Singapura 2009
คนโฉดพาไปโฉบเมืองสิงหปุระ ในปี 2009 ภาค 3
2009 Formula 1 Singtel Singapore Grand Prix
2009-09-27
ขออนุญาตเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการ update ข่าวการท่องเที่ยวสิงคโปร์กันหน่อย คิดว่าทัวร์ของเราปีนี้คงไม่ทัน แต่ขอเอาเรื่องนี้มาเล่าเผื่อว่าปีหน้า เราอาจจะได้ไปเที่ยวด้วยกันนะครับ
ในวันที่ 25-26 กันยายน 2552นี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ได้มีการแข่งขันกีฬาระดับโลกบนเกาะสิงคโปร์ นั่นก็คือ การแข่งรถฟอร์มูล่าวัน หรือ F1 ซึ่งหลายคนคงจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ซึ่งก็แปลกนะครับที่เราก็เห็นรถยนต์วิ่งอยู่บนถนน ในตรอกซอกซอย บางแห่งแถวๆชานเมืองก็อาจจะได้ยินเสียงเขาแข่งรถซิ่งกัน แต่เราหลายคน ไม่เคยคิดที่จะไปดูเขาแข่งรถเท่าไหร่เลย ถ้าประเทศสามารถจัดการแข่งขันแบบนี้ได้ ประเทศเราก็จะมีเงินไหลเข้ามาในประเทศเป็นร้อยๆล้าน แถมเป็นการขยายความรู้ด้านเทคโนโลยี่สายวิชาชีพเครื่องยนต์กลไกให้กับคนไทยอีกด้วย ผมเองชอบดูหนังแข่งรถ และรายการทีวีที่มีการแข่งความเร็ว พวกเกม playstation ผมก็มีแผ่นเกมส์แข่งรถมากมาย เลยทำให้มีความใฝ่ฝันที่จะได้ดูการแข่งรถแรงๆ อย่าง Nascar หรือ Formula 1 เป็นอย่างยิ่ง ผมเลยขอแทรกเรื่องนี้ไว้ในตอนที่ 3 ใครไม่พอใจก็ไม่เป็นไร แต่อย่าโวยนะครับ แฮ่!
2009 Formula 1 Singtel Singapore Grand Prix เป็นการแข่งรถสูตรสุดแรง หรือ รถเอฟวัน(F1) ในช่วงวันที่ 25-28 กันยายน 2552 โดยใช้สนามกลางคืนกลางใจเมืองสิงคโปร์ ถือเป็นสนามแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก เพราะเขาจะทำสนามทับถนนในเมืองเลย (คือเอาถนนหลวงมาทำเป็นสนามแข่ง) ซึ่งก็คือเขต Marina Bay เชื่อมต่อไปยัง downtown และ Central Business Zone ผมเชื่อแล้วว่า คนสิงคโปร์ช่างกล้าคิด กล้าทำจริงๆ สนามแข่งนี้จะให้รถวิ่งตัดผ่านสถานที่สำคัญๆ เช่น Temasek Blvd., Raffles Boulevard, Nicoll Highway, St. Andrews, สะพานAnderson, Esplanade Drive, Raffles Avenue, Connaught Drive, Stamford,
ผ่านตึกใหญ่ๆ และสถานที่สำคัญ ใจกลางเมือง เช่น Millenia Walk, Pan Pacific Singapore, Mandarin Oriental, Marina Square, Meritus Marina Mandarin, One Raffles Link, War Memorial Park, Singapore Recreation Club, The Padang, the Old Supreme Court, Singapore Cricket Club, Asian Civilisation Museum, The Fullerton Hotel, ตึก Esplanade,
ประวัติธุรกิจการแข่งรถ F1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมจำได้ว่า มาเลเซียเขาเป็นขาใหญ่อยู่มาแต่ก่อน ถ้าจำไม่ผิดสนามเขาชื่อ Sepang Circuit ส่วนที่สิงคโปร์เขามาจัดแข่งแบบนี้ เท่าที่ผมทราบก็มีเมื่อปี 2008 พอจัดแล้ว คนแข่งก็ได้เงินได้รางวัลกัน ส่วนผู้จัดก็ยังได้รับรางวัลกันอีกด้วย เช่น The Federation International of Automobile มอบรางวัล The Promoter of The Year, หนังสือ Autosport มอบรางวัล The Pioneering and Innovation Award และ The Professional Motor Sport World Awards ได้ให้รางวัล The Motor Sport Facility of the Year 2008 สงสัยว่าอาตี๋อาซิ้มชาวสิงคโปร์ได้ใจเลยจัดอีกครั้ง ผมว่าปีหน้า 2010 ก็น่าจะมีจัดแข่งอีกทีนะ อ้าว...แบบนี้ทางอาบังมาเลเซียจะว่าอย่างไร?
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ไปเห็นเขากำลังทำที่นั่ง หรืออัฒจันทร์ กันอยู่หลายแห่งในเมือง ตอนนั้นเป็นตอนเย็นผมเดินผ่านจากถนนนอร์ธบริดจ์ เข้าไปในถนนโคลแมน ตัดผ่านสนามปาดาง (Padang) ไปยังตึกทุเรียน (Esplanade) เพื่อไปถ่ายรูปสิงโต Merlion เห็นเขาทำรั้วอลังการงานสร้างมากๆ เขายังติดตั้งทีวีจออภิมหายักษ์ที่เรียกว่า SuperScreen จอใหญ่เบ่อเริ่มเฮิ้ม บนท้องฟ้ามีเฮลิคอปเตอร์ทดสอบการบิน โดยบินนิ่งๆ อยู่แถวนั้นนานเป็นชั่วโมงๆ คงทดสอบกล้องและสัญญาณวิทยุกันสนุกสนาน ป่านนี้คงได้ภาพของผมไปเก็บไว้ในแฟ้มข่าวเรียบร้อยแล้ว เพราะผมอุตส่าห์ยืนโบกมือนานเกือบ 5 นาที (อยากโกอินเตอร์มากๆ)
ผมบอกกับตัวเองว่า ถ้าเราไปวันโน้น(27 กันยา) เราไม่จำเป็นต้องเสียค่าเข้าชมหรอกครับ เพราะเราอาจจะมองมาจากหน้าต่างโรงแรม หรือขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าตึก (โห...เสียวจัง) หรือผมอาจจะขึ้นไปนั่งชิงช้าสวรรค์หรือที่เรียกว่า Singapore Flyer ที่ว่าสูงที่สุดในโลกก็ได้ แต่ถ้าคุณไปเที่ยวสิงคโปร์ในวันนี้ (27 กันยา) คุณไปยืนดูริมถนนก็ได้ครับ แต่มุมมองอาจจะไม่มันเท่าไหร่
ตอนแรกผมก็คิดว่าจะบินไปสัปดาห์นี้ แต่เด็กน้อยดันติดเรียนหนังสือ ผมเลยอดไป ต้องร่นมาเป็นสัปดาห์ก่อน ผมมีความรู้สึกที่ว่า ถ้าได้ไปดูการแข่ง F1 จริงๆ สักครั้ง ได้ยินเสียง วู๊ม แหลมๆ สูงๆ ดังๆ ได้กลิ่นน้ำมันที่เต็มไปด้วยสารตะกั่ว (น้ำมันรถแข่งเขาไม่ใช้แบบ unlead นะ เท่าที่ผมเคยได้ยินมา เพราะแรงหมามันจะตกจนลิ้นห้อย เสี่ยรถแรงข้างผมแกบอกว่า ถ้ารถ F1ใช้น้ำมันสะอาดๆอย่างที่เราใช้ มันจะวิ่งสุภาพเกินไป) แค่ครั้งเดียวในชีวิตมันก็เกินคุ่มแล้ว แต่ก็อด ชะตาฟ้าลิขิตแท้ๆ
สำหรับคนที่เป็นคอรถแรงแซงทางตรง คงจะทราบข่าวที่ FIA หรือ สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ ได้สอบสวนและห้ามนักแข่งหนุ่มหน้าหยก Nelson Piquet Jt. (เนลสัน ปีเก้ จูเนียร์) นักแข่งทีมเรโนลต์ เพราะว่าเมื่อปี 2008 ที่สิงคโปร์ มีการเกิดอุบัติเหตุรถของเขาพุงชนกำแพง รถของเขาได้ขวางรถของของเพื่อนๆนักแข่ง และพวกรถเซพตี้ หรือปอเต็กตึ้งสนามฝรั่งก็ได้วิ่งกันพล่านเต็มสนามแข่งไปหมด จังหวะนั้นจึงมีผลทำให้เพื่อนร่วมทีม Fernando Alonso (เฟอร์นอนโด อลองโซ่) ได้เป็นแชมป์ แบบมีกลิ่นตุๆ เพราะเขาว่าหัวหน้าทีมเรโนลเองนี่แหละ ที่น่าจะวิทยุ วอสองวอสามไปบอกให้เนลสันขับรถแถเข้าหากำแพง เรียกว่าจงใจทำเองมากกว่าเป็นอุบัติเหตุ ก็พี่เค้าดันแถรถแฉลบใส่ข้างทางตอนวิ่งทางตรงนี่ครับ ดูเอาเถอะนะ คนเราไม่ว่าการเมือง การค้า แม้แต่กีฬ่าระดับพระกาฬ คนดูกันทั่วโลกแบบนี้ ยังมีการโกงกันอยู่เลย อามิตตาพุทธ
ในรายการนี้ นักแข่งดังๆก็มีมากมายได้แก่ Lewis Hamington (McLaren), Sabastian Vettel (Red Bull), Nico Rosberg (Willians), Mark Webber (Red Bull), Fernando Alonso (Renuault), Timo Glock (Toyota), Nick Heidfeld (BMW Sauber), Robert Kubica (BNW Sauber), Heikki Kovalainen (McLaren), Rubens Barrichello (Brawn GP),
. ฯ คุณรู้จักใคร หรือทีมอะไรบ้าง? ผมรู้จักแต่ทีมชื่อ Red Bull เออ...นี่มันกระทิงแดงนี่หว่า 555
ย้อนไปเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม ปี2552นี่เอง ที่ประเทศไทย ได้มีค่ายมือถือดัง ที่ชื่อมีตัว A นำหน้า ได้ร่วมจัดงานแถงข่าวและยังให้รางวัลเป็นบัตรชมการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน ที่สิงคโปร์ โดยจัดกันที่ ฮาร์ดร๊อคคาเฟ่ สยามสแคว์ แต่ช่วงนั้นหวัดหมูกำลังหัดกลืนกินชีวิตคนไทยและซีกโลกด้านเอเชีย อย่างสนุกสนาน เลยทำให้งานไม่ค่อยคึกคักนัก มีการประกาศผลไปแล้วเมื่อ 14 กันยา ใครได้รางวัลไป ผมก็ทราบเหมือนกัน (ความจริงอิจฉาเลยไม่อยากบอกชื่อพวกเขา) แต่ที่แน่ๆ ผมไม่ได้รางวัล (555) ป่านนี้คนชนะก็คงไปอยู่ที่สิงคโปร์ มีตั๋วเครื่องบินขากลับ ได้นอนโรงแรมห้าดาว มีตั๋วดูการแข่งรถแบบดูได้ทุกรอบทุกรายการ น่าอิจฉาจริงๆ
และก็ยังมีโปรโมชั่นจากบริษัทต่างๆ หลายราย ที่ทำงานช่วยให้การเกิดทริปการเที่ยวเกาะสิงคโปร์บวกการดูรถแข่ง นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากขึ้น อย่างเช่น World Planet เขาจัดทัวร์เพียงท่านละ 26,900 บาท ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายต่างๆเอาไว้หมดแล้ว ต้องขอบอกว่าตั๋วเข้าดู F1 แบบเดินไปซื้อหน้างานราคาโหดมากๆ และอาจจะไม่มีให้ซื้ออีกด้วย แผ่นพับที่ผมถืออยู่ในมือตอนนี้เขียนเอาไว้ว่า ห้อง Pit GrandStand 3วัน ตลอดการแข่งขันคิดค่าตั๋วเป็นเงินไทยประมาณ 35,750 บาท (ไม่รวมค่าโรงแรมนะ ไม่ใช่ราคาแพคเกจ) ตั๋วแบบถูกที่สุดคือ 1-Day Walkabout Friday เป็นตั๋วยืนๆเดินๆ ยื่นหน้าไปดูตามรั้วลูกกรงข้างสนาม ไม่มีร่มหรือชายคากันฝน (ซึ่งชอบตกบ่อยจริงๆ) ต้องจ่ายหัวละ 900 บาท แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์ วันที่เขาแข่งจริงกัน วันนั้นราคาขึ้นไปเป็น 3 พันบาทต่อคน ถ้าใครมาเที่ยว 3 วันก็ซื้อตั๋ว 3-Day Walkabout ได้ในราคา 4,500 บาทต่อคน เข้าออกได้ 3 วัน ถ้าไปทัวร์แบบนั้น คงต้องรอให้มีรายได้เดือนละแสนหรือล้านเสียก่อนกระมังครับ เก็บเงินเอาไว้ซื้อของปลอดภาษีกันดีกว่า แล้วแอบดูเขาแข่งรถจากบนโรงแรมก็ได้
เมื่อวันที่ 25 เขามีการเปิดงานด้วย คอนเสิร์ตใหญ่ โดยใช้ชื่อว่า F1 Rocks Concert โดยทำการโชว์ให้ฝรั่งได้ชื่นชมศิลปินดังของเอเชีย ด้วยนักร้องสุดดัง คือ A-Mei(อาเหม่ย) และ จาง เซียะ โหยว (พวกนี้ลืมพี่เบิร์ดกับน้องทาทาของเราได้อย่างไร?) และก็มีวง NO DOUBT ที่มี Gwen Stefani (เกวน สเตฟานี่) เป็นนักร้องนำ, มี Beyonce, มีวง Black Eyes Peas และอื่นๆอีกเยอะครับ
มีเรื่องนินทาชาวบ้านตามประสาคนโฉดอีกตามเคยครับ เขาซุบซิบกันอย่างดังว่า พิธีกรนั้นเดิม คือ Nicole Scherzinger (นิโคล เชอร์ซิงเกอร์) จากวง Pussy Cat Doll แต่ต้องเปลี่ยนมาให้ตัวแม่แห่งวงการปาปารัสซี่ Lindsay Lohan (ลินซี่ย์ โลแฮน) มาแทน เรื่องนี้ก็เพราะ Lewis Hamilton หวานใจของเธอ ซึ่งเป็นนักแข่งรถ ขอเลิก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เธอเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธอชอบเลวิสมั๊กมาก เขาน่าทึ่ง ถ่อมตัว ให้เกียรติผู้หญิง เราสองคนอยากจะมีลูกด้วยกัน (angle babies).... เธอก็เลยเซ็งเป็ดพูดจาไม่ฮาเฮ แหม!ดันมาอกหักเวลาที่เงินกับงานจะมาอยู่ตรงหน้าพอดี
ส่วนเรื่องสปอนเซอร์รายใหญ่ หรือที่เรียกว่า Official Sponser ของการแข่ง F1 ที่สิงคโปร์นี้ คุณคงไม่อยากจะเชื่อว่า คือ LG ที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ ฯ ต้องบอกว่าในต่างประเทศนั้น แบรนด์แอลจีดังมากนะครับ ของเกาหลีดังหลายยี่ห้อนะคุณ อย่าง สามซุง เด็กก็รู้ว่ามาจากเกาหลี ใครมีลูกมีหลานก็รีบพาไปสมัครทำงานที่บริษัทนี้ได้เลย กระซิบนะครับ กระซิบจริงๆ เขาว่าท่านกรรมการผู้จัดการบริษัท แอลจี ของประเทศไทย ได้ตอบสนองนโยบายบริษัทแม่ ที่ใช้คำว่า A Global Partner of Formula 1 ด้วยการทุ่มงบถึง 30 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมันในตัวแบรนด์ในฐานะที่เป็นหนึ่งเหมือนชื่อรถ F1 แต่ผมว่า ทำไมถึงเงี๊ยบเงียบจังเลย
มาดูผลสรุปล่าสุดกันเลย พอดีคอมฯเจ้ง โพสต์เรื่องนี้ลงในวันอาทิตย์ไม่ได้ ก็เลยได้ข้อมูลเพิ่มมาอีกหน่อย ผู้ชนะการแข่งขัน F1 Singapore 2009 เมื่อวานนี้ก็คือ Lewis Hamilton ตามคาดหมาย ส่วนที่สองเป็นของ T.Glock และที่สามเป็นของ F.Alonso โดยมีผู้ที่เหยียบจนแป้นคันเร่งติดพื้นคือ Alonso โดยทำเวลาในรอบนั้นเพียง 1.48.240 นาที ขับรอบสนามที่ยาวประมาณ 5.067 กม. เวลาในการแข่งทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 56 นาทีกว่าๆ สนามหน้าคงจะเป็นญี่ปุ่นครับ งานนี้ดีนะครับที่สาวสวยอย่าง นิโคล แห่งวงพุซซี่แคทฯ ไม่ได้รับเป็นพิธีกร เพราะอดีตคนเคยรักอย่าง เฮมิงตั้นได้รางวัลที่หนึ่งแบบนี้ แล้วตัวเองต้องมาแสดงความดีใจในฐานะพิธีกร เอ้อ...มันยิ่งกว่าละครน้ำเน่าหลังข่าวเสียอีก เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก (555)
ในตอนต่อๆไป คณะทัวร์ไม่ทั่วของเรา รอคอยเรื่องที่ผมจะกล่าวอย่างบ้าคลั่งในเรื่องของที่พัก โรงเตี้ยม โรงแรม หรือที่พัก แต่วันนี้ขอโม้ให้คุณทราบนิดๆหน่อยๆ ใครที่ต้องการจะประหยัดเงินค่าที่พักในการไปเที่ยวแบบไม่พึ่งพาอาศัยไกด์นั้น จำเป็นต้องรู้จัก //www.agoda.co.th ซึ่งจะเห็นว่า เป็นของไทย (แต่จงเชื่อที่ตาเห็นเพียงครึ่งเดียวครับ) ใครก็ได้ ลองเข้าไปดูราคาที่พักในนั้นกันหน่อย หรือจะลองเข้าเว็บของโรงแรมต่างๆดูว่า ถ้าเราเป็นแขกขาจรเข้าไปพัก (Walkin) จะต้องจ่ายคืนละเท่าไหร่ ถ้าท่านอยากรู้จักว่า อาโกด้าเขาทำธุรกิจอะไรก็เข้าไปหาอ่านได้ในเน็ทนี่แหละ แต่ถ้าขี้เกียจค้นหา ผมสรุปย่อๆก็ได้ อโกด้าเป็นบริษัทผู้นำในการสำรองห้องพักทางอินเตอร์เน็ท หรือเรียกว่า online booking เขาเป็นเครือญาติของ Priceline.com ขาใหญ่ในอเมริกาเชียวนะพี่ ที่ว่าน่าสนใจเพราะเขาทำเป็นระบบสมาชิกได้ เราสะสมแต้มได้ แล้วก็อย่างที่รู้ๆกัน เอาแต้มมาแลกอะไรต่อมิอะไรได้ ยกเว้นหัวใจของผมเท่านั้น เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม 555 เรื่องโรงแรมนี่ ทางอโกด้าไม่ได้เป็นมิตรหรือศัตรูกับค่ายไหนเลย เขาเป็นกลางมาก เขาเป็นพวก PATA (ที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้านะ) มาจากคำว่า Pacific Asia Travel Association โอ้ย...เชียร์กันจนออกนอกหน้า เดี๋ยวโดนแบนซะ เลยอดเที่ยวเลย
ที่เอามาเล่าเพราะเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ทางอาโกด้า เขาได้ร่วมด้วยช่วยกันกับทีมงานฟอร์มูล่าวัน 2009 สนามกลางคืนสิงคโปร์ฯ โดยหาโรงแรมที่สิงคโปร์และตั๋วเครื่องบินให้ผู้สนใจในราคาลดแล้วลดอีก ซึ่งท่านก็จะได้ดูคอนเสิร์ตดีๆ ดูรถแข่งแรงๆ และเที่ยวชมเมือง อย่างสนุก แถมสุดประหยัด แบบที่จะหาประสบการณ์ใดมาเทียบไม่ได้อีกแล้ว โรงแรมที่เขาหามาให้ก็ได้แก่ Carton, Grand Park City Hall, Royal @ Queen, Royal Plaza on Scotts หรือ Yolk ซึ่งก็ปนกันระหว่าง 4 ดาวกับ 5 ดาว ยกตัวอย่าง Carton เป็นโรงแรม 4 ดาว ราคาปกติ ห้องซูพีเรีย 18,400 บาท ลดเหลือ 7,250 บาท ต้องขอบอกก่อนว่าข้อมูลท่องเที่ยวของเขาที่ให้มานั้นมากมาย ต้องค่อยศึกษาไป การไปนอนสิงคโปร์ไม่ต้องนอนโรงแรมใหญ่โต หรือกลางใจเมืองหรอก เพราะการเดินทางสะดวก มุดดินเอาก็ได้ ขโมย โจรและผู้ร้ายมีน้อยมาก คนบ้า คนเมาก็ไม่มีให้เห็นเลย (เห็นแต่ผมนี่แหละที่บ้าบอคอแตกอยู่คนเดียว )นอนที่ไหนก็ได้ครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นก้วนชายล้วนหลายๆคน คุณสามารถนอนได้ในราคาคืนละพันกว่าบาทเอง แต่คุณผู้หญิงสาวโสดสวยสดอาจจะมีปัญหา เพราะอาจจะไปได้โรงแรมอยู่ใกล้แหล่งที่ผู้หญิงหากินกลางคืนพัก แต่เชื่อหัวไอ้เรื่องเถอะเจ้ เพียงจ่ายเพิ่มอีกนิด ก็ได้ที่พักที่ดีๆแล้ว
ประเทศสิงคโปร์เน้นการท่องเที่ยว เมืองเขาไม่มีภูเขา ชายหาด หรือเกาะสวยงาม สิ่งก่อสร้างก็มีไม่มาก แต่เขาไม่ยอมแพ้ เขาหาทางเรียกคนเข้ามาจ่ายเงินในประเทศเข้าทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษี ความสะอาด การต้อนรับของพลเมือง ฯ ประเทศเราใหญ่กว่า มีคนมากกว่า มีศิลปวัฒนธรรมที่สวยงาม ลึกล้ำพิสดารกว่าเขามาก ทำไมเรายังเป็นเหมือนบ้านป่า ที่มีแต่โจรผู้ร้ายและยาเสพติด แท็กซี่เราก็ขยันโกงนักท่องเที่ยวจริงๆ