพื่อให้ลูกของเรารู้จักและคุ้นเคยกับเธอ
อนิจจา ปาจิงโกะ พวกมันคิดได้ไงเนี่ย!!
เธอรู้มั้ยหลังจากวันที่เธอได้เจอลูก พวกมนุษย์ลงข่าวในวันรุ่งขึ้นว่าอะไร

"แพนด้าน้อยปลื้มใจ พบหน้าพ่อ"
ไอ้บ้า แพนด้านะ ไม่ใช่น้องเคอิโง๊ะ มาปลื้มใจพบหน้าพ่อเนี่ย
ชั้นล่ะเบื่อพวกมนุษย์จริง ๆ

ไม่ต้องส่งกลับมาแล้วนะ ฉันว่าพอถึงภาค 3 มันคงไม่ขำแล้วล่ะ

รักไม่แพ้ รักไม่ชนะ..........ก็ "รักเสมอ" ไง

จาก หลินฮุ่ย
ตะลุยเรื่องรัก

พ.ล. (แพนด้าลิขิต)
ฮิ ฮิ เธอแพ้พนันฉันแหละ
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา พวกมนุษย์ไม่ได้จับลูกของเรามาให้ดอกมะลิฉัน (ฉันว่าถ้าทำ ก็เกินไปจริง ๆ แหละ)
พวกมนุษย์แค่ยกย่องให้ฉันเป็น "แม่ตัวอย่าง" เท่านั้นเอง
เธอช่วยคิดหน่อยสิว่า ฉันควรเป็นตัวอย่างให้กับคนหรือหมีดี
ฉันงง?
เฮ้อ!! มนุษย์จริง ๆ
**********************************************************************************************************


ต้องขอแสดงความชื่นชมขมขื่นกับท่านผู้แต่งจดหมาย 2 ฉบับนี้
เขียนได้อารมณ์โฉดๆของจอมมารอย่างเราจริงๆ น่าจะมาเป็นนักเขียนประจำที่หุบเขาคนโฉด

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 29 กันยายน 2552 8:47:52 น.  

 

สวัสดีครับคุณฮอง
ขาใหญ่แห่งการท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือน 2-3 ครั้งแล้ว
ผมรู้สึกดีใจมากๆ
มีอะไรชี้แนะกันได้นะครับ
เพราะผมก็อ่านๆและก็เอามาจากเหตุการณ์ที่ไปเจอมา
ผมอาจจะได้เอกสารไม่ทันสมัย
หรืออาจจะตาฝาดมองอย่างหนึ่งเป็นอีกอย่าง
ถ้าเมตตากัน ก็ช่วยกันด้วยครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้า
ไว้มีโอกาสจะเนรคุณ เอ้ย...ตอบแทนคุณ ให้สมใจ

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 29 กันยายน 2552 8:51:56 น.  

 

มาแร้วคร้า โอ้โห หลังจากที่สองตอนแรกพูดเรื่องเตรียมวีซ่า และพาสปอร์ตไปแล้ว ไม่เห็นพูดถึงเรื่องตอนไปถึงสนามบินสุดหรูเลิศอลังการของประเทศไทยเลยแฮะ พลาดไปได้ยังไงคะ เรื่องนินทาออกจะเยอะนะนั้น งิงิ มีพูดถึงแค่คราว ๆ เอง

มาตอนนี้ยังไม่ทันเอาข้าวของเก็บเข้าห้องพักเลย ไปดูทำเลแข่งรถ F1 ซะแล้วสิ ว่าไปถ้าพูดถึง F1 ทีไรนะ บีก็จะนึกถึงสปอนเซอร์ชื่อ เฟอรารี่ ที่มีโลโก้ม้ายกขา สีแด๊ง แดง ทุกทีค่ะ งิงิ เค้าว่าเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลกแล้วเหรอคะ หรือตอนนี้มีรถอะไรที่แรงกว่านี้อีกน้า ล่าสุดบีได้ไปดู clip การ์ตูนในเวป Clipmass มาแล้วไปเจอการ์ตูนเรื่อง cyber formular มาค่ะ ก็เลยสงสัยว่ามันมีแค่ในการ์ตูนหรือมีรถแบบนี้จริง ๆ ออกมาแล้วนะ ถ้ามีออกมา จะแรงเท่า F1 มั๊ยนะ cyber formular ในการ์ตูนที่ดูก็แข่งเหมือนรถ F1 นี่แหล่ะค่ะ แต่ว่ารถเนี่ยะ เป็นเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ฉลาดปราดเปรื่อง คุยโต้ตอบกับคนขับได้ คอยช่วยแนะนำเส้นทาง เรียกดูข้อมูลการแข่งครั้งก่อน บอกว่าต่อไปจะเลี้ยวขวาในอีกกี่วิ ให้เตรียมเลี้ยว อะไรแบบนี้ได้ด้วย เจ๋งจริง ๆ ว่าไปก็เหมือนรถพูดได้ทีโปรดปรานมากตอนเด็ก ๆ ที่เคยเห็นในหนังเรื่องแมคไกเวอร์เลยนะคะ พี่ชายต้องรู้จักสิ ตอนเด็ก ๆ ช๊อบ ชอบค่ะ รถที่สั่งงานด้วยเสียง ถ้ามันมีจริง ๆ แล้วคงเท่ห์น่าดูเลยเน๊อะ

F1 ที่พูดถึงบีว่านะ ดูในโทรทัศน์ยังดูม่ายค่อยจะทันเลย ถ้าไปดูของจริงอยู่จุดไหนก็เห็นรถผ่านหน้าไปในแค่พริบตาเดียว ไปซะแล้วไม่ทันได้เห็นอะไรเลย แต่ตั๋วก็แพงมาก ๆ นี่นา ชื่อนักแข่งที่พอจะคุ้นหูอยู่บ้างที่เล่า ๆ มาก็คืออลองโซ่นี่แหล่ะค่ะ อาจจะเพราะเป็นแชมป์บ่อยมั๊ง งิ

อ่าน ๆ ไปตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรเลยนอกจากเรื่อง F1 แล้ว แต่ลงท้ายได้น่าคิดดีนะคะ ที่ว่าเมืองเขาไม่มีที่เที่ยวอะไรทางธรรมชาติมากมายเลย แต่กลับดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้มากมาย แต่ประเทศไทยเองแท้ ๆ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามมากมาย แต่กลับต้องพยายามชักจูงให้คนไทยกันเองมาเที่ยวประเทศตัวเอง อย่าว่าคนอื่นไกลเลย ดูพี่ชายเราเองซิ เห็นไปเที่ยวแต่ต่างประเทศ เมืองไทยไม่เที่ยวเล้ยยย เงินไหลออกนอกประเทศตลอดอ่ะ ชิ แต่จะว่าไปมันก็จริงอย่างที่พูดนั่นแหล่ะเน๊อะ ที่โจร ขโมย เยอะเหลือเกิน ไปไหนก็หวาดระแวงไปซะหมด คนไทยก็โกงกันเองแม้แต่ราคาอาหาร ที่พัก ก็ไม่เว้น นิด ๆ หน่อย ๆ โกงกันตลอด เห็นแล้วเหนื่อยใจ ว่าถ้าเป็นแบบนี้ แล้วจะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้แค่ไหนกันน้า ถึงจะพยายามทุ่มทุนรณรงค์ให้เที่ยวไทยกัน แต่ไปแล้วเจอแต่สิ่งไม่พึงประสงค์มันก็หมดความน่าเที่ยวไปเยอะเลย สิ่งแรกที่ควรรณรงค์คือจิตสำนึกของคน ที่รณรงค์ไปอีกร้อยปีก็ไม่รู้จะแก้ได้มากแค่ไหนเลย *-* ก็แหมนะ เจ้าหุบเขาเล่นส่งสมุนลูกน้องจอมมารกระจายทั่วไปหมดประเทศไทยเลยนี่นา ไปไหนก็เจอไปหมด เหอะ ๆ

อ่า จบเรื่อง F1 มีเรื่อง แพนด้าให้อ่านขำ ๆ ต่อ งิงิ ขำดีค่ะ คิดได้ไงเนี่ยะ ว่าไปและพิจารณาตามจดหมาย บีว่า แพนด้าเองมันก็คงงงจริง ๆ เน๊อะ ว่ามันท้องกันได้ไง ใครเป็นพ่อ น่านน่ะสิ น่าคิดเน๊อะ อิอิ

 

โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (Beee_bu ) 29 กันยายน 2552 15:34:12 น.  

 

โห เข้ามาแล้วหน้ามืด อ่านตัวหนังสือไม่ได้เลย ต้องกด select all ถึงจะเห็นข้อความ

ถ้าคุณได้เจอพี่สาวเราคงคุยกันถูกคอ เพราะพี่ก็ชอบดูแข่งรถมากเหมือนกัน

ขอบคุณสำหรับข้อมูลท่องเที่ยวเมืองลอดช่อง ให้รายละเอียดดีมากเลยค่ะ แสดงว่าคุณzoomคงเที่ยวเมืองสิงคโปร์ทุลุปรุโปร่งแน่เลย เห็นด้วยที่เมืองเขาเล็กกว่าบ้านเราเยอะ แล้วออพชั่นเรื่องการท่องเที่ยวสู้บ้านเราไม่ได้สักกะผีก แต่ก็ยังดันตัวเองขึ้นมาเป็นประเทศท่องเที่ยวชั้นนำได้

 

โดย: haiku 29 กันยายน 2552 15:43:07 น.  

 

นู๋Beee

ทัวร์ของเรายังอยู่ที่เมืองไทยเลย เรายังรอวันไปรับ ePassport กันอยู่
เพราะหัวหน้าทัวร์อู้งานไม่ยอมส่งเด็กไปรับหนังสือเดินทางทั้งๆที่ลูกทัวร์เซ็นใบมอบฉันทะไปแล้ว
อันนี้เป็นการโฆษณา
เรื่องต่อไปจะว่ากันว่า พอเอ่ยถึงไปเทียวสิงคโปร์ หรือไปสิงคโปร์กลับมาเขาจะถามว่าเราไปที่นั้นที่นี่มาหรือยัง
ได้เห็นรูปปั้นสิงโตทะเลหรือยัง? คนถามยังไม่รู้จักตัว Merlion เลย
มันไม่ไจ้ สิงโตตะเล นะจ๊ะ

พี่ไปเที่ยวเมืองนอกครั้งแรกที่นี่ เลยพอจะเห็นอะไรมาบ้าง
และต่อมาอีก 4-5 ปี พี่ก็เคยโดนบริษัทส่งไปทำงานเหมือนคาราบาวแห่งบางระจันมาแล้ว 2-3 รอบ (เปลี่ยนงานใหม่ก็โดนไปอีกเมืองนี้อีกจนได้)
กลับเมืองไทยมา พี่ก็บอกว่าพ่อแม่พี่น้อง (รวมไปถึงคนขายโอเลี้ยงปากซอย) ว่า หนูไปทำงาน ไปทำงาน ๆๆๆๆๆๆๆๆ
คนก็ถามว่าได้ไปโน่นมั๊ย ไปเห็นนี่มามั๊ย
ปาดโถ่ ไปทำงานๆๆๆ
แค่วิ่งขึ้นรถให้ทันเข้างาน 8 โมงเช้าก็จะตายอยู่แล้ว (รถใต้ดินเขามีมาตั้งแต่ก่อน พ.ศ. 2525 โน่นแนะ)
ตอนเช้าหนะ รถไฟฟ้า คนมันเต็มมาประมาณ 90% จากปลายทางโน้น
ส่วนพี่อยู่ก่อนป้ายสุดท้าย 3 อัน ต้องยืนเกือบครึ่งชั่วยาม
ขากลับคนก็แน่น พอได้นั่ง ก็ถึงป้ายที่เราต้องลงซะแล้ว
พอลงไปก็ต้องเดิน เดิน เดิน แอนด์ เดิน
ถนนบ้าอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีแม่แต่สุนัขเดิน ร้าน 7-11 สมัยนั้นก็มีน้อยมาก
บริษัทมันก็ตั้งอยู่กลางเมือง อาหารใต้ตึกแพงกว่าภัตตาคารแถวสีลมอีก กินอร่อยๆทีแทบหมดตัว
นึกแล้วอยากจะร้องไห้
ขากลับก็โดนหอบแฟ้มเอกสารซึ่งหนักจนโดนสายการบินคิดค่าน้ำหนักเกิน
ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้ไปเดินดูอะไรกับเขาเลย
เอ้า บ่นๆๆๆๆ

เรื่อง F1 ไม่ใช่เรื่องไร้สาระอย่างที่เราคิดหรอกนะ (อย่ามาแกล้งแซว
ปล่อยให้คนอื่นเขาคิดว่าพี่ไร้สมองไปเหอะ 555 เราอย่ามาว่าพวกเดียวกัน)

วงการรถยนต์ อุตสาหกรรมรถยนต์ ทำให้ประเทศเราก้าวหน้ากว่าพม่า ลาว เขมร กัมพูชา หรือแม้แต่ จีนและมาเลย์ในอดีต (ตอนนี้มาเลย์ มีรถแห่งชาติไปแล้ว)
พี่ว่าการพัฒนาบ้านเมืองเรามันเป็นไปแบบนี้
พอมีรถ มันก็เลยต้องมีถนนหนทาง
พอมีถนน ความเจริญก็เข้าไปทั่วถึง
เจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็เข้าไปดูแลราษฎรได้มากขึ้น เข้าไปปราบโจรผู้ร้ายได้ดีขึ้น
โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทางด้านสาธารณสุข ได้เข้าไปดูแลคนเจ็บป่วย ช่วยชีวิตกันได้หลายแสนคน
เด็กๆในชนบท บ้านอยู่ไกลๆ ก็ได้ถนนและรถยนต์นี่แหละ พาไปเรียนถึงในตัวเมือง
จบออกมาได้เรียนมหาวิทยาลัย
ได้เป็นทหาร ได้เป็นนักธุรกิจ
ได้เป็นเจ้าคน นายคน สมใจพ่อแม่ที่ไม่มีความรู้เอาเลย

ถ้ามีสนามแข่งดีๆ ก็ต้องมีการสร้างรถแรงๆเอามาแข่งกัน ไม่ใช่เฉพาะ F1
รถธรรมดาๆก็แรงได้ รถกระบะยังแข่งกันได้เลย นักเลงรถเขารู้ดี
อย่างที่พัทยาเรามีสนามพีระฯ แต่เราไม่ได้ส่งเสริมอะไรให้ครบวงจร
การมีรถหลากหลายยี่ห้อและเครื่องยนต์ บ้านเราถูกจำกัดด้วยสัมปทานหรืออะไรที่เขาเรียกว่า ใบประกอบรถ หรืออย่างไรนี้แหละ ขี้เกียจจำแล้วหละ
เรื่องประมาณว่า ถ้าเราอยากทำรถ SUV ใหม่อีกรุ่น เราก็ต้องเลิกผลิตรถรุ่นใดรุ่นหนึ่งในปีนั้น เช่นไม่ทำ city car
ฮอนด้า ถึงไม่มีรถกระบะมาวิ่งเล่นไง (เคยมีนะ แต่ให้ ISUZU ช่วยทำให้ แต่ขายไม่ได้กระมัง)
เราจะมาผลิตรถปีละ 20-30 รุ่นตามใจไม่ได้พร้อมๆกันหรอกนะ

มูลค่าวัตถุดิบนำเข้าเป็นเงินเท่าไหร่
ถ้าเราส่งรถยนต์ออกไปขายทั่วโลกจะได้เงินเท่าไหร่
เราเคยส่งมิตซูบิชิไปขายถึงแคนาดา ทำจนสะเทือนไปทั่วเอเชียมาแล้วนะจ๊ะ
เทคโนโลยี่ที่ฝรั่งจะเอามาให้เรา ถ้าบ้านเราส่งเสริมเรื่องยานยนต์
มันคิดเป็นเงินไม่ได้เลย
มันเป็นการสร้างวิศวกรรุ่นใหม่ที่เก่งมากๆอีกรุ่น เป็นการสร้างทรัพยากรบุคคลทางสายอาชีพนี้อีกหลายคน
เรื่องรถประหยัดน้ำมัน หรือเรื่องพลังงานทดแทน
ทุกวันนี้มันเป็นแค่กระดาษปึกหนึ่งของพวกดอกเตอร์เอาไว้ถือพูดบนโปเดี่ยมในโรงแรมห้าดาวเท่านั้น
ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครอยากทำจริงจัง กลัวการลงทุนไปหมด

มองแค่อุตสาหกรรม ยางรถยนต์
ถ้าบ้านเราส่งเสริมเรื่องยานยนต์มากๆ
คนใต้ก็กรีดยางได้ราคา ยางมีที่ขายในประเทศ
ไม่ต้องมาวางระเบิดกันทุกวันแบบนี้
รับรองใครก็อยากได้น้ำยางดิบ คนจะออกกรีดยางแต่เช้ามืดเหมือนเดิม
เดี๋ยวเดียววก็เลิกทะเลาะกันไปเอง (มองในแง่บวกเอาไว้ก่อนนะ)

ที่อยุธยา คนภาคกลางมีที่ทำมาหากิน มีที่สร้างรายได้
ก็จากโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ แถวสวนอุตสาหกรรมโรจนะ
กี่ปาก กี่ชีวิต ที่อยู่รอดมาได้
เด็กๆได้เรียนหนังสือเพราะพ่อแม่มีงานทำไม่ต้องเสี่ยงกับการทำไร่ทำนา
ผู้หญิงได้เป็นสาวโรงงาน ถ้าไม่มีโรงงาน พี่คิดว่า 25% ต้องมาขายบริการทางเพศ (นี่ไม่ได้ดูถูกเพศแม่นะ)

พี่เขียนเรื่องนี้ไม่ใช่เขียนในมุมมองของคนมีรถยนต์แล้วบ้ารถยนต์หรอกนะ
มันมีมุมมองมากมายลองอ่านดีๆ
แต่ก็แปลกใจที่มีคนบอกว่าเขียนอะไร ไม่สามารถ comment ได้เลย
ตอนนี้ก็พยายามปรับปรุงตัวเองอยู่ แอบไปดูคนที่เขาเขียนบล็อก 10-20 บรรทัดแล้วมีคนเข้ามา comment เป็น 100 อยู่
คาดว่าคงจะเขียนให้เป็นอย่างมืออาชีพได้สักวันหนึ่ง (ไชโย) (เออ..จะไชโยไปทำไม)

ถ้าสนามแข่งรถถูกส่งเสริมร่วมกับการท่องเที่ยว
โรงแรมแถวชลบุรี พัทยา คงก็ไม่อดอยากปากแห้งอย่างทุกวันนี้
ร้านอาหาร ภัตตาคาร จะฮือฮาแค่ไหน
เราได้นักท่องเที่ยวที่เป็นนักกีฬ่า คนบ้าเครื่องยนต์
พี่ว่ายังดีกว่าได้ฝรั่งตัณหากลับ ที่มาถึงก็จะเช่าแต่ผู้หญิงไทย
เอาไปเป็นนางบำเรอรายเดือนแบบทุกวันนี้
เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ
แต่เรื่องภรรยาเช่า โด่งดังยิ่งกว่า car rent เสียอีก

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 30 กันยายน 2552 6:47:06 น.  

 

จดหมายถึง "พี่ลุงซูม"

แวะมาบอกว่าสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ งานยุ่งมั๊กมาก
แต่ก็แอบเค้ามาดูแว็บหนึ่ง รู้สึกจะมีคนพาดพิงถึง
หนูไม่ใช่ "ป้าแก่" นะ เขียนให้ดี ๆๆๆๆ หุหุ (เขี้ยวงอก)
ว้ายย ลืมตัว "สร้างภาพ ๆๆๆๆ"
หนูแค่แวะมาแก้ข่าวว่าหนูมะใช่ "ป้าแก่" คร้า...

ปล. หญิงรับคำนี้ไม่ได้จิง ๆ คิคิ

 

โดย: หนูหลิน IP: 118.172.22.169 30 กันยายน 2552 8:43:29 น.  

 

อ่า สงสัยจังค่ะ ว่าป้า เอ๊ย นู๋หลินข้างบนนี่เป็นใครกันน้า กิ๊กใหม่พี่ชายเรารึเปล่าเนี่ยะ

อ่า พอพี่ชายมาอธิบายความสำคัญและสามารถโยงใยไปได้หลากหลายเรื่องขนาดนี้ก็น่าคิดนะคะ น่าคิดว่า คนอะไรเนี่ยะ คิดไปได้เน๊อะ แถมแนวโน้มก็มีทางเป็นอย่างที่กล่าวมาได้ซะด้วยสิ แต่คนเห็นด้วยจะมีมั๊ยแค่นั้นเอง จะว่าไปเพราะเราไม่ค่อยมีสนามแข่งรถจริงจัง เวลามีคนซิ่งรถดึก ๆ ก็โดนจับกันอีก เพราะทำให้ชาวบ้านหนวกหูเน๊อะ กำลังคิดว่า ถ้ามีการสร้างสนามแข่งรถขึ้นมาให้เพื่อแก้ปัญหานี้ เหมือนเคยได้ยินว่าจะทำ แต่ก็ยังไม่เห็นทำตามประสารัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัยเนี่ยะ ก็ต้องอย่าลืมนิสัยคนไทยอีก ที่ว่าที่จัดไว้มันไม่เร้าใจ ชอบซิ่งกันในที่ผิดกฎหมายท้าทายความผิด หรือยังไงก็ไม่ค่อยเข้าใจ แล้วปัญหาแก๊งค์ซิ่งมอร์เตอไซด์กับตำรวจก็ยังเป็นปัญหากันอยู่นี่แหล่ะนะ บางถนนอย่างที่เคยเห็นตรงถนนอักษะ (เขียนถูกมั๊ยน้า) มีรถเฮียปอจัดบริการอยู่ปลายถนนกันเลยเชียว กะว่าแกซิ่งแล้วตายกัน ฉันก็เก็บศพได้ทันท่วงที หึหึ

บีก็ยังคงแย้งนะคะ ที่ว่ามีรถแล้วถึงมีถนนหนทางทาง มีความเจริญเนี่ยะ ไม่ถูกใจเลย เพราะทุกวันนี้รถก็มีทั่วเกลื่อนเมืองไปหมดแล้ว แต่ถนนก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี ปัญหารถติดก็แก้กันไม่ได้เด็ดขาดซักกะที เมืองนอกบางประเทศเขาปั่นจัรกยานแก้ปัญหานี้ได้ดีกว่ากันเยอะเลย ถนนหนทางก็ยังไม่ทั่วถึงในถิ่นทุรกันดารอยู่ดี ไม่เกี่ยวกับต้องมีรถเยอะขึ้น เอาที่เป็นอยู่ให้มันดีก่อนดีกว่ามั๊ย เพราะถ้าจำนวนรถจะมากขึ้นแล้ว แต่สถานที่รองรับหรือถนนยังเท่าเดิมก็ไลฟ์บอย (เอ๊ะ คำนี้คืออไร อิอิ) นี่ก็คิดในมุมบีนะคะ แต่บีว่าความคิดของพี่ชายมันก็ดีอยู่หรอกสร้างสรรค์มากมาย แต่การจะทำให้เป็นจริงดังที่กล่าวมามันไม่ง่ายเลยน้า พูดไปพูดมามันจะเป็นจริงและเป็นไปได้เมื่อเราเป็นนายกฯ อุอุ ปะ สมัยหน้าเราสองคนไปลงเลือกตั้งกันนะคะ จะปรับปรุงประเทศขนาดใหญ่แค่ไหนจะได้เห็นกันซะที งิงิ

 

โดย: นู๋ Beee น้องสาวตัวแสบ IP: 124.121.108.112 30 กันยายน 2552 13:07:21 น.  

 

แว๊บมาอ่านก่อนกลับบ้าน

เห็นนู๋ Beee คาดว่าเราจะเป็นกิ๊กใหม่ของพี่ลุงซูม

โอ้วววววววววววววว จะดีใจหรือเสียใจดีเนี๊ยะ...

เอาเป็นว่า.. เพื่อรักษาน้ำใจพี่ลุงซูม

หนูหลินเป็นแฟนคลับละกันเน๊าะ คิคิ

 

โดย: หนูหลิน IP: 118.172.22.169 30 กันยายน 2552 15:54:28 น.  

 

ทำไงให้ชื่อมีรูปหัวใจอ่า...

อยากมีรูปหัวใจต่อท้ายชื่อม้างงงงงง

งอแง ๆๆๆๆ เค้าจาเอา ๆๆๆๆๆๆๆ

5555555555555555555555

 

โดย: หนูหลิน IP: 118.172.22.169 30 กันยายน 2552 15:56:37 น.  

 

ถ้าไม่ได้เป็นสมาชิก bloggang ของ Pantip
ก็ไม่ได้หัวใจ
หรือเป็นสมาชิกแต่ไม่ได้ log in ก็ไม่ได้เหมือนกันครับ

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด IP: 124.120.4.7 1 ตุลาคม 2552 6:34:12 น.  

 

นู๋ Beee
พี่ชายต้องตามมาแก้ข่าวหลายอย่างเลยนะ
เรื่องแรก คุณหลิน นี่ตัวจริงเขาคือ หลินฮุ่ย เอ้ย...จำผิด ขอโทษ
เขาคือ หลินปิง เอ้ย...ก็ไม่ใช่อีก
เขาคือ หนูหลิน นั่นแหละ (ไม่รู้จะอธิบายทำไมเน๊อะ)
เขาเป็นแฟนคลับพี่มาหลายบอร์ดแล้วหละ ทั้ง BB, Ruknok1, Bansanฯ, …
แต่มาเชียร์พี่ที่ไหน บอร์ดเจ้งทุกบอร์ด ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือพี่หรือว่าน้องหลินเขาดวงแข็งกว่าwebsiteนั้นๆก็ไม่รู้ (555)

ขอตอบแบบดารานะจ๊ะ
เราสองคนไม่เป็นอะไรกันหรอก
แค่เป็นคนรู้ใจกัน มากที่สุดในตอนนี้
เราซื้อบ้านใช้ชื่อร่วมกัน
ขับรถไปรับส่งกันทุกวัน
ครอบครัวเราทั้งสองฝ่ายเข้ากันได้ดี
แล้วก็ปลายปีก็จองโรงแรมห้าดาว
กะว่าจะเชิญแขกส่วนตัวกันก็ว่าประมาณห้าหมื่นคน
จัดปาร์ตี้เปิดตัวเล็กๆ

ติดอยู่นิดเดียว
ก็แค่เรื่องที่ว่าทุกอย่างมันยังคงเป็นความฝันของพี่ไง วุ้ยส์

 

โดย: zoomzero 1 ตุลาคม 2552 7:53:29 น.  

 

คุณ haiku ครับ
ทำไมมองไม่เห็นตัวหนังสือหละครับ ใช้ browser ตัวไหนเอ่ย
ถ้ายังเป็นอยู่ผมจะได้แก้ไขสีตัวอักษรใหม่ ของผมใช้ IE ไม่มีปัญหานะครับ

คุณฮายกลับมาประจำที่ bloggang haiku หรือยังครับ ภารกิจคงหนักน่าดูซิเนอะ

สำหรับเรื่อง Singapore ผมเองมีประสบการณ์ 25%
ค้นหาอ่านข้อมูลอีก 25%
ที่เหลือ 50% ล้วนแต่โม้ทั้งนั้นครับ
อย่าเพิ่งเชื่อถือผมนัก เพราะถ้าเชื่อใจผมเมื่อไหร่ ผมจะยืมเงินทันที 555

พี่สาวคุณฮายชอบดูการแข่งขันรถยนต์หรือครับ เรื่องนี้ผมชอบจริงๆ
ผมมีน้องสาวในเน็ทอีกคนชื่อ โอ๋ เขาก็ชอบไปดูแข่งรถมากๆ คุยกันสนุกดีเรื่องเครื่องยนต์และการบำรุงรักษารถกัน
ที่บ้านผมก็เคยมีหนังสือเกี่ยวกับรถยนต์มากมาย
น้ำหนักนิตยสารรวมกันก็ประมาณ 100 กิโลกรัม คือซื้อมันทุกค่ายในเมืองไทย
พอถูกจับคลุมถุงชนมาเป็นสะใภ้บ้านนายหญิง คุณนายท่านเอาหนังสือผมไปขายหมดเกลี้ยง บอกว่ารกบ้าน เดี๋ยวปลวกบุกบ้านใหม่ของชั้น
แต่ก็ดีเพราะเราหาอ่านทาง internet ก็ได้เหมือนๆกัน ไม่เปลืองเงินทอง
ไว้โอกาสหน้า แนะนำพี่สาวให้ผมคุยด้วยก็ได้ครับ
เผื่อเราจะได้ไปดูแข่งรถกันที่ Singapore ปีหน้าพร้อมกัน

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 1 ตุลาคม 2552 8:08:58 น.  

 

เค้าไปสิงคโปร์นี้ไปเพื่อดูรถแข่งกันเหรอคะ พี่ลุงซูม
เคยไปเที่ยวนานมากกกกกกกกกก อย่านับเลยนะ
ลำบากกันปล่าว ๆ เดี๋ยวจะรู้อายุ 5555
ชอบที่บ้านเมืองเค้าสะอาดดี สะอาดมั๊กมาก ๆๆ
ทำให้คิดถึงคำที่มีคนบอกว่า
"ฝรั่งเค้าสอนให้ลูกหลานเค้าเดินกินได้ แต่ให้ทิ้งลงถังขยะ
คนไทยสอนให้ลูกหลาน ห้ามเดินกิน แต่...."
ก็มะเข้าใจว่าทำไมขยะเต็มบ้านเต็มเมืองเน๊าะ

ไปที่สิงคโปร์ต่อ..... คิคิ ก่อนโดนแบน
ตอนหนูไปนะ หนูไม่รู้เป็นอะไรค่ะ อ้วกทุกวัน
มันเหมือนเมารถได้ทุกวัน ทั้ง ๆ ที่ถนนก็ไม่ได้วกวน
มันจะเกี่ยวกับความกดอากาศที่มันต่างจากบ้านเรารึป่าวคะ
เสียดายมาก เวลาไปเที่ยวไหนที ก็จะเวียนหัว
เที่ยวไม่สนุก ไม่สะใจเลย

 

โดย: หนูหลิน IP: 118.172.23.43 1 ตุลาคม 2552 10:51:58 น.  

 

อุอุ ว้าย ตายแล้ว ทักนิดเดียว ดารามาตามแก้ข่าวกันใหญ่เรย คิคิ อ่า เป็นแฟนขับ(ไล่) ของพี่ชายเหมือนกันเหรอคะ คิคิ บอร์ดเก่าบีบี ก็เจ๊งไปแล้วเน๊อะ เอ... ว่าแต่ทำไมนู๋ม่ายเห็นเคยเห็นหรือคุ้นชื่อนี้เลยน้า ก้อเล่นบีบีเหมือนกันน้า

แล้วอีตาพี่ชาย วันนี้แอบไปเที่ยวกะกิ๊กอ่ะ น้องนุ่งนาน ๆ จะว่างทีชวนไปไหว้พระทำบุญก้อไม่ไปนะยะ ชิ จำไว้เรย เดี๋ยววันหลังมีงานโคโยตี้สาวนุ่งสั้นแต่งตัววาบหวิวจะไม่เอารูปกับเบอร์สาว ๆ มาฝากแระ งอล ชิ

วันนี้อากาศน่านอนเน๊อะ ฝนตกตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อเช้าอีก นี่ก็ยังอากาศชื้น ๆ อยู่เลย เห็นว่าพายุปริศนา หรืออารัยซักอย่างเข้าหรือไรนี่แหล่ะ ฟังม่ายค่อยถนัด พี่ชายก็เก็บผ้าเก็บผ่อนเข้าบ้านให้เรียบร้อยนะคะ อย่าให้มีข่าวกางเกงลิงยักษ์ปลิวทั่วซอยล่ะ ม่ายอยากอ่านเจอข่าวอุจาด ๆ แบบน้าน คิคิ

มาป่วนแล้วไปดีฝ่า เฟี้ยว

 

โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น IP: 124.120.152.15 1 ตุลาคม 2552 11:16:37 น.  

 

เข้ามาทีไร ตกใจเสียงรถทู๊กที รีบปิดลำโพงแทบไม่ทัน คิคิ
------------------------------------------------------------------
When I was just a little girl
I asked my mother, what will I be
Will I be pretty, will I be rich
Here's what she said to me.

Que Sera, Sera,
Whatever will be, will be
The future's not ours, to see
Que Sera, Sera
What will be, will be.

When I was young, I fell in love
I asked my sweetheart what lies ahead
Will we have rainbows, day after day
Here's what my sweetheart said.

Que Sera, Sera,
Whatever will be, will be
The future's not ours, to see
Que Sera, Sera
What will be, will be.

Now I have children of my own
They ask their mother, what will I be
Will I be handsome, will I be rich
I tell them tenderly.

Que Sera, Sera,
Whatever will be, will be
The future's not ours, to see
Que Sera, Sera
What will be, will be.

------------------------------------------------------------------
แวะมาถามว่าดูโฆษณานี้กันรึยังคะ เพลงประกอบก็ ซึ้ง ประทับใจ
น้ำตาซึมเลย อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด.................... สู้ต่อไปทาเคชิ

 

โดย: หนูหลิน IP: 118.172.22.41 2 ตุลาคม 2552 8:13:07 น.  

 

555 คุณหลินครับ
ผมเองก็ต้องลดเสียงลำโพงทุกครั้ง
ต้องขอบอกว่า ได้พยายามแก้ไขปรับระดับ(volume) เสียงแล้ว แต่ทำไม่ได้
ในชุดคำสั่งที่เรียกว่า embed เขาก็ให้เรากำหนดระดับเสียงได้
แต่พอใช้งานจริงๆ เจ้า YouTube มันไม่ฟังคำสั่ง
ลองถาม YouTube ไป เขาก็บอกว่า เมื่อก่อนเขาให้เราแก้ไขระดับเสียงได้
แต่ปัจจุบันเขาถอดชุดคำสั่งนี้ออกไป ให้เราปรับเองที่หน้าจอ
สงสัยเขากลัวเราเอาเสียงไปตัดต่อ แล้วส่งให้นักการเมืองฟังกระมัง

เพลงโฆษณา เพลงนี้น่าจะชื่อว่า Whatever Will Be, Will Be (Que Sera Sera)
เมื่อโฆษณานี้ออกอากาศทางทีวีในวันแรกๆ ผมกับนายหญิงร้องเพลงนี้ได้
คุณหนูที่นั่งข้างๆ ร้องอ้าว...ทำไมแม่กับพ่อร้องเพลงนี้ได้
เราก็ถามเขาว่าที่โรงเรียนเขาไม่สอนบ้างหรือไง ลูกบอกว่า ไม่เคยมีวิชาร้องเพลง
เลยพากันงงว่า ลูกเราเมมโมรี่สั้นจำอะไรที่โรงเรียนไม่ได้ หรือว่าเขาเลิกสอนวิชาขับร้องกันไปแล้ว
อ้าว..ถ้าอย่างนี้ คุณหนูจะไปประกวด AF7 ได้อย่างไร
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาข้อมูลมาฝาก

เพลงนี้ เป็นเพลงดังไปทั่วโลก น่าจะออกเผยแพร่ในปี ค.ศ. 1956 (หรือ พ.ศ.2499 ซูมซีโร่ครองหุบเขาฯ)
คนเขียนเพลงชื่อ Jay Livingston และ Ray Evans (สองคนนี้ได้รางวัลออสก้า อย่างน้อย 3 ครั้ง ได้แก่ปี 1948, 1950, และ 1956)
แล้วเพลงนี้ ดังได้อย่างไร ? นั่นนะซิ สมัยก่อนไม่มี Internet เอาไว้เชียร์กันซะหน่อย
ความจริงก็คือ มันดังจากหนังจอใหญ่เรื่อง The Man Who Knew Too Much (ชื่อเรื่องฟังแล้วเหมือนได้ยินคนด่าเราจังเลย) เป็นผลงานของ Alfred Hicthcock ผู้กำกับหนังที่โด่งดังชาวอังกฤษ (ค.ศ. 1899 - 1980)
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าฉายในปี 1956 (หนังต่างๆของHitchcockดังมาก ผลงานของเขาไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง) ตอนนั้นหมดยุคหนังใบ้ (Silent film)ไปแล้ว และได้เปลี่ยนมาเป็นหนังเสียงในฟิลม์ (Talkies)เขาว่าหนังฝรั่งมีเสียงพูดได้ มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1926

นางเอกในเรื่องนี้จึงได้ร้องเพลงนี้ ซึ่งอยู่ในหลายๆฉาก ต่อมาภาพยนตร์ก็ได้รับรางวัล Academy Award for Best Song (ส่วนหนังจะได้รางวัลหรือไม่นั้นผมไม่ทราบ) ภาพยนตร์เรื่องนี้ นำแสดงโดย Doris Day และ James Stewart ต่อมา Doris ได้เอาเพลง Que sera sera มาเป็นเพลงธีม (Theme song) สำหรับรายการเบาสมองเรื่อง The Doris Day Show ในอังกฤษ เลยทำให้ผู้คดได้จดจำทำนองและเนื้อร้องเพลงนี้กันได้ ในเวลาต่อๆมาก็มีการแก้ไขหรือแปลเนื้อร้องไปในภาษาต่างๆมากมาย เช่น ฝรั่งเศส, อิตาลี่, โปรตุเกส, สเปน ฯ แต่ไม่ว่าอย่างไร คำว่า sera sera ก็ยังเป็นสำเนียงเสียงเหมือนๆเดิมเสมอ

โดยส่วนตัว ผมเป็นคนชอบโฆษณาแนวนี้นะ แต่เคยเจอเขาปะทะคารมในเรื่องโฆษณาแบบนี้ โดยคนที่ไม่ชอบบอกว่า เป็นการเอาเรื่องความทุกข์ของคนมาเป็นจุดหลอกล่อคน ไม่สง่างาม ผมเคยถามคนที่เรียนทางด้านสื่อโฆษณามา ก็ได้คำอธิบายค่อนข้างเคลียร์มาว่า การโฆษณาประชาสัมพันธ์เป็นการสื่อสารกับผู้ฟัง หรือลูกค้าเป้าหมาย ด้วยข้อความอันเป็นประโยชน์และความจริงกับผู้รับการสื่อสาร แต่เมื่อเอาการตลาดมาพ่วงเข้าไป การโฆษณาก็โดนเบี่ยงเบน กลายมาเป็นการ หยุด ฉุด แล้วดึงเป้าหมาย ทำให้เชื่อเขาฟังสิ่งที่เราบอก เกิดความต้องการในการซื้อ เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขาย ดังนั้นเมื่อดูโฆษณา เราต้องมีสติปัญญามากพอที่จะคิดเองๆได้เอง ว่าจริงหรือหลอก

ที่ว่าไปสิงคโปร์แล้ว เมาๆ มึนๆ พี่ว่าน่าจะมาจากการหัดขึ้นเครื่องบินใหม่ๆหรือเปล่าฦ เครื่องบินสมัยก่อนมันสั่นสะเทือนมาก บินก็วูบๆวาบๆ และความกดอากาศก็เปลี่ยนแปลงแปลกๆ หูอื้อตลอดเวลาอยู่ในตู้กับข้าวมีปีกแบบนั้น ยิ่งวันไหนได้ไปแล้วฝนตกที่ชางงี เครื่องมันกระแทกจนใส้จะหลุด เมื่อคราวขาไปมานี่ ตกหลุมอากาศแบบ 5 วินาที แอร์สาวสวยยังทำปากเหวอเลย อากาศบนภาคพื้นดินที่นั้น น่าจะสบายนะ เพราะต้นไม้เขาเยอะมาก สำหรับพี่ พี่แพ้บวกเบาะแท็กซี่สมัยก่อนที่มีพลาสติกหุ้มมากๆ พอโดนอากาศร้อนๆแล้ว กลิ่นมันเร้าใจมาก พี่เมาหัวทิ่มบ่อทุกทีเหมือนกัน

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 2 ตุลาคม 2552 12:39:01 น.  

 

มาแล้วคร้า งุงิ เพิ่งกลับมาถึงบ้าน 11 โมงกว่า ๆ ออกจากที่ทำงานมาสิบโมง รถติดโพด ๆ ว่าแต่ว่า ทำไมรถต้องติดทุกวันศุกร์ด้วยนะ มันมีเหตุการณ์อะไรแปลกปะหลาดกว่าวันอื่น ๆ หรือไงคะ น่าสงสัยจัง งิ ยิ่งพอเข้ามาเยาวราชแล้ว โอ้โห อะไรเยอะแยะมากมายแบบนี้ ตอนนี้มันใกล้เทศกาลพิเศษอะไรหรือเปล่านี่ คนถึงมาจับจ่ายกันมากมายเลย ไอ้เราหมกตัวอยู่แต่หน้าคอมฯ มีอะไรเราก็ไม่รู้กับเขาหรอก หึหึ

อ่า มาแจมเรื่องโฆษณาด้วยค่ะ เห็นคนข้างคนเขาคุยกัน แต่เราเป็นน้องสาวจอมมาร ชอบยุ่งและสอดเรื่องชาวบ้าน เลยอยากคุยด้วยมั่ง เขาให้คุยด้วยรึเปล่าไม่รู้แหล่ะ งิงิ

เห็นโฆษณาครั้งแรก ร้องตามได้เหมือนกันเลย งิงิ ได้ดูตอนอยู่ที่ทำงานเมื่อไม่กี่วันมานี่เองเหมือนกันค่ะ เป็นเด็กโฆษณา เวลาดูแล้วชอบเดา ว่าเอ... จะเป็นโฆษณาของอะไรน้า คิดไปเรื่อย แต่สุดท้ายก็เดาผิดจะได้แฮะ ตอนนี้โฆษณาใหม่ ๆ และเป็นที่กล่าวขวัญก็ต้องอันนี้แหล่ะเน๊อะ แล้วอีกอันก็คือเพชรรา เชาวราช (พิมพ์ถูกมั๊ยนี่ *-*) เห็นรายการข่าวข้นคนข่าวมาพูดถึงกันเลยเชียว ว่าคนรุ่นเก่า 40+ ขึ้นไปดีใจมากที่ได้เห็น แต่พอดีเราอายุยังไม่ถึงก็เลยเฉย ๆ มั๊ย เพราะเกิดไม่ทัน งิ รู้มาคราว ๆ จากตาลุงที่อายุถึงแค่ว่าเขาตาบอดแล้วหายไปจากวงการ แต่เพราะอะไร แล้วเกิดอะไรขึ้นอันนี้ก็ไม่รู้เลย แต่เทียบจากรูปในอดีตกับที่มาโฆษณาแล้วยังสวยไม่สร่างจริง ๆ นะคะ ^_^

อ่า วกกลับมาโฆษณาเดิมต่อ งิงิ นอกโลกไปอีกแล้ว ตามหลักแล้วการโฆษณามีด้วยกันประมาณ 3-4 แบบที่เรียนมา แต่อะไรมั่งต้องไปเปิดตำราซะแล้ว นานจัด *-* แต่คร่าว ๆ แล้วก็คือ การโฆษณาธรรมดา ที่ขายสินค้าที่เห็นได้ทั่ว ๆ ไป แล้วก็โฆษณาที่สร้างภาพลักษณ์หรือสร้าง brand ให้กับสินค้า ให้เป็นที่จดจำได้มากขึ้น ใช้กับสินค้าที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วทั้งหลาย และสุดท้ายคือโฆษณาเพื่อสร้างความเป็น the one ยิ่งขึ้นของ brand ใช้กับสินค้าที่เป็นผู้ครองตลาด ก็จะไม่เน้นขายอะไรเลย แต่ทำโฆษณาให้ออกมาโดดเด่น ประทับใจและสอดแทรกอะไรที่เกี่ยวกับสังคม แล้วปิดท้ายแค่ชื่อบริษัทฯ เท่านั้น มีทั้งแบบโฆษณาตัวเดียว กับแบบที่เป็น แคมเปญหรือทำเป็นซีรี่กันไปเลย อย่างของรีเจนซี่ อันนั้นก็ไม่เน้นขายสินค้าอะไรเลย แต่จะเน้นทำโฆษณาภาพสวย ๆ มาแนววรรณคดีไทยอะไรประมาณนั้น เป็นแคมเปญหลาย ๆ วรรณคดี อะไรประมาณนี้ (เอ๊ะ อธิบายมาทำไมเนี่ยะ ตั้งยาว มีคนอ่านมั๊ยหว่า *-*)

สรุปว่า บีชอบโฆษณาแบบหลังนี่แหล่ะนะคะ บางคนอาจจะคิดว่าโฆณาทำออกมาได้ดี แต่พอลงท้ายด้วยชื่อบริษัทปุ๊บ กับทำให้ดูแล้วคิดไปได้ว่าสอดแทรกอะไรแอบแฝง แต่อย่างน้อยโฆษณาพวกนี้ก็ย้ำเตือนและให้ข้อคิดอะไรกับผู้ดูได้มากมาย แค่นั้นก็เป็นความภาคภูมิใจมากมายแล้วของคนทำโฆษณา ^_^

อย่างถ้าจำกันได้ก่อนหน้านี้มีโฆษณาตัวนึงที่กินใจมาก ที่มีแม่แก่ ๆ นั่งกินข้าวคนเดียว แล้วพูดประมาณว่า มีคนที่บ้านรอให้กลับมากินข้าวด้วยกันอยู่ แค่นี้ก็กินใจคนทั้งประเทศแล้ว

เรื่องคิดโฆษณาออกมาได้แต่ละตัวไม่ใช่ง่าย ๆ คิดกันนานหลายเดือนกว่าจะออกมาได้แต่จะชิ้น และยังทุนสร้าง ไหนจะ กบว. ไหนจะอื่น ๆ อีกมากมายกว่าจะออกมาได้ ออกมาแล้วก็ยังเป็นเรื่องได้มากมาย การทำโฆษณามันไม่ง่ายเลยเน๊อะ แต่ก็ยังรักและใฝ่ฝันที่จะได้ทำอยู่ดี ^_^ ก็ใจรักอ่ะเน๊อะ

บ่นคนเดียวเสร็จแล้ว ไปดีกว่า งิงิ คิดถึงนะคะพี่ชาย จุ๊บุ ๆ

 

โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น IP: 125.24.128.94 2 ตุลาคม 2552 13:47:51 น.  

 

แวะมาบอกก่อนกลับบ้านว่า..
หนูร้องเพลงนี้มะเป็น
แต่ให้พี่ google ช่วยหา
แล้วก็หัดร้องตามน้อง ๆ
แสดงว่า หนูยังมะแก่ช่ายป่าวคะ.... โฮะ ๆๆ

 

โดย: หนูหลิน IP: 118.172.22.41 2 ตุลาคม 2552 17:17:13 น.  

 

มาเรื่องสนามแข่งรถ ต่อ
น้องbeee ครับเมืองไทยมีสนามแข่งรถมานานแล้วนะ เป็นสนามระดับมาตรฐานของสมาพันธ์กีฬาแข่งรถนานาชาติ (FIA)
สนามนี้อยู่บนถนน พัทยา-ระยอง ประมาณ กม.ที่ 20 จากตัวเมืองพัทยา อยู่ใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เดิมชื่อว่า พัทยาเซอร์กิต เป็นสนามแห่งแรกและแห่งเดียวของคนไทย ที่ใช้แข่งรถได้ทุกประเภท แม้กระทั่งรถโกคาร์ทก็ยังได้เลยในวันที่ 17 ม.ค. 2531 ได้มีการเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า พีระเซอร์กิต หรือ Bira Internation Circuit (Pataya) สนามแห่งนี้มีพื้นที่ 164 ไร่ สร้างเสร็จเมื่อปี 2528 โดยใช้ชื่อว่า พัทยาเซอร์กิต มาก่อน และเนื่องด้วยเหตุผลของความต้องการที่จะจารึกพระนามของบิดาแห่งวงการรถแข่งของไทย ให้ชนรุ่นหลังได้จดจำไว้ นั่นก็คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ซึ่งทรงเคยเป็นนักแข่งรถฟอร์มูล่าวันคนแรกของไทย จึงทำการเปลี่ยนชื่อใหม่

ไหนๆ ก็เจอคำถามเข้าทางจากนู๋ Beee พี่ก็อยากจะเขียนเรื่องนี้มาก พอได้คอมเมนท์แบบนี้ เหมือนลมสลาตันพัดส่งให้ใบเรือโจรสลัดได้แล่นออกสู่ท้องทะเลเสียที มา...เราไปออกทะเลกัน (ขอโม้เรื่องนี้หน่อยนะ)

สนามพีระฯ เป็นทั้งสนามแข่งรถ(หลายประเภท) โรงเรียนสอน สนามทดสอบรถ ทดสอบยางรถยนต์ และมีกิจกรรมต่างๆอีกมากมาย สำหรับคนที่เป็นแฟนกีฬาความเร็ว จะทราบว่า สนามนี้ยังไม่ตาย(แต่ก็ปางตายมาหลายครั้ง) หลายๆคนไม่ค่อยทราบว่า เขายังใช้สนามทำอะไรหรือเปล่า? ใช้อยู่ครับ รายได้กับรายจ่ายก็พอไปได้ แต่ไม่ได้ร่ำรวยอู้ฟู่ เรื่องนี้เขียนมากไป อาจจะโดนฟ้องหมิ่นประมาทได้ ขอข้ามๆไปดีกว่า

พอมาถึงหน้าฝนแบบนี้ ทางเข้าสนามบางช่วง ยังเป็นหลุมเป็นบ่อนะครับท่านผู้ดูแลสนาม พวกสหายก๊วนรถท้องห้อย ท้องเตี้ยของกระผม บ่นกันตรึมว่า สปอยเลอร์หน้าแหกหมด ขับเข้าสนามไม่ได้ มันครูดปรืดๆ พอถามเจ้าหน้าที่เขาก็บอกว่า คุณน่าจะมีรถยกหรือแคร่ล้อเลื่อนกัน แบบที่เขาเอาไว้ลากรถแข่งเข้ามาในสนาม (ล่าสุด เจ้านายท่านนั้นบอกว่ามะรืนนี้จะเอายางมะตอยมาเทให้เรียบเหมือนหน้าแฟนน้องเลย) พวกเด็กวัยรุ่นไทยมือสมัครเล่นอย่างหมู่เฮา ก็กล้าลงทุนแค่เอารถไปเปลี่ยนเครื่องใหม่ ใส่เทอร์โบ แต่งเครื่อง(เขาเรียกว่าโมฯ) เปลี่ยนยาง หดคอยสปริง ใส่สเกิร์ตสปอยเลอร์ดักลม ฯ ใครจะซื้อรถใหม่ๆเอามาแข่งอย่างเดียว บางรายเลยต้องจอดรถไว้ข้างนอกสนาม (เศร้าครับพี่น้อง) อดโชว์หญิงเลย

เว็บบอร์ดที่ผมเข้าไปดูข้อมูลของสนามพีระ บางอันเข้าไม่ได้นะ หรือเข้าไปแล้วตัวเตือนไวรัสจะร้อง ไม่ยอมให้เข้าไปอ่าน
มีหลายเว็บที่มีปัญหาในการเข้า เช่น //www.grandprixgroup.com พอเข้าไปทางทางผู้ให้บริการเน็ทก็แจ้งเตือนว่า เว็บไซต์นี้อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องของคุณ ดังนั้นก็ต้องระวังกันด้วย ใครอยากรู้สนามพีระ สามารถหาอ่านจากบอร์ดของสนามพีระโดยตรง //www.bira.co.th
พวกเว็บรถยนต์ค่ายต่างๆก็มีข่าวบ่อยๆให้อ่านเรื่องกิจกรรมของสนาม ไม่แพ้พวกค่าย ยาง หรือน้ำมันเครื่อง นะครับ
อย่างเว็บประจำของผมก็ ได้แก่ //www.accordclubthailand.com เพราะผมมี Accord 3000 V6 ท่อไอเสีย 2 หลอด ซดน้ำมันโฮกๆ ไม่รู้จะซื้อรถซีซีมากๆมาทำไม เสียภาษีก็เยอะ เบี้ยประกันก็แพง (ขอบ่นอีกตามเคย)

กิจกรรมที่หล่อเลี้ยงชีวิตของสนามพีระฯ ที่เห็นน้ำเห็นเนื้อก็น่าจะเป็นพวก มอเตอร์ไซด์ กับ โกคาร์ท
(ใครสนใจโกคาร์ทก็ลองเข้าไปที่ //www.easykart.net คุณอาจค้นพบสิ่งที่คุณอยากเป็นก็ได้)
ความจริงแล้ว สนามพีระเขามีกิจกรรมแน่นเอียด มาดูตารางเดือนตุลาคม 2552 กันหน่อยมั๊ย
ผมเรียงวันที่ให้ดูเลย (อันไหนที่ผมข้ามไป แปลว่าไม่มีคนมาจองใช้สนาม คุณจะจองเอาไว้ขี่จักรยานเล่นก็ได้นะ)
1-10-09 Mazda
2-10-09 Mazda
6-10-09 Goodyear
7-10-09 Goodyear
8-10-09 Goodyear
10-10-09 Pro Racing Series
11-10-09 Pro Racing Series
12-10-09 HST
13-10-09 HST
14-10-09 HST
15-10-09 Niche Cars
18-10-09 HST/TRACK DAY
20-10-09 Sing Racing School
22-10-09 Goodyear
23-10-09 Race Practice
24-10-09 Super Club R.7-8
25-10-09 Super Club R.7-8
26-10-09 Goodyear
27-10-09 Goodyear
28-10-09 Goodyear
30-10-09 Racing Practice
30-10-09 Nitto 3K Racing R.5
31-10-09 Nitto 3K Racing R.5
จะเห็นว่ามีการใช้สนามเกือบทุกวัน การแข่งรายการใหญ่ๆไม่ค่อยมี แต่ก็ยังมีการแข่งรถให้เห็นทุกเดือนเหมือนกันนะ

ในวงการรถยนต์ มีของสวยงามอยู่ 2 อย่างที่ไม่เคยขาดหาย นั่นก็คือ
1. Pretty
2. แฟนของคนแล่นรถซึ่งมักจะสวยปิ้งร้อยละ 90 กันเลยหละ
นี่แหละคือเหตุผลที่ทำไมผมถึงชอบวงการรถแข่ง 555

สนามพีระฯเคยมีข่าวว่าถูกสำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาค 2 จ.ชลบุรี นำมาขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2532 ผมจำได้ว่าเขาซื้อขายกันที่ 100 ล้านหรือเปล่าก็ไม่ค่อยแน่ใจ ผมรู้เพียงว่าเรื่องนี้สืบเนื่องมาจากหนี้สิน 85 ล้านบาท (หาอ่านได้จาก นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พ.ย. 2532) ตอนนั้นใครจะเชื่อ เพราะว่าในปี 2529 ประเทศไทยเพิ่งจะมีการแข่ง ไทยแลนด์กรังด์ปรีซ์ 86 คนดูล้นสนามกันเลย

เรื่องน่าขนพองสยองเกล้าของที่นี้ก็มีนะ คือเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2551 ได้มีคนร้ายบุกเข้ามาปล้นมอเตอร์ไซด์ BIGBIKE ที่จอดฝากไว้ในสนาม และได้ฆ่ารปภ.ด้วยการทุบหัว ดังนั้นตอนดึกๆ ถ้าขับรถผ่านเส้นทางนี้ ก็ระวังจะเห็นคนยืนอยู่ข้างถนนด้วย ถ้าเจอก็ต้องปิดตา แล้วเหยียบ 200 กม./ชม. เลยนะครับ

กับคำถามว่า ใครคือนักแข่งรถของไทยที่เก่งที่สุด?
เรื่องนี้เป็นคำถามที่ผมตอบยากมากเพราะ ตอนแข่งรถนั้น ด้านหน้าผมไม่เคยมีรถคันใดนำหน้าได้เลย และรถผมก็ไม่มีกระจกมองหลังเสียด้วย ผลเลยชอบคิดว่าผมเก่งอยู่คนเดียว แต่ถ้าให้ผมไปถามน้องๆแถวสนามแข่งรถก็ได้คำตอบมากหลากหลาย เช่น บุญตา วรรณลักษณ์ (อู่ราม77), นัทวุธ เจริญสุขวัฒนะ, หทัย ไชยวัณ, ธนผล ชูเจริญผล, อวิโรจน์ ศิริวรชัย, ฯ แต่คำตอบที่ได้ยินมากที่สุดก็คือ กีกี้ หรือ ศักดิ์ นานา
ผมเห็นเขาขับรถดริ๊ฟโฆษณาแล้วก็อึ้ง(กิมกี่) ขนาดใต้ถุนตึกก็ขับได้ รถกระบะก็ยังดริ๊ฟได้ ผมเคยบอกน้องชายของผม ว่าผมอย่างเป็นเหมือนกีกี้ น้องเขาก็พยักหน้าแล้วบอกว่า ก็ไปโกนหัวซิพี่ ตอนนั้นกว่าจะรู้ว่าน้องมันว่า ก็ใช้เวลาเกิน 24 ชั่วโมง เพราะมัวแต่คิดว่ามันชม

แต่ผมขอฝากผู้ชายคนนี้ไว้ 1 คน เขาคือ บ๊อบบี้ หรือ โรเบิร์ต ทาดาชิ บุย (Robert Tadashi Bui) ลูกครึ่ง บิดาเป็นอเมริกัน มารดาเป็นญี่ปุ่น กำเนิดบนแผ่นดินไทย และรักเมืองไทยมาก จนเขาได้รับพระราชทานนามใหม่จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ว่า “ชวกิจ” ต้องขอบอกว่า เขาเป็นหนุ่มวัย 25 ปีกว่าๆนิดๆ นับถือศาสนาพุทธ บิดาเป็นสถาปนิกชื่อดัง โรเบิร์ตจอร์จ ผู้ออกแบบสนามกีฬาหัวหมากหรืออินดอร์สเตเดี่ยม และอีกหลายแห่ง ที่โด่งดังอีกชื่อก็คือ หอศิลป์กรุงเทพ ตัวคุณชวกิจ บุย นั้นต้องเรียกว่า เป็นนักแข่งรถฟอร์มูล่าวันของทีมชาติไทย รถของคำติดสติ๊กเกอร์คำว่า “Racing For Thailand” ประวัติของหนุ่มคนนี้ ผมไม่อยากเชียร์มาก เพราะอิจฉาตาร้อนมากๆ เขาเรียนจบ ม.2 จาก โรงเรียนจิตรลดา แล้วไปต่อโรงเรียนนานาชาติ ฯ....สุดท้ายจบ ป.ตรี จาก อเมริกา สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ เขาเคยได้เป็นแชมป์อันดับที่ 1 ของ Asian Formula Renault Challenge ณ สนามในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

เรื่องสนามพีระเซอร์กิจ มีเรื่องให้คุย(โม้)เป็นปี แต่เอาเท่านี้ก่อนดีกว่า

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 2 ตุลาคม 2552 18:49:36 น.  

 

ตามมาอ่านแว๊วคร้า อุอุ มีเม้นท์แล้วเข้าทางด้วยวุ้ย อิอิ ว่าแต่ว่าพิมพ์มาตั้งยาวเนี่ยะ ก็เหมือนโปรโมทสถานที่ให้เขาเลยงิ มีน่าสนใจตอนท้ายนิดเดียว ที่ว่าหนุ่มลูกครึ่ง อายุ 25 เนี่ยะ ขอถามคำเดียวค่ะ ว่าหล่อมั๊ย งิงิ จาได้ไปดักตีหัว คิคิ

ไปดีฝ่า เฟี้ยววว

 

โดย: นู๋ Beee น้องสาวตัวแสบ IP: 125.24.128.94 2 ตุลาคม 2552 19:48:45 น.  

 

แหม...หาว่ามาโปรโมทสถานที่
แค่อยากจะบอกให้เด็กแถวนี้รู้ว่า ประเทศไทยก็มีสนามแข่งรถระดับมาตรฐานมานานแล้ว และยังคงใช้งานอยู่
แข่งรถก็ถือว่าเป็นกีฬา งานอดิเรก และยังเป็นอาชีพได้อีกด้วย
ส่วนอีกเรื่องก็คือ คนไทยเราก็มีอาชีพเป็นนักแข่งรถได้จริงๆ
และเราก็มีแชมป์หลายคนแล้วด้วย
กีฬาบางอย่างมีอาการเพี้ยนๆ โดยไปเป็นเพื่อนกับการพนัน ซึ่งก็เป็นอบายมุขเห็นๆ แต่กลับรุ่งเรือง คนที่เป็นนักกีฬาอาชีพแบบมีการพนันหนุนหลังกลับได้รับการยกย่อง
แต่ก็เอาเถอะความคิดของแต่ละคน จะไปบังคับให้ใครๆหันไปทางเดียวกันกับเราได้อย่างไร?
เขาก็ว่าเงินของเขา เขาหามาได้ เขาจะเอาไปทำอะไรก็ได้

วันนี้วันไหว้พระจันทร์นะ
มีเรื่องทัวร์สิงคโปร์กับ Moon Cake เขียนไว้ยังไม่เสร็จเสียด้วยซิ

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 3 ตุลาคม 2552 20:51:28 น.  

 

Tags Maker is a Text Image Generator to write Messages, Comments or Tags on Pictures

กดคลิ๊กขวา เพื่อจะแปะรูปลงจ้า
ไม่ได้จะมาจิ๊กอาไรพี่หรอกจ้า ฮ่า ๆ ๆ
ขอบคุณสำหรับ ขนมไหว้พระจันทร์ที่เอาไปฝากนะคะ
เมื่อวานเพิ่งซื้อมาจาก เอสแอนด์พี เหมือนกัน
ป่าวหรอกค่ะ ไม่ได้อยากทานขนาดนั้น
แต่ อยากได้กล่องสวย ๆ ของเขาอ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ปล. ถึงจะเป็นคนกลัวความเร็ว...แต่
ก็ชอบดูแข่งรถเหมือนกันค่ะ เหมือนหัวใจได้
ออกกำลังสูบฉีดตลอดเวลาอ่ะนะมินว่า ฮ่า ๆ ๆ

 

โดย: มินทิวา 4 ตุลาคม 2552 5:12:36 น.  

 

นอนม่ายหลับ เช้าแล้วหรือนี่ ตายังแข็งอยู่เรย *-* เดี๋ยวไปทำงานต่อรุย งิงิ

อ่า ไหว้พระจันทร์เมื่อคืนที่ผ่านมาเหรอคะ มิน่าล่ะ วันศุกร์แถวบ้านนู๋ถึงรถติดกันนัก หึหึ ที่แท้ก็มาซื้อของไหว้ และขนมไหว้พระจันทร์กันนี่เอง แต่งานนี้บ้านบีไม่ได้ไหว้อ่ะค่ะ ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องนี้กับเขานัก เห็นโกวบอกว่าแล้วแต่บ้านไหว้บ้านไหนไม่ไหวก็แล้วแต่ แต่บ้านเราไม่เคยไหว้ ก็เลยไม่ไหว้มาตลอด ถ้าไหว้ก็ต้องไหว้ตลอดไปทุกปี อ่านะ

แล้ววันนี้ก็ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ แล้วสิ งิงิ บั้งไฟพญานาค วันนี้ป่าวคะ ถ้าจำไม่ผิดน้า อยากไปดูซักครั้งนึงจังเลยค่ะ สิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่ใช่ 1 ใน 7 ของโลก แต่คนไทยและคนลาวก็ว่ามหัศจรรย์และไปนั่งจองที่รอดูกันเยอะขึ้นทุกปี *-*

แล้วก็มีตักบาตรเทโวด้วย วันนี้ออกพรรษาแล้ว เย้... เข้าสู่เทศกาลกฐินแล้วสิคะ ว่าแต่... ทำไมช่วงนี้ทีไร จ๊น จน ทุกทีก้อม่ายรุ๊ แง่ะ *-*

ม่ายมีไรทำอ่ะค่ะพี่ชาย เบื๊อ เบื่อ มาพิมพ์อะไรแก้เซ็งก็อ่าน ๆ ไปเถอะนะคะ แห่ะ ๆ

 

โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น (http:;//beee.bloggang.com) IP: 125.24.157.26 4 ตุลาคม 2552 5:25:24 น.  

 

เราใช้browserของหมาย่าง(firefox)ค่า เข้ามารอบนี้ก็ยังหน้ามืดอยู่

ไม่น่าเชื่อว่าจะโม้ตั้งครึ่ง ข้อมูลเพียบเลยเชียว แต่คุณก็โม้ได้สนุกน้า อ่านแล้วเพลินดีค่ะ

พี่เราตามดูแข่งรถทางทีวีค่ะ ไม่ถึงขั้นตามซื้อหนังสือรถเยอะอย่างคุณซูม

ถึงจะบอกว่าถูกคลุมถุงชน แต่เราว่าคุณซูมคงต้องรักภริยามากอยู่นา ไม่งั้นคุณนายขนของรักไปขายเกลี้ยงแบบนั้นคงเป็นเรื่องแน่ เป็นเราคงได้วีนแหลกเลย

 

โดย: haiku 4 ตุลาคม 2552 6:35:59 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับ คุณมิ้นท์ นู๋บี และคุณฮาย
ผมยังปั้นเรื่องใหม่ไม่เสร็จเสียที ทัวร์โฉดๆจะได้เคลื่อนไหวกันบ้าง ผมชักเบื่อไอ้เสียงรถแว้นในกระทู้นี้เสียแล้ว ดังกวนกระดูกค้อน-ทั่ง-โกลน เสียจริงๆ
--------------------------------------------------
คุณมิ้นท์
เหมือนผมเลย ชอบสะสมไอ้กล่องใส่ขนมไหว้พระจันทร์มาก ตอนนี้มีเพียบเต็มตู้ลอยในห้องครัว ที่ว่าแพงๆ ยังสงสัยว่าแพงที่กล่อง(หีบห่อ) หรือต้นทุนการผลิตกันแน่
มีคนบางคนไม่ชอบดูรายการรถแข่ง แต่กลับชอบดูรายการเอ็กซ์ตรีม เป็นแนวรถชนกันหรือเกิดอุบัติเหตุในการแข่งรถ อันนี้ผมก็เจอมาหนึ่งท่าน สมัยนั้นเขายังฮิตเทปวีดีโอกัน บ้านเจ้าหมอนี่มีเทปแข่งรถหลายตลับ วางเรียงกันเป็นแถวยาวในตู้โชว์ พอผมจะขอยืมมาดู ดันเป็นรถชนกัน ไฟไหม้ เครื่องกระจาย อ้าว...หวาดเสียวแบบนั้น เลยไม่ได้ขอยืมเขามาดู เพราะกลัวว่าเราจะโฉดมากกว่านี้ 555
---------------------------------------------------------
นู๋บี
ท่าทางจะบรรลุธรรมขั้นไม่หลับไม่นอน 7 วัน ได้แล้วหละมั๊ง นอนไม่หลับเพราะมัวแต่คุย(แชต)กับใครหรือเปล่า? เรื่องทำตามประเพณีแล้วต้องทำไปตลอดไป นี่เป็นเรื่องในชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีนหลายครอบครัวเลยนะ อย่างนายหญิงบ้านพี่ เมื่อก่อนแต่งงานเขาเคยไหว้อะไรวันไหนๆกัน พอมาอยู่บ้านใหม่ สังคมเปลี่ยนไป ไม่สะดวกในการทำแบบเดิม เขาก็กลับไปนอนบ้านก่อนวันไหว้ แล้วก็ทำของไหว้ร่วมกับพี่น้องเขา เราก็ถามว่าก็ให้บ้านโน้นเขาทำก็ได้ เขาก็ไม่ยอม คนจีนเชื้อสายดีเอ็นเอฮกเกี้ยนเขามีการไหว้ที่มากมาย จนพี่ก็งงว่าเขาจะไหว้อะไรได้ทั้ง 12 เดือน การไหว้ของเขาประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ ไหว้พ่อแม่พี่น้องบรรพบุรุษ ไหว้เทพเจ้า และไหว้ดวงวิญญาณที่เร่ร่อน(ทางพุทธเราคงเรียกว่า เจ้ากรรมนายเวร กระมัง) ไม่ว่างานอะไร พวกขาก็จะจัดของไหว้อย่างน้อยแบบนี้ มากบ้างน้อยบ้าง ต่างกรรมต่างวาระกันไป พี่ก็ว่าไม่เห็นคนจีนบ้านอื่นเขาทำแบบบ้านเธอเลย เขาก็บอกว่าตระกูลเขาทำกันมานานแล้ว (แต่พวกญาติๆรุ่นหลังๆของเขาก็เลิกทำไปหลายครอบครัวแล้วเหมือนกัน) เคยถามว่าไม่สงสารหมูเห็ดเป็ดไก่หรือ? สั่งมาฆ่าเป็นอาหารตลอดปี เขาก็ฟังนะ หลังๆมาก็มาเป็นสัตว์เล็ก และมังสะวิรัต หรือไม่ก็เจไปเลย แต่ยังยึดติดกับผลไม้ขนาดมหึมาอย่าง กล้วยหอมยักษ์ ส้มโอ และก็อะไรๆที่มันลูกโต้โต เขาว่าเพื่อความเจริญ เมื่อเขาไหว้ เราก็ได้ยิน(ฟรี) จะไปค้านทำไม เดี๋ยวก็อดกินหรอกเน๊อะ 555
---------------------------------------------------------
คุณฮาย
นี่ก็อีกท่านที่ชอบคิดว่า นายหญิงนั้นเป็นคนน่ารัก เคยดูละครจำเลยรักหรือเปล่า ผมหนะเปรียบเหมือนโศรยา ที่ถูกคุณหฤษจับตัวมาขังบนเกาะร้าง ไม่อยากจะบอกเลยว่า 3-4 วันนี้คุณนายก็ไปเที่ยวดูบั้งไฟพญานาคที่อุดรฯ ผมขอไม่ไปเพราะเขาจะไปทอดกฐินกันหลายวัดเหลือเกิน ไม่ถนัดเดินทางบนถนนเด้งดึ๋งแบบนั้น (ไป-กลับ เครื่องบิน แต่เดินทางในพื้นที่ด้วยรถเช่าครับ) และงานนี้เป็นการรวมตัวของสมาคมแม่บ้านแห่งทุ่งกุลาร้องไห้อีกด้วย เราไปก็โดนนินทาว่าร้าย ผมคนหน้าบางจะตายไป ฝากเงินไปทำบุญก็พอแล้วหละ อีกอย่างตอนนี้ก็จะได้หนีไปหากิ๊กได้อีกด้วย 555 ไม่ใช่หรอกครับ เพราะผิดแผน คุณหนูก็ไม่ยอมไปกับแม่ เลยต้องกลายเป็นซามูไรพ่อลูกโต ไปในวันนี้

firefox ใช้แล้วหน้ามืดหรือครับ? เดี๋ยวจะลองเขาไปดู แต่ก็ไม่ค่อยรู้วิธีแก้ไขเหมือนกันนะครับ

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 4 ตุลาคม 2552 8:35:37 น.  

 

คุณไฮกุครับ
มีวิธีแก้ 2 อย่าง โดยคนที่ใช้ Firefox ต้องทำเอง ซึ่งผมชอบมาก เพราะผมจะได้ไม่เหนื่อย
ผมลองทำทั้งสองวิธีแล้ว ปรากฏว่าทำไม่ได้อย่างที่เขาอธิบาย เพราะผมก็งงว่าเขาแก้ไขอะไรกัน
มาลองแบบนี้ดีกว่า
วิธีแก้ Firefox หน้ามืด หรือ show wrong color แบบคนโฉด
ก็ให้เราเข้าไปแก้ในเมนูข้างบนของFirefox ในช่อง View
จากนั้นมองหาคำสั่ง Page Style
เลือก No Style (ประชดมันซะเลย)
คราวนี้ก็จะเห็นตัวอักษรเป็นขาวดำหมดทั้งหน้าจอ
ก่อนออกไป ก็เข้าไปแก้ไขให้เป็น Basic Page Style มิเช่นนั้นจะงงมิใช่น้อย


ข้างล่างนี้ผม copy มาจากตำราของ Firefox ที่ //support.mozilla.com/th/kb/Website+colors+are+wrong
------------------------------------------------------
Page style disabled

You may have inadvertently set the page style to "No Style."

To ensure Firefox is set to use the page's default style:
• At the top of the Firefox window, click on the View menu, then select Page Style, then click Basic Page Style.

-------------------------------------
Websites not allowed to use their own colors

Firefox has a setting that allows you to override a page's text and background color settings. To turn off this setting:
1. At the top of the Firefox window, click on the Tools menu, and select Options....
2. Select the Content panel.
3. Click the Colors... button.
4. Make sure the checkbox beside Allow pages to choose their own colors, instead of my selections above is checked.
5. Click OK.
6. Click OK. Now that Firefox is configured to allow web pages to choose their colors, try visiting the website again to see if it looks correct.

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 4 ตุลาคม 2552 8:58:33 น.  

 

ฮุ้งไหว้ตั้งแต่ 3 ทุ่มแล้วค่า ชวนช้าไปหน่อยนะคะ

 

โดย: aquaworld 4 ตุลาคม 2552 9:04:17 น.  

 

ฮาโหล แวะมาอ่านรอบดึก ๆ เหมือนเคยค่ะ งิงิ

อือ เรื่องไหว้เจ้าของจีนนี่มีเยอะแยะมากมาย เคยอ่านหนังสือของใครน้า ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นของจิรนันท์ พิชปรีชา (พิมพ์ผิดขออภัย) ที่เขียนเรื่องประเพณี การไหว้ และอะไรต่าง ๆ มากมายหลายเล่มมาก ที่เกี่ยวกับของคนจีน อ่านแล้วก็งงเหมือนกันค่ะ เพราะไหว้เยอะเหลือเกินถ้าเอาแบบครบตามหนังสือจริง ๆ ท่าทางจะต้องมีอาหารเตรียมไว้ตลอดเวลาเลยมั๊งนั่น แต่บ้านนู๋ไหว้แค่งานใหญ่ ๆ ไม่กี่งานค่ะ อย่างตรุษจีน เชงเม้ง สารทจีน อะไรประมาณนี้ไม่กี่วัน ก็ยังวุ่นวายเลยค่ะเวลาจัดแต่ละที ทั้งเตรียมข้าวของ ทั้งทำกับข้าวแทบไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว *-*

อ่า คุณนายที่บ้านไปดูบั้งไฟพญานาคกับเขาด้วยหรือคะนี่ มาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ แล้วพี่ชายเคยไปดูมารึยังคะ อยากรู้จักว่ามันสวยงามหรือแปลกมหัศจรรย์แค่ไหนกันนะ คนถึงไปตั้งตานั่งรอ นอนรอ กางเต้นท์นอนรอดูกันเนี่ยะ

ไปนอนแระคร้า ฝันดีนะคะพี่ชาย จุ๊บ ๆ ๆ

 

โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (http://beee.blogang.com) IP: 124.121.106.115 5 ตุลาคม 2552 1:49:27 น.  

 

ป๊าดโธ่ ถามได้ไงจ๊ะ เรื่องละครมีหรือจะพลาดเรื่อง "จำเลยรัก" ได้ไง ดูมาหลายรอบ หลายรุ่นแว้วววว ล่าสุดก็นายอั้มกะน้องแอ๊ฟไง เป็นไงไม่รู้ ม่ะค่อยชอบละครแนวทำร้ายผู้หญิงเท่าไหร่ (แต่ลงได้ดูทีไรก็ติดหนับทุกทีแหละ เหอ เหอ )

อ่านคำตอบคุณแล้วฮาก๊าก เปรียบตัวเองเป็นโศรยาที่ถูกคุณหฤษจับตัวมาขังบนเกาะร้าง สงสัยว่าจะคุณซูมต้องเป็นพระเอกเรื่อง "จำเลยกามเทพ" มากกว่า เรื่องนี้เอาโครงเรื่องคร่าว ๆ ของเรื่อง "จำเลยรัก" มาใช้ เขียนบทออกมาได้สนุกชะมัด นางเอกหลงรักพระเอกมานาน เลยเป็นคนวางแผนให้พระเอกจับตัวเองไปขังที่เกาะ ละครที่น่ารักเป็นบ้าเลย ดูไปย้ิมไป ชาคริตกะน้องเชอรี่เล่นได้เนียนดีเหลือเกิน แบบที่ฝรั่งเขาเรียกว่าเคมีเข้ากันสุด ๆ นั่นแหละ

ขอบคุณมากที่บอกวิธีอ่านจนได้นะคะ ทำง่ายดีชะมัด ลองทำดูแล้ว บล๊อคไร้สีสัน ขาวไปทั้งหน้าจริง ๆ อ่านง่านสบายตาเลย ทีนี้เวลาไปบล๊อคเพื่อน ๆ ที่เป็นเหมือนบล๊อคคุณซูมจะได้รู้วิธี

 

โดย: haiku 5 ตุลาคม 2552 11:13:02 น.  

 

ตายๆๆๆ...

เราเหมือนเพิ่งโผล่ขึ้นมาจากใต้บาดาล
น้องเราไปถึงไหนๆแล้ว

555555..


ยินดีด้วยๆๆๆ

 

โดย: ดราก้อนวี 5 ตุลาคม 2552 18:53:16 น.  

 

ฮุ้ง
ที่บ้านผม เขาต้องไหว้กันตอนเที่ยงคืน ตอนนั้นนางฟ้าว่างพอดีครับ
-------------------------------------------------------------------------

นู๋ Beee
ที่พี่ไม่ไปดูก็เพราะ ความคิดเห็นขัดแย้งกันอย่างมาก
พี่ก็ยังเชื่อว่ามนุษย์เป็นคนจุดพลุไฟ
แต่คนที่เขา เชื่อเขาก็ว่า อย่าลบหลู่ เดี๋ยวตายไม่ดี
เราก็ไม่เข้าใจว่า ถ้าเขาน่ากลัว ดุร้าย แบบนั้น เราจะไปดูเขาโชว์ลูกไฟทำไม
ไปกราบไหว้เทพที่ใจดีอย่าง เทพดวงจันทร์ ไม่สบายใจกว่าหรือ
-------------------------------------------------------------------------

คุณฮาย
จำเลยกามเทพ ไม่ชอบพระเอก (ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้มาทำอะไรให้เราเดือดร้อนเลย)
ตอนนี้อยากเป็น ตาว ในเรื่อง น้ำตาลไหม้
เพราะเป็นเกย์ ยังแต่งงานและมีลูกได้อีกด้วย
เหมือนชีวิตจริงของผมมั๊กมาก ขอบอก
-------------------------------------------------------------------------

ป้าวี
ไม่ต้องมายินดียินร้ายเลย
ผมจำหน่ายป้าวีออกจากหน่วยความจำ(ใจ)เรียบร้อยไปนานแล้ว
มัวเอาแต่ปั้น PP ทั้งวันทั้งคืน
ถ้าแน่จริง เอาซีสเลอร์มาลงให้ดูนะ จะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้
-------------------------------------------------------------------------

 

โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 5 ตุลาคม 2552 22:38:22 น.  


zoomzero
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ของทุกอย่างในโลกมี 2 ด้าน ถ้าเริ่มต้นก็คิดแต่ว่า สิ่งนั้นมีแต่ด้านดีด้านเดียว หรือเลวสุดขีด ต่อให้ศึกษาสิ่งนั้นไปอีกพันๆปี ก็ไม่มีวันเข้าใจ แต่ถ้าเปิดใจมองให้เห็นทั้งสองด้าน และหาความพอดีกับการอยู่กับสิ่งนั้นได้
...
ความสุขย่อมมาคู่กับความทุกข์ เพราะสุขเป็นของไม่เที่ยง เมื่อติดสุข แล้วไม่มีสุขมาให้ชื่นใจ จิตก็จะเป็นทุกข์ ความสงบจึงเป็นของที่เราท่านควรปฏิบัติ
...
การตั้งตัวเป็นจอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด จึงไม่หวังให้ผู้ใดมีสุข ไม่อยากให้คนยึดติดกับสุข หากแต่อยากให้พ้นทุกข์ และได้พบกับธรรมมะของจริง ดั่งคำว่า "ไม่มีมาร อรหันต์ไม่เกิด" 555
...
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
28 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add zoomzero's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.